เราอยากมีอิสระและความเป็นส่วนตัวมากกว่านี่ค่ะปัญหาหลักๆก็คือ
1 ห้ามใส่รหัสโทรศัพท์ _เราอยู่ม.5แล้วค่ะแต่แม่ยังห้ามเราใส่รหัสโทรศัพท์และทุกรหัสแอป แม่เราเปิดโทรศัพท์เราไม่ได้เขาเลยขู่เราว่า ถ้าใส่รหัสแล้วแม่ไม่รู้แม่จะทุบโทรศัพท์ แล้วบางครั้งก็ยึดโทรศัพท์เราไป
2 ห้ามเรามีแฟน และห้ามมีคนคุย เราเข้าใจเขานะคะเเต่ความรู้สึกห้ามกันไม่ได้จริงๆเราเองรู้ตัวตัวเองดีจำกัดตัวเองไม่ออกนอกลู่นอกทางแน่นอนแต่แม่คงไม่ไว้ใจทั้งๆที่เราไม่เคยมีแฟนแต้ขาคิดระแวงไปไกลมากกก
3 ห้ามล็อคห้องนอน สำหรับเราคือห้องนอนส่วนตัวที่สุดแล้วส่วนตัวมากกว่าโทรศัพท์อีกเพราะเราได้อยู่คนเดียวอยู่กับตัวเอง แต่เขาก็ไม่ให้ล็อคเขาจะเปิดห้องมาเช็คความเรียบร้อยเราก็สงสัยว่าความเรียบร้อยที่เขาจะดูนี่คืออะไร ห้องนอนเราก็มีแค่เตียงกับห้องน้ำตู้เสื้อผ้าที่เหลือก็ไม่มีแล้ว อาบน้ำก็มีเวลากำหนดอยู่แล้วว่าต้องอาบกี่โมงนี่ฉันม.5แล้วนะหรือป.5
จริงๆก็ไม่หวงอะไรแต่เหมือนเขาอยากรู้เรื่องของเรา ที่เราไม่กล้าให้เขารู้มีอยู่แค่เรื่องเดียวคือ เรามีแฟน แค่นั้นค่ะแฟนอยู่ไกลไม่ต้องกลัวเหลวไหลเรารู้ตัวเรามีความคิดเป็นของตัวเองแล้ว เราคุยเรื่องนี้กับครอบครัวไม่ได้เพราะถูกห้ามไม่ให้มีแต่พ่อเราบอกคุยๆกันได้ แม่เราก็ค้านขึ้นมาว่าคุยก็ไม่ได้ห้ามคุย เราก็รู้สึกอึดอัดเขาตีกรอบให้เรามากเกินไปอยากให้เราเป็นแบบที่เขาคิดมากเกินไปจนเหมือนจำกัดทุกอย่างของเรา ทั้งคำถามที่ควรจะได้คำตอบกลับเป็นการด่าการบ่นแทน พอเราเล่าเรื่องของเราให้แกฟังปัญหาของเราความคิด บางทีบอกความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ข้างในเปิดใจบอกแก
สิ่งที่ได้มาแทนที่จะเป็นความเข้าใจกลับเป็น เราผิดที่เราคิดแบบนั้นรู้สึกแย่เราก็ผิด เราต้องชอบและรู้สึกดีกับสิ่งที่เขาให้เราเข้าใจว่าอยากให้ลูกได้ดี
ถูกปิดกั้นความคิดของตัวเอง เมื่อไหร่ฉันจะโต
1 ห้ามใส่รหัสโทรศัพท์ _เราอยู่ม.5แล้วค่ะแต่แม่ยังห้ามเราใส่รหัสโทรศัพท์และทุกรหัสแอป แม่เราเปิดโทรศัพท์เราไม่ได้เขาเลยขู่เราว่า ถ้าใส่รหัสแล้วแม่ไม่รู้แม่จะทุบโทรศัพท์ แล้วบางครั้งก็ยึดโทรศัพท์เราไป
2 ห้ามเรามีแฟน และห้ามมีคนคุย เราเข้าใจเขานะคะเเต่ความรู้สึกห้ามกันไม่ได้จริงๆเราเองรู้ตัวตัวเองดีจำกัดตัวเองไม่ออกนอกลู่นอกทางแน่นอนแต่แม่คงไม่ไว้ใจทั้งๆที่เราไม่เคยมีแฟนแต้ขาคิดระแวงไปไกลมากกก
3 ห้ามล็อคห้องนอน สำหรับเราคือห้องนอนส่วนตัวที่สุดแล้วส่วนตัวมากกว่าโทรศัพท์อีกเพราะเราได้อยู่คนเดียวอยู่กับตัวเอง แต่เขาก็ไม่ให้ล็อคเขาจะเปิดห้องมาเช็คความเรียบร้อยเราก็สงสัยว่าความเรียบร้อยที่เขาจะดูนี่คืออะไร ห้องนอนเราก็มีแค่เตียงกับห้องน้ำตู้เสื้อผ้าที่เหลือก็ไม่มีแล้ว อาบน้ำก็มีเวลากำหนดอยู่แล้วว่าต้องอาบกี่โมงนี่ฉันม.5แล้วนะหรือป.5
จริงๆก็ไม่หวงอะไรแต่เหมือนเขาอยากรู้เรื่องของเรา ที่เราไม่กล้าให้เขารู้มีอยู่แค่เรื่องเดียวคือ เรามีแฟน แค่นั้นค่ะแฟนอยู่ไกลไม่ต้องกลัวเหลวไหลเรารู้ตัวเรามีความคิดเป็นของตัวเองแล้ว เราคุยเรื่องนี้กับครอบครัวไม่ได้เพราะถูกห้ามไม่ให้มีแต่พ่อเราบอกคุยๆกันได้ แม่เราก็ค้านขึ้นมาว่าคุยก็ไม่ได้ห้ามคุย เราก็รู้สึกอึดอัดเขาตีกรอบให้เรามากเกินไปอยากให้เราเป็นแบบที่เขาคิดมากเกินไปจนเหมือนจำกัดทุกอย่างของเรา ทั้งคำถามที่ควรจะได้คำตอบกลับเป็นการด่าการบ่นแทน พอเราเล่าเรื่องของเราให้แกฟังปัญหาของเราความคิด บางทีบอกความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ข้างในเปิดใจบอกแก
สิ่งที่ได้มาแทนที่จะเป็นความเข้าใจกลับเป็น เราผิดที่เราคิดแบบนั้นรู้สึกแย่เราก็ผิด เราต้องชอบและรู้สึกดีกับสิ่งที่เขาให้เราเข้าใจว่าอยากให้ลูกได้ดี