เชียงรายสุดเหงา นทท.หาย ย้ำไม่มีอะไรน่ากลัว โควิดระบาดอยู่ในพม่า 
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1993709

 
ตลาดสายลมจอย ย่านการค้าที่เคยคึกคักของแม่สาย หงอยเหงาไปถนัดตา นักท่องเที่ยวหายหมด ทั้งที่เป็นช่วงหยุดยาว และอากาศหนาวกำลังดี พ่อค้าแม่ค้าบางคนถือโอกาสปิดร้าน โรงแรมถูกยกเลิกการจอง ขณะที่นักธุรกิจย้ำโควิดฯ ระบาดอยู่ในพม่า สถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด
 
วันที่ 12 ธ.ค.63 ซึ่งเป็นวันหยุดยาว แต่ธุรกิจการค้า การท่องเที่ยว หน้าตลาดพรมแดนไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย กลับพบว่านักท่องเที่ยวมีบางตา ตลาดขายของฝากชื่อดัง เช่นสายลมจอย ตลาดดอยเวา ซึ่งเคยเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวมาเดินเที่ยวซื้อหาสินค้ากันประปรายเท่านั้น เช่น ร้านขายผ้าห่มกันหนาวซึ่งมีการเปิดรับโครงการ คนละครึ่งของรัฐบาล ด้วย ก็ไม่ค่อยมีลูกค้า หลายร้านค้าจึงถือโอกาสปิดร้านหยุดพักไปเลย ทั้งที่ จ.เชียงราย กำลังมีสภาพอากาศหนาวเย็นสบาย
 
จากการสอบถามแม่ค้าในตลาดสายลมจอย เผยว่าหลังจากมีข่าวคนไทยลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมาจากเมียนมา แล้วติดเชื้อโควิด ถึงแม้จะมีมาตรการหลายอย่างของจังหวัดออกมาปฏิบัติทั้งการ Big Cleaning Day และการตรวจจับคนลักลอบเข้าเมืองอย่างเข้มงวด และนำคนไทยกลับบ้านตามช่องทางถูกกฎหมายออกมา แต่นักท่องเที่ยวยังไม่กลับมาเที่ยว ทำให้การค้าซบเซามาก ทั้งที่มีสินค้ามากมาย เช่นผ้าห่มกันหนาว ของใช้ต่างๆ หวังว่าอาจจะใช้เวลาสักพักกว่านักท่องเที่ยวจะกลับมา
 
ส่วนที่ถ้ำหลวงขุนน้ำ-นางนอน แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ก็เงียบเหงา นายกวี ประสมพล หน.อุทยานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน กล่าวว่า ก่อนมีข่าว หญิงไทยติดเชื้อลักลอบข้ามมาแม่สาย มีนักท่องเที่ยว วันละ 3,000-5,000 คน ช่วงเทศกาลจะมีกว่า 10,000 คน แต่วันนี้มีคนมาเที่ยวเพียง 500 คนเป็นเรื่องน่าเสียดายโอกาสในช่วงหน้าหนาว
 
ขณะที่ นายวิโรจน์ ชายา นายกสมาคมโรงแรมเชียงราย กล่าวว่า ขณะนี้เป็นภาวะวิกฤติมาก ได้รับแจ้งจากสมาชิกว่าลูกค้าได้ยกเลิกการจองห้องพักโรงแรมไปแล้ว 76 แห่ง และยังมีการแจ้งยกเลิกทุกวัน ทั้งที่เหตุการณ์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่มีข่าวปลอมออกมากระหน่ำซ้ำเติมเชียงราย จึงอยากขอให้นักท่องเที่ยวได้สบายใจถึงมาตรการป้องกันของจังหวัดเชียงราย ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิดฯ นอกจากที่มาจากเมียนมา แต่ก็สามารถควบคุมกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดได้หมด
 

---

 
เศรษฐา แนะทำ ‘แมชชิ่งฟันด์’ เหตุเอสเอ็มอีขาดสภาพคล่อง ชี้ เอาเงินไปแจกเฉยๆ ไม่มีประโยชน์มาก
https://www.matichon.co.th/economy/news_2482340
 
เศรษฐา แนะทำ ‘แมชชิ่งฟันด์’ เหตุเอสเอ็มอีขาดสภาพคล่อง ชี้ เอาเงินไปแจกเฉยๆ ไม่มีประโยชน์มาก
 
หลังจากวานนี้ (11 ธันวาคม) นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ทวีตข้อความระบุถึงบทความน่าคิดในดิอีโคโนมิสต์เกี่ยวกับการที่รัฐบาลควรกู้มากกว่าที่เคย ในภาวะดอกเบี้ยต่ำ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและปัญหาที่อาจมองไม่เห็น โดยคาดว่ารายได้ภาษีจะจ่ายดอกได้นั้น
 
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นายเศรษฐายังกล่าวถึงปัญหา SME ขาดสภาพคล่อง กรณีเงินกู้ 5 แสนล้านบาทของรัฐ ใช้ไปแค่ 1 แสนล้านบาท ซึ่งเข้าไม่ถึงด้วยหลายเหตุผล หนึ่งในนั้นคือไม่แน่ใจว่าจะใช้คืนได้ไหม พร้อมเสนอให้ทําเเมชชิ่งฟันด์ ว่า ปัญหา SME ขาดสภาพคล่อง เงินกู้ 5 แสนล้านของรัฐใช้ไปแค่ 1 แสนล้านเข้าไม่ถึงด้วยหลายเหตุผล หนึ่งในนั้นคือไม่แน่ใจว่าจะใช้คืนได้ไหม ขอเสนอทํา แมชชิ่งฟันด์ รัฐให้ครึ่ง แบงค์หลักของบริษัทนั้นให้ครึ่ง ผู้ประเมินความเสี่ยงให้ไม่ให้คือแบงค์ ถ้าแบงค์ปล่อยรัฐก็ต้องปล่อยเพราะวิเคราะห์มาแล้ว โดยเงินกู้พิเศษ (แมชชิ่งฟันด์) นี้ ถือว่ามีสิทธิเหนือเงินกู้เดิมคือ ถ้า SME กลับมาได้ต้องคืนรัฐ และเงินก้อนหลังของแบงค์ก่อน ห้ามเอาไปใช้หนี้เก่า ให้ไปใช้ในการดำเนินกิจการเท่านั้น วิธีนี้ธุรกิจจะกลับมาได้ ลดปัญหาการว่างงาน bad loan เพิ่มผลผลิตมวลรวม เงินเข้าถึงผู้ประกอบการเร็วขึ้น
 
“เอาเงินไปแจกเฉยๆ ไม่มีประโยชน์มากครับ ต้องให้เอาเงินมาให้ได้มีการ ‘ทำงาน’ ต่อ เอาไปผลิต/ปลูก/จ้างวาน มีการหมุนเวียนของเงิน” นายเศรษฐากล่าว