เตือนคนที่กำลังจะใช้ True Wallet จ่ายเงินค่าสินค้าที่ 7-11 ทุกสาขา หากระบบของร้าน 7-11 หรือ True Wallet ขัดข้องขึ้นมา

คุณจะไม่ได้รับสินค้า ไม่ได้รับใบเสร็จ แต่เสียเงิน พร้อมรับภาระการติดตามเงินของคุณเพิ่มเข้ามาให้ปวดหัวเล่น (นอกจากภาระงาน&ด้านอื่นๆในชีวิตของคุณ)

โดยที่บริษัทคู่กรณีของคุณ (CP/True) แทบไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย  (เนื่องจากยอดที่มันเกินมาในระบบของเขา ไม่ใช่ยอดติดลบ) คุณต้องเป็นฝ่ายหาทางติดต่อทุกช่องทาง ในขณะที่บริษัทคู่กรณีของคุณแจ้งเพียงว่า "หากตรวจสอบแล้วเสร็จจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป"

จริงอยู่ที่ยอดเงินมันอาจจะดูน้อย แค่ไม่ถึง 200 บาท แต่ถ้ามันหายไปอย่างที่ไม่ควรจะหาย เช่น โดนยืม โดนโกง ฯลฯ มันย่อมนำความเดือดเนื้อร้อนใจมาให้เจ้าของ ในมุมกลับกันยอดเงินแค่นี้ ทำไมบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มียอดขายต่อปีนับแสนล้านบาท ถึงไม่รับผิดชอบต่อลูกค้าอย่างเหมาะสมตรงไปตรงมา

เมื่อ 12 วันที่แล้ว (อังคารที่ 18/11/63) จขกท.ไปซื้อของที่ 7-11 ใกล้บ้าน และได้ใช้แอพ True Wallet ชำระเงินค่าสินค้าไปทั้งสิ้น 160 บาท

แต่ระบบของ 7-11 หรือ True Wallet ขัดข้อง ทำให้เงินถูกตัดออกไป แต่ใบเสร็จไม่ออกมา สรุปวันนั้น จขกท.ไม่ได้สินค้าที่ตั้งใจจะซื้อ ไม่ได้ใบเสร็จ แต่เสียเงิน โดยที่บริษัทแจ้งว่าจะคืนเงินให้ภายใน 45-60 วัน และมีการติดต่อกลับมาหาจขกท.แค่วันเดียว (19/11/63) จากทั้ง 12 วันที่ผ่านมา

มูลเหตุคือ "ความรับผิดชอบ"ที่บริษัทใหญ่อย่าง CP / True พึงมีต่อลูกค้าของคุณ มันควรมี Responsibility ที่มากกว่านี้และเหมาะสมกว่านี้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดจากความขัดข้อง/ผิดพลาดของคุณเอง ไม่ใช่จากลูกค้า/ธนาคาร/บัตรของลูกค้า

จขกท.ซื้อของที่ 7-11 และกำลังจะชำระเงินที่แคชเชียร์ด้วยแอพ True Wallet ซึ่งในแอพจะมีตัวเลือกการชำระเงินหลายช่องทาง ในวันนั้นจขกท.เลือกจ่ายด้วยการตัดผ่านบัตรเดบิตของกสิกรโดยตรง หลังจากน้องพนักงานทำการแสกน QR

ครั้งที่ 1 มีข้อความแจ้งเตือนจากแอพ Kplus เข้ามาว่าเงินถูกตัดไป 160 แต่หน้าจอแคชเชียร์ของ 7-11 ขึ้นว่าขัดข้อง และไม่มีใบเสร็จออกมา

ครั้งที่ 2  มีข้อความแจ้งเตือนจากแอพ Kplus เข้ามาว่าเงินถูกทำคืนเข้ามา 160 (แก้ไขรายการ)

จขกท.แสกน QR จ่ายเงินครั้งที่ 2

มีข้อความแจ้งเตือนจากแอพ Kplus เข้ามา ครั้งที่ 3 ว่าเงินถูกตัดไป 160 แต่หน้าจอแคชเชียร์ของ 7-11 ยังขึ้นว่าขัดข้อง และไม่มีใบเสร็จออกมาเหมือนเดิม

ทั้ง 3 ครั้ง ที่แอพ Kplus แจ้งเตือนนั้น ไม่มีการแจ้งเตือนในแอพ True Wallet ใดๆทั้งสิ้น สิ่งหนึ่งที่ยืนยันว่าระบบของธนาคารกสิกรปกติคือ ยังคงมี SMS แจ้งเตือนเข้ามาในมือถือตามปกติ 

หลังจากแจ้งพนักงานไปว่าเงินถูกตัดแล้ว แต่ใบเสร็จของ 7-11 ไม่ออกมา น้องพนักงานก็รีบโทรหา Call Center ของ 7-11 ใช้เวลาคุยประมาณ 5 นาที ก็มาแจ้งว่า ทาง CC บอกว่ะจะคืนเงินให้ภายใน 1-2 รอบบิล ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่าอึ้งๆปนงงๆ แต่เข้าใจว่าน้องพนักงานเองก็คงไม่รู้ดีไปกว่าผมมากนัก เลยตั้งใจว่าจะกลับมาคุยกับเจ้าหน้าที่ใน True Wallet หรือ โทรไปคุยกับ CC ของ 7-11 เองน่าจะดีกว่า

หลังจากมารอคิวแชทคุยกับจนท.ของ True Wallet ก็ได้คำตอบว่า จะได้เงินคืนภายใน 45-60 วัน ( 1 เดือนครึ่ง - 2 เดือน) ความโมโหก็บังเกิดขึ้นทันที เนื่องจากสิ่งที่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า "เป็นการทำรายการผ่านบัตรเดบิต/เครดิต" มันไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหา หรือพูดง่ายๆคือ ระบบบัตรของธนาคา่รมันปกติ แต่ระบบของพวกคุณ (ไม่รู้ว่าของใคร 7-11 / True) มันผิดพลาดเอง เพราะฉะนั้นคุณจะมาอ้างกฎเกณฑ์กติกาของบัตรเดบิต/เครดิตไม่ได้

หลังจากนั้นพอผมคุยกับ CC เรื่องที่ว่าทำไมลูกค้าต้องรอเงินคืนนานเป็นชาติขนาดนี้ ทาง CC ของ True Wallet จึงสรุปแบบรวบรัดด้วยการให้เบอร์ CC ของ 7-11 แก่ผม และ "แนะนำให้ลูกค้าติดต่อกับ 7-11 โดยตรงนะคะ" (อันนี้ไม่ได้แคปไว้ เพราะตอนนั้นโกรธจริงๆ)

หลังจากนั้นผมก็ติดต่อกับ 7-11 ทั้งช่องทาง แชท และ โทรไปที่เบอร์ CC ด้วย

ซึ่งทางแอดมินเพจ 7-11 ก็มีการขอข้อมูลเพิ่มเติม ผมก็ให้หลักฐานที่มีในแอพ Kplus ไป เช่น รายการที่หัก หักผ่านช่องทางไหน ฯลฯ

ทางแอดมินก็แจ้งว่าจะ"เร่ง"ประสานให้ / "หากตรวจสอบแล้วเสร็จจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อไป"

ส่วนการโทรไปเบอร์ CC ก็บอกเพียงว่า "รับเรื่องไว้แล้ว" / "จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป" 

ซึ่งการติดต่อกลับนั้น มีมาในวันที่ 19/11/63 เพียงวันเดียว และจนบัดนี้ก็ยังไม่มีการติดต่อกลับมาเลยแม้แต่ช่องทางเดียว

1.เรื่องการตรวจสอบข้อมูล มันทำไม่ยากเลยครับ เพราะวันอังคารที่ 18/11/63 ตอน 23:53 มีผมเป็นลูกค้าเพียงคนเดียวที่ใช้ True Wallet จ่ายเงินใน 7-11 สาขานั้น (จนถึง เที่ยงคืนก็ไม่มีใครเข้ามาใช้แอพ True Wallet จ่ายเงิน)

2.เรื่องการตรวจสอบข้อมูล(2) ผมให้หมายเลขรหัสสาขาไป ก็ไม่น่าจะเช็คยากนะครับว่าเงินเกินมาในยอดขายวันนั้นเท่าไหร่ ทำไมต้องใช้เวลาตรวจสอบนานเว่อร์ขนาดนั้น

3.เรื่องของความรับผิดชอบ ความผิดพลาดมันเกิดขึ้นจากระบบของคุณเองล้วนๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับบัตรเดบิต/ธนาคารเลย ผมใช้จ่ายออนไลน์บ่อย มีการทำคืนเงินเพราะบัตรเดบิต/บัตรเครดิตขัดข้อง (เช่น ตัดเงินไม่ได้/ตัดเงินไม่ครบ) ซึ่งถ้าเป็นเพราะเหตุผลนี้ ผมยินดีรอ 45-60 วัน เพราะถือว่ารับผิดชอบร่วมกัน แต่เคสนี้มันเกิดจากความผิดของระบบคุณเอง 100% มันสมควรให้ลูกค้าต้องมา"ซวย"ด้วยแบบนี้หรือครับ

4.ถ้าคิดแต่จะดันให้ลูกค้าใช้ True Wallet แบบไม่ลืมหูลืมตา แต่พอเวลามีปัญหาขึ้นมา กลับผลักภาระให้ลูกค้ามานั่งรอเงินคืนแบบนี้ ขอร้องเถอะครับ เลิกแคมเปญอะไรพวกนี้ไปเถอะ โดยเฉพาะการให้น้องพนักงานถามแทบทุกครั้งว่า "ลูกค้ามีทรูวอลเล็ตมั้ยคะ?" "ชำระด้วยทรูวอลเล็ตได้ทรูพอยต์x2นะคะ"

สุดท้ายสำหรับบางคนที่อาจคิดว่า เงินแค่ 160 บาทจะอะไรนักหนา?

ผมก็อยากฝากไว้ว่า ผมก็อยู่ของผมดีๆ เงิน 160 ของผมก็อยู่ของมันดีๆ

คนที่ทำให้มีปัญหามันไม่ใช่ผม แต่เป็นร้านค้าที่ขอให้ผมช่วยใช้เงินผ่านระบบของเขาต่างหาก

ผมแค่ไม่อยากเป็น 1 ในลูกค้าหลายๆคนที่ปล่อยให้เรื่องเงียบหายไป โดยที่ร้านค้าได้ประโยชน์บนความผิดพลาดของตัวเองแบบนี้ แค่นั้นครับ