คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
คุณไม่เห็นข้อเด่นไม่ได้หมาความว่าเขาไม่ได้มีข้อเด่น ข้อด้อยที่คุณพิมพ์มาอ่านดูแล้วเป็นอคติหรือความเชื่อของคุณมากกว่าว่ามันเป็นข้อด้อย ติดโทรศัพท์เป็นข้อด้อยอย่างไร เขาทำอะไรตอนเล่นโทรศัพท์ (เขาเล่นเกมฝึกสมองหรือเปล่า? เขาดูวิดีโอความรู้หรือเปล่า?) คุณบอกว่าเขาไม่อ่านหนังสือทบทวนแล้วทำไมเขาต้องอ่านหนังสือทบทวน (เขาจำได้อยู่แล้วหรือเปล่า?) เล่นเป็นส่วนใหญ่แล้วไม่ดีตรงไหน (เขาเป็นเด็กคนหนึ่งก็ต้องเล่นเป็นธรรมดา) ต้องย้ำตลอดเวลามันสื่อถึงการไม่เป็นชิ้นเป็นอันอย่างไร? (เขาไม่เห็นประโยชน์ของสิ่งนั้นหรือเปล่า?) มันมีคำอธิบายอื่นที่มาตอบคำถามพวกนี้ได้ถ้าคุณสังเกตและเข้าใจเขาจริง ๆ แต่คุณกลับใช้ความเชื่อความคิดของคุณไปตัดสินเขาว่าอันนี้เป็นข้อด้อย
จะมองเด็กกลุ่มนี้โดยใช้ชุดความคิดของเด็กทั่วไปไม่ได้ ถ้าเลี้ยงเด็กกลุ่มนี้แบบเด็กทั่วไปเขาจะอึดอัดกับสภาพแวดล้อม เหมือนให้เด็ก ป.5 เรียนในห้องเรียน ป.2 เข้าสังคมกับเพื่อนยากเพราะไม่ค่อยมีใครเข้าใจ ครูบางทีก็ไม่ได้ดูแลนักเรียนรายบุคคลได้มากเพราะมีนักเรียนเยอะ เมื่อวัดแล้วเจอว่าเขามีความอัจฉริยะและครอบครัวมีกำลังมากพอก็ควรสนับสนุนสภาพแวดล้อมดี ๆ ให้เขา เลือกให้เรียนในโรงเรียนพิเศษหรือเฉพาะทาง พ่อแม่ควรศึกษาวิธีเลี้ยงเด็กกลุ่มนี้ ส่งเสริมทักษะและความสามารถด้านต่าง ๆ ให้เหมาะสม พ่อแม่จะเหนื่อยหน่อยเพราะต้องใช้เวลาเข้าใจเขาเยอะ ถ้าพ่อแม่ไม่ได้เป็นอัจฉริยะบางทีอาจเข้าใจลูกไม่ครบทุกเรื่อง ก็อาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอความช่วยเหลือและคำแนะนำได้
ส่วนประเด็นว่าผลไอคิว 140 กว่าเชื่อถือได้หรือไม่อันนี้ต้องอธิบายกันยาว มันมีเรื่องทางเทคนิคที่ต้องอธิบายเยอะ เราเขียนบทความเรื่องแบบวัดไอคิวมีความน่าเชื่อถือไหมประมาณ 8 หน้า ตอนนี้เขียนเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้เผยแพร่สักที เอาเป็นว่าถ้าวัดไอคิวเด็กได้ 140 กว่าจริงก็ไม่น่าผิดหรอก เพราะมันห่างจากค่าเฉลี่ยมากอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เชื่อถือได้
จะมองเด็กกลุ่มนี้โดยใช้ชุดความคิดของเด็กทั่วไปไม่ได้ ถ้าเลี้ยงเด็กกลุ่มนี้แบบเด็กทั่วไปเขาจะอึดอัดกับสภาพแวดล้อม เหมือนให้เด็ก ป.5 เรียนในห้องเรียน ป.2 เข้าสังคมกับเพื่อนยากเพราะไม่ค่อยมีใครเข้าใจ ครูบางทีก็ไม่ได้ดูแลนักเรียนรายบุคคลได้มากเพราะมีนักเรียนเยอะ เมื่อวัดแล้วเจอว่าเขามีความอัจฉริยะและครอบครัวมีกำลังมากพอก็ควรสนับสนุนสภาพแวดล้อมดี ๆ ให้เขา เลือกให้เรียนในโรงเรียนพิเศษหรือเฉพาะทาง พ่อแม่ควรศึกษาวิธีเลี้ยงเด็กกลุ่มนี้ ส่งเสริมทักษะและความสามารถด้านต่าง ๆ ให้เหมาะสม พ่อแม่จะเหนื่อยหน่อยเพราะต้องใช้เวลาเข้าใจเขาเยอะ ถ้าพ่อแม่ไม่ได้เป็นอัจฉริยะบางทีอาจเข้าใจลูกไม่ครบทุกเรื่อง ก็อาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอความช่วยเหลือและคำแนะนำได้
ส่วนประเด็นว่าผลไอคิว 140 กว่าเชื่อถือได้หรือไม่อันนี้ต้องอธิบายกันยาว มันมีเรื่องทางเทคนิคที่ต้องอธิบายเยอะ เราเขียนบทความเรื่องแบบวัดไอคิวมีความน่าเชื่อถือไหมประมาณ 8 หน้า ตอนนี้เขียนเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้เผยแพร่สักที เอาเป็นว่าถ้าวัดไอคิวเด็กได้ 140 กว่าจริงก็ไม่น่าผิดหรอก เพราะมันห่างจากค่าเฉลี่ยมากอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เชื่อถือได้
แสดงความคิดเห็น
สงสัยว่า เด็กที่มี IQ 141 ขั้น Very Superior
หมอบอกอยู่ขั้น Very Superior / บางตำราบอกว่า Genius or Near Genius
ข้อเด่น
- แต่เด็กคนนี้พูด 2 ภาษา ไทย-อัง
- เล่นดนตรีได้ keyboard paino violin แต่ก็ไม่ได้เก่งอะไรมาก
- ชอบเรื่องดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ > พูดเป็นเรื่องเป็นราว
- ผลการเรียนก็ ประมาณ 70+ 80+ ในวิชาที่ไม่ชอบส่วนวิชาที่ชอบ 90++ ไม่ได้ท็อป อะไรมาก
ข้อด้อย
- ติดโทรศัพท์ (เกมส์) อย่างน้อย 2 ชม.ต้องได้เล่น
- ไม่ชอบอ่านหนังสือทบทวน เล่นเป็นส่วนใหญ่
- ทำอะไรไม่เป็นชิ้นปินอันเท่าใหร่ ต้องย้ำๆตลอดเวลา ว่าทำนี่ทำนั่น เช่น ใช้ผ้าเช็ดตัวแล้วเอาไปเก็บไปตาก เป็นต้น
- ไม่เป็นระเบียบสักเท่าใหร่
V
**** หรือว่าเรายังไม่เจอศักยภาพของเขา เราควรจะรับมือยังไงกับ สิ่งที่เขามีมา (จิตแพทย์บอกว่า ไอคิวระดับนี้เรียนอะไรก็ได้ที่อยากเรียนและชอบ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ท่านใดมีประสบการณ์ หรือมีความรู้ทางด้านนี้ หรือ คุณพ่อ-แม่ ที่มีลูกเคยวัดไปคิว แบบเดียวกันนี้
พอลูกโตแล้วหรือยังเล็กๆอยู่ใช้ คำว่าผลของไอคิว นี้ไปพัฒนาหรือปรับใช้กับการเรียนรู้ลูกๆยังไงกันครับ