Cherry Magic (กึ่งรีวิวตอนที่ 6) : เงา

ฝันที่เป็นมากกว่าฝัน
แต่ฝันก็คือฝัน ไม่ใช่ความจริง

โอกาสที่ได้อยู่ใกล้ชิดอะดะจิทำให้คุโรซาวะรู้สึกว่าฝันอยู่มากกว่าตื่น 7 ปีผ่านไปกับความลับในใจที่วันนี้ได้ลงมือทำจริงซักที ในที่สุดก็ได้ใกล้ชิดกัน และ มันก็ไม่ได้ผิดกับที่คิดไว้ซักเท่าไหร่ มันทั้งอ่อนหวาน อบอุ่น ความน่ารักของอะดะจิไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย มีแต่เขาเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไป จากปลายเตียงของคน ๆ นั้น สู่เพื่อนร่วมห้อง ใครเลยจะคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ 

แต่ความสุขที่เพิ่งรู้สึกกลับตามมาด้วยความขื่นขมเสียนี่ ใช่ .... ทุกอย่างของเจ้ากระต่ายน้อยขนสีขาวนุ่มฟู ทำให้คุโรซาวะชื่นอกชื่นใจเสียเต็มประดา แววตาเป็นประกาย เสียงหัวเราะ บทสนทนาลื่นไหล และ การกินของที่เขาบรรจงทำให้อย่างเอร็ดอร่อย ทำให้เขาล่องลอยจนเท้าไม่ติดพื้นเชียวล่ะ มันก็ตรงใช่ไหม ตรงกับความคิดในตอนแรก ได้แค่นี้ก็พอแล้ว ได้ดูแล ช่วยเหลือ ใส่ใจ เท่าที่จะสามารถทำได้ มองดูเขามีความสุข แค่นี้ก็พอ

จริงหรือ ? เวลาผ่านไป โอกาสแห่งการชิดใกล้ผ่านเข้ามาอย่างไม่คาดฝัน จากจุดนั้นสิ่งที่คิดว่าเพียงพอกลับไม่เพียงพอ เมื่อคุณฟุจิซากิเข้ามาใกล้ชิดเขาก็นึกหวงขึ้นมา เมื่อรคคาคุเข้ามาขัดจังหวะ เขาก็รู้สึกคับข้องในใจ ขั้นแรกเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่า เอาล่ะ ต่อไป คงจะต้องใจกว้างมากกว่านี้ แต่แล้วในช่วงเย็น เมื่อค้างคืนด้วยกันพร้อมรคคาคุ

ฝันที่มากกว่าฝันก็พุ่งชนคุโรซาวะให้ฟื้นตื่น เรากำลังทำอะไรกันอยู่กันแน่ ระหว่างเขากับอะดะจิมันก็เป็นแค่ฝัน ฝันที่ตอนนี้คุโรซาวะอยากให้มันเป็นจริง ความสุขของอะดะจิก็เป็นความสุขของเขา ร้อนหนาวของอะดะจิย่อมเป็นร้อนหนาวของเขา ความสุขความเศร้า หรือ แม้แต่กระทั่งว่าอะดะจิจะมองตัวเองอย่างไรล้วนเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเขา 

แล้วควรทำอย่างไรเล่า เมื่อสิ่งที่ต้องการมันมากกว่าการเฝ้ามองห่าง ๆ เสียแล้ว สิ่งที่เขาทำอยู่ไม่ได้ต่างอะไรกับการไล่คว้าเงา เห็น รู้สึก สัมผัส จับต้อง ได้ แต่ไม่อาจเป็นเจ้าของ ไล่ตามไขว่คว้าเพียงใดก็ไม่มีทางที่จะได้มา ประตูมันปิดตายตั้งแต่เริ่มแล้ว เขากำลังอยู่ในวงวนที่สุดท้ายจะเป็นการทำลายตัวเองอย่างช้า ๆ และ อีกไม่นานมันก็คงทำลายอะดะจิลงไปด้วยเช่นกัน

ก็เหมือนกินยาขมที่เคลือบน้ำตาล ดื่มกินเข้าไปมันก็หวานแต่ความขมหลังจากนั้นจะนานเท่าใดก็สุดรู้ สิ่งที่คุโรซาวะรู้เห็นก็มีเพียงเท่านี้ ฝันที่มากกว่าฝัน แต่ฝันก็คือฝัน ไม่มีทางจะกลายเป็นจริงขึ้นมาได้ ที่เขาเป็นอยู่มันก็เป็นเพียงการเลี้ยงไข้ตัวเองเท่านั้น คืนหนึ่งคืนนั้นที่รู้สึกตัวเองขึ้นมานำมาสู่การตัดสินใจ เขาควรจะเลิกไล่ตาม "เงา" เสียที

เสียใจตอนนี้ ย่อมดีกว่ายอมกลายเป็นคนป่วยไข้ไม่มีวันหาย จะถอยกลับไปก็ไม่ได้ แต่จะเดินต่อไปก็รู้ว่าไม่มีวันถึง ไม่มีทางที่เขาจะกลับไปเป็นคุโรซาวะคนเดิมที่คอยเฝ้าดูแลอะดะจิอย่างเงียบ ๆ ได้อีก แต่ก็ไม่เห็นหนทางว่าการเดินหน้าต่อไปจะลงเอยความสุขสมหวัง ดังนั้นคุโรซาวะจึงไม่ทำทั้งการถอยหลังกลับ และ ไม่เดินต่อไป สิ่งที่เขาทำคือหนทางสายใหม่ เลือกที่จะเดินออกมา

หากการออกมาเฉย ๆ ก็คงเหมือนคนขี้ขลาดสินะ ดังนั้นก็ต้องบอกออกไปเสียให้หมดใจ รักนายนะ ฉันรักนาย  ไม่เพียงแต่เป็นการบอกความในใจ แต่เป็นการตัดตอนให้ทุกอย่างเร็วขึ้น อะดะจิก็เป็นผู้ชายนี่นะ เพียงเท่านี้ทุกอย่างก็เป็นอันจบกัน ถ้าเขารู้อย่างนี้ เขาก็คงหลีกหนีเราไปได้เอง การบอกรักครั้งแรกกลายเป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย ที่ทำให้เจ้ากระต่ายน้อยตกตื่นใจเป็นอันมาก

เมื่อฝ่ายหนึ่งเลือกแล้วที่จะถอย แล้วฝ่ายที่กำลังเปลี่ยนแปลงล่ะ ควรจะต้องทำอย่างไร อะดะจิเริ่มเคยชินกับการดูแลเอาอกเอาใจของคุโรซาวะบ้างแล้ว การที่ถูกใครซักคนหึงหวงมันก็อบอุ่นใจดี "น่ารัก" คำ ๆ นี้ผุดขึ้นในใจอะดะจิพร้อมรอยยิ้มหวาน เจ้ากระต่ายสีขาวนุ่มฟูโยกตัวน้อย ๆ ด้วยความพึงใจเมื่อเห็นอาหารจานโปรดวางอยู่ตรงหน้า แล้วจู่ ๆ คนที่ทำให้หัวใจหวั่นไหวจะมาถอนตัวกันแบบนี้ไม่ให้อึ้งได้ยังไงไหว

ฝ่ายหนึ่งที่เพิ่งบอกรัก กับ ฝ่ายหนึ่งที่เพิ่งถูกบอกรัก หนึ่งถ้อยคำกับล้านความรู้สึกที่อยู่ภายใน เพราะฉันเพิ่งบอกรักไป และ เขาก็รับฟังทุกอย่างทุกถ้อยคำ ดังความฝัน แต่ฉันเองก็ไม่อาจ ... แน่ใจ ว่าพรุ่งนี้ เรื่องของเราจะสุข หรือ แสนเศร้า แล้วเรื่องราวเหล่านี้คุโรซาวะ อะดะจิ จะค้นหาคำตอบจากผู้ใด 

เงาจะยังคงเป็นเพียงเงา
หรือ เงาจะแปรเปลี่ยนมาเป็นความจริง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่