..บันทึกการเดินทาง.. 

นั่งรถไฟ ไปพัทลุง วันที่ 19 - 21 พ.ย. 63

เกริ่น.. ตอนแรกคิดว่าปีนี้ (ปี 2020) จะไม่ได้ไปเที่ยวไหนซะแล้ว เพราะสถานการณ์โควิดที่หนักหนาตั้งแต่ต้นปี T T แอบเฉาอยู่บ้าน รู้สึกไม่ได้เที่ยวแล้วไม่มีพลัง แต่ยังดีนะที่มีช่วงที่สถานการณ์ควบคุมได้ตอนกลางๆ ปี ทำให้เรามีจังหวะได้ไปเที่ยวก่อนจะกลับมาเข้าสู่สถานการณ์หนักอีกครั้ง ระหว่างเฉาๆ อยู่บ้านเราก็ยังเห็นคนอื่นได้ไปเที่ยวนั่นเที่ยวนี่กันบ้างก็แอบอิจฉา อยากไปบ้างงง พอมีโอกาสเราเลยไม่ลังเลที่จะตัดสินใจไปเที่ยวเลย รีบจองที่พัก จองตั๋ว หาแพลนเที่ยวอย่างไว 5555

เราตัดสินใจจะไปเที่ยว พัทลุง เพราะเป็นจังหวัดที่ไม่เคยไปมาก่อน และมีที่ ๆ หนึ่งที่เราเห็น(จากในเพจเที่ยว) แล้วอยากไปมาก ๆ ๆ ๆ  ซึ่งก็คือที่พักที่เราจะไปพักในทริปนี้นั่นเอง >< เป็นที่ไหนขอ อุ๊บส์ ไว้ก่อน (รอดูในรีวิว)

พอเลือกที่เที่ยวได้ ก็มาถึงวิธีการเดินทาง เราเพิ่งรู้ว่าพัทลุงไม่มีสนามบินจ้า ! เอ้า แล้วจะไปยังไงละทีนี้ !?

เราเลยมาเสิร์ชหาวิธีเดินทางไปพัทลุง ปรากฏว่าเจอวิธีไปอยู่ 2 ทางคือ ทางรถไฟ กับ ทางเครื่องบิน(ขึ้นเครื่องไปลงจ.ตรังหรือหาดใหญ่แล้วต่อรถตู้) 

1.) รถไฟ ใช้เวลาเดินทาง 16 ชั่วโมง

2.) เครื่องบิน ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม.ครึ่ง + ต่อรถตู้ 1 ชม.

ดูจากระยะเวลาแล้ว เราเลยตัดสินใจตะต่อนยอนไปกับรถไฟดีกว่า เนื่องจากเราไม่รีบ ฮ่าฮ่า 

ใครที่ไม่สะดวกไปจองที่สถานีรถไฟ ตอนนี้เขามีบริการจองออนไลน์แล้ว สะดวกและรวดเร็วมากๆ ถึงขั้นตอนจะเยอะหน่อยแต่ไม่ยุ่งยากค่ะ

1. ล็อคอินเข้าบัญชีสมาชิก การรถไฟแห่งประเทศไทย ลิ้งค์นี้เลย >> https://www.dticket.railway.co.th/

2. เลือกเส้นทางการเดินทาง โดยเลือกต้นทาง - ปลายทาง เลือกวันเดินทาง และจำนวนผู้โดยสาร จากนั้นคลิ๊ก ค้นหา

3. เลือกขบวนรถที่ต้องการเดินทาง

    (ดูเวลาออกเดินทางและเวลาที่ถึงปลายทางดีๆ นะคะ อย่างขบวนที่เราเลือกคือ ออกบ่ายวันที่ 19 ถึงพัทลุงเช้าวันที่ 20 เลย)

4. เลือกตู้โดยสาร

5. ระบุข้อมูลผู้โดยสาร ชื่อ-นามสกุล / เลขบัตรปชช. / เบอร์โทร / อีเมล

6. เลือกที่นั่ง (ปุ่มสีเขียว = ที่นั่งว่าง)

7. ตรวจสอบข้อมูลและค่าโดยสาร ก่อนคลิ๊กชำระเงิน

8. ชำระเงินโดยวิธีตัดบัตร ใช้ได้ทั้งบัตรเครดิต/เดบิต

เมื่อชำระเงินเรียบร้อย ระบบจะเด้งไฟล์ตั๋วขึ้นมาให้เราปริ้นท์ออกมาเก็บไว้ใช้ในวันเดินทางได้เลย

เราเริ่มกันที่.. สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง)

เนื่องจากเรามาถึงเร็วทำให้มีเวลาว่าง เลยจะมารีวิวรถไฟให้ดูกันซะหน่อย

รถไฟที่เราเลือกเป็นรถไฟขบวนใหม่ล่าสุด !!! (เมื่อ 5 ปีที่แล้ว) จนคนอื่นเขานั่งกันมาหมดแล้ว เราเพิ่งเคยมาได้นั่ง 555+ 

ที่นั่งมีให้เลือก 2 แบบ คือ ชั้นที่ 1 นั่งและนอนปรับอากาศ (ห้อง) / ชั้นที่ 2 นั่งและนอนปรับอากาศ (รวม)

เราเลือกแบบชั้น 2 ที่เป็นห้องรวม 40 ที่นั่ง เตียงบน ราคา 978 บาท/ เตียงล่าง ราคา 1078 บาท

*แนะนำว่าใครที่ไม่เคยนอนบนรถไฟควรเลือกเตียงล่าง ต่างกันร้อยเดียวแต่สะดวกกว่ากันเยอะเลย

เรารู้สึกว่ารถไฟขบวนใหม่นี้มีอะไรใหม่ๆ แปลกหูแปลกตาเยอะมาก ตื่นเต้นๆ

ทั้งที่นั่งกว้างกว่ารถไฟขบวนเก่า และเบาะนิ่มกว่าด้วย

มีที่เก็บกระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก (ถ้าใบใหญ่ต้องใส่ไว้ใต้ที่นั่ง)

มีน้ำดื่มให้คนละ 1 ขวด

มีไฟส่วนตัวสำหรับอ่านหนังสือ และที่ชาร์จแบต (อันนี้คือดีย์) สำหรับทุกที่นั่ง

นอกจากนี้ยังมีจอแสดงเส้นทางให้เราดูว่าตอนนี้เราอยู่ไหน สถานีต่อไปคืออะไร เวลากี่โมง อุณหภูมิภายในรถและภายนอกรถไฟเท่าไหร่ ซึ่งแสดงทั้งภาษาไทยและอังกฤษสลับกัน ล้ำมากจ้าา

และสุดท้าย ส่วนที่สำคัญที่สุดในการเดินทางคือ ห้องน้ำ ! จะอยู่ท้ายตู้โดยสาร

ประตูเลื่อนอัตโนมัติ

แต่ละตู้จะมีห้องน้ำ 2 ห้อง และอ่างล้างมือ

 

ปกติรถไฟขบวนนี้จะมีตู้เสบียงจำหน่ายอาหารด้วย แต่ช่วงที่เราไปยังอยู่ในมาตรการป้องกันโควิด ตู้เสบียงเลยปิด T T 

เราเลยต้องเตรียมเสบียงมากันเองให้พร้อม

และแล้วก็ถึงเวลาออกเดินทาง.. รถไฟออกจากสถานีเวลา 14.30 น. (ตรงเวลาเป๊ะ!) 

 

ระหว่างทางเราก็กินข้าว กินขนม ดูวิว เล่นเกม สไลด์เฟสบุ๊กไปเรื่อย ~

(ระหว่างทางมีของกินขายบ้างนิดหน่อย แต่ช่วงนี้เตรียมมาเองจะดีกว่า)

พอถึงเวลาเย็นเจ้าหน้าที่ประจำตู้จะมากางที่นอนให้ พร้อมหมอน+ผ้าห่ม

-- เตียงบน --

ความกว้างเท่าเตียงล่างเลย เหยียดขาได้สบาย มีที่เหลือๆ 

-- เตียงล่าง --

นอนเตียงล่างได้ดูวิวระหว่างทางด้วยนะ ดูไปดูมาตาลายหลับไปเลย ~ 

ตื่นเช้ามาก็ยังอยู่บนรถไฟอยู่เลย 555 (ในเลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่) ทำไมยังไม่ถึงอี้กก -^-

เราซื้อกาแฟ+ปาท่องโก๋ ตอนรถไฟจอดแวะสถานีระหว่างทาง มีข้าวต้มมัดสามเหลี่ยมด้วย ไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร? แต่อร่อยย

    

....