🔴ศบค.รายงาน โควิดวันนี้ ไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 205 ราย ไร้ผู้เสียชีวิตเพิ่ม


วันนี้ (8 ม.ค. 64) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โฆษก ศบค.) แถลงถึง สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า...🔻

ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 205 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 9,841 ราย หายป่วยแล้ว 5,255 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมเสียชีวิตสะสม 67 ราย
 
 สำหรับรายละเอียดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่วันที่ 8 ม.ค. 2564 จำนวน 205 ราย มีดังต่อไปนี้...🔻

1. ติดเชื้อในประเทศ จำนวน 131 ราย
2. คัดกรองเชิงรุกในชุมชน 58 ราย
3. ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (State Quarantine) 9 ราย
อินเดีย 1 ราย
สวีเดน 1 ราย
ฝรั่งเศส 1 ราย
สหราอาณาจักร 1 ราย
สาธารณรัฐเช็ก 1 ราย
สหรัฐอเมริกา 4 ราย
4. ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและไม่ได้เข้าสถานกักกันโรค (State Quarantine) 7 ราย
เมียนมา 7 ราย

https://www.sanook.com/news/8333194/

🔴ด่วน! ไทยพบผู้ติดเชื้อ 'โควิด-19' เพิ่ม 205 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 9,841 ราย



➡️“สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มีการรวบรวมข้อมูล 3 สัปดาห์ เห็นได้ว่า สัปดาห์แรกตัวเลขผู้ป่วยจะไม่มากในจังหวัดอื่น แต่จะพบที่สมุทรสาครก่อน แต่สัปดาห์ที่ 2 จะเพิ่มขึ้นคือ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง กรุงเทพฯ และเมื่อมาสัปดาห์ที่ 3 มีการคัดกรองเชิงรุกสมุทรสาครเพิ่มขึ้น ชลบุรี ระยอง กรุงเทพฯ และจันทบุรี ตัวเลขขึ้น 3 หลัก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ติดเชื้อกระจาย 57 จังหวัด โดย จ.บุรีรัมย์ เพิ่มเข้ามา” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว
 
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 7 วันที่ผ่านมา มี 16 จังหวัด ประกอบด้วย สระบุรี นครนายก สระแก้ว อุบลราชธานี ชัยภูมิ หนองคาย มหาสารคาม อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ สุโขทัย นครศรีธรรมราช ระนอง สงขลา สตูล ตรัง และนราธิวาส นอกจากนี้ยังมี 4 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วย 14 วันที่ผ่านมา ประกอบด้วย เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร อุดรธานี และภูเก็ต และมี 20 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานการรับรักษาผู้ป่วย คือ ศรีสะเกษ ยโสธร บึงกาฬ หนองบัวลำภู ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร แพร่ พะเยา เชียงราย แม่ฮ่องสอน อุทัยธานี พิษณุโลก พังงา ชุมพร พัทลุง ปัตตานี และยะลา
 
ทั้งนี้ มีเรื่องน่าสนใจ ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 7 ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และร้อยเอ็ด โดยมีการติดเชื้อน้อย มี 6 ราย ส่วนใหญ่อยู่ขอนแก่น และมหาสารคาม โดยการทำงานของพื้นที่เป็นการวางแผนทำ Active Surveillance ด้วยการคัดกรองจากต้นทางที่เป็นผู้ขายอาหารทะเล เริ่มคัดกรองจากขอนแก่น และกาฬสินธุ์ รวม 313 คน จากนั้นตรวจสถานบันเทิง คัดกรอง 134 คนในขอนแก่น และตรวจคัดกรองในแรงงานประเทศเพื่อนบ้านอีก 525 คน ในขอนแก่น มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ โดยทั้งหมดจัดทำเป็นแผนภูมิทำงาน และลงไปหาเคสอย่างละเอียดจนพบ 6 ราย ทั้งนี้ ยังมีการตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาล อย่างมาโรงพยาบาลด้วยปอดอักเสบก็จะมีการแยกและสว็อปหาเชื้ออีก รวมไปถึงคลินิกทางเดินหายใจส่วนต้น หรือARI Clinic โดยตัวอย่างเขตสุขภาพที่ 7 เป็นตัวอย่างที่กระทรวงสาธารณสุขให้มีการดำเนินการ ซึ่งทำแล้วในแต่ละพื้นที่

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/916239

🔴"หมอทวีศิลป์"พ้อโซเชียลขุดคุ้ยโยงการเมือง ยอมรับกระทบครอบครัว ยืนยันขอทำหน้าที่ ขรก.ให้ดี


"นพ.ทวีศิลป์" โฆษก ศบค. ขออภัยสื่อสารผิดพลาด แอปฯ หมอชนะ อยากขอความร่วมมือของประชาชนเพื่อเป็นประโยชน์ปกป้องตัวเองและสังคม คนได้รับโทษ คือคนที่ป่วย ปกปิดข้อมูล และไม่มีโหลดแอปฯ พร้อมแจงการทำหน้าที่ หลังโดนขุดคุ้ยเรื่องรายได้ ภาษี โซเชียลพยายามโยงการเมือง ยันไม่คิดไปทางนั้น อยากทำหน้าที่ข้าราชการให้ดี ยอมรับข่าวคราวกระทบครอบครัว-ส่วนตัว

วันนี้ (8 ม.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงกรณีการสื่อสารที่ผิดพลาดเกี่ยวกับแอปพลิเคชันหมอชนะในเมื่อวานนี้ (7 ม.ค.) ว่า...🔻

"ขออภัย และขอโทษ ชุดข้อมูล แอปฯ หมอชนะ ต้องการความร่วมมือของประชาชนมากๆ เพราะเป็นประโยชน์ปกป้องตัวเอง และสังคม เน้นว่า คนที่ต้องได้รับโทษ คือ คนที่ป่วย และมีการปกปิดข้อมูล และยังไม่มีการโหลดแอปฯ"

ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ได้กล่าวทิ้งท้ายถึงเรื่องการทำหน้าที่ของตัวเอง ว่า "ผมฝากทิ้งท้าย พิจารณาตัวเอง การเป็นโฆษกฯ สื่อสารกับประชาชน มีหน้าที่หลักเป็นผู้ตรวจราชการ มีคนไปค้น ภาระภาษี เงินประจำตำแหน่งเท่าไร ทำเอกชนอย่างไร ค่าประชุมอย่างไร ผมอยู่ตรงนี้ ไม่มีเบี้ยประชุม ของการทำงานของ ศบค. ออกไปทางสื่อมวลชน ว่าทำงานด้วยใจ ผมมีเงินเดือนอยู่แล้ว เสาร์-อาทิตย์ก็ไปหารายได้เพิ่ม ช่วงโควิด ไม่ได้ไปตรวจข้างนอกเลย สิ่งสำคัญที่อยากจะนำเรียนขึ้นมา ว่าเราเองเป็นข้าราชการ นายสั่ง ผู้บังคับบัญชาสั่ง ผมก็ทำหน้าที่ได้ดีที่สุด ผมก็มาเป็นสายการแพทย์ มาต้องเรียนรู้ กฎหมาย ความมั่นคง พยายามทำดีที่สุด"

"สิ่งที่กระทบมากที่สุดคือ โซเซียลมีเดีย ที่โยงไปการเมือง ผมไม่คิดจะไปทางนั้น อยากอยู่ในหน้าที่ราชการ ทำให้ดี ปฏิบัติตามภาคนโยบาย ทำเต็มที่เพื่อประชาชน ผมเป็นข้าราชการ ทำงานเพื่อประชาชน ภูมิใจในความเป็นตัวเอง ตอนนี้ มีข่าวคราว กระทบส่วนตัว และครอบครัว ก็ขอความเห็นใจ" 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวเพิ่มว่า "ผมขอน้อมนำพระราชดำรัส ของสมเด็จพระสังฆราช คนที่เกิดมา มีแต่คนคอยช่วยเหลือ ถือว่าเป็นคนมีบุญ แต่คนที่เกิดมา แล้วได้ช่วยเหลือคนอื่น เป็นคนที่มีบุญมากกว่า ผมอยากได้บุญนี้ เกิดขึ้นกับตัวผมเอง อยากเอาข้อมูลมาสื่อสาร ถูกบ้างผิดบ้างขออภัย ยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด"

https://mgronline.com/qol/detail/9640000001690

🔴'ศ.นพ.ยง' ชี้ตลาดผู้ขาย โชคดีไทยได้วัคซีนโควิดจากจีน


อัพเดท "ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ" ชี้ตลาดผู้ขาย โชคดีไทยได้วัคซีนโควิดจากจีน เชื่อมีคนกว่า 80% อยากฉีดตอนนี้
 
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยผ่านรายงาน เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เช้านี้ (8 ม.ค.) กรณีวัคซีนโควิด-19 สมควรฉีดหรือไม่ และของใครดี? 

วัคซีนโควิด-19 ที่เอามาฉีดในคนปกติ มีขั้นตอนที่ 3 ในการฉีดในประชากรที่เป็นหลักหมื่นคน ส่วนจะเลือกจากจีนหรือของใคร มีข้อมูลที่ต้องพิจารณา
สำหรับวัคซีนโควิดจากทั่วโลก แบ่ง 3 กลุ่ม 

✏1.ทำจากพันธุกรรม mRNA ของไฟเซอร์ และโมเดอร์นา จากสหรัฐอเมริกาและยุโรป ผลในระยะสั้นปลอดภัย ทำให้มีการฉีดมากที่สุดในขณะนี้ แต่วัคซีนนี้ยังไม่เคยศึกษาระยะยาวในมนุษย์มาก่อนเลย
✏2. แอสตร้า เซนเนก้า , สปุตนิกของรัสเซีย และของจีน ซึ่งใช้ตัวไวรัสนำเข้าไปของมนุษย์ แล้วให้เซลล์มนุษย์สร้างภูมิต้านทาน ซึ่งเคยใช้ในมนุษย์อำอีโบล่าวัคซีน แต่ศึกษาไปได้ไม่เยอะ ผลระยะยาวยังไม่มีใครทราบ

✏3. กลุ่มวัคซีนที่ทำมาจากเชื้อตาย คือเอาไวรัสมาเพาะเลี้ยงแล้วทำให้ตายแล้วเอามาทำเป็นวัคซีน ซึ่งจะทำในปริมาณมากยาก และไม่มีใครอยากเล่นกับเชื้อตัวนี้ แต่เมื่อไปศึกษากับ ยูเออี , ตุรกี ยกตัวอย่าง ซิโนแวกซ์ ประสิทธิภาพ 90 % , วัคซีนของจีนไปศึกษาใน ยูเออี ใน 3 หมื่นกว่าคน ประสิทธิภาพ 86 %
 
 ศ.นพ.ยง ยืนยันโชคดีแล้วที่จีนให้วัคซีนเรา 2 ล้านโดส เพราะด้วยเงื่อนไขต่างๆทั้งแง่กฎหมายทำให้หาวัคซีนได้เร็วยากมาก ซึ่งเป็นเรื่องโชคดีที่มีมิตรภาพกับจีน เพราะจีนผลิตจำนวนมากได้ยากมาก

"ใครบอกว่าวัคซีนจีนไม่ดี ผมคิดว่าไม่ใช่หรอก ตอนนี้ตลาดวัคซีนทั้งหลายเป็นของผู้ขายไม่ใช่ผู้ซื้อ ซึ่งผู้ซื้อต่อให้มีเงิน บางทีซื้อไม่ได้หรอก แต่หลังจากนี้ 1 ปี ตลาดจะเป็นของผู้ซื้อ แต่เราจะรอได้มั้ยอีก 1 ปี"

ส่วนกรณีคนไทยสมควรจะฉีดตอนนี้หรือไม่ ศ.นพ.ยง อธิบายว่า ได้ออกแบบสอบถามทางเฟซบุ๊คส่วนตัวเอง กว่า 3 หมื่นราย สรุป 80% อยากฉีด และอีก 10% ยังก้ำกึ่งจะฉีดหรือไม่ฉีด และที่เหลือ 5-10% ไม่ฉีด

ศ.นพ.ยง พร้อมย้ำ ไทยไม่มีทางเลือก ถ้ามีมิตรภาพไปขอซื้อจากไฟเซอร์ตอนนี้ไม่มีวัคซีนให้ ส่วนเซนเนก้าต้องรอเดือน มิ.ย.

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/916279

🔴เช็กที่นี่! แผนฉีดวัคซีนโควิด-19 ออกแล้ว กลุ่มไหนเข้าข่ายฉีดวัคซีนเดือนไหนบ้างใน 3 ระยะ



สธ. เผยแผนฉีดวัคซีนโควิด-19 ออกแล้ว ใครเข้าข่ายได้ฉีดวัคซีนเดือนไหนบ้างใน 3 ระยะ เริ่มจากพื้นที่ที่มีการระบาดมากที่สุด 5 จังหวัด เผยเตรียมลงทะเบียนตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงที่จะฉีดวัคซีนปลายเดือนมกราคม ถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ จัดระบบและซักซ้อมความเข้าใจในการฉีดวัคซีน การขนส่ง การเก็บรักษา และการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์หลังได้รับวัคซีน

วันนี้ (8 ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการดำเนินการวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย คณะกรรมการวิชาการเห็นชอบให้ดำเนินการเป็น 3 ระยะ ดังนี้...🔻

✏ระยะที่ 1 จัดหาวัคซีนไว้ 2 ล้านโดส แบ่งเป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2 แสนโดส มีนาคม 800,000 โดส และเมษายน 1,000,000 โดสโดยฉีดคนละ 2 เข็ม ห่างกันประมาณ 4 สัปดาห์ เป้าหมายคือการลดการป่วยที่มีอาการรุนแรงและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด -19 ในพื้นที่ที่มีการระบาดมากที่สุดก่อน คือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 5 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร ระยอง ชลบุรี จันทบุรี และตราด
 
กลุ่มที่จะดำเนินการฉีดก่อน คือ....🔻
- กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึง อสม. 80,000 ราย
- เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรค 20,000 ราย และบุคคลทั่วไปที่มีโรคประจำตัวเสี่ยงต่อการเสียชีวิต เช่น โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวาน และกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป รวม 900,000 ราย หากมีส่วนที่เหลือจะเก็บสำรองไว้กรณีเกิดการระบาดรุนแรงในชุมชนเพื่อยับยั้งการระบาดของโรค

✏ระยะที่ 2 ช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2564 จำนวน 26,000,000 โดส ฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศ

✏ระยะที่ 3 ช่วงปลายปี 2564 ถึงต้นปี 2565 จะฉีดให้ประชาชนทั่วไปให้ครอบคลุมมากที่สุด ให้เกิดภูมิคุ้นกันในชุมชน เพื่อตัดวงจรการระบาดของโรค ทั้งนี้ องค์การเภสัชกรรมจะเป็นผู้นำเข้าและขนส่งกระจายไปยังโรงพยาบาลในสังกัดทุกระดับ โรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้เข้าถึงประชาชนอย่างครอบคลุม

โดยจะเริ่มลงทะเบียนตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงที่จะฉีดวัคซีนปลายเดือนมกราคม ถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ จัดระบบและซักซ้อมความเข้าใจในการฉีดวัคซีน การขนส่ง การเก็บรักษา และการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์หลังได้รับวัคซีน

https://mgronline.com/qol/detail/9640000001783

สถานการณ์ดูดีขึ้นไปตามลำดับ

ให้กำลังใจคุณหมอทวีศิลป์ในการทำหน้าที่โฆษกศบค.ค่ะ

....💕💕💕💕💕

คุณหมอ ยง ยังบอกว่า ไทยโชคดีที่ได้วัคซีนจากจีน

มีคนอยากฉีดวัคซีนโควิดถึง  80%

ช่วยกันดูแลตัวเอง อย่าให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อนะคะ