เปิด 3 วิธี หากไปใช้สิทธิ “เลือกตั้งท้องถิ่น” ไม่ได้
https://www.prachachat.net/politics/news-571049
 
เปิด 3 วิธี สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิ เลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้ 
 
องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และกำลังจะเกิดขึ้นใน “วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563″ ซึ่งนับเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งแรกในรอบหลายปีตั้งแต่มีรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อปี 2557
 
ผู้ที่มีคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด จะต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามภูมิลำเนาที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน โดยสามารถตรวจสอบผู้มีสิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นและสถานที่เลือกตั้งได้ผ่านเว็บไซต์ stat.bora.dopa.go.th โดยกรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ในการค้นหา
 
6 สิทธิที่ต้องเสีย หากไม่ไป “เลือกตั้งท้องถิ่น”
 
แต่ผู้ทีไม่ไปใช้สิทธิในเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ จะถูกตัด 6 สิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 หรือ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ มาตรา 42 กำหนดว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและไม่ได้แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จะถูกจำกัดสิทธิ คือ
 
1. สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา
2. สมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน
3. เข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
4. ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองและข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง
5. ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหาร ท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น
6. ดำรงตำแหน่งเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น และ เลขานุการรองประธานสภาท้องถิ่น
 
เปิด 3 วิธีการไม่ให้ถูกตัดสิทธิ
 
สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เผยแพร่ข้อมูลไว้ ดังนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใดที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ เนื่องจากมีเหตุอันสมควร
 
1. ให้แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
2. ทำหนังสือซึ่งต้องระบุเลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน ภายใน 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง หรือภายใน 7 วันนับแต่วันเลือกตั้ง (แบบฟอร์มหนังหนังสือตัวอย่าง ดาวน์โหลดได้ที่นี่ )
3. สามารถแจ้งด้วยตัวเอง หรือมอบหมายให้ผู้อื่นไปยื่นแทน หรือจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน
 
การไปเลือกตั้ง “วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563” นอกจากจะเป็นสิทธิที่ประชาชนพึงมีและพึงใช้ แต่อีกแง่มุมหนึ่งยังเป็นหน้าที่ของประชาชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งหมายความว่า การไม่ไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง
 

---

 
โควิด โผล่มหาชัย! เปิดไทม์ไลน์‘เจ๊แพกุ้ง’ เผยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงถึง 18 คน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_5551461
  
โควิดโผล่มหาชัย! เปิดไทม์ไลน์‘เจ๊แพกุ้ง’ เผยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงถึง 18 คน เร่งตรวจหาเชื้อ-กักตัวแล้ว เจ้าหน้าที่ยังเร่งตามหาตัวอีก 
  
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย นพ.ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร แถลงกรณีพบเจ้าของแพกุ้ง เป็นหญิงไทย อายุ 67 ปี ติดโควิด-19
 
โดยรายงานระบุว่า หลังมีอาการป่วยหญิงคนดังกล่าวได้เดินทางไปตรวจที่รพ.มหาชัย ก่อนทราบผลตรวจเป็นบวก จึงนำตัวส่งรพ.สมุทรสาคร เพื่อกักตัว เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 18 ราย ผลออกมาเป็นลบ 10 ราย และรอผลอีก 6 ราย ส่วนอีก 2 รายอยู่ระหว่างติดตามตัว
 
นอกจากนี้นายวีระศักดิ์สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งฉีดน้ำล้าง พ่นยาฆ่าเชื้อ ที่ตลาดกุ้ง ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร สถานที่ซื้อขายกุ้งแล้ว
  
ส่วนไทม์ไลน์ในเบื้องต้น วันที่ 1-13 ธ.ค.63 ผู้ป่วยขายของที่แพกุ้ง เวลา 06.00-11.00 น.ทุกวัน โดยใกล้ชิดกับ 
1. ลูกชายคนที่ 1 อายุ 39 ปี (รอผลกักกันที่รพ.) 
2. ลูกจ้างพม่า 1 เป็นชายอายุ 40 ปี 
3. ลูกจ้างพม่าเป็นชายอายุ 48 ปี 
อยู่ระหว่างติดตามมาเก็บตัวอย่างและกักกัน
  
จากนั้นในวันที่ 13 ธ.ค. เริ่มป่วยด้วยอาการปวดเมื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น จากนั้นวันที่ 16 ธ.ค. บุคลากรทางการแพทย์ 8 ราย เก็บตัวอย่างส่งตรวจ ผลไม่พบเชื้อ
 
วันที่ 17 ธ.ค. เวลา 02.30 น. ผู้ป่วยมาแยกกักกันที่รพ.สมุทรสาคร และเวลา 08.00 น. ส่งตรวจยืนยันอีกครั้งผลพบเชื้อ