🔴มาลาริน/4 ต.ค.ไทยพบโควิด13 รายจากตปท.1รายในปท./โควิดไทยอยู่ในระดับ1/ท่าขี้เหล็กต้นตอโควิด/โควิดคร่าชีวิตชาวเมียนมาพุ่ง

🔴วันนี้ 14 ราย! ศบค.เผยผู้ป่วยโควิด-19 มาจากต่างประเทศ 13 ราย เชียงรายอีก 1ราย



วันนี้ (4 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ (4 ธ.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 14 ราย

ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 4,053 ราย หายป่วยแล้ว 3,839 ราย โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 154 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 60 ราย

ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State Quarantine ดังนี้
ยูเครน 1 ราย
เนปาล 1 ราย
เนเธอร์แลนด์ 1 ราย
สาธารณรัฐเช็ก 1 ราย
นอร์เวย์ 1 ราย
เยอรมนี 2 ราย
สหรัฐอเมริกา 3 ราย
เมียนมา 3 ราย
และ ผู้ติดเชื้อในประเทศ - เชียงราย 1 ราย

https://www.sanook.com/news/8309554/

🔴สธ.เผยเหตุการณ์โควิด19 ยังอยู่ระดับ 1



สธ.เผย 10 รายจากท่าขี้เหล็ก ไม่ยอมให้ข้อมูลที่แท้จริง ทำการสอบสวนโรคยุ่งยาก ยันไม่ถือว่าเป็นการแพร่ระบาดแบบซูเปอร์ สเปรดเดอร์ ยังอยู่ระดับ 1 ของเหตุการณ์
 
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด -19  นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ กล่าวว่า  การสอบสวนโรคในหญิงสาว 10 คนที่ลักลอบเดินทางจากเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ มีความยุ่งยาก เพราะทุกคน ไม่ยอมให้ข้อมูลที่แท้จริง เนื่องจากกลัวความผิด ทั้ง 10 คนนี้เป็นเพื่อนกัน พบว่ามีการนัดแนะเกี่ยวกับข้อมูลที่ให้กับเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคจึงยากลำบาก มีข้อเท็จจริงแค่ 50% จนต้องตรวจสอบจากซิมการ์ด ในโทรศัพท์มือถือถึงทราบสถานที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ผู้ที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ถือวากำลังทำลายประเทศ ต้องถูกดำเนินการตรมกฎหมาย แต่ถ้ามาตามระบบปกติก็จะไม่ดำเนินการรุนแรง ดังนั้นขอให้คนที่จะเดินทางมาจากท่าขี้เหล็กขอให้เข้ามาอย่างถูกต้องตามระบบ และขอย้ำว่าต้องให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมา ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ง่ายขึ้นในการสอบสวนควบคุมโรค และขอแรงคนในพื้นที่ เจ้าของสถานที่เป็นหูเป็นตา หากพบคนที่เดินทางมาจากท่าขี้เหล็กขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบด้วย

    “ตัวแปรหนึ่งที่สำคัญที่อาจจะทำให้เกิดการควบคุมโรคยุ่งยากขึ้น คือ ผู้ติดเชื้อปกปิดประวัติ ไม่ให้ข้อมูลตามความความจริงทั้งหมด ถือเป็นการเพิ่มความเสี่ยงอย่างหนึ่ง เพราะทำให้ระยะเวลาการทำงานล่าช้าลงไป จึงขอร้องผู้ที่ติดเชื้อและผู้ที่เกี่ยวข้องกับไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อหากเจ้าหน้าที่สอบถามข้อมูลให้บอกตามความเป็นจริง และการให้ข้อมูลเท็จจะมีความผิดตามกฎหมายด้วย ทั้งนี้ จากสถานการณ์ตอนนี้ไม่ถือว่าเป็นการแพร่ระบาดแบบซูเปอร์ สเปรดเดอร์ ยังอยู่ในระดับที่ 1 ของ 3 เหตุการณ์ที่สธ.คาดว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทย คือ นำเชื้อมาจากต่างประเทศ ยอดผู้ป่วยจะเป็นยอดเล็ก ๆ มีผู้ติดเชื้อประมาณ 1-2 ราย และสามารถควบคุมได้(Spike Only) อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สถานพยาบาลทุกแห่งจับตาอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจำนวนมากก็จะถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่จะบอกว่าเป็นซูเปอร์ สเปรดเดอร์” นพ.โอภาส กล่าว

          เมื่อถามว่ากรณีจะมีการจัดงานบิ๊กเมาน์เท่น (Big Mountain Music Festival) ที่จะจัดในช่วงเดือน ธ.ค. นั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วยังสามารถจัดงานได้หรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า จัดได้ แต่ต้องมีมาตรการเฝ้าระวัง ตรวจคัดกรอง มีการสแกนแอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” เป็นไปตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข หรือจะมีการมาตรการเสริมเพิ่มเติม เพื่อสร้างความมั่นใจอีก ส่วนประชาชนหากเข้าร่วมงานขอให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า และอย่าลืมสแกนไทยชนะ

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/911035

🔴"ท่าขี้เหล็ก" ต้นตอหญิงไทย 13 คนติด COVID-19



เปิดข้อมูลกรมควบคุมโรค พบช่วง 26 พ.ย.- 4 ธ.ค.นี้ มีหญิงไทยติด COVID-19 หลังกลับจากสถานบันเทิงใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา 13 คน อีก 1 คนเป็นชายใน จ.เชียงราย ติดจากเพื่อนหญิงในกลุ่มก้อนเดียวกับที่พบติดเชื้อ ด้านเพจดังชี้ยังมีคนพาคนไทยลอบข้ามแดน

วันนี้ (4 ธ.ค.63) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานไทยมีผู้ป่วยรายใหม่ 14 คน โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 13 คนคือ ยูเครน 1 คน เนปาล 1 คน เนเธอร์แลนด์ 1 คน สาธารณรัฐเช็ก 1 คน นอร์เวย์ 1 เยอมนี 2 คน สหรัฐอเมริกา 3 คน และเมียนมา 3 คน ส่วนอีก 1 คนเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศที่จ.เชียงราย ทำให้ไทยผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,053 คน หายป่วยแล้ว 3,839 คน เสียชีวิตสะสม 60 คน

➡️ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค รายงานว่าในรอบ 1 สัปดาห์มีผู้ป่วย COVID-19 กลับจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาที่ลักลอบเข้าประเทศไทย พบติดเชื้อ 14 คน

🦋เชียงใหม่
หญิงอายุ 29 ปี พบเชื้อ 26 พ.ย.63
หญิงอายุ 23 ปี พบเชื้อ 2 ธ.ค.63
หญิงอายุ 25 ปี พบเชื้อ 2 ธ.ค.63
🦋เชียงราย
หญิงอายุ 26 ปี พบเชื้อ 29 พ.ย.63
หญิงอายุ 23 ปี พบเชื้อ 29 พ.ย.63
หญิงอายุ 25 ปี พบเชื้อ 29 พ.ย.63
ชาย อายุ 28 ปี พบเชื้อ 2 ธ.ค.63 (ในประเทศ)
หญิง อายุ 25 ปี พบเชื้อ 2 ธ.ค.63 (สถานที่กักกันโรค)
หญิง อายุ 24 ปี พบเชื้อ 2 ธ.ค.63 (สถานที่กักกันโรค)
หญิงอายุ 23 ปี พบเชื้อ 2 ธ.ค.63 (สถานที่กักกันโรค)
🦋พะเยา
หญิงอายุ 28 ปี พบเชื้อ 1 ธ.ค.63
🦋พิจิตร
หญิงอายุ 25 ปีพบเชื้อ 1 ธ.ค.63
🦋กทม.
หญิงอายุ 21 ปี พบเชื้อ 29 พ.ย.63
🦋ราชบุรี
หญิงอายุ 36 ปีพบเชื้อ 2 ธ.ค.63



https://news.thaipbs.or.th/content/298917

🔴โควิดคร่าชีวิตชาวเมียนมาเกิน 2,000 ราย

สถิติสะสมของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในเมียนมา เพิ่มเป็นมากกว่า 2,000 คนแล้ว นับตั้งแต่สิ้นเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา



ทั้งนี้ เมียนมาพบผู้ป่วยคนแรกเมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่เป็นบุคคลที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และยืนยันผู้เสียชีวิตคนแรก เมื่อวันที่ 31 มี.ค. เป็นผู้ที่มีโรคประจำตัว
 
ด้านคณะกรรมการกลางด้านการป้องกัน ควบคุมและรักษาโรคโควิด-19 ของรัฐบาลเมียนมา เผยแพร่รายชื่อร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านจำหน่ายชา 8,017 แห่งทั่วประเทศ ที่มีการจัดการด้านสาธารณสุขได้มาตรฐานของภาครัฐ และได้รับอนุญาตให้เปิดบริการรับประทานอาหารภายในร้านได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 4 ธ.ค. นี้เป็นต้นไป หลังต้องให้บริการเฉพาะการซื้อกลับบ้านรอบล่าสุด ตั้งแต่เดือนก.ย. ที่ผ่านมา

เครดิตภาพ : REUTERS.

อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/foreign/810782

เพี้ยนปักหมุดในตอนนี้ต้องติดตามข่าวโควิด-19 เพื่อจะได้ระมัดระวังตัวจากผู้ไร้จิตสำนึก

ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกๆท่านที่ทำงานอย่างเข้มแข็งค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่