🔴วันนี้พุ่ง 19 ราย! ศบค.รายงานผู้ป่วยโควิด-19 พบติดเชื้อในประเทศ 4 ราย จากกรุงเทพฯ
วันนี้ (8 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ (8 ธ.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 19 ราย
ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State Quarantine ดังนี้....🔺️
เมียนมา 6 ราย
ตุรกี 1 ราย
บัลแกเรีย 1 ราย
โมร็อกโก 1 ราย
สหรัฐอเมริกา 2 ราย
สหราชอาณาจักร 1 ราย
เดนมาร์ก 1 ราย
บาห์เรน 1 ราย
ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ไม่เข้า State Quarantine จากเมียนมา 1 ราย
ผู้ติดเชื้อในประเทศ จากกรุงเทพมหานคร 4 ราย
ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 4,126 ราย หายป่วยแล้ว 3,874 ราย โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 192 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 60 ราย
https://www.sanook.com/news/8311830/
🔴เปิดข้อมูลเบื้องต้น บุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย ติดโควิดจากพยาบาลด้วยกัน
เปิดข้อมูลเบื้องต้น บุคลากรทางการแพทย์ 4 คน ติดโควิดจากพยาบาลด้วยกัน รอผลสอบสวนอีกครั้ง
วันอังคารที่ 8 ธันวาคม 2563 เวลา 11.00 น. สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ผู้ป่วยรายใหม่ 19 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,126 ราย หายป่วยแล้ว 3,874 ราย เสียชีวิตสะสม 60 ราย โดยวันนี้พบว่ามีบุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย ติดเชื้อโควิด-19 ร่วมด้วย
กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข แถลง ความคืบหน้ากรณีพบบุคลกรทางการแพทย์ ติดเชื้อโควิด 4 ราย โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้.....🔻
ผู้ติดเชื้อโควิด 4 ราย ภายในประเทศ พบเป็นบุคลากรทางการแพทย์ เกิดขึ้นในโรงพยาบาลเอกชนและโรงแรมที่เป็นสถานที่กักกันที่ทางราชการกำหนด
ทั้ง 4 ราย เป็นเพื่อนร่วมงานกับเคสแรกที่เป็นพยาบาล มี 1 รายไม่มีอาการ โดยในส่วนของกรณีคลัสเตอร์นี้ เราได้ไปสอบสวน และควบคุมโรค กับทาง กทม. พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 51 คน โดยผลทั้ง 51 ราย ไม่พบการติดเชื้อทั้งหมด ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำยังรอผล สาเหตุในการติดเชื้อโควิดของบุคลากรทางการแพทย์ ทังหมด 4 คน ยังคงต้องรอผลในการสืบสวนในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง (9 ธันวาคม 2563)
รายละเอียดบุคลากรที่ติดเชื้อโควิดมีดังนี้ ....🔻
รายที่ 1 เพศหญิง อายุ 26 ปี เริ่มป่วย วันที่ 3 ธันวาคม 63 พยาบาล PT รพ.เอกชน
รายที่ 2 เพศหญิง อายุ 40 ปี เริ่มป่วย วันที่ 4 ธันวาคม 63 พยาบาล PT ASQ (เพื่อนรายที่ 1 และทำหน้าที่ Swap)
รายที่ 3 เพศหญิง 32 ปี เริ่มป่วย 5 ธันวาคม 63 พยาบาล PT ASQ (เพื่อนรายที่ 1 และทำหน้าที่ Swap)
รายที่ 4 เพศหญิง อายุ 25 ปี เริ่มป่วย 25 พฤศจิกายน 63 Cohort Ward (เพื่อนรายที่ 1)
รายที่ 5 เพศชาย อายุ 27 ปี Asymptomatic + ASQ (เพื่อนรายที่ 1 และทำหน้าที่ Swap)
https://www.komchadluek.net/news/regional/451175
🔴ไทยรุดถกเร่งขั้นตอนส่งตัวคนไทยตกค้าง เมียนมาย้ำไม่ขังคุก
ไทยเจรจาเมียนมาเร่งส่งตัวคนไทยที่ตกค้าง เพื่อป้องกันหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติ ด้านเมียนมาย้ำไม่ขังคุกแน่ เร่งคนไทยรีบประสานลงทะเบียน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 8 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกำลังผาเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้นำอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 ส่งมอบให้ นายอูมิ้น ไหน่ ผู้ว่าการจังหวัดท่าขี้เหล็ก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับมอบ เพื่อใช้ในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา
นอกจากนี้ ยังได้มีการเจรจาในการเร่งรัดขอผู้ที่ตกค้างอยู่ในฝั่งประเทศเมียนมา ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อให้กลับเข้าสู่ประเทศไทยโดยเร็ว โดยขอให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายเมียนมา เร่งรัด ขั้นตอน เพื่อให้คนไทยได้กลับมาตรวจและรักษาโรค ซึ่งทางการเมียนมารับปากว่าจะดำเนินการตามกระบวนการและเร่งรัดเพื่อนำคนไทยกลับตามความต้องการ
นายอูมิ้น ไหน่ ผู้ว่าการจังหวัดท่าขี้เหล็ก กล่าวว่า ให้คนไทยที่อยู่ในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประสานกับทางศูนย์ประสานงานทีบีซี ฝั่งประเทศเมียน มา เพื่อแจ้งรายชื่อ และไม่ต้องกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี ซึ่งจะมีการเปรียบเทียบปรับตามที่ศาลจังหวัดท่าขี้เหล็กกำหนดอัตราไว้ จากนั้นจะเร่งดำเนินการในการส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยโดยทันที โดยไม่มีการลงโทษหรือกักขังแต่อย่างใดตามที่เป็นข่าว ขอให้คนไทยที่อยู่ในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะถูกจับดำเนินคดีและติดคุกในประเทศเมียนมา
https://www.naewna.com/local/537305
🔴“บิ๊กตู่” ย้ำโควิดไม่ใช่ซูเปอร์สเปดเดอร์อย่าตระหนก รับไม่อยากชัตดาวน์ประเทศอีกครั้ง
นายกฯ วอนคนไทยอย่าตื่นตระหนกโควิด-19 ระบาด ยันไม่ใช่ซูเปอร์สเปดเดอร์ ขอร่วมมือป้องกัน สั่งเข้มตรวจสอบ 3 แนวทาง เปรยไม่อยากให้ถึงจุดต้องชัตดาวน์ประเทศอีกครั้ง ลั่นลักลอบเข้าช่องทางธรรมชาติต้องจัดการตามกฎหมาย ย้ำระวังพื้นที่รอบบ้าน
วันนี้ (8 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.15 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่ารัฐบาลมั่นใจแค่ไหนจะไม่ระบาดระลอก 2 ว่าไม่ใช่รัฐบาลอย่างเดียว แต่ทุกคนต้องช่วยกัน เห็นแล้วว่าเราทำมาได้ดีโดยตลอด จนกระทั่งมีสถานการณ์คนไม่กี่คนที่ทำให้เกิดสถานการณ์นี้เกิดขึ้น วันนี้ต้องหามาตรการที่เข้มขึ้นกว่าเดิม และต้องขอความร่วมมือจากสื่อ จากประชาชนโดยตรง อย่าสร้างความตื่นตระหนกให้มากนัก เพราะเราก็รู้ว่าต้นตอมาอย่างไร ที่ไหน เราก็ตามแก้ปัญหาไป
“ถ้าระบาดระลอกสองขึ้นมาเราจะทำอย่างไร ก็ต้องเตรียมความพร้อมของเรา ถ้ามันถึงขั้นนั้นก็ต้องชัตดาวน์กัน ผมไม่อยากให้มันถึงจุดนั้น ทุกคนก็ต้องช่วยกันดูแล และวันนี้ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบคัดกรอง แนวที่ 1 คือชายแดน แนวที่ 2 พื้นที่ตอนใน แนวที่ 3 ระดับพื้นที่ ประชาชนต้องร่วมมือสังเกตผู้ที่เข้ามาอย่างผิดปกติ ตรงนี้ได้ย้ำเตือนไปแล้ว และผมอยากจะพูดให้สังคมเข้าใจว่าวันนี้ไม่ใช่การแพร่ระบาดระลอกที่ 2 หรือที่จะเป็นซูเปอร์สเปดเดอร์ แต่เป็นเรื่องที่คนกกลุ่มหนึ่งเข้ามา แล้วไปโน่นไปนี่ ซึ่งก็ตามทุกประเด็นเกี่ยวข้องกับใครบ้างอะไรบ้าง กำลังตรวจสอบ ใช้มาตรการทางสาธารณสุข ขณะนี้รอผลตรวจสอบอยู่ อย่าเพิ่งไปตื่นตระหนกกันมากนัก เพราะจะทำให้ทุกอย่างกลับไปเลวร้ายกว่าเดิม สื่อฯ ขอความกรุณาให้ชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย เราต้องช่วยกันสร้างความเชื่อมั่น ไม่ใช่สร้างความตื่นตระหนกตลอดไปทุกเรื่อง มันคือปัญหาที่เราทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นขอให้ช่วยกันหน่อย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อไปว่า วันนี้ตนได้ให้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ชี้แจงทุกวันถึงความก้าวหน้า และวันนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางไปภาคเหนือเพื่อดูและติดตามทำความเข้าใจ ไม่ให้ธุรกิจการท่องเที่ยวแย่ลงกว่าเดิม จะเห็นได้ว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการยกเลิกการจองโรงแรมมากมาย เพราะข่าวเสนอกันไปจนกระทั่งทุกคนเกรงว่าจะเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ มันไม่ใช่ ฉะนั้น การเสนอข่าวก็ต้องตามสมควร ไม่ได้ให้ปิดบังอะไร เสนอว่ารัฐบาลหรือหน่วยงานได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง วันนี้ขอย้ำเตือนบุคคลที่ลักลอบ ให้การช่วยเหลือคนเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ มีความผิดทุกท่าน เราต้องจับกุมดำเนินคดี ขณะเดียวกัน เรามีนโยบายถ้าจะเข้ามาก็ขอให้เข้ามาในช่องทางที่ถูกกฎหมายเพื่อเข้าสู่การตรวจสอบคัดกรองต่างๆ ไม่อย่างนั้นก็ลักลอบกันเข้ามาอีก ที่ดีที่สุดทุกคนต้องรู้ตัวเองว่าทำอะไรอยู่ ไปทำงานอะไรที่ไหน มีความเสี่ยงแค่ไหนจะต้องรับผิดชอบต่อสังคมด้วย ต้องมีจิตสำนึกเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัวให้มาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดจะได้ไม่เกิดขึ้นอีก
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ต้องระมัดระวังพื้นที่รอบบ้านให้มากที่สุด ตนได้ย้ำเตือนในที่ประชุมไปแล้วให้ทุกหน่วยงานระมัดระวังที่สุด รอบบ้านสถานการณ์ไม่ดีนัก ฉะนั้นเราต้องตรวจสอบคัดกรองให้ดีที่สุด ทั้งช่องทางปกติและป้องกันช่องทางธรรมชาติที่มีอยู่มากมาย วันนี้เข้มงวดทุกประการ ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่เขาทำงานหนักบ้าง ด้วยคนไม่กี่คนทำให้ทุกอย่างเสียหาย คนเหล่านี้จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
https://mgronline.com/politics/detail/9630000125735
ขอให้กำลังใจคนทำงานรับมือโควิด19นะคะ....💕💕💕💕💕
คนไทยทุกคนก็ต้องป้องกันตัวเองด้วยค่ะ
ล้างมือบ่อยๆ ใช้ไทยชนะ สวมหน้ากากอนามัย...
🔴มาลาริน/8 ธ.ค.ไทยพบโควิด 19 ราย พบนปท. 4 ราย/ข้อมูลบุคลากรแพทย์ติดโควิด/ถกเมียนมาส่งคนไทยตกค้าง/นายกฯขออย่าตื่นตระหนก
วันนี้ (8 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ (8 ธ.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 19 ราย
ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State Quarantine ดังนี้....🔺️
เมียนมา 6 ราย
ตุรกี 1 ราย
บัลแกเรีย 1 ราย
โมร็อกโก 1 ราย
สหรัฐอเมริกา 2 ราย
สหราชอาณาจักร 1 ราย
เดนมาร์ก 1 ราย
บาห์เรน 1 ราย
ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ไม่เข้า State Quarantine จากเมียนมา 1 ราย
ผู้ติดเชื้อในประเทศ จากกรุงเทพมหานคร 4 ราย
ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 4,126 ราย หายป่วยแล้ว 3,874 ราย โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 192 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 60 ราย
https://www.sanook.com/news/8311830/
🔴เปิดข้อมูลเบื้องต้น บุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย ติดโควิดจากพยาบาลด้วยกัน
เปิดข้อมูลเบื้องต้น บุคลากรทางการแพทย์ 4 คน ติดโควิดจากพยาบาลด้วยกัน รอผลสอบสวนอีกครั้ง
วันอังคารที่ 8 ธันวาคม 2563 เวลา 11.00 น. สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ผู้ป่วยรายใหม่ 19 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,126 ราย หายป่วยแล้ว 3,874 ราย เสียชีวิตสะสม 60 ราย โดยวันนี้พบว่ามีบุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย ติดเชื้อโควิด-19 ร่วมด้วย
กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข แถลง ความคืบหน้ากรณีพบบุคลกรทางการแพทย์ ติดเชื้อโควิด 4 ราย โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้.....🔻
ผู้ติดเชื้อโควิด 4 ราย ภายในประเทศ พบเป็นบุคลากรทางการแพทย์ เกิดขึ้นในโรงพยาบาลเอกชนและโรงแรมที่เป็นสถานที่กักกันที่ทางราชการกำหนด
ทั้ง 4 ราย เป็นเพื่อนร่วมงานกับเคสแรกที่เป็นพยาบาล มี 1 รายไม่มีอาการ โดยในส่วนของกรณีคลัสเตอร์นี้ เราได้ไปสอบสวน และควบคุมโรค กับทาง กทม. พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 51 คน โดยผลทั้ง 51 ราย ไม่พบการติดเชื้อทั้งหมด ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำยังรอผล สาเหตุในการติดเชื้อโควิดของบุคลากรทางการแพทย์ ทังหมด 4 คน ยังคงต้องรอผลในการสืบสวนในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง (9 ธันวาคม 2563)
รายละเอียดบุคลากรที่ติดเชื้อโควิดมีดังนี้ ....🔻
รายที่ 1 เพศหญิง อายุ 26 ปี เริ่มป่วย วันที่ 3 ธันวาคม 63 พยาบาล PT รพ.เอกชน
รายที่ 2 เพศหญิง อายุ 40 ปี เริ่มป่วย วันที่ 4 ธันวาคม 63 พยาบาล PT ASQ (เพื่อนรายที่ 1 และทำหน้าที่ Swap)
รายที่ 3 เพศหญิง 32 ปี เริ่มป่วย 5 ธันวาคม 63 พยาบาล PT ASQ (เพื่อนรายที่ 1 และทำหน้าที่ Swap)
รายที่ 4 เพศหญิง อายุ 25 ปี เริ่มป่วย 25 พฤศจิกายน 63 Cohort Ward (เพื่อนรายที่ 1)
รายที่ 5 เพศชาย อายุ 27 ปี Asymptomatic + ASQ (เพื่อนรายที่ 1 และทำหน้าที่ Swap)
https://www.komchadluek.net/news/regional/451175
🔴ไทยรุดถกเร่งขั้นตอนส่งตัวคนไทยตกค้าง เมียนมาย้ำไม่ขังคุก
ไทยเจรจาเมียนมาเร่งส่งตัวคนไทยที่ตกค้าง เพื่อป้องกันหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติ ด้านเมียนมาย้ำไม่ขังคุกแน่ เร่งคนไทยรีบประสานลงทะเบียน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 8 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกำลังผาเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้นำอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 ส่งมอบให้ นายอูมิ้น ไหน่ ผู้ว่าการจังหวัดท่าขี้เหล็ก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับมอบ เพื่อใช้ในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา
นอกจากนี้ ยังได้มีการเจรจาในการเร่งรัดขอผู้ที่ตกค้างอยู่ในฝั่งประเทศเมียนมา ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อให้กลับเข้าสู่ประเทศไทยโดยเร็ว โดยขอให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายเมียนมา เร่งรัด ขั้นตอน เพื่อให้คนไทยได้กลับมาตรวจและรักษาโรค ซึ่งทางการเมียนมารับปากว่าจะดำเนินการตามกระบวนการและเร่งรัดเพื่อนำคนไทยกลับตามความต้องการ
นายอูมิ้น ไหน่ ผู้ว่าการจังหวัดท่าขี้เหล็ก กล่าวว่า ให้คนไทยที่อยู่ในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประสานกับทางศูนย์ประสานงานทีบีซี ฝั่งประเทศเมียน มา เพื่อแจ้งรายชื่อ และไม่ต้องกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี ซึ่งจะมีการเปรียบเทียบปรับตามที่ศาลจังหวัดท่าขี้เหล็กกำหนดอัตราไว้ จากนั้นจะเร่งดำเนินการในการส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยโดยทันที โดยไม่มีการลงโทษหรือกักขังแต่อย่างใดตามที่เป็นข่าว ขอให้คนไทยที่อยู่ในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะถูกจับดำเนินคดีและติดคุกในประเทศเมียนมา
https://www.naewna.com/local/537305
🔴“บิ๊กตู่” ย้ำโควิดไม่ใช่ซูเปอร์สเปดเดอร์อย่าตระหนก รับไม่อยากชัตดาวน์ประเทศอีกครั้ง
นายกฯ วอนคนไทยอย่าตื่นตระหนกโควิด-19 ระบาด ยันไม่ใช่ซูเปอร์สเปดเดอร์ ขอร่วมมือป้องกัน สั่งเข้มตรวจสอบ 3 แนวทาง เปรยไม่อยากให้ถึงจุดต้องชัตดาวน์ประเทศอีกครั้ง ลั่นลักลอบเข้าช่องทางธรรมชาติต้องจัดการตามกฎหมาย ย้ำระวังพื้นที่รอบบ้าน
วันนี้ (8 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.15 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่ารัฐบาลมั่นใจแค่ไหนจะไม่ระบาดระลอก 2 ว่าไม่ใช่รัฐบาลอย่างเดียว แต่ทุกคนต้องช่วยกัน เห็นแล้วว่าเราทำมาได้ดีโดยตลอด จนกระทั่งมีสถานการณ์คนไม่กี่คนที่ทำให้เกิดสถานการณ์นี้เกิดขึ้น วันนี้ต้องหามาตรการที่เข้มขึ้นกว่าเดิม และต้องขอความร่วมมือจากสื่อ จากประชาชนโดยตรง อย่าสร้างความตื่นตระหนกให้มากนัก เพราะเราก็รู้ว่าต้นตอมาอย่างไร ที่ไหน เราก็ตามแก้ปัญหาไป
“ถ้าระบาดระลอกสองขึ้นมาเราจะทำอย่างไร ก็ต้องเตรียมความพร้อมของเรา ถ้ามันถึงขั้นนั้นก็ต้องชัตดาวน์กัน ผมไม่อยากให้มันถึงจุดนั้น ทุกคนก็ต้องช่วยกันดูแล และวันนี้ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบคัดกรอง แนวที่ 1 คือชายแดน แนวที่ 2 พื้นที่ตอนใน แนวที่ 3 ระดับพื้นที่ ประชาชนต้องร่วมมือสังเกตผู้ที่เข้ามาอย่างผิดปกติ ตรงนี้ได้ย้ำเตือนไปแล้ว และผมอยากจะพูดให้สังคมเข้าใจว่าวันนี้ไม่ใช่การแพร่ระบาดระลอกที่ 2 หรือที่จะเป็นซูเปอร์สเปดเดอร์ แต่เป็นเรื่องที่คนกกลุ่มหนึ่งเข้ามา แล้วไปโน่นไปนี่ ซึ่งก็ตามทุกประเด็นเกี่ยวข้องกับใครบ้างอะไรบ้าง กำลังตรวจสอบ ใช้มาตรการทางสาธารณสุข ขณะนี้รอผลตรวจสอบอยู่ อย่าเพิ่งไปตื่นตระหนกกันมากนัก เพราะจะทำให้ทุกอย่างกลับไปเลวร้ายกว่าเดิม สื่อฯ ขอความกรุณาให้ชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย เราต้องช่วยกันสร้างความเชื่อมั่น ไม่ใช่สร้างความตื่นตระหนกตลอดไปทุกเรื่อง มันคือปัญหาที่เราทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นขอให้ช่วยกันหน่อย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อไปว่า วันนี้ตนได้ให้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ชี้แจงทุกวันถึงความก้าวหน้า และวันนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางไปภาคเหนือเพื่อดูและติดตามทำความเข้าใจ ไม่ให้ธุรกิจการท่องเที่ยวแย่ลงกว่าเดิม จะเห็นได้ว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการยกเลิกการจองโรงแรมมากมาย เพราะข่าวเสนอกันไปจนกระทั่งทุกคนเกรงว่าจะเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ มันไม่ใช่ ฉะนั้น การเสนอข่าวก็ต้องตามสมควร ไม่ได้ให้ปิดบังอะไร เสนอว่ารัฐบาลหรือหน่วยงานได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง วันนี้ขอย้ำเตือนบุคคลที่ลักลอบ ให้การช่วยเหลือคนเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ มีความผิดทุกท่าน เราต้องจับกุมดำเนินคดี ขณะเดียวกัน เรามีนโยบายถ้าจะเข้ามาก็ขอให้เข้ามาในช่องทางที่ถูกกฎหมายเพื่อเข้าสู่การตรวจสอบคัดกรองต่างๆ ไม่อย่างนั้นก็ลักลอบกันเข้ามาอีก ที่ดีที่สุดทุกคนต้องรู้ตัวเองว่าทำอะไรอยู่ ไปทำงานอะไรที่ไหน มีความเสี่ยงแค่ไหนจะต้องรับผิดชอบต่อสังคมด้วย ต้องมีจิตสำนึกเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัวให้มาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดจะได้ไม่เกิดขึ้นอีก
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ต้องระมัดระวังพื้นที่รอบบ้านให้มากที่สุด ตนได้ย้ำเตือนในที่ประชุมไปแล้วให้ทุกหน่วยงานระมัดระวังที่สุด รอบบ้านสถานการณ์ไม่ดีนัก ฉะนั้นเราต้องตรวจสอบคัดกรองให้ดีที่สุด ทั้งช่องทางปกติและป้องกันช่องทางธรรมชาติที่มีอยู่มากมาย วันนี้เข้มงวดทุกประการ ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่เขาทำงานหนักบ้าง ด้วยคนไม่กี่คนทำให้ทุกอย่างเสียหาย คนเหล่านี้จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
https://mgronline.com/politics/detail/9630000125735
ขอให้กำลังใจคนทำงานรับมือโควิด19นะคะ....💕💕💕💕💕
คนไทยทุกคนก็ต้องป้องกันตัวเองด้วยค่ะ
ล้างมือบ่อยๆ ใช้ไทยชนะ สวมหน้ากากอนามัย...