🔴โควิดวันนี้ไทยพบผู้ป่วยเพิ่ม 527 ราย ติดเชื้อในประเทศ 82 ราย ป่วยสะสม 8,966 ราย
วันนี้ (5 ม.ค. 64) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โฆษก ศบค.) แถลงถึง สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า...⬇️
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 527 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 8,966 ราย หายป่วยแล้ว 4,397 ราย เสียชีวิตสะสม 65 ราย
1. ติดเชื้อในประเทศ จำนวน 82 ราย
2. ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว (คัดกรองเชิงรุก) 439 ราย
3. ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (State Quarantine) 6 ราย
อินเดีย 2 ราย
ตุรกี 1 ราย
ปากีสถาน 1 ราย
สหราชอาณาจักร 1 ราย
เดนมาร์ก 1 ราย
https://www.sanook.com/news/8330638/
🔴เช็ก! ไทม์ไลน์วัคซีน “โควิด-19” เข้าไทย 3 ล็อต เข็มแรกให้ “เจ้าหน้าที่ภาคสนาม-พื้นที่ควบคุมสูงสุด-กลุ่มเสี่ยง-ภาวะแทรกซ้อน”
วัคซีนโควิด-19 เริ่มเข้าไทย ก.พ.นี้ ล็อตแรกเดือน ก.พ. 64 SinoVac จากจีน ส่งมอบ 2 แสนโดส เดือน มี.ค. 64 SinoVac จากจีน ส่งมอบ 8 แสนโดส เดือน เม.ย. 64 SinoVac จากจีน ส่งมอบ 1 ล้านโดส รวม 2 ล้านโดส และเดือน พ.ย. 64 AstraZeneca ผลิตเองในไทยผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยี เริ่มส่งมอบ 26 ล้านโดส รวมถึงเจรจา Pfizer, Moderna, COVAX และอื่นๆ เพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย 70 ล้านโดส
วันนี้ (5 ม.ค.) แฟนเพจเฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล COVID-19 โพสต์ข้อมูลระบุว่า ครม.เห็นชอบในเรื่องการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมในกรณีเร่งด่วนว่า ขณะนี้ได้มีการหารือกันจากผู้แทนบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค ที่จะจัดหาวัคซีนจำนวน 2 ล้านโดส โดยวัคซีนที่จะได้รับอนุญาตให้เข้ามาใช้กับคนไทยจะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนจาก อย.ประเทศจีน และเมื่อ อย.ของจีนอนุมัติแล้วจะต้องนำมาให้ทาง อย.ประเทศไทย เป็นผู้อนุมัติด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของหน่วยงานที่จะนำเข้ามาจะเป็นองค์การเภสัชกรรมจะเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนกรมควบคุมโรคเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อและกระจายไปสู่ประชาชนทั่วไป ซึ่งในขณะนี้ได้มีวงเงินจัดสรร 1,228 ล้านบาท ในการที่จะเร่งจัดหาวัคซีนจำนวน 2 ล้านโดสเข้ามากระจายแก่คนไทยโดยเร็ว โดยแบ่งขั้นตอน ดังนี้....⬇️
➡️จำนวน 200,000 โดสแรก จะนำเข้ามาในเดือน ก.พ. 64 ซึ่งจะส่งมอบแก่เจ้าหน้าที่ตาม รพ.ต่างๆ เพื่อไปฉีดแก่ผู้ที่ทำงานภาคสนามในพื้นที่ที่มีการควบคุมสูงสุด เช่น สมุทรสาคร ระยอง ชลบุรี เป็นต้น ประมาณ 20,000 คน และในกลุ่มเสี่ยงที่จะมีการติดเชื้อและมีภาวะแทรกซ้อนสูง รวมถึงกลุ่มจำเป็นอื่นๆ อีก 180,000 คน
➡️Lot ถัดไปจะได้ในเดือน มี.ค. 64 อีกประมาณ 800,000 โดส ซึ่งจะฉีดเข็มที่ 2 ให้กลุ่มที่ 1 จำนวน 200,000 โดส และอีก 600,000 โดส จะฉีดให้แก่กลุ่มจังหวัดที่มีการควบคุมสูงสุด รวมถึงจังหวัดแนวชายแดนภาคตะวันตก ภาคใต้ และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ รวมถึง อสม.ด้วย ประมาณ 600,000 ราย และฉีดให้แก่กลุ่มที่ติดเชื้อมีภาวะแทรกซ้อนสูง และกลุ่มจำเป็นอื่นๆ อีกจำนวน 540,000 คน
➡️ส่วน Lot ที่ 3 ในเดือน เม.ย. 64 จะได้รับวัคซีนเพิ่มอีก 1 ล้านโดส รวมเป็น 2 ล้านโดส จะนำไปฉีดโดสที่ 2 ในกลุ่มที่ได้กล่าวถึงในรอบที่แล้วที่ฉีดไปแล้วใน 800,000 โดสแรก ประมาณ 600,000 คน ส่วนอีก 400,000 โดส ก็จะฉีดให้แก่บุคลากรอื่นๆ เพิ่มเติม เพราะฉะนั้นจะเป็น 2 ล้านโดสแรกที่จะเข้ามาในปี 2564 นี้ โดยประชาชน 1 คนจะได้รับการฉีดวัคซีนจำนวน 2 โดส หลังจากนั้นมีการที่ประเทศไทยได้มีการจองซื้อวัคซีน 26 ล้านโดส จากบริษัท แอสตราเซเนกา (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะนำเข้ามาให้ชาวไทยได้ใช้ประมาณกลางปี 2564
ขณะนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติเพิ่มเติมในการหาวัคซีนเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส ให้คุ้มครองคนไทยได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของจำนวนประชาชนในประเทศ โดยยอดรวมทั้งสิ้นของวัคซีนที่จะนำมาให้แก่คนไทยได้ใช้ก็คือ 63 ล้านโดส ซึ่งคนไทยจะได้ใช้ในปี 2564 นี้
https://mgronline.com/qol/detail/9640000000628
🔴เช็ค! วัคซีน 'โควิด-19' เข้าไทย 3 ล็อต ใครได้สิทธิ์บ้าง
โฆษกรบ.'เผย วัคซีนโควิด เริ่มเข้าไทย ก.พ.นี้ เข็มแรกให้เจ้าหน้าที่ภาคสนามพื้นที่ควบคุมสูงสุด-กลุ่มเสี่ยง-ภาวะแทรกซ้อน
5 ม.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.ได้รับทราบถึงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มเติม ในกรณีเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้ได้มีการพูดคุยกันจากทางด้านบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค ที่จะจัดหาวัคซีน จำนวน 2 ล้านโดส ซึ่งวัคซีนที่จะได้รับการอนุญาตเข้ามาใช้กับคนไทยจะต้องขึ้นทะเบียนจากอย.ของประเทศจีน และเมื่อผ่านประเทศจีนแล้วต่องนำมาให้อย.ของไทยอนุมัติด้วย โดยในส่วนที่จะนำเข้ามาจะเป็นทางด้านองค์การเภสัชกรรมที่จะดำเนินการและจะให้กรมควบคุมโรคเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อและกระจายไปสู่ประชาชนทั่วไป ตอนนี้ได้มีวงเงินจัดสรร 1,228 ล้านบาทในการจัดหาจำนวนวัคซีน 2 ล้านโดสเข้ามาโดยเร็วเป็นการเร่งด่วน
นายอนุชา กล่าวต่อว่า โดยจำนวน 2 แสนโดสแรก จะนำเข้ามาในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งจะสามารถส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตามโรงพยาบาลต่างๆเพื่อฉีดวัคซีนให้ผู้ที่ทำงานภาคสนามในพื้นที่ที่มีการควบคุมสูงสุด เช่น จ.สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง เป็นต้น ประมาณ 2 หมื่นคน และกลุ่มเสี่ยงที่มีการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนสูง และกลุ่มจำเป็นอื่นๆประมาณ 1.8 แสนคน
สำหรับวัคซีนต่อมาจะได้รับในเดือนมีนาคม 2564 ประมาณ 8 แสนโดสโดยจะฉีดเข็มที่ 2 ให้กับกลุ่มที่ 1 จำนวน 2 แสนโดส ส่วนอีก 6 แสนโดสจะฉีดในกลุ่มจังหวัดที่ควบคุมสูงสุดและชายแดนภาคตะวันตก ภาคใต้ และบุคคลากรทางการแพทย์อื่นๆ รวมทั้งอสม.ด้วย ประมาณ 6 แสนคน และกลุ่มที่ติดเชื้อที่มีภาวะแทรกซ้อนสูง กลุ่มจำเป็นอื่นๆอีกประมาณ 5.4 แสนคน
นายอนุชา กล่าวว่า ส่วนเดือนเมษายน 2564 จะได้รับวัคซีนเพิ่มอีก 1 ล้านโดส รวมเป็น 2 ล้านโดส โดยจะฉีดเข็มที่ 2 ให้กับกลุ่มที่ฉีดไปแล้ว 8 แสนโดสแรก จำนวน 6 แสนคน ส่วนอีก 4 แสนโดสจะให้กับบุคลากรอื่นๆเพิ่มเติม ดังนั้น 2 ล้านโดสแรกที่จะได้เข้ามาในปี 2564 เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป สำหรับประชาชน 1 คน จะต้องได้รับการฉีด จำนวน 2 โดส ส่วนที่ประเทศไทย ได้จองซื้อวัคซีน จำนวน 26 ล้านโดสไปแล้วจากบริษัท Astra Zeneca คาดว่าจะนำเข้ามาได้เพื่อให้คนไทยได้ใช้ประมาณ กลางปี 2564 และวันนี้ทางนายกฯได้อนุมัติเพิ่มเติมจัดหาซื้อวัคซีนอีก 35 ล้านโดส เพื่อคุ้มครองคนไทยได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด เท่ากับว่ารวมแล้วเราจะมีวัคซีน 63 ล้านโดสให้ประชาชน
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/915661
วัคซีนจะมา ทำเอาฝ่ายที่โจมตีรัฐบาลทำท่าจะสร้างดราม่ากันใหญ่นะคะ
ทั้งในสภาและนอกสภามีนักการเมืองและบรรดาติ่ง ออกมาดิ้นเพื่อเกาะกระแสโควิด
แสดงความอวดฉลาดให้ประชาชนขำๆไปค่ะ
สถานการณ์ยังคงต้องระมัดระวัง อย่าประมาทเพราะคิดว่ารัฐบาลเอาอยู่
แต่ถ้าประชาชนการ์ดตก ก็ยากที่จะจบโควิดไปได้ง่ายๆอย่างเคย
รัฐบาลให้ประชาชนเป็นใหญ่ มีจิตสำนึกเป็นผู้ปกป้องโควิด ไม่ใช่ให้แต่รัฐบาลทำงานฝ่ายเดียว
จงสามัคคีกันรับมือโควิดค่ะ
🔴มาลาริน/5 ธ.ค.ไทยพบโควิด 527 ราย จากตปท.6 นปท.82 เชิงรุก 439ราย/ไทม์ไลน์วัคซีน “โควิด-19” เข้าไทย 3 ล็อตแรก
วันนี้ (5 ม.ค. 64) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โฆษก ศบค.) แถลงถึง สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า...⬇️
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 527 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 8,966 ราย หายป่วยแล้ว 4,397 ราย เสียชีวิตสะสม 65 ราย
1. ติดเชื้อในประเทศ จำนวน 82 ราย
2. ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว (คัดกรองเชิงรุก) 439 ราย
3. ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (State Quarantine) 6 ราย
อินเดีย 2 ราย
ตุรกี 1 ราย
ปากีสถาน 1 ราย
สหราชอาณาจักร 1 ราย
เดนมาร์ก 1 ราย
https://www.sanook.com/news/8330638/
🔴เช็ก! ไทม์ไลน์วัคซีน “โควิด-19” เข้าไทย 3 ล็อต เข็มแรกให้ “เจ้าหน้าที่ภาคสนาม-พื้นที่ควบคุมสูงสุด-กลุ่มเสี่ยง-ภาวะแทรกซ้อน”
วัคซีนโควิด-19 เริ่มเข้าไทย ก.พ.นี้ ล็อตแรกเดือน ก.พ. 64 SinoVac จากจีน ส่งมอบ 2 แสนโดส เดือน มี.ค. 64 SinoVac จากจีน ส่งมอบ 8 แสนโดส เดือน เม.ย. 64 SinoVac จากจีน ส่งมอบ 1 ล้านโดส รวม 2 ล้านโดส และเดือน พ.ย. 64 AstraZeneca ผลิตเองในไทยผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยี เริ่มส่งมอบ 26 ล้านโดส รวมถึงเจรจา Pfizer, Moderna, COVAX และอื่นๆ เพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย 70 ล้านโดส
วันนี้ (5 ม.ค.) แฟนเพจเฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล COVID-19 โพสต์ข้อมูลระบุว่า ครม.เห็นชอบในเรื่องการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมในกรณีเร่งด่วนว่า ขณะนี้ได้มีการหารือกันจากผู้แทนบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค ที่จะจัดหาวัคซีนจำนวน 2 ล้านโดส โดยวัคซีนที่จะได้รับอนุญาตให้เข้ามาใช้กับคนไทยจะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนจาก อย.ประเทศจีน และเมื่อ อย.ของจีนอนุมัติแล้วจะต้องนำมาให้ทาง อย.ประเทศไทย เป็นผู้อนุมัติด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของหน่วยงานที่จะนำเข้ามาจะเป็นองค์การเภสัชกรรมจะเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนกรมควบคุมโรคเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อและกระจายไปสู่ประชาชนทั่วไป ซึ่งในขณะนี้ได้มีวงเงินจัดสรร 1,228 ล้านบาท ในการที่จะเร่งจัดหาวัคซีนจำนวน 2 ล้านโดสเข้ามากระจายแก่คนไทยโดยเร็ว โดยแบ่งขั้นตอน ดังนี้....⬇️
➡️จำนวน 200,000 โดสแรก จะนำเข้ามาในเดือน ก.พ. 64 ซึ่งจะส่งมอบแก่เจ้าหน้าที่ตาม รพ.ต่างๆ เพื่อไปฉีดแก่ผู้ที่ทำงานภาคสนามในพื้นที่ที่มีการควบคุมสูงสุด เช่น สมุทรสาคร ระยอง ชลบุรี เป็นต้น ประมาณ 20,000 คน และในกลุ่มเสี่ยงที่จะมีการติดเชื้อและมีภาวะแทรกซ้อนสูง รวมถึงกลุ่มจำเป็นอื่นๆ อีก 180,000 คน
➡️Lot ถัดไปจะได้ในเดือน มี.ค. 64 อีกประมาณ 800,000 โดส ซึ่งจะฉีดเข็มที่ 2 ให้กลุ่มที่ 1 จำนวน 200,000 โดส และอีก 600,000 โดส จะฉีดให้แก่กลุ่มจังหวัดที่มีการควบคุมสูงสุด รวมถึงจังหวัดแนวชายแดนภาคตะวันตก ภาคใต้ และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ รวมถึง อสม.ด้วย ประมาณ 600,000 ราย และฉีดให้แก่กลุ่มที่ติดเชื้อมีภาวะแทรกซ้อนสูง และกลุ่มจำเป็นอื่นๆ อีกจำนวน 540,000 คน
➡️ส่วน Lot ที่ 3 ในเดือน เม.ย. 64 จะได้รับวัคซีนเพิ่มอีก 1 ล้านโดส รวมเป็น 2 ล้านโดส จะนำไปฉีดโดสที่ 2 ในกลุ่มที่ได้กล่าวถึงในรอบที่แล้วที่ฉีดไปแล้วใน 800,000 โดสแรก ประมาณ 600,000 คน ส่วนอีก 400,000 โดส ก็จะฉีดให้แก่บุคลากรอื่นๆ เพิ่มเติม เพราะฉะนั้นจะเป็น 2 ล้านโดสแรกที่จะเข้ามาในปี 2564 นี้ โดยประชาชน 1 คนจะได้รับการฉีดวัคซีนจำนวน 2 โดส หลังจากนั้นมีการที่ประเทศไทยได้มีการจองซื้อวัคซีน 26 ล้านโดส จากบริษัท แอสตราเซเนกา (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะนำเข้ามาให้ชาวไทยได้ใช้ประมาณกลางปี 2564
ขณะนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติเพิ่มเติมในการหาวัคซีนเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส ให้คุ้มครองคนไทยได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของจำนวนประชาชนในประเทศ โดยยอดรวมทั้งสิ้นของวัคซีนที่จะนำมาให้แก่คนไทยได้ใช้ก็คือ 63 ล้านโดส ซึ่งคนไทยจะได้ใช้ในปี 2564 นี้
https://mgronline.com/qol/detail/9640000000628
🔴เช็ค! วัคซีน 'โควิด-19' เข้าไทย 3 ล็อต ใครได้สิทธิ์บ้าง
โฆษกรบ.'เผย วัคซีนโควิด เริ่มเข้าไทย ก.พ.นี้ เข็มแรกให้เจ้าหน้าที่ภาคสนามพื้นที่ควบคุมสูงสุด-กลุ่มเสี่ยง-ภาวะแทรกซ้อน
5 ม.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.ได้รับทราบถึงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มเติม ในกรณีเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้ได้มีการพูดคุยกันจากทางด้านบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค ที่จะจัดหาวัคซีน จำนวน 2 ล้านโดส ซึ่งวัคซีนที่จะได้รับการอนุญาตเข้ามาใช้กับคนไทยจะต้องขึ้นทะเบียนจากอย.ของประเทศจีน และเมื่อผ่านประเทศจีนแล้วต่องนำมาให้อย.ของไทยอนุมัติด้วย โดยในส่วนที่จะนำเข้ามาจะเป็นทางด้านองค์การเภสัชกรรมที่จะดำเนินการและจะให้กรมควบคุมโรคเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อและกระจายไปสู่ประชาชนทั่วไป ตอนนี้ได้มีวงเงินจัดสรร 1,228 ล้านบาทในการจัดหาจำนวนวัคซีน 2 ล้านโดสเข้ามาโดยเร็วเป็นการเร่งด่วน
นายอนุชา กล่าวต่อว่า โดยจำนวน 2 แสนโดสแรก จะนำเข้ามาในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งจะสามารถส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตามโรงพยาบาลต่างๆเพื่อฉีดวัคซีนให้ผู้ที่ทำงานภาคสนามในพื้นที่ที่มีการควบคุมสูงสุด เช่น จ.สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง เป็นต้น ประมาณ 2 หมื่นคน และกลุ่มเสี่ยงที่มีการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนสูง และกลุ่มจำเป็นอื่นๆประมาณ 1.8 แสนคน
สำหรับวัคซีนต่อมาจะได้รับในเดือนมีนาคม 2564 ประมาณ 8 แสนโดสโดยจะฉีดเข็มที่ 2 ให้กับกลุ่มที่ 1 จำนวน 2 แสนโดส ส่วนอีก 6 แสนโดสจะฉีดในกลุ่มจังหวัดที่ควบคุมสูงสุดและชายแดนภาคตะวันตก ภาคใต้ และบุคคลากรทางการแพทย์อื่นๆ รวมทั้งอสม.ด้วย ประมาณ 6 แสนคน และกลุ่มที่ติดเชื้อที่มีภาวะแทรกซ้อนสูง กลุ่มจำเป็นอื่นๆอีกประมาณ 5.4 แสนคน
นายอนุชา กล่าวว่า ส่วนเดือนเมษายน 2564 จะได้รับวัคซีนเพิ่มอีก 1 ล้านโดส รวมเป็น 2 ล้านโดส โดยจะฉีดเข็มที่ 2 ให้กับกลุ่มที่ฉีดไปแล้ว 8 แสนโดสแรก จำนวน 6 แสนคน ส่วนอีก 4 แสนโดสจะให้กับบุคลากรอื่นๆเพิ่มเติม ดังนั้น 2 ล้านโดสแรกที่จะได้เข้ามาในปี 2564 เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป สำหรับประชาชน 1 คน จะต้องได้รับการฉีด จำนวน 2 โดส ส่วนที่ประเทศไทย ได้จองซื้อวัคซีน จำนวน 26 ล้านโดสไปแล้วจากบริษัท Astra Zeneca คาดว่าจะนำเข้ามาได้เพื่อให้คนไทยได้ใช้ประมาณ กลางปี 2564 และวันนี้ทางนายกฯได้อนุมัติเพิ่มเติมจัดหาซื้อวัคซีนอีก 35 ล้านโดส เพื่อคุ้มครองคนไทยได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด เท่ากับว่ารวมแล้วเราจะมีวัคซีน 63 ล้านโดสให้ประชาชน
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/915661
วัคซีนจะมา ทำเอาฝ่ายที่โจมตีรัฐบาลทำท่าจะสร้างดราม่ากันใหญ่นะคะ
ทั้งในสภาและนอกสภามีนักการเมืองและบรรดาติ่ง ออกมาดิ้นเพื่อเกาะกระแสโควิด
แสดงความอวดฉลาดให้ประชาชนขำๆไปค่ะ
สถานการณ์ยังคงต้องระมัดระวัง อย่าประมาทเพราะคิดว่ารัฐบาลเอาอยู่
แต่ถ้าประชาชนการ์ดตก ก็ยากที่จะจบโควิดไปได้ง่ายๆอย่างเคย
รัฐบาลให้ประชาชนเป็นใหญ่ มีจิตสำนึกเป็นผู้ปกป้องโควิด ไม่ใช่ให้แต่รัฐบาลทำงานฝ่ายเดียว
จงสามัคคีกันรับมือโควิดค่ะ