เมื่อเราพบโลกใบที่สองของสามี ที่ซ่อนไว้ข้างหลัง ภายใต้ความเป็นสามีที่ดีที่สุดของเรา

เราสองคนแต่งงานอยู่ด้วยกันมา 7 ปี   เรามีลูกด้วยกันสองคน    เขาเป็นสามีที่ดีคนหนึ่ง ช่วยซัพพอร์ตทุกอย่างไม่เคยขาดตกบกพร่อง  ถ้าไม่รวมเรื่องชอบออกไปกินเที่ยวกับเพื่อนก็ไม่เรียกว่าบ่อย 1-2 เดือนขอไปที แต่พอได้ไปจะกลับตี-2-3 ทุกครั้ง ก็บอกว่าออกไปนั่งกินเหล้ากับเพื่อน เราก็คิดว่าเขาทำดีทุกอย่างช่วยงานบ้านช่วยเลี้ยงลูก นานๆทีให้เขาออกไปพบปะเพื่อนบ้างคงไม่มีอะไร

เราเคารพพื้นที่ของสามี  คิดว่าความเชื่อใจและไม่ก้าวก่ายกันและกัน จะเป็นทางออกที่ดีของชีวิตคู่ที่ไม่กดดันลุกล้ำอิสระและล้ำเส้นกันมากเกินไป ตั้งแต่แต่งงานมีลูก เราคิดว่าลูกเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเราสองคน  เราจะร่วมกันโฟกัสไปที่ลูก   เราจะไม่หาเรื่องกวนใจเขา ไม่กดดันเขา ไม่หยิบโทรศัพท์ ไม่ยุ่งกับแชท ไลน์ อะไรเลยของสามี  แม้แต่บางทีเราเดินผ่านตอนเขาเล่นโทรศัพท์  เห็นเขาเปิดดูพวกรูป คลิป ผู้หญิงสวยๆ ก็คิดว่าโอเคนะ แค่ดู กลุ่มเพื่อนๆคุยกัน ก็ขำขำ ปล่อยเขาไป ความสุขทางสายตา เรื่องธรรมดาของผู้ชาย   ถือว่าเราพยายามปรับทัศนคติและใจกว้างมากพอ...ในขอบเขตที่จำกัด

แต่ไม่คิดเลยว่านั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้สามีเป็นอิสระมากเกินไป   พักหลังๆ เรารู้สึกว่าสามีติดโทรศัพท์มาก ไม่ว่าจะทำอะไรก็แทบจะไม่วางทิ้งไว้ เข้าห้องน้ำอาบน้ำทำอะไรในห้องน้ำจะใช้เวลานานเป็นชั่วโมง  และปกติเขาไม่ใช่คนที่ชอบโพสต์อะไรลงโซเชี่ยล เขามีเฟสบุคที่เราเคยสมัครให้นานแล้วและจะมีแต่เราที่แท็กเขาเวลาลงรูปลูกๆ    แต่หลังๆ เราเริ่มสังเกตว่าเขามีโมเม้น ถ่ายรูปอาหาร  วิว และเหมือนส่งให้ใคร เหมือนเวลาที่เราๆมีโมเม้นท์ไปกินข้าว เที่ยวทะเล แล้วถ่ายรูปส่งให้แฟนดู  แต่เราก็ยังใจเย็นไม่ลุกล้ำเข้าไปค้นหาคำตอบในพื้นที่ของเขา

วันหนึ่ง บังเอิญเราต้องยืมโทรศัพท์สามีใช้ถ่ายรูป แล้วก็เป็นความบังเอิญ ที่มีข้อความเข้ามาทางไลน์พอดี   เราได้เห็นข้อความสั้นๆ ก็พอจะเดาได้ว่าคนนี้ไม่ธรรมดา  ไม่ใช่เพื่อน   แต่ก็พยายามข่มใจไม่กดอ่าน  มันเป็นจุดเริ่มต้นให้เราตั้งเป้าหมายว่าวันนี้เราจะต้องรู้ให้ได้ว่าเป็นไลน์ของใคร  และเราก็ได้รู้ว่าเขาแอบคุยกับคนอื่นจริง   บทสนทนาดูเหมือนคนที่เข้าใจกัน อยากพูดคุยกันเล่นๆ ให้กำลังใจกัน ถามไถ่กัน เหมือนแฟนนะ  และผู้หญิงคนนั้นก็รู้ว่าเขามีลูกมีภรรยา

เราตัดสินใจถามสามี  แต่ก่อนที่เราจะถามเขาน่าจะเริ่มไหวตัวจากพฤติกรรมของเรา  เขาลบแชทนั้นทิ้งค่ะ   นี่ก็คือจุดเดือดที่สูงขึ้นกว่าตอนยังไม่ลบ     คำอธิบายของเขาบอกว่าแค่คุยเล่นเฉยๆ รู้จักกันจากการโคงานกันกับแผนกอื่นเลยได้คุยกัน  เขายืนยันว่าไม่มีอะไรเกินเลย   แต่เราเห็นรูปที่ผู้หญิงเก็บไว้ในอัลบั้มไลน์ เหมือนสามีอยู่ในบ้านใครสักคน   เขาบอกว่าเป็นบ้านของผู้หญิงคนนั้น เคยไปตอนเอาอุปกรณ์ที่ทำงานไปส่งให้ที่บ้านช่วงโควิดและต้องทำงานที่บ้าน    สามีกับเราอายุเท่ากันค่ะ ส่วนผู้หญิงคนนั้นอายุน้อยกว่าเราและสามี 13 ปีได้   ใช่ค่ะ นางยังเด็ก เพิ่งเรียนจบได้ไม่นาน  เราคุยกับสามีและถามกันว่ามันเป็นยังไงและจะเอายังไง  เขาต้องการไปต่อกับเราและเขารับปากว่าจะจบเรื่องราวทั้งหมด เพื่อเราและลูก  ด้วยการไปบอกผู้หญิงคนนั้นว่าภรรยารู้เรื่องแล้วและขอเลิกคุย...สามีเข้าใจว่านี่คือวิธีที่จะทำให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม

อยากจะถามเพื่อนๆ ว่า ถ้าเจอเรื่องแบบนี้ จะทำอย่างไรกันคะ  หยุดพัก หรือไปต่อ    ตอนนี้เราสับสนมากๆค่ะ  เสียใจอย่างที่สุด
อยากจะจบชีวิตครอบครัว แต่ก็สงสารลูกๆ และเป็นห่วงจิตใจของพ่อแม่ที่รักเขามากเช่นกัน  คิดอะไรไม่ออกจิตใจมันอ่อนล้าจนอยากจะเลือกจบชีวิตตัวเองให้มันแล้วกันไป

-------------   ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันในวันที่อ่อนล้าที่สุด และแบ่งปันความคิดเห็นดีๆ ที่ทำให้ตัวเองคิดอะไรออกมาได้บ้างค่ะ -----------------