🔶️เรื่องเป็นอย่างนี้นี่เองค่ะ..เปิดไส้พุงแก๊ง 9 ส.ว.มะกันกลางสภา 'ดอน'แฉกลับมีกระบวนการล็อบบี้ยิสต์

เพี้ยนกินกล้วยลากไส้แก๊ง 9 ส.ว.มะกันกลางสภา 'ดอน'แฉกลับมีกระบวนการล็อบบี้ยิสต์



พท.’ โหนตั้งกระทู้ ปม ‘ส.ว.มะกัน’โวยละเมิดสิทธิม็อบ ด้าน ‘ดอน’ ไม่ทนสวนกลับมีกระบวนการล็อบบี้ยิสต์
 
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 17 ธ.ค.2563 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม  เพื่อพิจารณากระทู้ถามสดของนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ที่ถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

➡️9 ส.ว.สหรัฐอเมริกา มีข้อมติเรียกร้องต่อรัฐบาลไทยถึงเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และกรณีที่สหภาพยุโรป(อียู)ผ่านกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเอาผิดกับผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งสองประเด็นดังกล่าว ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทยหรือไม่.....🔻

โดยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ตอบกระทู้สดชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า กรณีข้อมติเรียกร้องของส.ว.สหรัฐฯไม่ใช่ประเด็นที่ได้รับความสนใจในสหรัฐฯ และร่างมติดังกล่าวไม่มีผลบังคับใดๆต่อประเทศไทย เป็นเพียงแค่การแสดงท่าทีเท่านั้น และร่างมติดังกล่าวจะตกไปในชั้นวุฒิสภาสหรัฐในวันที่ 18 ธ.ค. เพราะไม่สามารถนำเรื่องเข้าไปหารือในวุฒิสภาสหรัฐได้ทัน อย่างไรก็ตามกระทรวงต่างประเทศได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงส่งให้ส.ว.สหรัฐฯทราบแล้ว เพื่อให้เข้าใจข้อเท็จจริงที่ถูกต้องในสถานการณ์ชุมนุมประเทศไทย
 
นายดอน กล่าวว่า ส่วนที่มาที่ไปของร่างมติดังกล่าว มีสมมติฐาน 2ประการ คือ 1.มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของผู้ที่สนใจ ไม่ว่ามาจากองค์การภายในของสภาฯ หรือภายนอก  2.จากการล็อบบี้จากภายนอกที่ตรวจสอบพบหลักฐานจำนวนมาก  ส่วนข้อกังวลจะเป็นการแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทยนั้น ไม่คิดว่าเป็นการแทรกแซงกิจการในประเทศ และเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับเชิญไปรับประทานอาหารที่บ้านเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยที่แสดงความชื่นชมสถานการณ์ชุมนุมในไทยเป็นไปด้วยความสงบ รัฐบาลอดกลั้นรับมือกับผู้ชุมนุม ถือเป็นเรื่องปกติที่กระบวน การประชาธิปไตยจะเจอความท้าทาย  เชื่อว่าประเทศไทยจะหาทางแก้สถานการณ์การเมืองได้ในที่สุด คำตอบเหล่านี้ยืนยันต่อข้อกังวลเรื่องการแทรกแซงได้

“จากการติดตามข้อมติเรียกร้องของส.ว.สหรัฐฯ เราได้กลิ่นไออย่างมากเรื่องการล็อบบี้ ยืนยันว่ากระทรวงต่างประเทศไม่เคยมองข้ามปัญหาข้อเรียกร้องใดๆ แต่เมื่อเจอปัญหาแล้ว เราไม่โวยวาย เป็นมวยวัดออกสื่อ แต่จะหาข้อมูลก่อน เพื่อตอบโต้อย่างเหมาะสม  ส่วนกรณีสหภาพยุโรป(อียู)ออกกฎหมายคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน มีผลวันที่ 10 ธ.ค.นั้น ยังไม่เคยได้ยิน อาจจะตกข่าว จึงขอไปหาข้อมูลก่อน ไม่รีแอคกับข่าวทันทีทันใด” รมว.ต่างประเทศ กล่าว



https://www.naewna.com/politic/539201

เม่าอ่านหนังสือพิมพ์"ดอน" แฉ กลางสภาฯ มีล็อบบี้ยีสต์-แลกผลประโยชน์ ปม"ส.ว.สหรัฐฯ"หนุนม็อบราษฎร



เพี้ยนฮัลโหลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบกระทู้ถามสด ของส.ส.เพื่อไทย ที่คาใจทางการไทย ไม่ตอบโต้ ประเด็น9ส.ว.สหรัฐ ชี้มีขบวนการล็อบบี้-แลกผลประโยชน์ ยัน สหรัฐฯ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน หลังคุยกับทูตสหรัฐฯ แล้ว
 
      ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ช่วงกระทู้ถามสด 
 
     โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้มอบหมายให้นายดอน ปรมัติวินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงถึงกรณีมติของวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาที่มีต่อประเด็นการแสดงสิทธิเสรีภาพในประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมและเตรียมเสนอให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณารับรอง รวมถึงกรณีที่สหภาพยุโรปผ่านกฎหมายว่าด้วยเรื่องการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยมีรายละเอียดคือ ขยายขอบเขตการลงโทษผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก  ซึ่งมีผลเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 
 
      นายดอน ชี้แจงว่าตนไม่ทราบว่าจะตั้งกระทู้ทำไม ในเมื่อเรื่องดังกล่าวในสหรัฐอเมริกานั้นไม่มีบุคคลใดสนใจ อย่างไรก็ตามกระทรวงการต่างประเทศรับทราบถึงร่างมติของส.ว.สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 3 ธันวาคม ก่อนมติจะออกช่วงเย็นวันเดียวกัน ซึ่งกระทรวงการตางประเทศได้ติดตามทันที และตรวจสอบและหลังจากที่ร่างมติดังกล่าวออกมา ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบทันที และข้อมูลที่ได้รับ คือ ร่างมติดังกล่าวจะตกไปก่อนนำเสนอ เนื่องจากวุฒิสภาสหรัฐฯ จะประชุมวันสุดท้ายวันที่ 18 ธันวาคม และร่างมติดังกล่าวยังไม่นำเสนอเข้าสู่การพิจารณา อีกทั้งมติดังกล่าวเป็นเพียงการแสดงท่าที โดยไม่มีผลใดๆ ต่อประเทศไทย อย่างไรก็ตามกระทรวงการต่างประเทศได้ทำหนังสือไปยังส.ว.สหรัฐ ในวันที่ 10 ธันวาคม เพื่อแสดงความขอบคุณที่ห่วงใยในสถานการณ์ภายในประเทศ แต่ไทยพร้อมจะจัดการปัญหาภายในด้วยตัวเอง
 
      นายดอน กล่าวด้วยว่าส่วนที่มาที่ไปของร่างมติดังกล่าวมีสมมติฐาน 2 ประการ คือ 1.มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของผู้ที่สนใจ ไม่ว่ามาจากองค์การภายในของสภาฯ หรือภายนอก และ 2.มาจากการล็อบบี้จากภายนอก ซึ่งตรวจสอบและพบหลักฐานจำนวนมาก  ส่วนกรณีที่กังวลว่ากรณีดังกล่าวจะทำให้สหรัฐแทรกแซงกิจการภายในประเทศหรือไม่นั้น เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ตนได้รับเชิญให้รับประทานอาหารที่บ้านเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย และได้คุยกันเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ซึ่งเอกอัครราชทูต แสดงความชื่นชม ว่าสถานการณ์ชุมนุมภาพรวมสงบ และทางการอดกลั้นรับมือกับผู้ชุมนุม ทั้งนี้เป็นปกติที่กระบวนการประชาธิปไตยที่เจอความท้าทาย ซึ่งสหรัฐอเมริกายังเจอการประท้วง และเชื่อว่าประเทศไทยจะหาทางแก้ไขสถานการณ์ทางการเมืองได้ในที่สุด ดังนั้นตนมองว่าเป็นคำตอบที่เอกอัครราชทูตไทยที่จะยืนยันในข้อกังวลต่อการแทรกแซงได้ 
 
      “ในประเทศไทยมีการกระพือข่าวด้วยหลายสาเหตุ ทั้งนี้ในสหรัฐฯ ไม่มีใครสนใจ เพราะเขาสนใจสถานการณ์ภายในประเทศของเขาทั้งกรณีการเสียชีวิตจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตนาทีละ 2 คน ขณะเดียวกันการเลือกตั้งประธานาธิบดียังไม่เรียบร้อย มีส.ว.ที่มุ่งเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง และไม่ได้สนใจประเทศไทย อย่างไรก็ดีกระทรวงรับรู้ความห่วงใยของคนไทยหลายแวดวง  ทั้งนี้จากการติดตามเพิ่มเติมถึงที่มาที่ไป พบการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์หรือนำเรื่องเข้ามาจากวงนอกของวุฒิสภา และมีการล็อบบี้” นายดอน กล่าว
 
      รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงด้วยว่า  กระทรวงการต่างประเทศไม่เคยมองข้ามปัญหาใดๆ   แต่เมื่อเจอปัญหาแล้วไม่โวยวาย ไม่เป็นมวยวัดออกสื่อใดๆ แต่หาข้อมูลและเป็นปฏิกริยาโต้ตอบอย่างเหมาะสมกับความเป็นประเทศที่มีอดีตอันยาวนานและมีอธิปไตย รวมถึงความมั่นคงของประเทศ ส่ิงใดที่ได้ยินเป็นบริบทปกติของวงนอก ท่าทีที่ออกมาบางครั้งอดไม่ได้ เวอร์เหลือเกินทำให้เกิดผลทางลบกับประเทศไทย โดยที่ผ่านมาเรื่องส.ว.สหรัฐฯ นั้นตนให้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงหลายครั้ง
 
      รองนายกฯ ชี้แจงต่อกฎหมายว่าด้วยเรื่องการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยมีรายละเอียดคือ ขยายขอบเขตการลงโทษผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก  ซึ่งมีผลเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม  นั้นยอมรับว่าไม่เคยได้ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศอาจจะตกข่าว แต่โดยวิสัยการทำงาน ไม่รีแอคกับข่าวทันทีทันใด ต้องหาข่าวก่อนแสดงท่าที แต่หากจะถามเรื่องกฎหมายฉบับดังกล่าวขอให้ตั้งกระทู้ถามอีกครั้ง กับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะตนรับแจ้งว่าจะต้องตอบเฉพาะกรณีส.ว.สหรัฐอเมริกาเท่านั้น
 
      นพ.ชลน่าน  อภิปรายด้วยว่า ตนจะนำเรื่องเข้าสู่กรรมาธิการ(กมธ.) การต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบกรณีที่ระบุว่ามีล็อบบี้ยีสต์ และแลกผลประโยชน์ ดังนั้นของให้นายดอน ชี้แจงต่อกมธ.ฯ เพื่อร่วมมือกันทำงานเพื่อประเทศ

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/912767

ประชาชนก็สงสัยเช่นกันค่ะ

น่าจะเป็นแบบที่คุณดอน ตอบกระทู้หมอชลน่าน

กระบวนการล็อบบี้ยีสต์มีนักการเมืองเคยทำมาแล้ว

ยิ่งมาหนุนม็อบ ยิ่งน่าสงสัย

เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่หนุนม็อบนี้

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ประเทศไทยต้องรับมือสองทาง ทางหนึ่งคือต้องรักษาระดับความสัมพันธ์ อีกทางหนึ่งคือต้องไม่ให้ต่างชาติแทรกแซงอธิปไตย

ในขณะที่ท่าทีคนไทยบางส่วน กลับเห็นด้วยที่ต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์ได้แบบล้วงลึก

จากความเห็นต่างทางการเมืองเข้ามาแทรกแซงส่วนลึกของจิตสำนึกความเป็นคนไทยที่ต้องรู้สึกหวงแหนความเป็นอธิปไตยของชาติตน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่