คือเรารู้ตัวว่าเป็นคนใช้จ่ายประหยัดมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ แต่หลังๆมานี้เหมือนมันจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความไม่พอดีไปเสียแล้วค่ะ
อย่างจะซื้ออะไรแต่ละอย่างก็จะคิดมาก คิดแล้วคิดอีก เช่นว่า ถ้าไม่ซื้ออันนี้ เงินจำนวนนี้จะเอาไปทำอะไรได้อีกนะ
จะไปทานข้าวนอกบ้าน ดูราคาหน้าร้านแล้วก็จะไม่กล้าเข้า คิดมาก ว่า โห เรากินข้าวจานละร้อยบาทเลยเหรอ ปกติกินมื้อละสามสิบบาทนี่ได้ทั้งวันเลยนะ
เป็นคนชอบอ่านหนังสือ เมื่อก่อนจะตั้งใจไว้ ว่าจะซื้อเดือนละไม่เกินสองเล่ม แต่เดี๋ยวนี้จะซื้อเล่มนึง สองร้อยกว่าบาท ก็จะมาคิดมากว่าต้องทำงานกี่ชั่วโมงนะถึงจะได้สองร้อย
ยิ่งหนักๆเข้า แค่ซื้อกาแฟสดแก้วนึง สี่สิบบาท พอกินหมดแล้วก็มานั่งนึก ถ้าไม่กินเราจะมีแบงค์ยี่สิบใส่กระปุกอีกสองใบเลยนะ
ซึ่งเราคิดว่าการคิดมากขนาดนี้มันไม่ปกติ และก็รบกวนเรามาก เราอยากจะมีความสุขกับหนังสือดีๆ ของกินอร่อยๆ แต่ก็ชอบมาคิดมากเสียดายเงินทีหลัง เสื้อผ้า รองเท้า ไม่ต้องพูดถึง ไม่ได้ซื้อมานานมากแล้ว
เราไม่รู้ว่าทำไมเราถึงเป็นแบบนี้ ชีวิตก็มาจากครอบครัวฐานะกลางๆ มีงานทำ มีรายได้กลางๆ ไม่ได้ลำบาก เราต้องเปลี่ยนความคิดยังไง เราต้องการการรักษาอะไรหรือเปล่าคะ
เป็นคนขี้งกมาก ทำยังไงดีคะ
อย่างจะซื้ออะไรแต่ละอย่างก็จะคิดมาก คิดแล้วคิดอีก เช่นว่า ถ้าไม่ซื้ออันนี้ เงินจำนวนนี้จะเอาไปทำอะไรได้อีกนะ
จะไปทานข้าวนอกบ้าน ดูราคาหน้าร้านแล้วก็จะไม่กล้าเข้า คิดมาก ว่า โห เรากินข้าวจานละร้อยบาทเลยเหรอ ปกติกินมื้อละสามสิบบาทนี่ได้ทั้งวันเลยนะ
เป็นคนชอบอ่านหนังสือ เมื่อก่อนจะตั้งใจไว้ ว่าจะซื้อเดือนละไม่เกินสองเล่ม แต่เดี๋ยวนี้จะซื้อเล่มนึง สองร้อยกว่าบาท ก็จะมาคิดมากว่าต้องทำงานกี่ชั่วโมงนะถึงจะได้สองร้อย
ยิ่งหนักๆเข้า แค่ซื้อกาแฟสดแก้วนึง สี่สิบบาท พอกินหมดแล้วก็มานั่งนึก ถ้าไม่กินเราจะมีแบงค์ยี่สิบใส่กระปุกอีกสองใบเลยนะ
ซึ่งเราคิดว่าการคิดมากขนาดนี้มันไม่ปกติ และก็รบกวนเรามาก เราอยากจะมีความสุขกับหนังสือดีๆ ของกินอร่อยๆ แต่ก็ชอบมาคิดมากเสียดายเงินทีหลัง เสื้อผ้า รองเท้า ไม่ต้องพูดถึง ไม่ได้ซื้อมานานมากแล้ว
เราไม่รู้ว่าทำไมเราถึงเป็นแบบนี้ ชีวิตก็มาจากครอบครัวฐานะกลางๆ มีงานทำ มีรายได้กลางๆ ไม่ได้ลำบาก เราต้องเปลี่ยนความคิดยังไง เราต้องการการรักษาอะไรหรือเปล่าคะ