เวลานี้ต้องบอกว่าเหยียบมิดไมล์ใส่เต็มข้อสำหรับคุโรซาวะ พออีกฝ่ายสารภาพก็ไม่ต้องรอรีพ่อไมโครเวฟของสาว ๆ ก็โหมไฟเผาไหม้เป็นเตาปฏิกรณ์ปรมาณูโดยทันที แต่ความดีก็ยังคงเดิมก็คือไม่ขออะไรไปมากกว่าที่ได้รับอยู่แล้ว ก็เป็นที่เข้าใจได้ เพราะ พื้นฐานของคุโรซาวะเองก็มองอะดะจิเป็นเทวดาตัวน้อยนุบนิบอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงสมัครใจจะรอคอยมากกว่าหักหาญน้ำใจของอีกฝ่าย อย่างในค่ำคืนนี้ ถึงจะเย้าแหย่เจ้ากระต่ายขนฟูให้เลิ่กลั่กตกตื่นอยู่บ้าง ก็แกล้งเพราะว่าดูน่ารักดีแค่นั้นแหละ ไม่ได้กะจะรวบหัวรวบหางมาไวเคลมไวขนาดนั้น ถึงจะทิ้งท้ายว่าอยู่ด้วยกันนานกว่านี้คงจะอดใจไม่อยู่ก็เถอะ
นั่นแหละ จริง ๆ อะดะจิก็น่าจะคุ้นชินกับท่าทีนั้นแล้ว ก็อ่านใจออกอยู่นี่ แต่พอมาถึงสถานการณ์จริงมันก็ไม่เหมือนกันอยู่ดี ถ้าจะแอ๊วเอินเช้าสายบ่ายเย็นขนาดนั้น มันก็ไม่ไหวเหมือนกัน หัวใจจะหลุดออกมากข้างนอกอยู่แล้ว ก็มันไม่ชิน มันไม่เคยมีใคร มันไม่เคยรักใคร มาก่อน แล้วพอเป็นครั้งแรกก็ดันเป็นตัวท็อปป็อบปูล่าห์ ยิ่งตอนนี้จู่โจมแบบไม่กระพริบตา ก่อนหน้านั้นก็เขินแล้ว ตอนนี้ยิ่งเขินกว่าทำใจให้ปกติเวลาอยู่ในออฟฟิศไม่ได้เลย เมื่ออีกฝ่ายปล่อยออร่าความสุข รุกสามเวลาขนาดนี้ ก็เรียกได้ว่าราบรื่นทีเดียวกับสำหรับคุโรซาวะกับอะดะจิ คืบหน้าไปจนกระทั่งถึงเดทแรกอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ
สำหรับอะดะจิที่ไม่ว่าเดท หรือ ความสัมพันธ์อย่างอื่นนอกจากเพื่อนร่วมงานล้วนเป็นสิ่งใหม่ ที่มาไกลจากเดิมแบบก้าวกระโดด แป๊บเดียวหลังจากได้สกิลอ่านใจมา หลายสิ่งก็พัฒนาจากหลังมือเป็นหน้ามือเลยทีเดียว อย่างวันนี้ที่ต้องมากะจุ๊กกะจิ๊กกับเรื่องเดท เอ จะใส่เสื้อผ้าอะไรดีนะ แต่เดทแรกก็ไม่ค่อยจะเป็นดังใจเมื่อสึเงะเข้ามาขอคำปรึกษา พร้อมกับคุโรซาวะที่หลุดโป๊ะไปนิดเมื่อเห็นภาพชวนสงสัยระหว่างสึเงะและอะดะจิ อ๊ะ แต่มันก็ไม่มีการเข้าใจผิดนะ ถึงไม่บอกดูก็รู้ว่าเป็นเพื่อนกัน
อะดะจิก็คล้ายกับว่าเห็นภาพซ้อนตัวเองกับสึเงะขึ้นมานั่นแหละ แล้วก็สมกับเป็นเพื่อนสนิท ที่มีคุโรซาวะมองอย่างเอ็นดู เมื่อเห็นผู้ชายวัย 30 เต็ม 2 คน ขดเป็นก้อนกลมหาทางแก้ไขปัญหาที่คุโรซาวะเองดูแล้วมองว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาตรงไหน แค่ไปดู "คน" ซ้อมเต้นที่สวนสาธารณะแค่นั้นเอง หากเป็นเมื่อก่อนก็คงโอดโอยกันอยู่แค่นี้ แต่ตอนนี้อะดะจิแหงนมองบุคคลที่ 3 ด้วยสายตาใสแจ๋ว เพื่อนคู่คิดโผล่ขึ้นมาแล้วหนึ่งคน
นอกจากจะแก้ปัญหาว่าให้ไปพร้อมกันหมดทั้ง 3 คนเป็นเพื่อนกันแล้ว ก็ยังไม่หงุดหงิดที่เดทที่วางแผนไว้ไม่เป็นอย่างใจ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าทำไมไม่โมโหโกรธาอะไร ก็สิ่งที่ทำให้คุโรซาวะรักอะดะจิก็เพราอะดะจิเป็นคนแบบนี้ไง เจ้าตัวอาจจะย้อนไปนึกถึงคืนนั้นเมื่อ 7 ปีที่แล้วในสวนสาธารณะ ที่น้องต่ายโผล่หน้ากับตาแป๋ว ๆ มานั่งปลอบตัวเองอยู่เป็นนานสองนาน ดังนั้นถ้าวันนี้อะดะจิจะมีเรื่องอยากให้ช่วยเหลือบ้างก็เต็มใจจะเป็นกำลังให้
ส่วนทางด้านอะดะจิเองก็ประทับใจอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย นอกจากจะช่วยเหลือแล้ว ก็ยังมีจิตใจที่หาทางลงให้อย่างเนียน ๆ ตอนนี้ตัวเองมีความกระอึกกระอักว่าจะแนะนำคุโรซาวะว่าในฐานะอะไรดี ถึงจะแน่ใจแล้ว แต่เรื่องนี้จะว่าเป็นเรื่องปกติเปิดเผยได้เลยมันก็ยังไม่เชิง การเคารพความเป็นส่วนตัว ไม่ทำให้หัวข้อนี้ชวนอึดอัดก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ชวนชุ่มชื่นหัวใจ
ซึ่งจะว่าไปถึงเดทจะไม่เป็นไปตามที่วางไว้ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไรนัก สิ่งละอันพันละน้อยที่ทำร่วมกันในวันนี้ ก็เป็นเรื่องราวดี ๆ พอ ๆ กับเดทที่วางแผนไว้ อาจจะมีความหมายมากกว่าด้วยละมั้ง ถ้าเกิดเป็นเดทมันก็คงจะแฟนซีตามที่คุโรซาวะแพลนไว้ แต่การมานั่งให้กำลังใจกัน แก้ปัญหาให้เพื่อน สิ่งนี้ก็น่าจะเพิ่มความมั่นใจจากสิ่งที่คิดไว้อยู่แล้วว่าน่าจะไปกันได้
คุโรซาวะเองหลงรักอะดะจิ ก็เพราะว่า ในเวลาที่คนอื่นมองข้ามความพยายาม แต่ไปชื่นชมที่หน้าตา อะดะจิกลับมองเห็นคุณค่าของมัน อะดะจิเองไม่มั่นใจในสิ่งที่ทำเอาเสียเลย รู้สึกว่ามันเล็กน้อยจัง แต่คุโรซาวะกลับบอกว่ามันดีงาม และ น่าชื่นชมแค่ไหน เมื่อมาถึงเรื่องในวันนี้การที่อะดะจิจะช่วยสึเงะจึงไม่เป็นที่น่ารำคาญของคุโรซาวะ และ การที่คุโรซาวะยื่นมือมาช่วยเหลือสึเงะและอะดะจิที่นั่งจุมปุ๊กอย่างง่าย ๆ สบาย ๆ ก็เป็นการชี้ทางให้อะดะจิมั่นใจล่ะ ว่าที่ทำน่ะดีแล้ว เหมาะแล้ว และ คุโรซาวะจะอยู่ตรงนี้เพื่ออะดะจินะ คงเป็นเรื่องนี้ด้วยที่ทำให้อะดะจิเปิดเผยกับสึเงะ (ที่ก็น่าจะรู้อยู่แล้วเช่นกัน) ว่าคบหากับคุโรซาวะในฐานะอะไร พร้อมกับให้กำลังสึเงะเปิดเผย และ ให้กำลังใจมินาโตะให้ก้าวตามฝันอีกครั้ง
ถึงจะเปิดใจต่อกันแล้ว คุโรซาวะแม้จะคลั่งรักจนเพ้อเป็นกลอนขนาดไหนแต่ก็รู้จักรอคอย ปล่อยให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป อะดะจิถึงจะอ่านใจได้แต่ก็ไม่ได้อยากรู้ว่าทุกเวลานาทีคุโรซาวะคิดอะไร ถึงมีโอกาสจะทำแบบนั้นได้แต่ก็เว้นไว้ คบหากันอย่างจริงใจ เคารพ และ ให้เกียรติ ดังนั้นบทสรุปในที่นี้คงบอกได้ว่า อะดะจิ กับ คุโรซาวะ ดีพอ และ พอดี ซึ่งกันและกันเช่นนั้นเอง
ที่เอยที่รัก
ให้ตระหนักรู้อยู่คู่กับฉัน
เทวดาตัวน้อยเคียงข้างกัน
พาใจสั่นวูบไหวทุกนาที
เทวดาขี้อายหาใครเหมือน
ไม่ลบเลือนรอรักอยู่ที่นี่
จักถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงอย่างดี
ให้หัวใจภักดีตลอดกาล
- นิราศรถเมล์ของคุโรซาวะ แปลใหม่ by me วรินทร์รตา (ฮา)
Cherry Magic (กึ่งรีวิวตอนที่ 8) : Healthy Relationship
นั่นแหละ จริง ๆ อะดะจิก็น่าจะคุ้นชินกับท่าทีนั้นแล้ว ก็อ่านใจออกอยู่นี่ แต่พอมาถึงสถานการณ์จริงมันก็ไม่เหมือนกันอยู่ดี ถ้าจะแอ๊วเอินเช้าสายบ่ายเย็นขนาดนั้น มันก็ไม่ไหวเหมือนกัน หัวใจจะหลุดออกมากข้างนอกอยู่แล้ว ก็มันไม่ชิน มันไม่เคยมีใคร มันไม่เคยรักใคร มาก่อน แล้วพอเป็นครั้งแรกก็ดันเป็นตัวท็อปป็อบปูล่าห์ ยิ่งตอนนี้จู่โจมแบบไม่กระพริบตา ก่อนหน้านั้นก็เขินแล้ว ตอนนี้ยิ่งเขินกว่าทำใจให้ปกติเวลาอยู่ในออฟฟิศไม่ได้เลย เมื่ออีกฝ่ายปล่อยออร่าความสุข รุกสามเวลาขนาดนี้ ก็เรียกได้ว่าราบรื่นทีเดียวกับสำหรับคุโรซาวะกับอะดะจิ คืบหน้าไปจนกระทั่งถึงเดทแรกอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ
สำหรับอะดะจิที่ไม่ว่าเดท หรือ ความสัมพันธ์อย่างอื่นนอกจากเพื่อนร่วมงานล้วนเป็นสิ่งใหม่ ที่มาไกลจากเดิมแบบก้าวกระโดด แป๊บเดียวหลังจากได้สกิลอ่านใจมา หลายสิ่งก็พัฒนาจากหลังมือเป็นหน้ามือเลยทีเดียว อย่างวันนี้ที่ต้องมากะจุ๊กกะจิ๊กกับเรื่องเดท เอ จะใส่เสื้อผ้าอะไรดีนะ แต่เดทแรกก็ไม่ค่อยจะเป็นดังใจเมื่อสึเงะเข้ามาขอคำปรึกษา พร้อมกับคุโรซาวะที่หลุดโป๊ะไปนิดเมื่อเห็นภาพชวนสงสัยระหว่างสึเงะและอะดะจิ อ๊ะ แต่มันก็ไม่มีการเข้าใจผิดนะ ถึงไม่บอกดูก็รู้ว่าเป็นเพื่อนกัน
อะดะจิก็คล้ายกับว่าเห็นภาพซ้อนตัวเองกับสึเงะขึ้นมานั่นแหละ แล้วก็สมกับเป็นเพื่อนสนิท ที่มีคุโรซาวะมองอย่างเอ็นดู เมื่อเห็นผู้ชายวัย 30 เต็ม 2 คน ขดเป็นก้อนกลมหาทางแก้ไขปัญหาที่คุโรซาวะเองดูแล้วมองว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาตรงไหน แค่ไปดู "คน" ซ้อมเต้นที่สวนสาธารณะแค่นั้นเอง หากเป็นเมื่อก่อนก็คงโอดโอยกันอยู่แค่นี้ แต่ตอนนี้อะดะจิแหงนมองบุคคลที่ 3 ด้วยสายตาใสแจ๋ว เพื่อนคู่คิดโผล่ขึ้นมาแล้วหนึ่งคน
นอกจากจะแก้ปัญหาว่าให้ไปพร้อมกันหมดทั้ง 3 คนเป็นเพื่อนกันแล้ว ก็ยังไม่หงุดหงิดที่เดทที่วางแผนไว้ไม่เป็นอย่างใจ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าทำไมไม่โมโหโกรธาอะไร ก็สิ่งที่ทำให้คุโรซาวะรักอะดะจิก็เพราอะดะจิเป็นคนแบบนี้ไง เจ้าตัวอาจจะย้อนไปนึกถึงคืนนั้นเมื่อ 7 ปีที่แล้วในสวนสาธารณะ ที่น้องต่ายโผล่หน้ากับตาแป๋ว ๆ มานั่งปลอบตัวเองอยู่เป็นนานสองนาน ดังนั้นถ้าวันนี้อะดะจิจะมีเรื่องอยากให้ช่วยเหลือบ้างก็เต็มใจจะเป็นกำลังให้
ส่วนทางด้านอะดะจิเองก็ประทับใจอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย นอกจากจะช่วยเหลือแล้ว ก็ยังมีจิตใจที่หาทางลงให้อย่างเนียน ๆ ตอนนี้ตัวเองมีความกระอึกกระอักว่าจะแนะนำคุโรซาวะว่าในฐานะอะไรดี ถึงจะแน่ใจแล้ว แต่เรื่องนี้จะว่าเป็นเรื่องปกติเปิดเผยได้เลยมันก็ยังไม่เชิง การเคารพความเป็นส่วนตัว ไม่ทำให้หัวข้อนี้ชวนอึดอัดก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ชวนชุ่มชื่นหัวใจ
ซึ่งจะว่าไปถึงเดทจะไม่เป็นไปตามที่วางไว้ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไรนัก สิ่งละอันพันละน้อยที่ทำร่วมกันในวันนี้ ก็เป็นเรื่องราวดี ๆ พอ ๆ กับเดทที่วางแผนไว้ อาจจะมีความหมายมากกว่าด้วยละมั้ง ถ้าเกิดเป็นเดทมันก็คงจะแฟนซีตามที่คุโรซาวะแพลนไว้ แต่การมานั่งให้กำลังใจกัน แก้ปัญหาให้เพื่อน สิ่งนี้ก็น่าจะเพิ่มความมั่นใจจากสิ่งที่คิดไว้อยู่แล้วว่าน่าจะไปกันได้
คุโรซาวะเองหลงรักอะดะจิ ก็เพราะว่า ในเวลาที่คนอื่นมองข้ามความพยายาม แต่ไปชื่นชมที่หน้าตา อะดะจิกลับมองเห็นคุณค่าของมัน อะดะจิเองไม่มั่นใจในสิ่งที่ทำเอาเสียเลย รู้สึกว่ามันเล็กน้อยจัง แต่คุโรซาวะกลับบอกว่ามันดีงาม และ น่าชื่นชมแค่ไหน เมื่อมาถึงเรื่องในวันนี้การที่อะดะจิจะช่วยสึเงะจึงไม่เป็นที่น่ารำคาญของคุโรซาวะ และ การที่คุโรซาวะยื่นมือมาช่วยเหลือสึเงะและอะดะจิที่นั่งจุมปุ๊กอย่างง่าย ๆ สบาย ๆ ก็เป็นการชี้ทางให้อะดะจิมั่นใจล่ะ ว่าที่ทำน่ะดีแล้ว เหมาะแล้ว และ คุโรซาวะจะอยู่ตรงนี้เพื่ออะดะจินะ คงเป็นเรื่องนี้ด้วยที่ทำให้อะดะจิเปิดเผยกับสึเงะ (ที่ก็น่าจะรู้อยู่แล้วเช่นกัน) ว่าคบหากับคุโรซาวะในฐานะอะไร พร้อมกับให้กำลังสึเงะเปิดเผย และ ให้กำลังใจมินาโตะให้ก้าวตามฝันอีกครั้ง
ถึงจะเปิดใจต่อกันแล้ว คุโรซาวะแม้จะคลั่งรักจนเพ้อเป็นกลอนขนาดไหนแต่ก็รู้จักรอคอย ปล่อยให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป อะดะจิถึงจะอ่านใจได้แต่ก็ไม่ได้อยากรู้ว่าทุกเวลานาทีคุโรซาวะคิดอะไร ถึงมีโอกาสจะทำแบบนั้นได้แต่ก็เว้นไว้ คบหากันอย่างจริงใจ เคารพ และ ให้เกียรติ ดังนั้นบทสรุปในที่นี้คงบอกได้ว่า อะดะจิ กับ คุโรซาวะ ดีพอ และ พอดี ซึ่งกันและกันเช่นนั้นเอง