.
ไม่ต้องสร้างภาพ
ไม่ต้องแคร์ใคร
ทำตัวให้สบาย ๆ
ในพื้นที่ของตัวเอง
“
คืนนี้ที่ลานวัดหมู่บ้านของเรา มีหมอลำศิลปินภูไทยเด้อครับ ออกมาชมมาฟังกัน งานบวชผู้ใหญ่บ้านทั้งสองหมู่ หมู่ 1 กับผู้ 2 ทั้งนี้ทั้งนั้นก็บ้านเดียวกัน แยกเป็นหมู่เฉย ๆ พ่อผู้ใหญ่ทั้งสองหมู่ก็ขอความกรุณา วัยรุ่นลูกหลานบ้านเรา อย่าตีกัน อย่ามีเรื่องกันน้อครับน้อ
พ่อผู้ใหญ่ทั้งสองหมู่ทุ่มทุนสร้างจ้างพ่อวีระพงษ์มาให้ได้เบิ่งได้ฟังกัน อาจจะมีวัยรุ่นหมู่บ้านอื่นมาดูหมอลำด้วย เราเป็นเจ้าบ้าน เราอย่าไปมีเรื่องกันน้อ ถือว่าพ่อผู้ใหญ่ทั้งสองคนขอร้องน้อลูกหลาน อ่าพ่อผู้ใหญ่หมู่หนึ่งท่านฝากบอกมาว่า ใครมีเรื่องในงานจ่ายค่าเสียหายทั้งหมดเด้อครับ”
เป็นเสียงตามสายของผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ประกาศมาจากในวัด และเสียงเพลงที่กำลังเปิด ดังไปทั่วหมู่บ้าน ยิ่งใหญ่อย่างกับเป็นงานประจำปี แต่เป็นงานส่วนตัว ขณะนี้ที่วัดมีเวทีหมอลำคณะดังตั้งอยู่ บอสกับพี่ ๆ ทั้งสี่คน น้องบีมและสองฝาแฝดกำลังนั่งฟังเสียงตามสายที่แคร่หน้าบ้านของเธอ
วันนี้เป็นงานบุญบวชลูกชายของทั้งสองผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านของเธอเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ จึงแบ่งแยกออกไปเป็นสองหมู่ คือหมู่1หมู่2นั่นเอง วัดโรงเรียน ศาลาการเปรียญก็ใช้ร่วมกัน
พวกเธอพึ่งกลับจากแห่นาครอบหมู่บ้าน สนุกมาก ๆ งานยิ่งใหญ่อลังการ นึกว่างานบุญกฐินประจำปีเลย ซึ่งเป็นแค่งานบวชหาผู้ที่ล่วงลับไปแล้วเท่านั้น เป็นงานบวชระดับผู้ใหญ่บ้าน จัดแบบธรรมดาได้ซะที่ไหน
“บอส พี่ ๆ แพรวขอตัวกลับล่ะนะ เดี๋ยวออกมาหา ไปดูพ่อใหญ่วีระพงษ์กัน” หกโมงครึ่งสองฝาแฝดจึงขอตัวกลับ เจอกันอีกครั้งประมาณสองทุ่ม ผู้คนต้องเยอะแน่นอนคืนนี้ จะหาที่ว่างนั่งได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ คนหมู่บ้านอื่นต้องมาดูด้วยแน่นอน ก็หมอลำคณะใหญ่ขนาดนี้ ชื่อเสียงโด่งดังด้วย
สักพักมีสายโทรศัพท์เข้า ปัญญดา! คือชื่อของคนโทรเข้า บอสพิมพ์ชื่อจริงของเพื่อนเอาไว้ เป็นเพื่อนต่างหมู่บ้าน เรียนห้องเดียวกัน ไม่เชิงสนิทกันเท่าไหร่ ก็คุยกันอยู่จึงได้แลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้ “ปันโทรหากูทำไมวะ” บอสมองโทรศัพท์ที่กำลังสั่นอยู่ด้วยความสงสัย พูดลอย ๆ ออกมาก่อนจะกดรับสาย
“ปันว่าไง” เธอถามทันทีที่กดรับสาย
“บอสคืนนี้เค้าว่าจะไปหาอ่ะ เอารถมอเตอร์ไซค์ไปจอดที่บ้านบอสได้มั้ย” ปันพูดจุดประสงค์ทันทีเช่นกันเมื่อเธอรับสาย
“ได้ดิ มากับใครบ้าง พวกตั๊ก พวกกล้วยมามั้ย” บอสถามหาเพื่อนคนอื่น ๆ ที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันกับปัน
“ไม่ ๆ เค้าไปกับพี่ชายสองคน แต่บอส เอ่อ...” ปันอ้ำอึ้งเหมือนอยากขอร้องอะไรบางอย่างกับเธอ แต่ไม่กล้าพูด
“ว่า!”
“เค้าขอพาแซ็กมาบ้านบอสได้มั้ย คือเค้ากับแซ็กนัดเจอกันที่บ้านบอสได้มั้ยอ่ะ”
“ได้! เอ้า! ปันมากับพี่เล็กแมนบ่ ทำไมกล้านัดแซ็กอ่ะ” เธอรู้จักกับแซ็กแฟนของปัน เนื่องจากบังเอิญว่าแซ็กที่ปันพูดถึงเป็นหลานชายของป้าสะใภ้เธอเอง รู้สึกงงนิดหน่อย ปันกล้าเปิดเผยแฟนกับพี่ชายตนเองแล้วหรือ
“ไอ้เล็กมันรู้อยู่แล้ว ให้มันพามาเองนี่แหละ ไม่งั้นแม่ไม่ให้เค้ามา บอสอย่าพึ่งไปดูหมอลำนะ รอเค้ากับแซ็กก่อน”
“ได้!” พอคุยกับเพื่อนเสร็จบอสก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวรอ สรุปทีแรกว่าจะไปกับพี่ ๆ บอสไม่ไปแล้ว รอไปกับเพื่อนตัวเองดีกว่า ส่วนฝาแฝดก็ไปด้วยกันเลย หรือจะไปกับพวกพี่ปาวก็ตามใจ วันนี้เธอขอแยกวง
“พี่ปาวไปก่อนเลยนะ บอสรอเพื่อน อี่ปันกับพี่มันจะมา พี่บอมรู้จักพี่เล็กมั้ย” บอสถามพี่ปาวกับพี่บอม พี่เล็กน่าจะรุ่นเดียวกันกับพี่บอม แต่จบ ม.3 ย้ายไปเรียนเทคนิค “หมู่บ้านนั้นน่ะ อายุเท่าพี่บอมมั้ย”
“อ่อ รู้จักอยู่ เอ้าเป็นเพื่อนกับน้องมันด้วยเหรอ” พี่บอมถามด้วยความสนใจ
“ไอ้ปันเรียนห้องเดียวกันกับบอสนี่แหละ อย่าเชียวนะ! มันมีแฟนแล้ว มันนัดแฟนมันมาเจอที่บ้านเรา” บอสทำหน้าตาทะเล้นให้พี่ชาย ที่จริงพี่บอมมีแฟนอยู่แล้ว แค่แซวเล่นเฉย ๆ
“กูก็แค่ถาม! ยังไม่ได้พูดอะไรเลย” ไม่พูดเฉยพี่บอมยกมือตบศีรษะของเธอเบา ๆ ด้วย
บอสมองค้อนพี่ชาย เอะอะตบ ๆ อยู่เรื่อยเลย พี่ปาวพี่แป้งหัวเราะเธอ พี่บอลพึ่งอาบน้ำเสร็จเดินออกมาจากห้องน้ำ นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ส่วนน้องบีมพร้อมกว่าใคร ๆ อาบน้ำเตรียมตัวก่อนใครตั้งแต่หัวค่ำ
“มืงว่าเอาอยู่มั้ยคืนนี้”
“กูว่าไม่! ถ้าพวกหมู่ 4 มา” สองพี่น้องยอดชายคุยกัน ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมอย่างดีเพื่อไปดูหมอลำในคืนนี้ พี่บอลไม่ค่อยเกเรเหมือนพี่ชาย พี่บอมค่อนข้างมึน มึนแบบแสดงออก แต่พี่บอลมึนเงียบและขรึมสุขุมกว่าคนเป็นพี่มาก ๆ ไม่ค่อยพูดก็ที่หนึ่ง
“ไปดูหมอลำก็ไปดูดี ๆ นะ อย่าไปมีเรื่องกับบ้านอื่น กูโทรบอกพ่อมืงขึ้นมาจัดการเลย” ยายขู่หลานชายเอาไว้ก่อน
พี่บอมปรายตาไปมองตาที่นั่งฝนยาสมุนไพรสามสิบบีกินอยู่หน้าบ้าน เธอเคยชิมกับตาขมปี๋ ตากินลงไปได้อย่างไร ตาไม่บ่นเหมือนยาย เป็นที่รู้กันไม่พูดนั่นล่ะดีแล้วอย่าให้ตาพูด ตาแก่แล้วตามพี่ชายไม่ทันแน่นอน แต่พี่ ๆ ก็กลัว
“ไปดูหมอลำอย่าริอาจไปมีเรื่องนะ กูบอกไว้คำเดียว ตายมากูเอาไปฝังซำนั่นล่ะ คือบักยอร์จหนิ” ตาหมายถึงหลานชายที่เสียไปแล้ว เมื่อคราวก่อนนู้น
“ใครจะไปมีเรื่องตาก็ เห็นว่า บอมไม่ใช่คนแบบนั้น” ไม่ใช่ก็เกือบใช่ล่ะ บอสมองบนพี่ชายกับคำพูดของพี่เมื่อครู่ แทบอยากจะหัวเราะออกมาเป็นภาษาดอกไม้
“ปะ ไปดูพ่อใหญ่วีระพงษ์กันเรา ยายก็จะไปด้วย” ด้วยความที่ห่วงหลานชายกว่าใคร ๆ ยายจึงขอตามไปด้วยเลย เป็นแบบนี้เสมอ ยิ่งวันนี้งานใหญ่หมอลำดังด้วย หมู่บ้านใกล้เคียงเข้ามาแน่นอน “บอสสองคนนั้นจะออกมาตอนไหนบอส ไปเรียกแหมะ พ่อใหญ่วีระพงษ์สิขึ้นฮ้านแล้ว” ยายถามถึงสองฝาแฝด
“ยายไปก่อนเลย บอสรอเพื่อนบอส มันจะมากับพี่มัน ไอ้แฝดไม่ต้องรอ ยายกับพวกพี่ปาวไปก่อนเลย เดี๋ยวบอสตามไป” เธอโทรบอกพี่สาวฝาแฝดไว้แล้วเรื่องปันจะมาหาที่บ้าน
“เอางั้นเหรอ พาเพื่อนไปนั่งกับยายเด้อ”
“จ้า” บอสตอบยาย เธอออกมานั่งหน้าบ้านคุยกับตารอปัน สักพักพิมพ์กับแพรวก็เดินมาหาเธอที่บ้าน “พวกพี่ปาวไปก่อนแล้วมืง”
“เพื่อนมืงจะมาตอนไหนบอส” พิมพ์ถาม ทั้งสองคนนั่งที่แคร่หน้าบ้าน “ตาฝนอะไรเหรอ” พิมพ์ถามตาของเธอ
“ฝนสามสิบบีกินนาง จะพากันไปตอนไหนหนิ”
“นั่นไงเพื่อนกูมาล่ะ” ไม่ทันที่พิมพ์จะตอบตา บอสก็เห็นเพื่อนขับรถเข้ามาแล้ว มีรถมอเตอร์ไซค์สองคันขับตามกันมาที่บ้านเธอ เป็นปันกับพี่ชายจริง ๆ ด้วย ส่วนอีกคันคือแซ็กนั่นเอง
ทั้งสามคนผู้มาใหม่ยกมือไหว้สวัสดีตา “ปันนี่เพื่อนกู พิมพ์กับแพรว เรียนในเมืองอ่ะ ไอ้แฝดนี่ปันปันเพื่อนกู” บอสแนะนำให้ทุกคนรู้จักกัน รวมทั้งพี่เล็กพี่ชายของปันด้วย ส่วนแซ็กไม่ต้องแนะนำ พวกเธอรู้จักกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะพิมพ์กับแพรวเรียนโรงเรียนที่เดียวกันด้วย
เมื่อปันมาถึงยังไม่มีท่าทีว่าพวกเธอจะไปดูหมอลำเลย พี่เล็กขอตัวไปหาเพื่อนของตนเอง กลับตอนไหนให้ปันโทรหาได้เลย พวกเธอนั่งคุยกันหน้าบ้าน ตาเข้าไปในบ้านอย่างรู้งาน ปล่อยให้พวกเธอเล่นอยู่ข้างนอกตามสบาย ปันกับแซ็กก็นั่งทำตัวติดกันเนียน ๆ ไป
“บอสไปดูหมอลำกันเถอะ กูอยากไปแล้ว” แพรวคะยั้นคะยอเธอ บอสหันไปมองปันกับแซ็กเอาไง
“ปะไปก็ไป” ตอนนี้บริเวณใกล้เคียงเสียงดังไปด้วยเสียงดนตรีและเสียงเพลง หมอลำกำลังจะเปิดวง บอสเข้าไปในบ้านเดินไปหยิบเสื่ออีกผืนก่อนจะพากันเดินไปวัด ไปดูหมอลำ
มาถึงวัดเป็นไปตามคาด คนมาดูหมอลำเยอะมาก คนในหมู่บ้านแทบจะทุกหลังคาเรือนเลย คนนอกหมู่บ้านอีก ลานวัดกว้าง ๆ เต็มอัดแน่นไปด้วยผู้ที่มาดูหมอลำ ไม่พอบางส่วนขึ้นไปนั่งดูบนศาลาวัดก็มี หมอลำวันนี้ งานวันนี้ยิ่งใหญ่สมฐานะเจ้าภาพมาก ๆ
พวกเธอถือเสื่อมาปูนั่งแถวท้าย ๆ อยู่ห่างเวทีมาก เข้าไปไม่ได้มากกว่านี้เพราะคนแน่น บอสมองหายายไม่เจอ ไม่รู้ไปนั่งมุมไหน เมื่อเลือกที่นั่งได้เหมาะเจาะก็ปูเสื่อลง ผู้ใหญ่บ้านกำลังจะขึ้นเวทีมาเปิดงานก่อนทำการแสดง
“สวัสดีพ่อแม่พี่น้อง พ่อใหญ่แม่ใหญ่ ลูก ๆ หลาน ๆ บ้านเรา และสวัสดีพ่อแม่พี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียง ที่มาดูหมอลำในวันนี้ครับ มื้อนี่พ่อผู้ใหญ่กะอยากจะมาพูดคุยกับลูก ๆ หลาน ๆ น้อ อาวุโสไม่ห่วงเท่าไหร่ ห่วงวัยรุ่นมากกว่าเนอะ อย่ามีเรื่องในงานพ่อผู้ใหญ่เด้อครับ
ลงทุนจ้างพ่อวีระพงษ์มาไม่ใช่น้อยบาท แพงเด้อสู! เพราะฉะนั้นอย่ามีเรื่องกันน้อไทยหมู่ 3,4 เราตำบลเดียวกัน หมู่ 1,2,3,4 คนบ้านใกล้เรือนเคียงกันน้อ มางานวันนี้ให้ม่วน ให้สนุก อย่ามีปัญหากัน เต้นก็เต้นคนละฝั่งไป ฮา ไผที่เฮดให้งานคืนนี้เสียหาย ต้องจ่ายค่าหมอลำเด้อครับ นี่เป็นสัญญาใจกันน้อ”
ทุกคนต่างหัวเราะตลกไปกับมุกของผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 พอพูดจบก็เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ขึ้นมาพูดต่อ “โชค ๆ ห้ามเพื่อน ๆ เราเด้อคำ บ้านใกล้เรือนเคียงกันน้อ” ผู้ใหญ่บ้านเน้นถึงหัวโจกขาโจของบ้าน ไม่มีอะไรดีเลย มีดีแต่หาเรื่องคนอื่น คิดว่าตัวเองเก่งมาก เก่งกว่าใคร ๆ เก่งอยู่คนเดียว
เมื่อผู้ใหญ่บ้านกล่าวปราศรัยจบ หมอลำก็เปิดวง ร้องเพลงเต้นโชว์ เริ่มงานร้องเพลงแรกก็มีขี้เมาไปเต้นที่หน้าเวทีกันแล้ว ทุกคนต่างสนุกสนานไปกับหมอลำบนเวที ในงานมีพ่อค้าแม่ขายมาขายของมากมาย หมึกย่างก็มี ลูกโป่งสวรรค์ ถัวต้มส้มตำต่างมาขายกันเยอะแยะ
ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองคนประมาทเกินไป ประเมินตัวเองสูงเกินไป คิดว่าเป็นงานของตนที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่จะไม่มีใครกล้า ไม่จ้าง สห. ทหาร หรือตำรวจมาคุมงานเลย เอาแค่ อภปร. เทศบาลมาคุมงานเท่านั้น
ปันกับแซ็กนั่งตัวติดกัน เสื่อผืนตั้งกว้างสองคนก็ไปนั่งเบียดกัน ส่วนเธอกับสองฝาแฝดนั่งดูหมอลำอย่างเพลินตา ไม่สนใจสองคนข้าง ๆ ที่จีบกันเลย ตรงหน้ามีส้มตำกับถั่วต้มน้ำอัดลม กินไปด้วยดูหมอลำไปด้วย มีความสุขมาก ๆ ในค่ำคืนนี้ คิดถึงพ่อกับแม่มากที่ท่านไม่ได้มีโอกาสมาดูหมอลำคณะดัง คณะในดวงใจของเธอ แถมยังเป็นคนจังหวัดเดียวกันด้วย
“อี่บอส! ฮา นู่นพี่บอมยืนเต้นอยู่ตรงนู้น ขนาดยายมาคุมเองนะหนิ” พิมพ์เรียกเธอพร้อมชี้มือให้ดูพี่บอมออกไปเต้นหน้าเวที บอสมองตามก็อดหัวเราะพี่ชายไม่ได้ เพราะพี่บอมลุกไปเต้นเธอจึงรู้พิกัดของยายว่านั่งอยู่ตรงไหน พี่เจพี่ชายสองฝาแฝดก็เอาด้วย วัยรุ่นหลายคนที่กำลังสนุกอยู่บริเวณหน้าเวที
อีกมุมของเวทีเป็นกลุ่มหมู่บ้านอื่น เต้นบ้างก็มี ยืนดูเฉย ๆ ก็มี ทว่าก็ไม่มีใครล้ำเส้นกัน อภปร.หมู่บ้านจับตาดูเป็นอย่างดีเช่นกัน ไม่ยอมให้ใครคาดสายตาได้
“บอสแซ็กอยากเข้าห้องน้ำ” อยู่ ๆ ปันก็สะกิดเธอ บอสเอียงหูไปฟังเพื่อน ปันบอกแซ็กอยากเข้าห้องน้ำ
“ไปดิ แซ็กจะเข้าห้องน้ำบ้านเรา หรือจะไปเข้าบ้านป้า” บอสหมายถึงบ้านป้าสะใภ้ของเธอ แซ็กเป็นหลานชายแท้ ๆ ของป้า ส่วนเธอเป็นหลานลุง
“ไปเข้าบ้านป้าดีกว่า เกรงใจตา เผื่อแกนอนแล้ว”
“ตามใจ” แล้วแซ็กกับปันก็เดินออกไป หายไปนาน เธอก็ไม่ได้สนใจ แล้วแต่จะไปไหนก็ตามใจพวกเขาสองคนเลย ทำไมเธอจะไม่รู้แผนการนั้น เธอสนใจหมอลำมากกว่า ทว่าก็ไม่กล้าไปหายาย กลัวปันกับแซ็กกลับมาแล้วไม่เจอพวกเธอ
คิดถึง 2 บทที่ 23
.
ไม่ต้องสร้างภาพ
ไม่ต้องแคร์ใคร
ทำตัวให้สบาย ๆ
ในพื้นที่ของตัวเอง
“คืนนี้ที่ลานวัดหมู่บ้านของเรา มีหมอลำศิลปินภูไทยเด้อครับ ออกมาชมมาฟังกัน งานบวชผู้ใหญ่บ้านทั้งสองหมู่ หมู่ 1 กับผู้ 2 ทั้งนี้ทั้งนั้นก็บ้านเดียวกัน แยกเป็นหมู่เฉย ๆ พ่อผู้ใหญ่ทั้งสองหมู่ก็ขอความกรุณา วัยรุ่นลูกหลานบ้านเรา อย่าตีกัน อย่ามีเรื่องกันน้อครับน้อ
พ่อผู้ใหญ่ทั้งสองหมู่ทุ่มทุนสร้างจ้างพ่อวีระพงษ์มาให้ได้เบิ่งได้ฟังกัน อาจจะมีวัยรุ่นหมู่บ้านอื่นมาดูหมอลำด้วย เราเป็นเจ้าบ้าน เราอย่าไปมีเรื่องกันน้อ ถือว่าพ่อผู้ใหญ่ทั้งสองคนขอร้องน้อลูกหลาน อ่าพ่อผู้ใหญ่หมู่หนึ่งท่านฝากบอกมาว่า ใครมีเรื่องในงานจ่ายค่าเสียหายทั้งหมดเด้อครับ”
เป็นเสียงตามสายของผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ประกาศมาจากในวัด และเสียงเพลงที่กำลังเปิด ดังไปทั่วหมู่บ้าน ยิ่งใหญ่อย่างกับเป็นงานประจำปี แต่เป็นงานส่วนตัว ขณะนี้ที่วัดมีเวทีหมอลำคณะดังตั้งอยู่ บอสกับพี่ ๆ ทั้งสี่คน น้องบีมและสองฝาแฝดกำลังนั่งฟังเสียงตามสายที่แคร่หน้าบ้านของเธอ
วันนี้เป็นงานบุญบวชลูกชายของทั้งสองผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านของเธอเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ จึงแบ่งแยกออกไปเป็นสองหมู่ คือหมู่1หมู่2นั่นเอง วัดโรงเรียน ศาลาการเปรียญก็ใช้ร่วมกัน
พวกเธอพึ่งกลับจากแห่นาครอบหมู่บ้าน สนุกมาก ๆ งานยิ่งใหญ่อลังการ นึกว่างานบุญกฐินประจำปีเลย ซึ่งเป็นแค่งานบวชหาผู้ที่ล่วงลับไปแล้วเท่านั้น เป็นงานบวชระดับผู้ใหญ่บ้าน จัดแบบธรรมดาได้ซะที่ไหน
“บอส พี่ ๆ แพรวขอตัวกลับล่ะนะ เดี๋ยวออกมาหา ไปดูพ่อใหญ่วีระพงษ์กัน” หกโมงครึ่งสองฝาแฝดจึงขอตัวกลับ เจอกันอีกครั้งประมาณสองทุ่ม ผู้คนต้องเยอะแน่นอนคืนนี้ จะหาที่ว่างนั่งได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ คนหมู่บ้านอื่นต้องมาดูด้วยแน่นอน ก็หมอลำคณะใหญ่ขนาดนี้ ชื่อเสียงโด่งดังด้วย
สักพักมีสายโทรศัพท์เข้า ปัญญดา! คือชื่อของคนโทรเข้า บอสพิมพ์ชื่อจริงของเพื่อนเอาไว้ เป็นเพื่อนต่างหมู่บ้าน เรียนห้องเดียวกัน ไม่เชิงสนิทกันเท่าไหร่ ก็คุยกันอยู่จึงได้แลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้ “ปันโทรหากูทำไมวะ” บอสมองโทรศัพท์ที่กำลังสั่นอยู่ด้วยความสงสัย พูดลอย ๆ ออกมาก่อนจะกดรับสาย
“ปันว่าไง” เธอถามทันทีที่กดรับสาย
“บอสคืนนี้เค้าว่าจะไปหาอ่ะ เอารถมอเตอร์ไซค์ไปจอดที่บ้านบอสได้มั้ย” ปันพูดจุดประสงค์ทันทีเช่นกันเมื่อเธอรับสาย
“ได้ดิ มากับใครบ้าง พวกตั๊ก พวกกล้วยมามั้ย” บอสถามหาเพื่อนคนอื่น ๆ ที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันกับปัน
“ไม่ ๆ เค้าไปกับพี่ชายสองคน แต่บอส เอ่อ...” ปันอ้ำอึ้งเหมือนอยากขอร้องอะไรบางอย่างกับเธอ แต่ไม่กล้าพูด
“ว่า!”
“เค้าขอพาแซ็กมาบ้านบอสได้มั้ย คือเค้ากับแซ็กนัดเจอกันที่บ้านบอสได้มั้ยอ่ะ”
“ได้! เอ้า! ปันมากับพี่เล็กแมนบ่ ทำไมกล้านัดแซ็กอ่ะ” เธอรู้จักกับแซ็กแฟนของปัน เนื่องจากบังเอิญว่าแซ็กที่ปันพูดถึงเป็นหลานชายของป้าสะใภ้เธอเอง รู้สึกงงนิดหน่อย ปันกล้าเปิดเผยแฟนกับพี่ชายตนเองแล้วหรือ
“ไอ้เล็กมันรู้อยู่แล้ว ให้มันพามาเองนี่แหละ ไม่งั้นแม่ไม่ให้เค้ามา บอสอย่าพึ่งไปดูหมอลำนะ รอเค้ากับแซ็กก่อน”
“ได้!” พอคุยกับเพื่อนเสร็จบอสก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวรอ สรุปทีแรกว่าจะไปกับพี่ ๆ บอสไม่ไปแล้ว รอไปกับเพื่อนตัวเองดีกว่า ส่วนฝาแฝดก็ไปด้วยกันเลย หรือจะไปกับพวกพี่ปาวก็ตามใจ วันนี้เธอขอแยกวง
“พี่ปาวไปก่อนเลยนะ บอสรอเพื่อน อี่ปันกับพี่มันจะมา พี่บอมรู้จักพี่เล็กมั้ย” บอสถามพี่ปาวกับพี่บอม พี่เล็กน่าจะรุ่นเดียวกันกับพี่บอม แต่จบ ม.3 ย้ายไปเรียนเทคนิค “หมู่บ้านนั้นน่ะ อายุเท่าพี่บอมมั้ย”
“อ่อ รู้จักอยู่ เอ้าเป็นเพื่อนกับน้องมันด้วยเหรอ” พี่บอมถามด้วยความสนใจ
“ไอ้ปันเรียนห้องเดียวกันกับบอสนี่แหละ อย่าเชียวนะ! มันมีแฟนแล้ว มันนัดแฟนมันมาเจอที่บ้านเรา” บอสทำหน้าตาทะเล้นให้พี่ชาย ที่จริงพี่บอมมีแฟนอยู่แล้ว แค่แซวเล่นเฉย ๆ
“กูก็แค่ถาม! ยังไม่ได้พูดอะไรเลย” ไม่พูดเฉยพี่บอมยกมือตบศีรษะของเธอเบา ๆ ด้วย
บอสมองค้อนพี่ชาย เอะอะตบ ๆ อยู่เรื่อยเลย พี่ปาวพี่แป้งหัวเราะเธอ พี่บอลพึ่งอาบน้ำเสร็จเดินออกมาจากห้องน้ำ นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ส่วนน้องบีมพร้อมกว่าใคร ๆ อาบน้ำเตรียมตัวก่อนใครตั้งแต่หัวค่ำ
“มืงว่าเอาอยู่มั้ยคืนนี้”
“กูว่าไม่! ถ้าพวกหมู่ 4 มา” สองพี่น้องยอดชายคุยกัน ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมอย่างดีเพื่อไปดูหมอลำในคืนนี้ พี่บอลไม่ค่อยเกเรเหมือนพี่ชาย พี่บอมค่อนข้างมึน มึนแบบแสดงออก แต่พี่บอลมึนเงียบและขรึมสุขุมกว่าคนเป็นพี่มาก ๆ ไม่ค่อยพูดก็ที่หนึ่ง
“ไปดูหมอลำก็ไปดูดี ๆ นะ อย่าไปมีเรื่องกับบ้านอื่น กูโทรบอกพ่อมืงขึ้นมาจัดการเลย” ยายขู่หลานชายเอาไว้ก่อน
พี่บอมปรายตาไปมองตาที่นั่งฝนยาสมุนไพรสามสิบบีกินอยู่หน้าบ้าน เธอเคยชิมกับตาขมปี๋ ตากินลงไปได้อย่างไร ตาไม่บ่นเหมือนยาย เป็นที่รู้กันไม่พูดนั่นล่ะดีแล้วอย่าให้ตาพูด ตาแก่แล้วตามพี่ชายไม่ทันแน่นอน แต่พี่ ๆ ก็กลัว
“ไปดูหมอลำอย่าริอาจไปมีเรื่องนะ กูบอกไว้คำเดียว ตายมากูเอาไปฝังซำนั่นล่ะ คือบักยอร์จหนิ” ตาหมายถึงหลานชายที่เสียไปแล้ว เมื่อคราวก่อนนู้น
“ใครจะไปมีเรื่องตาก็ เห็นว่า บอมไม่ใช่คนแบบนั้น” ไม่ใช่ก็เกือบใช่ล่ะ บอสมองบนพี่ชายกับคำพูดของพี่เมื่อครู่ แทบอยากจะหัวเราะออกมาเป็นภาษาดอกไม้
“ปะ ไปดูพ่อใหญ่วีระพงษ์กันเรา ยายก็จะไปด้วย” ด้วยความที่ห่วงหลานชายกว่าใคร ๆ ยายจึงขอตามไปด้วยเลย เป็นแบบนี้เสมอ ยิ่งวันนี้งานใหญ่หมอลำดังด้วย หมู่บ้านใกล้เคียงเข้ามาแน่นอน “บอสสองคนนั้นจะออกมาตอนไหนบอส ไปเรียกแหมะ พ่อใหญ่วีระพงษ์สิขึ้นฮ้านแล้ว” ยายถามถึงสองฝาแฝด
“ยายไปก่อนเลย บอสรอเพื่อนบอส มันจะมากับพี่มัน ไอ้แฝดไม่ต้องรอ ยายกับพวกพี่ปาวไปก่อนเลย เดี๋ยวบอสตามไป” เธอโทรบอกพี่สาวฝาแฝดไว้แล้วเรื่องปันจะมาหาที่บ้าน
“เอางั้นเหรอ พาเพื่อนไปนั่งกับยายเด้อ”
“จ้า” บอสตอบยาย เธอออกมานั่งหน้าบ้านคุยกับตารอปัน สักพักพิมพ์กับแพรวก็เดินมาหาเธอที่บ้าน “พวกพี่ปาวไปก่อนแล้วมืง”
“เพื่อนมืงจะมาตอนไหนบอส” พิมพ์ถาม ทั้งสองคนนั่งที่แคร่หน้าบ้าน “ตาฝนอะไรเหรอ” พิมพ์ถามตาของเธอ
“ฝนสามสิบบีกินนาง จะพากันไปตอนไหนหนิ”
“นั่นไงเพื่อนกูมาล่ะ” ไม่ทันที่พิมพ์จะตอบตา บอสก็เห็นเพื่อนขับรถเข้ามาแล้ว มีรถมอเตอร์ไซค์สองคันขับตามกันมาที่บ้านเธอ เป็นปันกับพี่ชายจริง ๆ ด้วย ส่วนอีกคันคือแซ็กนั่นเอง
ทั้งสามคนผู้มาใหม่ยกมือไหว้สวัสดีตา “ปันนี่เพื่อนกู พิมพ์กับแพรว เรียนในเมืองอ่ะ ไอ้แฝดนี่ปันปันเพื่อนกู” บอสแนะนำให้ทุกคนรู้จักกัน รวมทั้งพี่เล็กพี่ชายของปันด้วย ส่วนแซ็กไม่ต้องแนะนำ พวกเธอรู้จักกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะพิมพ์กับแพรวเรียนโรงเรียนที่เดียวกันด้วย
เมื่อปันมาถึงยังไม่มีท่าทีว่าพวกเธอจะไปดูหมอลำเลย พี่เล็กขอตัวไปหาเพื่อนของตนเอง กลับตอนไหนให้ปันโทรหาได้เลย พวกเธอนั่งคุยกันหน้าบ้าน ตาเข้าไปในบ้านอย่างรู้งาน ปล่อยให้พวกเธอเล่นอยู่ข้างนอกตามสบาย ปันกับแซ็กก็นั่งทำตัวติดกันเนียน ๆ ไป
“บอสไปดูหมอลำกันเถอะ กูอยากไปแล้ว” แพรวคะยั้นคะยอเธอ บอสหันไปมองปันกับแซ็กเอาไง
“ปะไปก็ไป” ตอนนี้บริเวณใกล้เคียงเสียงดังไปด้วยเสียงดนตรีและเสียงเพลง หมอลำกำลังจะเปิดวง บอสเข้าไปในบ้านเดินไปหยิบเสื่ออีกผืนก่อนจะพากันเดินไปวัด ไปดูหมอลำ
มาถึงวัดเป็นไปตามคาด คนมาดูหมอลำเยอะมาก คนในหมู่บ้านแทบจะทุกหลังคาเรือนเลย คนนอกหมู่บ้านอีก ลานวัดกว้าง ๆ เต็มอัดแน่นไปด้วยผู้ที่มาดูหมอลำ ไม่พอบางส่วนขึ้นไปนั่งดูบนศาลาวัดก็มี หมอลำวันนี้ งานวันนี้ยิ่งใหญ่สมฐานะเจ้าภาพมาก ๆ
พวกเธอถือเสื่อมาปูนั่งแถวท้าย ๆ อยู่ห่างเวทีมาก เข้าไปไม่ได้มากกว่านี้เพราะคนแน่น บอสมองหายายไม่เจอ ไม่รู้ไปนั่งมุมไหน เมื่อเลือกที่นั่งได้เหมาะเจาะก็ปูเสื่อลง ผู้ใหญ่บ้านกำลังจะขึ้นเวทีมาเปิดงานก่อนทำการแสดง
“สวัสดีพ่อแม่พี่น้อง พ่อใหญ่แม่ใหญ่ ลูก ๆ หลาน ๆ บ้านเรา และสวัสดีพ่อแม่พี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียง ที่มาดูหมอลำในวันนี้ครับ มื้อนี่พ่อผู้ใหญ่กะอยากจะมาพูดคุยกับลูก ๆ หลาน ๆ น้อ อาวุโสไม่ห่วงเท่าไหร่ ห่วงวัยรุ่นมากกว่าเนอะ อย่ามีเรื่องในงานพ่อผู้ใหญ่เด้อครับ
ลงทุนจ้างพ่อวีระพงษ์มาไม่ใช่น้อยบาท แพงเด้อสู! เพราะฉะนั้นอย่ามีเรื่องกันน้อไทยหมู่ 3,4 เราตำบลเดียวกัน หมู่ 1,2,3,4 คนบ้านใกล้เรือนเคียงกันน้อ มางานวันนี้ให้ม่วน ให้สนุก อย่ามีปัญหากัน เต้นก็เต้นคนละฝั่งไป ฮา ไผที่เฮดให้งานคืนนี้เสียหาย ต้องจ่ายค่าหมอลำเด้อครับ นี่เป็นสัญญาใจกันน้อ”
ทุกคนต่างหัวเราะตลกไปกับมุกของผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 พอพูดจบก็เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ขึ้นมาพูดต่อ “โชค ๆ ห้ามเพื่อน ๆ เราเด้อคำ บ้านใกล้เรือนเคียงกันน้อ” ผู้ใหญ่บ้านเน้นถึงหัวโจกขาโจของบ้าน ไม่มีอะไรดีเลย มีดีแต่หาเรื่องคนอื่น คิดว่าตัวเองเก่งมาก เก่งกว่าใคร ๆ เก่งอยู่คนเดียว
เมื่อผู้ใหญ่บ้านกล่าวปราศรัยจบ หมอลำก็เปิดวง ร้องเพลงเต้นโชว์ เริ่มงานร้องเพลงแรกก็มีขี้เมาไปเต้นที่หน้าเวทีกันแล้ว ทุกคนต่างสนุกสนานไปกับหมอลำบนเวที ในงานมีพ่อค้าแม่ขายมาขายของมากมาย หมึกย่างก็มี ลูกโป่งสวรรค์ ถัวต้มส้มตำต่างมาขายกันเยอะแยะ
ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองคนประมาทเกินไป ประเมินตัวเองสูงเกินไป คิดว่าเป็นงานของตนที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่จะไม่มีใครกล้า ไม่จ้าง สห. ทหาร หรือตำรวจมาคุมงานเลย เอาแค่ อภปร. เทศบาลมาคุมงานเท่านั้น
ปันกับแซ็กนั่งตัวติดกัน เสื่อผืนตั้งกว้างสองคนก็ไปนั่งเบียดกัน ส่วนเธอกับสองฝาแฝดนั่งดูหมอลำอย่างเพลินตา ไม่สนใจสองคนข้าง ๆ ที่จีบกันเลย ตรงหน้ามีส้มตำกับถั่วต้มน้ำอัดลม กินไปด้วยดูหมอลำไปด้วย มีความสุขมาก ๆ ในค่ำคืนนี้ คิดถึงพ่อกับแม่มากที่ท่านไม่ได้มีโอกาสมาดูหมอลำคณะดัง คณะในดวงใจของเธอ แถมยังเป็นคนจังหวัดเดียวกันด้วย
“อี่บอส! ฮา นู่นพี่บอมยืนเต้นอยู่ตรงนู้น ขนาดยายมาคุมเองนะหนิ” พิมพ์เรียกเธอพร้อมชี้มือให้ดูพี่บอมออกไปเต้นหน้าเวที บอสมองตามก็อดหัวเราะพี่ชายไม่ได้ เพราะพี่บอมลุกไปเต้นเธอจึงรู้พิกัดของยายว่านั่งอยู่ตรงไหน พี่เจพี่ชายสองฝาแฝดก็เอาด้วย วัยรุ่นหลายคนที่กำลังสนุกอยู่บริเวณหน้าเวที
อีกมุมของเวทีเป็นกลุ่มหมู่บ้านอื่น เต้นบ้างก็มี ยืนดูเฉย ๆ ก็มี ทว่าก็ไม่มีใครล้ำเส้นกัน อภปร.หมู่บ้านจับตาดูเป็นอย่างดีเช่นกัน ไม่ยอมให้ใครคาดสายตาได้
“บอสแซ็กอยากเข้าห้องน้ำ” อยู่ ๆ ปันก็สะกิดเธอ บอสเอียงหูไปฟังเพื่อน ปันบอกแซ็กอยากเข้าห้องน้ำ
“ไปดิ แซ็กจะเข้าห้องน้ำบ้านเรา หรือจะไปเข้าบ้านป้า” บอสหมายถึงบ้านป้าสะใภ้ของเธอ แซ็กเป็นหลานชายแท้ ๆ ของป้า ส่วนเธอเป็นหลานลุง
“ไปเข้าบ้านป้าดีกว่า เกรงใจตา เผื่อแกนอนแล้ว”
“ตามใจ” แล้วแซ็กกับปันก็เดินออกไป หายไปนาน เธอก็ไม่ได้สนใจ แล้วแต่จะไปไหนก็ตามใจพวกเขาสองคนเลย ทำไมเธอจะไม่รู้แผนการนั้น เธอสนใจหมอลำมากกว่า ทว่าก็ไม่กล้าไปหายาย กลัวปันกับแซ็กกลับมาแล้วไม่เจอพวกเธอ