ตอนนี้ผมเรียนอยู่ปี2เข้าเทอม2แล่วครับ ทุกเทอมต้องมีปัญหากับที่บ้านตลอดเป็นแบบนี้ตั้งแต่ขึ้นม.ปลาย
ปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นค่าเทอม พูดตามตรงว่าส่วนตัวไม่เคยขอตังจากที่บ้าน เค้าให้แค่ไหนใช้แค่นั่นจนไม่กล้าขอ
พอขึ้นม.ปลายมาทุกครั้งที่มีประชุมผู้ปกครองเรียกเก็บค่าเทอม ที่บ้านผมจะไม่ไปเลย แล้วก็ผลัดค่าเทอมจนผมอยู่ม.6
ผมก็ดิ้นรนหามาจ่ายเพื่อที่จะเอาใบจบ แล้วเค้าก็ถามเรื่องมหาลัยว่าจะต่อไหน
ผมคิดว่าจะต่อที่มอรัฐบาล แต่เค้าบอกว่ามันไกลบ้าน ถ้าไปไกลก็หาเรียนเองเพราะไหนจะค่าหอ ค่าใช้อีก
ผมเลยตัดสินใจว่าโอเคงั้นเข้ามอเอกชน เค้าตอบมาว่าเรียนไปเถอะมีเงินส่งอยู่แล้วไม่ต้องห่วง
พอถึงเวลาจริงๆผมกู้ทุน แล้วมันมีค่าเทอมส่วนต่างที่เราต้องจ่ายเอง ครอบครัวผมกลับไม่เดือดไม่ร้อนอะไร
แล้วพูดเหมือว่าให้ผมหาจ่ายเอง ผมดิ้นเพื่อที่จะเรียนจนถึงปี2แล้ว มาครึ่งทางแล้ว มีหลายครั้งที่เหนื่อย ที่ท้อมาก
แต่ก็ยังกัดฟันทนอยู่ จนมาเทอมล่าสุดที่ผมหาไม่ทันจริงๆ
ทุกครั้งที่ผมเจอปัญหาอะไรมาเล่าให้ครอบครัวฟัง เค้าจะไม่ค่อยเปิดหูรับฟังแล้วตัดบทผมไป ให้หาทาวออกเองตลอด
ตั้งแต่ผมอยู่ป.6ผมไม่เคยรู้สึกว่าครอบครัวอบอุ่นอีกเลย เค้าไม่ใช่เซฟโซนของเรา กลับกลายเป็นคนอื่นที่รับฟัง
ให้กำลังใจ คอยช่วยเหลือ ครอบครัวผมมักจะพูดว่าผมช่วยเหลือแต่คนอื่น ไม่เคยสนใจครอบครัว เค้าจะรู้ตัวมั้ย
ว่าเค้าก็ไม่ได้ยื่นมือมาช่วยเวลาที่ลำบากจริงๆ เป็นคนอื่นแทนที่เข้ามาช่วย
หลายครั้งที่ผมอยากจะหนีออกไปให้ไกล ไปหาใช้ชีวิตใหม่ แต่ก็ทำได้แต่หมกตัวในห้อง ร้องไห้อยู่คนเดียวจนฟุ้งซ่าน
เหมือนรู้สึกตัวเองจะเป็นบ้า อยากตายตลอดเวลา แต่ก็ยังตายไม่ได้ อายุจะ21แล้วยังไม่มีอะไรเป็นของตัวเองสักอย่าง
อยากทำตรงนี้ให้สำเสร็จ หลายครั้งที่โดนดับฝันจากคนในครอบครัว ไม่เคยได้กำลังใจจากครอบครัว โตมาไม่เคยมี
เสียหัวเราะกับครอบครัว มองไปที่ครอบครัวคนอื่นที่เค้าสนิทกับพ่อแม่ คุยกันได้ทุกเรื่อง กลับมาย้อนคิดว่าทำไม
เราถึงต้องเป็นแบบนี้ พยายามเปิดใจ เข้าใจคนที่บ้าน แต่เค้ากลับไม่เข้าใจเราตอบเลย
ไม่ได้อยากคิดน้อยใจแต่มันห้ามความคิดไม่ได้ว่า ถ้าไม่พร้อมที่จะซัพพอร์ต หรือไม่มีมากพอที่จะพร้อมมีลูกหลาน
จะมีทำไม ตัวผมคิดว่าสักวันมีครอบครัวก็คงจะไม่ให้ลูกตัวเองเจออะไรที่เหมือนขาดความอบอุ่นแบบนี้
อยากจะเก่งพอที่ผ่านเรื่องแย่ๆไปได้ทุกเรื่อง บอกตัวเองตลอด กัดฟันสู้ เดี๋ยวมันจะเป็นวันที่ดี พูดปลอบตัวเองมาอยู่4ปีแล้ว..
เหนื่อยกับเรื่องเรียนมหาลัยเพราะครอบครัวไม่เคยยื่นมือเข้ามาซัพพอร์ต
ปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นค่าเทอม พูดตามตรงว่าส่วนตัวไม่เคยขอตังจากที่บ้าน เค้าให้แค่ไหนใช้แค่นั่นจนไม่กล้าขอ
พอขึ้นม.ปลายมาทุกครั้งที่มีประชุมผู้ปกครองเรียกเก็บค่าเทอม ที่บ้านผมจะไม่ไปเลย แล้วก็ผลัดค่าเทอมจนผมอยู่ม.6
ผมก็ดิ้นรนหามาจ่ายเพื่อที่จะเอาใบจบ แล้วเค้าก็ถามเรื่องมหาลัยว่าจะต่อไหน
ผมคิดว่าจะต่อที่มอรัฐบาล แต่เค้าบอกว่ามันไกลบ้าน ถ้าไปไกลก็หาเรียนเองเพราะไหนจะค่าหอ ค่าใช้อีก
ผมเลยตัดสินใจว่าโอเคงั้นเข้ามอเอกชน เค้าตอบมาว่าเรียนไปเถอะมีเงินส่งอยู่แล้วไม่ต้องห่วง
พอถึงเวลาจริงๆผมกู้ทุน แล้วมันมีค่าเทอมส่วนต่างที่เราต้องจ่ายเอง ครอบครัวผมกลับไม่เดือดไม่ร้อนอะไร
แล้วพูดเหมือว่าให้ผมหาจ่ายเอง ผมดิ้นเพื่อที่จะเรียนจนถึงปี2แล้ว มาครึ่งทางแล้ว มีหลายครั้งที่เหนื่อย ที่ท้อมาก
แต่ก็ยังกัดฟันทนอยู่ จนมาเทอมล่าสุดที่ผมหาไม่ทันจริงๆ
ทุกครั้งที่ผมเจอปัญหาอะไรมาเล่าให้ครอบครัวฟัง เค้าจะไม่ค่อยเปิดหูรับฟังแล้วตัดบทผมไป ให้หาทาวออกเองตลอด
ตั้งแต่ผมอยู่ป.6ผมไม่เคยรู้สึกว่าครอบครัวอบอุ่นอีกเลย เค้าไม่ใช่เซฟโซนของเรา กลับกลายเป็นคนอื่นที่รับฟัง
ให้กำลังใจ คอยช่วยเหลือ ครอบครัวผมมักจะพูดว่าผมช่วยเหลือแต่คนอื่น ไม่เคยสนใจครอบครัว เค้าจะรู้ตัวมั้ย
ว่าเค้าก็ไม่ได้ยื่นมือมาช่วยเวลาที่ลำบากจริงๆ เป็นคนอื่นแทนที่เข้ามาช่วย
หลายครั้งที่ผมอยากจะหนีออกไปให้ไกล ไปหาใช้ชีวิตใหม่ แต่ก็ทำได้แต่หมกตัวในห้อง ร้องไห้อยู่คนเดียวจนฟุ้งซ่าน
เหมือนรู้สึกตัวเองจะเป็นบ้า อยากตายตลอดเวลา แต่ก็ยังตายไม่ได้ อายุจะ21แล้วยังไม่มีอะไรเป็นของตัวเองสักอย่าง
อยากทำตรงนี้ให้สำเสร็จ หลายครั้งที่โดนดับฝันจากคนในครอบครัว ไม่เคยได้กำลังใจจากครอบครัว โตมาไม่เคยมี
เสียหัวเราะกับครอบครัว มองไปที่ครอบครัวคนอื่นที่เค้าสนิทกับพ่อแม่ คุยกันได้ทุกเรื่อง กลับมาย้อนคิดว่าทำไม
เราถึงต้องเป็นแบบนี้ พยายามเปิดใจ เข้าใจคนที่บ้าน แต่เค้ากลับไม่เข้าใจเราตอบเลย
ไม่ได้อยากคิดน้อยใจแต่มันห้ามความคิดไม่ได้ว่า ถ้าไม่พร้อมที่จะซัพพอร์ต หรือไม่มีมากพอที่จะพร้อมมีลูกหลาน
จะมีทำไม ตัวผมคิดว่าสักวันมีครอบครัวก็คงจะไม่ให้ลูกตัวเองเจออะไรที่เหมือนขาดความอบอุ่นแบบนี้
อยากจะเก่งพอที่ผ่านเรื่องแย่ๆไปได้ทุกเรื่อง บอกตัวเองตลอด กัดฟันสู้ เดี๋ยวมันจะเป็นวันที่ดี พูดปลอบตัวเองมาอยู่4ปีแล้ว..