สภาพคล่องในตลาด Forex คืออะไร?

เนื่องจาก ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก โดยมีการซื้อขายกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดอีกด้วย ดังนั้น วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ ความสำคัญของสภาพคล่องในตลาด Forex กัน 

สภาพคล่องใน Forex คืออะไร ?
สภาพคล่อง Forex หมายถึง ความรวดเร็วในการซื้อ-ขายสินทรัพย์นั้นๆ และได้รับราคาตามที่เราต้องการ โดยไม่เกิดปัญหาการ slippage

ประเภทของสภาพคล่อง
Liquidity แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. Liquidity Providers (LPs): ผู้ให้สภาพคล่องอาจเป็นธนาคาร,สถาบันการเงิน, กองทุน Hedge Funds หรือโบรกเกอร์ โดยเป็นตัวกลางเสนอราคาซื้อขาย ส่วนมากในตลาด Forex โบรกเกอร์จะทำหน้าที่เป็นคนกลางรับราคาจากผู้ซื้อ-ขาย จากนั้นส่งต่อให้ธนาคาร เพื่อทำการจับคู่คำสั่งซื้อ

2. Market Liquidity: คือสภาพคล่องในตลาด เป็นตัวชี้วัดความสามารถในการซื้อขายสินทรัพย์นั้นๆ กล่าวคือ สภาพคล่องสูงความสามารถในการซื้อขายก็สูง หากตลาดไม่มีสภาพคล่องก็ส่งผลให้การซื้อขายล่าช้าและไม่มีประสิทธิภาพ

ข้อดีของสภาพคล่องสูง
การประมวลผลคำสั่งที่รวดเร็ว: อย่างที่ผมบอกไปข้างต้น สภาพคล่องสูงก็ทำการเทรดได้รวดเร็วและได้ราคาตามที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น หากเราเทรดสกุลเงินหลัก อย่างผลิตภัณฑ์ EUR/USD ซึ่งมีผู้ซื้อขายจำนวนหลายๆ ล้านคน ก็ทำให้การจับคู่เกิดขึ้นได้ง่าย

ต้นทุนการเทรดต่ำ: การมีสภาพคล่องสูงทำให้ ค่า spread แคบลง ซึ่งหมายถึง เทรดเดอร์สามารถเข้าและออกจากการเทรดได้ในราคาที่ดีที่สุด และประหยัดต้นทุน

หากสภาพคล่องไม่เพียงพอจะเกิดอะไรบ้าง?
1. slippage: เกิดจากโบรกเกอร์ หรือ LPs ไม่สามารถให้บริการสภาพคล่องที่เพียงพอต่อการซื้อขายในตลาดได้ อาจทำให้ราคาที่ได้รับเกิดการคลาดเคลื่อน, มีสเปรดที่กว้างขึ้นหรืออาจจะถูกยกเลิกออเดอร์ได้

สิ่งนี้อาจทำให้การจับคู่คำสั่งซื้อถูกจำกัด แนะนำให้ดูความลึก (Market Depth) ของโบรกเกอร์ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถในการจับคู่คำสั่งซื้อขาย หรืออ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://ppantip.com/topic/43030707

นอกจากนี้ การที่ไม่สามารถรองรับคำสั่งซื้อขายได้อาจเกิดจากการเปิด lot ขนาดใหญ่ หรือ Lot ขนาดเล็กเกินไป ของเทรดเดอร์เอง

ผมยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ หากเราส่งคำสั่งซื้อ 40 lot โบรกเกอร์จะนำคำสั่งซื้อของเราส่งไปยัง LP ที่สามารถรองรับคำสั่งนี้ได้ ซึ่งหายากเพราะคำสั่งขนาดใหญ่ ดังนั้น คำสั่งซื้อขายนี้จึงต้องแบ่งออกเป็นย่อยๆ ให้กับหลาย Lp เพื่อทำการจับคู่ กระบวนการนี้จึงอาจทำให้เกิดปัญหาออดเดอร์ล่าช้า และ slippage

เปิด lot ใหญ่ไม่ได้ น้อยก็ไม่ดี เห้อออ
การเปิด lot ปกติขั้นต่ำอยู่ที่ 0.01 หรือ micro lot ก็จำเป็นต้องส่งคำสั่งซื้อไปให้ LP แต่ LP ส่วนมากจะรับขั้นต่ำอยู่ที่ 0.1 lot size ทำให้ไม่สามารถรับได้โดยตรง เนื่องจากเป็นคำสั่งขนาดเล็ก ดังนั้นโบรกเกอร์จึงต้องรวม lot เล็กหลายๆ ออเดอร์เข้าด้วยกันเพื่อส่งไปยังธนาคาร ยิ่งหากเป็นบัญชี Cent ที่มีขนาดการเทรดต่ำที่ 0.001 lot  ยิ่งทำให้การจับคู่นั้นยากขึ้นและอาจข้อผิดพลาดได้ ซึ่งนี้ก็เป็นความท้าทายสำหรับโบรกเกอร์ 

แต่ปัญหานี้แก้ได้ ด้วยการออก lot ที่ถูกวิธี ควรออก 2-5 lot แทนที่จะออก lot ขนาดใหญ่
*ปล.ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ แต่คุณสามารถเอาวิธีนี้ไปลองใช้ได้*

แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าโบรกไหนสภาพคล่องสูง?
โบรกเกอร์ที่ดีควรมีการเชื่อมต่อกับ Liquidity Providers ที่เชื่อถือได้ และควรใช้ เทคโนโลยี เช่น ECN (Electronic Communication Network) หรือ STP (Straight Through Processing) เพื่อให้สามารถเข้าถึงสภาพคล่องจากแหล่งต่างๆ และช่วยให้การดำเนินการคำสั่งเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เช่น ร่วมกับธนาคารชั้นนำอย่าง J.PMorgan,Barclays,Goldman Sachs,Nomura,UBS,Deutsche Bank เป็นต้น

สรุป
สภาพคล่อง เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว หากเราอยากจะประสบความสำเร็จในตลาด Forex การรู้ถึงผลกระทบจากสภาพคล่องอาจทำให้คุณเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่