บ่นระงม! ปชช.งง ลงทะเบียน ‘คนละครึ่ง’ ทัน กลับได้ SMS ‘ข้อมูลไม่ถูก-สิทธิเต็ม’
https://www.matichon.co.th/economy/news_2490106
บ่นระงม! ปชช.งง ลงทะเบียน ‘คนละครึ่ง’ ทัน กลับได้ SMS ‘ข้อมูลไม่ถูก-สิทธิเต็ม’ แอพพ์ เป๋าตังค์ ยังรวน
จากกรณีที่กระทรวงการคลังเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน
โครงการคนละครึ่งเฟส 2 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันที่ 16 ธันวาคม โดยสิทธิทั้ง 5 ล้านสิทธิเต็มอย่างรวดเร็วภายใน 2 ขั่วโมง แม้ว่าจะพบประชาชนลงทะเบียนไม่ได้บ้าง เว็บล่มบ้าง ไม่ได้รับ OTP บ้าง และบางช่วงแอพพลิเคชั่นเป๋าตังไม่สามารถใช้การได้นั้น
ล่าสุด ประชาชนจำนวนมาก ที่ลงทะเบียนสำเร็จ และรอ SMS ยืนยันจากทางคนละครึ่ง เฟส 2 ที่จะส่งถึงผู้ลงทะเบียนใน 3 วันนั้น ต่างเข้าไปคอมเมนต์ในเฟซบุ๊ก
Krungthai Care ของธนาคารกรุงไทยจำนวนมาก ระบุถึงปัญหาที่พลาดสิทธิ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจำนวนมาก ระบุว่าได้ SMS ที่มีข้อความว่า “
ลงทะเบียนไม่สำเร็จ เนื่องจากกรอกข้อมูลไม่ถูกต้อง” หลายต่อหลายคน สร้างความงุนงงให้กับผู้ใช้ เพราะหากกรอกไม่ถูกต้อง น่าจะขึ้นเตือนตั้งแต่แรก และไม่สามารถกรอกเลข OTP ได้ ต่างพากันสอบถามถึงทางแก้ไข
ขณะที่ ผู้ใช้อีกจำนวนหนึ่ง เข้าไปคอมเมนต์ตั้งคำถามว่า ทำไมเข้าแอพพ์ “
เป๋าตังค์” แล้ว บอกว่าจะใช้ได้วันที่ 1 มกราคม ซึ่งในเรื่องนี้ ทางธนาคารกรุงไทย ได้แจงว่าผู้ลงทะเบียน คนละครึ่งเฟส 2 จะใช้สิทธิ 3500 บาทได้ในปีหน้าอยู่แล้ว ส่วนผู้ใช้เดิม จะใช้เงินในวงเงินเดิมได้ และจะได้เพิ่ม 500 บาท ในวันที่ 1 มกราคม เช่นกัน โดยจะใช้ได้ถึง มีนาคม 2564
บางรายยังได้รับ SMS ว่า “
ขออภัย จำนวนสิทธิคงเหลือประจำวันเต็ม โปรดลองใหม่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้” ทำให้ผู้ได้รับรู้สึกงงอย่างมาก เพราะได้ลงทะเบียนในเวลาที่กำหนดพอดี และยังคงมีจำนวนสิทธิเหลือ
อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทะเบียนที่พลาดสิทธิ แม้ว่าจะลงทะเบียนได้ในเวลาที่กำหนดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น ตั้งคำถามว่า จะเก็บยอดจำนวนดังกล่าว ไปใช้ในการลงทะเบียนเก็บตก “
คนละครึ่งเฟส 2” ใช่หรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีประชาชนหลายคน ที่เข้าไปคอมเมนต์แจ้งปัญหาการใช้งานแอพพ์ เป๋าตังค์ ว่าไม่สามารถสแกนซื้อของได้ แม้ว่าจะอยู่หน้าร้าน แต่ขึ้นว่า
“
ไม่สามารถทำรายการได้ เนื่งอจากคุณและร้านค้าอยู่ห่างกันเกินระยะที่กำหนด”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป่วนทั้งคืน! ปชช.สงสัยได้SMSลงทะเบียน ‘คนละครึ่ง’ ไม่สำเร็จ กรุงไทยแจงกรอกข้อมูลผิด ให้รอรอบเก็บตก
ปชช.ร้องผู้ตรวจการฯยื่นศาลรธน.วินิจฉัย ปมกม.เลือกตั้งท้องถิ่น ตัดสิทธิคนที่ย้ายบ้านไม่ถึง 1 ปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_2490011
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจ iLaw ได้โพสต์ข้อความ โดยระบุว่า
ในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นกัน และนับเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นอีกครั้งในรอบ 8 ปี แต่ทว่า ในการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้กลับพบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อาทิ การตัดสิทธิเลือกตั้งคนที่ย้ายบ้านก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่นฯ) กำหนดให้ผู้มีสิทธิฯต้องมีชื่อในทะเบียนไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่มีบทบัญญัติคุ้มครองสิทธิเลือกตั้ง สำหรับผู้ที่เพิ่งย้ายบ้านข้ามเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดี ในวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ประชาชนผู้ถูกตัดสิทธิเลือกตั้งจึงเตรียมร้องผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่นฯ มีส่วนที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
โดยในคำร้องที่เตรียมยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุว่า ตามที่เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ใช้อำนาจ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ ออกประกาศ กกต.เรื่อง กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและมีการประกาศกำหนดให้วันที่ 20 ธันวาคม 2563 เป็นวันเลือกตั้ง
แต่ทว่า ผู้ร้องได้ดำเนินการแจ้งย้ายที่อยู่ตามทะเบียนบ้านในวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ซึ่งตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ มาตรา 38 (3)
กำหนดให้บุคคลผู้มีคุณสมบัติเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้ว เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับถึงวันเลือกตั้ง
ดังนั้น ผู้ร้องและประชาชนอีกจำนวนมากที่ดำเนินการเปลี่ยนแปลงแจ้งย้ายที่อยู่ตามทะเบียนบ้านในช่วงหนึ่งปีก่อนจนถึงวันเลือกตั้ง คือตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2562 จนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ก็จะกลายเป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดในครั้งนี้ ไปอย่างไม่เป็นธรรมเพียง เพราะการย้ายถิ่นฐานและที่อยู่ตามทะเบียนบ้านอันเป็นการใช้สิทธิตามปกติทั่วไปในการดำรงชีวิต
อีกทั้ง หากมีการประกาศกำหนดจัดการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเภทอื่นในอนาคต เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล และกรุงเทพมหานคร ก็จะทำให้ผู้ร้องและประชาชนอีกจำนวนมากย้ายบ้านติดต่อกันน้อยกว่าหนึ่งปีนับถึงวันเลือกตั้ง ต้องเสียสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้งดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ในคำร้องยังระบุด้วยว่า หากพิจารณาจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปี 2561 จะพบว่า กฎหมายดังกล่าวมีบทบัญญัติคุ้มครองสิทธิเลือกตั้งของบุคคลที่ทำการย้ายบ้านก่อนการเลือกตั้งไว้
ชัชชาติ-ธนาธร ประสานเสียงหนุน สว่างจิตต์ ลุ้นนายกอบจ.หญิง คนแรกของระยอง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_5552459
ชัชชาติ-ธนาธร ประสานเสียงให้กำลังใจ สว่างจิตต์ ลุ้นนายกอบจ.หญิง คนแรกของระยอง เผยเก็บข้อมูลอย่างหนักมา 2 ปี หวังพัฒนาคุณภาพชีวิต
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม สมัยรัฐบาล น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามอิสระ ส่งข้อความให้กำลังใจ
สว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์ ผู้สมัคร นายก อบจ. ระยอง เบอร์ 2 โดย
สว่างจิตต์ โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า
อีกหนึ่งกำลังใจในคืนนี้ ขอบคุณอ.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ค่ะ
ทั้งนี้ ข้อความ ที่
ชัชชาติ ส่งถึง
สว่างจิตต์ นั้น ความว่า
สวัสดีครับพี่ติ๋ว พี่ติ๋วเคยแวะมาคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับผมและทีมงานที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ตอนนั้นปราบต์ ลูกชายของพี่ติ๋วซึ่งเป็นอาสาสมัครช่วยทีม Better Bangkok คงไปเล่าเรื่องกิจกรรมของทางเราให้ฟัง พี่ติ๋วจึงให้เกียรติแวะมาคุยด้วยตัวเอง เผื่อจะนำความคิดดีๆ ไปใช้ที่จังหวัดระยองบ้าง
วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้เห็นนโยบายและการทำงานของพี่ติ๋ว ผมและทีมงานขอส่งกำลังใจและส่งพลังมาให้ ขอให้เป็นการแข่งขันด้วยความรู้ ความสามารถ นโยบาย และ ความโปร่งใส สุจริต เพื่อให้สมศักดิ์ศรีของการอาสามาเป็นตัวแทนของประชาชนครับ
ถ้ามีเวลาแวะมาคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันอีกนะครับ คราวนี้พี่ติ๋วคงมีเรื่องมาเล่าเยอะเลย
ขณะเดียวกัน
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ถึง
สว่างจิตต์ ความว่า คุณ
สว่างจิตต์คือโอกาสที่มีค่าที่สุดของพี่น้องชาวระยองในรอบหลายสิบปีที่จะมีคนแบบนี้กล้ามาทำงานการเมืองเพื่อพี่น้องชาวระยอง
คุณ
สว่างจิตต์เป็นนักบริหารที่ประสบความสำเร็จอจากภาคเอกชน เป็นนักบัญชีสายบริหารที่มีประสบการณ์มากมายทั้งในภาคอุตสาหกรรม โรงพยาบาล อสังหาริมทรัพย์ บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ฯลฯ
คุณ
สว่างจิตต์ยังเป็นนักบริหารหัวคิดสมัยใหม่ ทำงานเป็นทีม เป็นที่รักของทุกคนที่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน ทำงานด้วยข้อมูลและเทคโนโลยีเสมอ ในเวลาเพียง 2 ปี คุณสว่างจิตต์สามารถรวมรวบข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตคนระยองได้มหาศาล สังเคราะห์เป็นชุดนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตที่จับต้องได้ ใช้งบประมาณจากภาษีคนระยองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้คุณ
สว่างจิตต์กำลังสร้างปรากฏการณ์ในจังหวัดระยอง ทำให้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถในจังหวัดระยองจำนวนมาก กล้าลุกขึ้นเปลี่ยนการเมืองท้องถิ่นแบบเก่า กล้าอาสาเข้ามาพัฒนาระยอง ทำให้พี่น้องชาวระยองมีความหวัง เห็นโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ทำให้การเมืองท้องถิ่นระยองเป็นที่น่าจับตามองมากที่สุดในรอบหลายสิบปี
ผมขอฝากพี่น้องชาวระยองครับ อย่าเสียโอกาสครั้งนี้ อย่าเสียคุณสว่างจิตต์ไป เพราะไม่รู้อีกกี่สิบปี จะมีคนแบบนี้กล้าลงมาทำงานการเมือง
มาร่วมกันยุติการเมืองเก่า ที่ผูกขาดอำนาจและอิทธิพล และมาสร้างมิติใหม่ของการเมืองท้องถิ่น ด้วยการสร้างรากฐานประชาธิปไตยที่เข้มแข็งโดยเริ่มได้ที่บ้านเรา
JJNY : งงลง‘คนละครึ่ง’ทัน ได้SMSข้อมูลไม่ถูก-สิทธิเต็ม/ร้องปมกม.ลต.ท้องถิ่น/ชัชชาติ-ธนาธรหนุนสว่างจิตต์/โจรใต้ป่วน!
https://www.matichon.co.th/economy/news_2490106
บ่นระงม! ปชช.งง ลงทะเบียน ‘คนละครึ่ง’ ทัน กลับได้ SMS ‘ข้อมูลไม่ถูก-สิทธิเต็ม’ แอพพ์ เป๋าตังค์ ยังรวน
จากกรณีที่กระทรวงการคลังเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน โครงการคนละครึ่งเฟส 2 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันที่ 16 ธันวาคม โดยสิทธิทั้ง 5 ล้านสิทธิเต็มอย่างรวดเร็วภายใน 2 ขั่วโมง แม้ว่าจะพบประชาชนลงทะเบียนไม่ได้บ้าง เว็บล่มบ้าง ไม่ได้รับ OTP บ้าง และบางช่วงแอพพลิเคชั่นเป๋าตังไม่สามารถใช้การได้นั้น
ล่าสุด ประชาชนจำนวนมาก ที่ลงทะเบียนสำเร็จ และรอ SMS ยืนยันจากทางคนละครึ่ง เฟส 2 ที่จะส่งถึงผู้ลงทะเบียนใน 3 วันนั้น ต่างเข้าไปคอมเมนต์ในเฟซบุ๊ก Krungthai Care ของธนาคารกรุงไทยจำนวนมาก ระบุถึงปัญหาที่พลาดสิทธิ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจำนวนมาก ระบุว่าได้ SMS ที่มีข้อความว่า “ลงทะเบียนไม่สำเร็จ เนื่องจากกรอกข้อมูลไม่ถูกต้อง” หลายต่อหลายคน สร้างความงุนงงให้กับผู้ใช้ เพราะหากกรอกไม่ถูกต้อง น่าจะขึ้นเตือนตั้งแต่แรก และไม่สามารถกรอกเลข OTP ได้ ต่างพากันสอบถามถึงทางแก้ไข
ขณะที่ ผู้ใช้อีกจำนวนหนึ่ง เข้าไปคอมเมนต์ตั้งคำถามว่า ทำไมเข้าแอพพ์ “เป๋าตังค์” แล้ว บอกว่าจะใช้ได้วันที่ 1 มกราคม ซึ่งในเรื่องนี้ ทางธนาคารกรุงไทย ได้แจงว่าผู้ลงทะเบียน คนละครึ่งเฟส 2 จะใช้สิทธิ 3500 บาทได้ในปีหน้าอยู่แล้ว ส่วนผู้ใช้เดิม จะใช้เงินในวงเงินเดิมได้ และจะได้เพิ่ม 500 บาท ในวันที่ 1 มกราคม เช่นกัน โดยจะใช้ได้ถึง มีนาคม 2564
บางรายยังได้รับ SMS ว่า “ขออภัย จำนวนสิทธิคงเหลือประจำวันเต็ม โปรดลองใหม่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้” ทำให้ผู้ได้รับรู้สึกงงอย่างมาก เพราะได้ลงทะเบียนในเวลาที่กำหนดพอดี และยังคงมีจำนวนสิทธิเหลือ
อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทะเบียนที่พลาดสิทธิ แม้ว่าจะลงทะเบียนได้ในเวลาที่กำหนดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น ตั้งคำถามว่า จะเก็บยอดจำนวนดังกล่าว ไปใช้ในการลงทะเบียนเก็บตก “คนละครึ่งเฟส 2” ใช่หรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีประชาชนหลายคน ที่เข้าไปคอมเมนต์แจ้งปัญหาการใช้งานแอพพ์ เป๋าตังค์ ว่าไม่สามารถสแกนซื้อของได้ แม้ว่าจะอยู่หน้าร้าน แต่ขึ้นว่า
“ไม่สามารถทำรายการได้ เนื่งอจากคุณและร้านค้าอยู่ห่างกันเกินระยะที่กำหนด”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป่วนทั้งคืน! ปชช.สงสัยได้SMSลงทะเบียน ‘คนละครึ่ง’ ไม่สำเร็จ กรุงไทยแจงกรอกข้อมูลผิด ให้รอรอบเก็บตก
ปชช.ร้องผู้ตรวจการฯยื่นศาลรธน.วินิจฉัย ปมกม.เลือกตั้งท้องถิ่น ตัดสิทธิคนที่ย้ายบ้านไม่ถึง 1 ปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_2490011
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจ iLaw ได้โพสต์ข้อความ โดยระบุว่า
ในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นกัน และนับเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นอีกครั้งในรอบ 8 ปี แต่ทว่า ในการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้กลับพบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อาทิ การตัดสิทธิเลือกตั้งคนที่ย้ายบ้านก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่นฯ) กำหนดให้ผู้มีสิทธิฯต้องมีชื่อในทะเบียนไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่มีบทบัญญัติคุ้มครองสิทธิเลือกตั้ง สำหรับผู้ที่เพิ่งย้ายบ้านข้ามเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดี ในวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ประชาชนผู้ถูกตัดสิทธิเลือกตั้งจึงเตรียมร้องผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่นฯ มีส่วนที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
โดยในคำร้องที่เตรียมยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุว่า ตามที่เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ใช้อำนาจ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ ออกประกาศ กกต.เรื่อง กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและมีการประกาศกำหนดให้วันที่ 20 ธันวาคม 2563 เป็นวันเลือกตั้ง
แต่ทว่า ผู้ร้องได้ดำเนินการแจ้งย้ายที่อยู่ตามทะเบียนบ้านในวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ซึ่งตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ มาตรา 38 (3) กำหนดให้บุคคลผู้มีคุณสมบัติเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้ว เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับถึงวันเลือกตั้ง
ดังนั้น ผู้ร้องและประชาชนอีกจำนวนมากที่ดำเนินการเปลี่ยนแปลงแจ้งย้ายที่อยู่ตามทะเบียนบ้านในช่วงหนึ่งปีก่อนจนถึงวันเลือกตั้ง คือตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2562 จนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ก็จะกลายเป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดในครั้งนี้ ไปอย่างไม่เป็นธรรมเพียง เพราะการย้ายถิ่นฐานและที่อยู่ตามทะเบียนบ้านอันเป็นการใช้สิทธิตามปกติทั่วไปในการดำรงชีวิต
อีกทั้ง หากมีการประกาศกำหนดจัดการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเภทอื่นในอนาคต เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล และกรุงเทพมหานคร ก็จะทำให้ผู้ร้องและประชาชนอีกจำนวนมากย้ายบ้านติดต่อกันน้อยกว่าหนึ่งปีนับถึงวันเลือกตั้ง ต้องเสียสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้งดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ในคำร้องยังระบุด้วยว่า หากพิจารณาจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปี 2561 จะพบว่า กฎหมายดังกล่าวมีบทบัญญัติคุ้มครองสิทธิเลือกตั้งของบุคคลที่ทำการย้ายบ้านก่อนการเลือกตั้งไว้
ชัชชาติ-ธนาธร ประสานเสียงหนุน สว่างจิตต์ ลุ้นนายกอบจ.หญิง คนแรกของระยอง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_5552459
ชัชชาติ-ธนาธร ประสานเสียงให้กำลังใจ สว่างจิตต์ ลุ้นนายกอบจ.หญิง คนแรกของระยอง เผยเก็บข้อมูลอย่างหนักมา 2 ปี หวังพัฒนาคุณภาพชีวิต
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามอิสระ ส่งข้อความให้กำลังใจ สว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์ ผู้สมัคร นายก อบจ. ระยอง เบอร์ 2 โดย สว่างจิตต์ โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า
อีกหนึ่งกำลังใจในคืนนี้ ขอบคุณอ.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ค่ะ
ทั้งนี้ ข้อความ ที่ ชัชชาติ ส่งถึง สว่างจิตต์ นั้น ความว่า
สวัสดีครับพี่ติ๋ว พี่ติ๋วเคยแวะมาคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับผมและทีมงานที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ตอนนั้นปราบต์ ลูกชายของพี่ติ๋วซึ่งเป็นอาสาสมัครช่วยทีม Better Bangkok คงไปเล่าเรื่องกิจกรรมของทางเราให้ฟัง พี่ติ๋วจึงให้เกียรติแวะมาคุยด้วยตัวเอง เผื่อจะนำความคิดดีๆ ไปใช้ที่จังหวัดระยองบ้าง
วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้เห็นนโยบายและการทำงานของพี่ติ๋ว ผมและทีมงานขอส่งกำลังใจและส่งพลังมาให้ ขอให้เป็นการแข่งขันด้วยความรู้ ความสามารถ นโยบาย และ ความโปร่งใส สุจริต เพื่อให้สมศักดิ์ศรีของการอาสามาเป็นตัวแทนของประชาชนครับ
ถ้ามีเวลาแวะมาคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันอีกนะครับ คราวนี้พี่ติ๋วคงมีเรื่องมาเล่าเยอะเลย
ขณะเดียวกัน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ถึง สว่างจิตต์ ความว่า คุณสว่างจิตต์คือโอกาสที่มีค่าที่สุดของพี่น้องชาวระยองในรอบหลายสิบปีที่จะมีคนแบบนี้กล้ามาทำงานการเมืองเพื่อพี่น้องชาวระยอง
คุณสว่างจิตต์เป็นนักบริหารที่ประสบความสำเร็จอจากภาคเอกชน เป็นนักบัญชีสายบริหารที่มีประสบการณ์มากมายทั้งในภาคอุตสาหกรรม โรงพยาบาล อสังหาริมทรัพย์ บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ฯลฯ
คุณสว่างจิตต์ยังเป็นนักบริหารหัวคิดสมัยใหม่ ทำงานเป็นทีม เป็นที่รักของทุกคนที่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน ทำงานด้วยข้อมูลและเทคโนโลยีเสมอ ในเวลาเพียง 2 ปี คุณสว่างจิตต์สามารถรวมรวบข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตคนระยองได้มหาศาล สังเคราะห์เป็นชุดนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตที่จับต้องได้ ใช้งบประมาณจากภาษีคนระยองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้คุณสว่างจิตต์กำลังสร้างปรากฏการณ์ในจังหวัดระยอง ทำให้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถในจังหวัดระยองจำนวนมาก กล้าลุกขึ้นเปลี่ยนการเมืองท้องถิ่นแบบเก่า กล้าอาสาเข้ามาพัฒนาระยอง ทำให้พี่น้องชาวระยองมีความหวัง เห็นโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ทำให้การเมืองท้องถิ่นระยองเป็นที่น่าจับตามองมากที่สุดในรอบหลายสิบปี
ผมขอฝากพี่น้องชาวระยองครับ อย่าเสียโอกาสครั้งนี้ อย่าเสียคุณสว่างจิตต์ไป เพราะไม่รู้อีกกี่สิบปี จะมีคนแบบนี้กล้าลงมาทำงานการเมือง
มาร่วมกันยุติการเมืองเก่า ที่ผูกขาดอำนาจและอิทธิพล และมาสร้างมิติใหม่ของการเมืองท้องถิ่น ด้วยการสร้างรากฐานประชาธิปไตยที่เข้มแข็งโดยเริ่มได้ที่บ้านเรา