[CR] ขี่รถเที่ยวตะลุยเดี่ยว สมุทรสาคร -อุ้มผาง-เกลอเซโล

สวัสดีคับเจอกันอีกเช่นเคย วันนี้ผมมีสถานที่เที่ยวที่หนึ่งที่อยากจะไปอาจเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลายๆคนที่ชอบหมอก 
                 เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า  อาทิตย์หน้ามีหยุดยาว ความคิดในหัวเริ่มปลุกอารมณ์ให้อยากออกเดินทางไปไหนสักแห่งในประเทศไทย  คิดๆๆๆ ออกแล้ว ไปอุ้งผางดีกว่า ไปที่นี้หลายรอบหลายแบบแหละ แต่ไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์ไปเลย ลองสักตั้งดีกว่า  งั้นก็ออกวันพุธกลางคืนดีกว่า ถึงไหนค่อยว่ากัน   วันพุธหลังเลิกงานประมาณ 19.00 น.หลังที่ไปเก็บเสื้อผ้าที่บ้านตอนเที่ยงแล้ว ก็เริ่มออกเดินทางวิ่งสาย4ตัดใหม่มาเรื่อยๆๆ พักปั้มก็เฉพาะน้ำมันหมดก็พักรถไปด้วย 10 กว่านาที อยุธยา-อ่างทอง-สิงห์บุรี-ชัยนาท-อุทัยธานี-นครสวรรค์-กำแพงเพชร...ยิ่งขับก็ยิ่งรถน้อยลงทุกที คิดว่าจะขี่ยาวให้ถึงต้นๆ       จ. ตาก แต่ได้แค่กลางๆจ. กำแพงเพชร เอง ความง่วงเริ่มมีบทบาทต่อการขี่รถ เพื่อความปลอดภัย ตัดสินใจหาที่นอนดีกว่า ผ่านแล้วผ่านอีกดูนาฬิกา  หูยๆๆๆ ตี2แล้วเหรอ  เจอปั้มPT ก็เลยขี่ไปวนดู  สัก2รอบ อ้าวๆๆเจอแล้ว   ขอนอนสักแปปz.ZzzZZZ...เพี้ยนฝันดี
นอนแบบง่ายๆ
       วันแรก 
      6.30น.ตื่นมาเพื่อๆๆๆๆ  พอเวลาอยู่บ้านไม่เห็นจะตื่นเร็วเลย มาเที่ยวเนี้ยตื่นเร็วๆๆ  จากนั้นก็ขอเวลาจัดการกับตัวเองสักครึ่ง ช.ม. หลังที่เมื่อคืนไม่ได้อาบน้ำ เน่าแล้วมั่ง 555+จากนั้นก็เริ่มออกเดินทางต่อสู่จังหวัดตาก ความตื่นเต้นเริ่มมาหลังจากที่คิดว่ามีโอกาสขี่ขึ้นอุ้มผาง ขี่มาสักพักก็เลยแวะไหว้   ศาลขุนพะวอก่อนไปแม่สอด ตามนิสัยนักบุญของผม 
 ขี่มาถึงตรงวงเวียนที่จะเลี้ยวซ้ายอุ้มผาง ตรงไปแม่สอด วนขวาแม่ละมาดแต่ผมเลี้ยวซ้ายไปทางอุ้มผาง ก็ 11.00น. พอดีทำเวลาได้ดี เติมน้ำมันอีกทีจะได้ขี่ยาวๆๆเลย คิดในใจคงไม่เมาแล้วอ้วกเหมือนที่เคยมารถใหญ่นะ ขี่มาพักใหญ่เลขหลักกิโล3ตัวที่เริ่มจาก 100 กว่าค่อยๆลดลงเหมือนระเบิดเวลาในหนังแอคชั่นที่เคยดูเลย
 ทางเริ่มเล็กลงเล็กลงจาก4 เลนท์เหลือ 2 เลนสวนกัน แต่ก็ขี่ไม่เบื่อหรอกน่ะมีรถใหญ่รถเล็กขับขาขึ้นลงกันเป็นแถวเลย ส่วนผมเหรอเจ้าเปียกปูน  Honda super cub 110 คันเล็กๆเนี้ยแหละ  5555+ ขี่ไปก็มีพวกพี่ๆยกนิ้วโป่ง ให้เป็นเพียบเลย ไม่ได้โกรธหรือเคืองไรกันหรอกน่ะ มันเป็นสัญลักษณ์บนท้องถนน ที่แปลว่าเยี่ยมยอดประมาณนี้  2 ข้างทางระหว่างขี่ขึ้น มีทั้งวิวป่าวิวไร่เต็มไปหมดเลย
 อากาศเริ่มร้อนปะป่นกับลมหนาวที่มากระทบร่างของผม คิดในใจเลยว่าคืนนี้ต้องหนาวแน่ เกย์น้ำมันเริ่มลงมาจนเหลือครึ่งแหละใจก็ตุ้มๆต่อมๆว่าเมื่อไรจะเจอหมู่บ้านว่ะ ขี่สักพัก เจอๆๆๆแล้ว  หมู่บ้านอุ้มเปี้ยมหมู่บ้านชาวอพยพของชนเผ่าหลายที่มาร่วมกัน ปั้มหลอดนี้หว่า เติมนี้แหละ บอกก่อนน่ะว่าน้ำมันที่นี้อาจจะแพงกว่าในเมืองด้านล่างน่ะคงเพราะค่าขนส่งแหละ แต่ก็ไม่ได้แพงเวอร์อะไรขนาดนั้นหรอก ลิตรล่ะ28บาทเอง  เติมเสร็จก็ขี่ไปสักพักเพื่อไปพักจุกพักรถมหาชน  หาอะไรซ่าๆกินกะตุ้นต่อมหน่อย จัดไปน้ำสไปร์1กระป๋อง สดชื่นขึ้นมาทันทีดิ555+ ขี่มาสักกพักใหญ่อาการเมาโค้งเริ่มมา เจอศาลาข้างทางก็เลยแวะพักสัก10-20 นาที
 จากนั้นก็ดันยาวๆทีเดียวให้ถึงตัวเมืองอุ้มผาง  ถึงนั้นก็ประมาณ3หรือ4โมงนี้แหละจำไม่ค่อยได้หาข้าวกินก่อนแหละกัน ขี่วนพักนึงก็กินร้านเดิมนี้แหละที่เคยกินเมื่อ5ปีก่อน คงไม่ต้องถามหรอกน่ะว่าจะกินอะไร  คนที่สนิทๆกับผมจะรู้ดี กระเพราหมูสับไข่ดาวตามสูตร555 คิดจะกินโน้นนี้นั้น ถึงร้านที่ไร กระเพราหมูสับ ท่าเดียวเลย  ไม่เคยเปลี่ยน
กินเสร็จ ก็ขี่เล่นวนไปมาในตัวอุ้มผางเล่นดูบรรยากาศ ดูเงียบมาก จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ที่พักที่เซปะละ ผมเลือกที่จะพักวัด  ถึงวัดก็  ร่วม5-6โมงเย็นแหละ  อันดับแรกก็ต้องไปไหว้พระพุทธ และก็อาจารย์เจ้าอาวาสวัดนี้  เสร็จแล้วก็เดินเล่นกับพ่อผมในวัดพักนึง 


อากาศเริ่มเย็นฟ้าเริ่มมืดก็เข้าที่พักอาบน้ำเตรียมนอน เพราะความเพลียจากการเดินทาง โชคดีแท้ๆที่มีน้ำอุ่นให้อาบ  สบายไปเลยเรา555  เป็นคนชอบเที่ยวนะแต่ก็ขี้หนาว แปลกปะล่ะ555 อาบเสร็จก็นอนเล่น รู้สึกตัวอีกทีก็นาฬิกาปลุกดังซะแล้ว

วันที่สอง
 5.30 น.  หลายคงคงงงตื่นมาทำไมตอนนี้  อยู่วัดก็ทำตัวให้คุ้มค่าที่พักหน่อย ตื่นออกไปรับบาตรกับพระ จากนั้นก็นั่งท้ายกระบะที่มีหลังคาหลังออกไปที่ตัวเมืองอุ้มผาง เดินตามหลังพระตามประสาเด็กวัดจำเป็น สนุกไปอยากแปลกไปอย่าง ผมไม่ห้ามนะเอาวิธีนี้ไปใช้กันได้นะ
พระบิณฑบาตเสร็จกลับวัด  ผมในฐานะคนอาศัยก็ไปช่วยแม่ครัวเทกับข้าวถวายพระ จากนั้นก็ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่านหลังพระฉันเสร็จ  อาหารบ้านๆแต่เต็มไปด้วยความอร่อย  
กินเสร็จก็เตรียมตัวออกเดินทางต่อ  ก่อนไปก็เหมือนเดิมกราบลาขอพรพระพุทธและพระอาจารย์ขอให้เดินทางปลอดภัย ขี่เข้ามาตัวเมืองเพื่อหากาแฟกินและก็ซื้อสติกเกอร์ที่ระลึกอุ้มผาง  จะไปไหนได้นอกจาก “ร้านบ้านครูซัน”
 เสร็จสิ้นภารกิจก็ได้เวลา10.00น. พอดี เลขสวยพร้อมออกเดินทาง ขี่ออกมาสักพักก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆจนจะถึงหมู่บ้านอุ้มเปี้ยม  กุกกัก ปุกปัก เสียงดังแปลกๆพร้อมกลับรถที่บิดไม่ไป  เอาแล้วไงๆพังจนได้ จอดรถได้  ลมแทบจับ รถโซ่หลุด เครื่องมือก็ไม่ได้พกมาสักชิ้น ได้แต่นั่งขอพรข้างทาง ขอให้มีคนผ่านมาเจอทีเถอะๆๆ  จากนั้นพักใหญ่ก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์บิดมาแต่ไกล ผมก็โบกขอความช่วยเหลือ ยืมเครื่องมือเพื่อถอด โชคดีที่ยังเอาโซ่ใส่แล้ววิ่งต่อได้ ก็เอ่ยถามก่อนเลยมีร้านซ่อมไหมแถวนี้  พี่คนนั้นก็บอกว่าขับไปอีกหน่อยก็อุ้มเปี้ยมแล้ว  สิ้นสุดคำพูดผมก็เอ่ยขอบคุณพี่ๆทั้งสอง  แล้วก็ค่อยๆขี่ไปหาช่าง พอถึงหน้าศูนย์อพยพอุ้มเปี้ยม เจอเจ้าหน้าที่ อส. คุ้มทางเข้าผมก็เลยถามหาช่าง พี่ อส. บอกมี แต่ที่นี้ห้ามคนนอกเข้านะ  เอาแล้วไงแล้วจะไปซ่อมยังไงล่ะ  พี่ อส.ถามผมมาจากไหนจะไปไหนล่ะ  แล้วพี่ก็บอกว่าเดี๋ยวพี่โทรหาช่างให้มาซ่อมตรงนี้แล้วกัน 
 #หมายเหตุที่ห้ามคนนอกเข้าก็อยู่ในสถานการณ์ covid-19  บุญของผมแท้ๆๆโดนค่าซ่อมไป50 คิดในใจ 100 บาท ก็ยอมจ่ายแบบนี้ ช่างบอกลงไปในเมืองก็ไปเปลี่ยนซะเดี๋ยวพังอีก  อืมๆๆกลับบ้านค่อยเปลี่ยน ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเสียเวลาเปลี่ยน ขี่ไปก่อน จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่สถานที่ต่อไปที่อยากไปในจังหวัดตาก  เพื่อไปดอยสอยมาลัย  ขี่มุ่งหน้าไปทางแม่ระมาด  เจอข้างทางสวยมีน้ำไหลผ่านผมเลยแวะนอนพักร่วมครึ่งชั่วโมงได้
 แล้วก็ขี่มาเจอด่าน ก็เลยถามทางไปดอยสอยมาลัย พี่เจ้าหน้าที่บอกขี่เลยมาเป็น10 กิโล แล้วน้องเอ๋ย  ผมก็รีบเลี้ยวรถกลับและเร่งทำเวลาทันทีเพื่อให้ทันก่อนมืด  ขี่มาถึงทางเข้าหมู่บ้านขะเนจื้อ  ทันใดนั้นเสียงขุกขักปุ่งปัง เสียงแบบเดิมมาอีกแล้วเพิ่มเติมคือล้อรถมันหยุดด้วย แล้วความเร็วขนาดนี้คิดว่าจะรอดเหรอ คว่ำแน่ๆ ทันใดนั้นปฏิหาริย์ก็เกิด ผมพยุงรถที่ล้อหลังตายเพราะโซ่ที่ขาดเข้าไปขัด ชะลอเข้าข้างทางได้พอดีโดยไม่ล้ม คิดในใจโชคเข้าข้างอีกครั้ง พอจอดผมลองเข็นดู ที่นี้เข็นก็ไมไป เอาไงดี  ตรงข้ามเป็นป้ายรถเมล์ แว๊บแรกเลยนอนนี้แน่ๆคืนนี้  ไม่ถึง5นาทีก็มีเด็กวัยรุ่นพื้นที่ ขี่มาถามรถเป็นไรครับ แล้วก็บอกว่าในซอยมีร้านซ่อมนะพี่ ผมคิดในใจมีร้านก็เท่านั้นเข็นไม่ไปเลยตอนนี้ สักพักก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาปาดหน้าอย่างกับในหนังล่าคนร้ายแล้วก็ลงมาถามเป็นไร พร้อมเอากรวยมาวางกั่นให้ด้วย แล้วก็หยิบเครื่องมือลงมาชุดใหญ่ มาช่วยซ่อม  ถอดได้แล้ว สรุปโซ่ขาดเลยงานนี้ รื้อเสร็จพอที่จะเข็นได้ ก็ได้น้องเดิมที่ช่วยถีบรถไปร้านซ่อม
 โดนค่าเปลี่ยนไปอีก300 บาท ซ่อมแล้วเดินทางต่อ  ขี่ย้อนขึ้นมาเป็น10 กิโลเลย พอมาถึงทางเข้า อช. ขุนพระวอเลยถามเด็กพื้นที่ว่าดอยสอยมาลัยไปไกลไหม เด็กพื้นที่บอกหน่อยเดี่ยวพี่  ผมก็เลยขี่ไปสักพักเจอหมู่บ้านเลยเข้าไปหาน้ำมันเติม เลยถามร้านค้าว่าไปอีกไกลไหม เจ้าของร้านค้าบอกอีก 30 กิโล ได้แล้วต้องขี่ขึ้นไปอีกนะ  คุนพระ!!!!เด็กพื้นที่มันหลอกนี้หว่าหน่อยเดี่ยวของมัน เล่นไปตั้ง 30 กว่ากิโล  ถ้าฟื้นไปคงไม่ทันมืด ผมเลยตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมายไปกางเต็นท์ที่ อช.ขุนพะวอนี้แหละ ขี่เข้าอุทยานแห่งชาติขุนพะวอ  ขี่เข้ามาสักพักคนไม่เยอะเท่าไร ได้ที่กลางเต็นท์ด้านในใกล้ร้านสวัสดิการและห้องน้ำ  ตรงนี้เหมาะสุดแหละ  กลางเสร็จก็ชงกาแฟกินก่อนแล้วกันเล่นซะตาตึงเลย  ต่อด้วยมาม่าคัฟ 1ถ้วย แล้วก็อาบน้ำเพราะกลัวหนาว แต่ไม่ทันจ้า  น้ำโครตเย็นเลยๆๆ  ห้องน้ำสะอาดอยู่  นั่งดูดาวพักนึงก็ตัดสินใจนอนดีกว่า
ดูนาฬิกา อุ๋ยๆๆๆ!!!21.00แล้ว นอนเล่นพักนึงด้วยความเคยชินว่าแปลกที่เลยไม่หลับ  เสียงแปลกๆๆก๊อปแก๊ป เริ่มดังขึ้นใต้เต็นท์ ผมเลยตัดสินใจดู คุนพระปลวกๆๆๆๆ เต็มไปหมดเลย  ด้วยการที่เคยได้ยินว่าปลวกกินกราวชีสทะลุมาเต็นท์  ความระแวงเริ่มเกิดในหัว กลัวเต็นท์พัง  ย้ายสิครับย้าย รออะไรล่ะ ย้ายเต็นท์ตอน22.00น.  เต้นท์ข้างๆคงงงอารมณ์ไหนมาย้ายเต็นท์ตอนนี้   บ้าเปล่าว่ะ มาดูนาฬิกาอีกที่22.49น. นอนเถอะพ่อคุน  ฝันดีน่ะๆๆเพี้ยนฝันดี   บอกใครว่ะ   อ่ออบอกตัวเอง555 

  อ่านต่อด้านล่างน่ะครับ

       
ชื่อสินค้า:   ทะเลหมอกเกลอเซโล
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่