ก็นะ
เอาเป็นว่าวันนี้ขอลงอีกสัปดาห์นึงก็แล้วกันนะครับ สัปดาห์ถ้าเกิดเจ้าประจำไม่ได้เอามาลง จะขอลงช่วงระหว่างวันอังคารตอนดึกถึงวันพุธ ในรอบนี้ผมจะขอแบ่งออกเป็น 2 ช่องเนื่องจากสปอยล์คำพูดของตัวละครมากเป็นพิเศษ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ การประลองด้วยการต่อสู้ตัวแทน 3 ต่อ 3 ระหว่างโทโตะกับเซโตะ ในการต่อสู้รอบแรกนั้นคาเมนไรเดอร์กรีส(ซาวาตาริ คาซึมิ)ที่เข้าต่อสู้ในฐานะตัวแทนของโทโตะ สามารถเอาชนะเอนจิ้นบรอส(วาชิโอะ ไร)ตัวแทนของเซโตะ ต่อมาเขาได้รับการติดต่อจากทาคิคาวะ ซาวะให้ไปทำธุระที่อาคารแห่งหนึ่ง
แต่ในการต่อสู้รอบที่สองนั้น คาเมนไรเดอร์ครอสชาร์จ(บันโจ ริวกะ) พ่ายแพ้ให้กับเฮลบรอส(วาชิโอะ ฟู)ตัวแทนของเซโตะ เพราะความใจอ่อนของเขา
และในรอบที่สามคาเมนไรเดอร์บิลด์(คิริว เซ็นโตะ)ตัวแทนของโทโตะ สู้กับ คาเมนไรเดอร์โร๊ก(ฮิมุโระ เก็นโตคุ) ตัวแทนของเซโตะ ไรเดอร์บิลด์ได้ใช้ฮาซาร์ดทริกเกอร์ควบคู่กับสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ [ฟูลฟูล แรบบิทแทงค์ บอทเทิล] และกลายร่างเป็น แรบบิทแรบบิทฟอร์มจนเป็นฝ่ายได้เปรียบแต่ก็ยังไม่สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้ ยังคงดำเนินการต่อสู้ต่อไปแม้ว่าจะเป็นด้านนอกสนามประลอง
ขณะเดียวกันข้อมูลของฟูลฟูล แรบบิทแทงค์ บอทเทิลที่ซาวะ เอาไปให้กับกลุ่มนัมบะนั้นก็ได้อินพุตข้อมูลให้กับคาเมนไรเดอร์โร๊ก
ตอนที่ 28 อัจฉริยะผู้มากับรถถัง
ด้วยข้อมูลของเลขาอุสึมิในการรับมือกับร่างแรบบิทแรบบิทฟอร์มนั้นจึงส่งไดมอนด์ฟูลบอทเทิลไปให้ ซึ่งก่อนหน้าไดมอนด์ฟูลบอทเทิลเคยเป็นของที่ถูกชิงไปโดยโฮคุโตะแต่ภายหลังจากนั้นโดนยึดพื้นที่โดยเซโตะก็เลยยึดฟูลบอทเทิลทั้งหมดไปด้วย
ไรเดอร์โร๊กนั้นสามารถป้องกันการโจมตีของร่างแรบบิทแรบบิทฟอร์มและสวนกลับไปทำให้ไรเดอร์โร๊กกลับมาเป็นฝั่งที่ได้เปรียบอีกครั้ง แม้จะลองใช้ความเร็วเข้าต่อสู้แต่ก็ถูกอ่านการเคลื่อนไหวออกหมด
บันโจกับมิโซระที่ลงมาดูการต่อสู้นั้นก็ถึงกับงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซาวะที่อยู่ใกล้ๆเลยบอกความจริงไปว่าเธอเป็นคนให้ข้อมูลของบิลด์ไปให้กับอีกฝั่งตามคำสั่งของกลุ่มนัมบะ และในส่วนของเครื่องดักฟังที่ใส่ไว้ในฟูลบอลเทิลของบันโจในตอนที่ 26 นั้นก็เป็นฝีมือคนใกล้ชิดนายกที่ชื่อมาสึซาวะซึ่งก็เป็นสปายของนัมบะเหมือนกัน (เกิดขึ้นในตอนที่ 21 เซ็นโตะเกิดอาการช็อกหลังจากฆ่าอาโอบะ จึงทำให้เขาเอาฟูลบอทเทิลทั้งหมดไปให้กับรัฐบาล)
มิโซระไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งๆที่ซาวะน่าจะเลิกเป็นสายลับหลังจากถูกเขาตัดหางทิ้งไปแล้วแต่ทำไมถึงยังกลับมาทำงานนี้ให้อีก ซาวะอธิบายว่าที่ทำไปก็เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของนาเบชิมะเพราะถูกกลุ่มนัมบะจับตัวไป เพื่อไว้ชีวิตครอบครัวนาเบชิมะจึงต้องเอาข้อมูลไอเท็มเพิ่มความแข็งแกร่งของบิลด์มา (เพราะว่าสำหรับเธอแล้วตั้งแต่มาอยู่กับพวกเซ็นโตะก็รู้สึกเป็นเหมือนครอบครัวของเธอจริงๆมากกว่ากลุ่มนัมบะ และแน่นอนว่าเซ็นโตะก็ซาวะเป็นพวกพ้องคนสำคัญ)
ตัดกลับมาที่การต่อสู้ของไรเดอร์ทั้งสอง โร๊กนั้นบอกว่าหากจัดการกับบิลด์ได้จะได้ความแข็งแกร่งที่มากกว่านี้มาครองเพื่อให้ประเทศนี้แข็งแกร่งขึ้น (ไม่รู้ว่าพูดถึงญี่ปุ่นหรือโทโตะกันแน่)
ฉันเคยไร้ประสบการณ์ในทุกอย่าง
ฉันมีชีวิตอยู่อย่างทะเยอทะยาน
แต่ว่าตัวคนเดียวก็เป็นแค่ขยะที่ไม่สามารถทำอะไรได้
เพราะอย่างนั้นฉัน...
จะทิ้งตัวฉันที่มีแต่ความทะนงตัวสูง
จะทิ้งตัวฉันที่หยิ่งยะโสมาก
ฉันได้เกิดใหม่โดยโดยทิ้งทุกอย่างนั้นไปหมดแล้ว
ฉันจะไขว่คว้าพลังที่จะทำให้เปลี่ยนแปลงประเทศนี้ด้วยมือของตัวฉันให้ดู
ไอ้ความรักและความสงบสุขที่แกพูดถึงน่ะ มันก็เป็นเพียงแค่ภาพลวงตา
การที่ไม่สามารถสร้างประเทศได้ด้วยอุดมคตินั้น
ด้วยความแข็งแกร่งของฉัน ฉันจะสั่งสอนให้เอง
การต่อสู้นั้นกินเวลาเป็นอย่างมากจากมืดค่ำจนมาถึงพระอาทิตย์ขึ้น ในที่สุดบิลด์ก็เป็นฝ่ายล้มลง
อีกด้านคาซึมินั้นติดต่อกับซาวะและบอกว่าสามารถช่วยครอบครัวของนาเบชิมะได้สำเร็จแล้ว ซาวะจึงส่งสัญญาณให้บิลด์ได้รู้ว่าสำเร็จแล้ว บิลด์จึงตัดสินใจใช้ร่างใหม่แทงค์แทงค์ฟอร์ม เพราะว่าไม่ข้อมูลของร่างนี้ทำให้โร๊กไม่สามารถอ่านการเคลื่อนไหวออก
{Kamen Rider Build} มาคุยกันหลังดูตอนที่ 28 อัจฉริยะผู้มากับรถถัง
เอาเป็นว่าวันนี้ขอลงอีกสัปดาห์นึงก็แล้วกันนะครับ สัปดาห์ถ้าเกิดเจ้าประจำไม่ได้เอามาลง จะขอลงช่วงระหว่างวันอังคารตอนดึกถึงวันพุธ ในรอบนี้ผมจะขอแบ่งออกเป็น 2 ช่องเนื่องจากสปอยล์คำพูดของตัวละครมากเป็นพิเศษ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ด้วยข้อมูลของเลขาอุสึมิในการรับมือกับร่างแรบบิทแรบบิทฟอร์มนั้นจึงส่งไดมอนด์ฟูลบอทเทิลไปให้ ซึ่งก่อนหน้าไดมอนด์ฟูลบอทเทิลเคยเป็นของที่ถูกชิงไปโดยโฮคุโตะแต่ภายหลังจากนั้นโดนยึดพื้นที่โดยเซโตะก็เลยยึดฟูลบอทเทิลทั้งหมดไปด้วย
ไรเดอร์โร๊กนั้นสามารถป้องกันการโจมตีของร่างแรบบิทแรบบิทฟอร์มและสวนกลับไปทำให้ไรเดอร์โร๊กกลับมาเป็นฝั่งที่ได้เปรียบอีกครั้ง แม้จะลองใช้ความเร็วเข้าต่อสู้แต่ก็ถูกอ่านการเคลื่อนไหวออกหมด
บันโจกับมิโซระที่ลงมาดูการต่อสู้นั้นก็ถึงกับงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซาวะที่อยู่ใกล้ๆเลยบอกความจริงไปว่าเธอเป็นคนให้ข้อมูลของบิลด์ไปให้กับอีกฝั่งตามคำสั่งของกลุ่มนัมบะ และในส่วนของเครื่องดักฟังที่ใส่ไว้ในฟูลบอลเทิลของบันโจในตอนที่ 26 นั้นก็เป็นฝีมือคนใกล้ชิดนายกที่ชื่อมาสึซาวะซึ่งก็เป็นสปายของนัมบะเหมือนกัน (เกิดขึ้นในตอนที่ 21 เซ็นโตะเกิดอาการช็อกหลังจากฆ่าอาโอบะ จึงทำให้เขาเอาฟูลบอทเทิลทั้งหมดไปให้กับรัฐบาล)
มิโซระไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งๆที่ซาวะน่าจะเลิกเป็นสายลับหลังจากถูกเขาตัดหางทิ้งไปแล้วแต่ทำไมถึงยังกลับมาทำงานนี้ให้อีก ซาวะอธิบายว่าที่ทำไปก็เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของนาเบชิมะเพราะถูกกลุ่มนัมบะจับตัวไป เพื่อไว้ชีวิตครอบครัวนาเบชิมะจึงต้องเอาข้อมูลไอเท็มเพิ่มความแข็งแกร่งของบิลด์มา (เพราะว่าสำหรับเธอแล้วตั้งแต่มาอยู่กับพวกเซ็นโตะก็รู้สึกเป็นเหมือนครอบครัวของเธอจริงๆมากกว่ากลุ่มนัมบะ และแน่นอนว่าเซ็นโตะก็ซาวะเป็นพวกพ้องคนสำคัญ)
ตัดกลับมาที่การต่อสู้ของไรเดอร์ทั้งสอง โร๊กนั้นบอกว่าหากจัดการกับบิลด์ได้จะได้ความแข็งแกร่งที่มากกว่านี้มาครองเพื่อให้ประเทศนี้แข็งแกร่งขึ้น (ไม่รู้ว่าพูดถึงญี่ปุ่นหรือโทโตะกันแน่)
ฉันมีชีวิตอยู่อย่างทะเยอทะยาน
แต่ว่าตัวคนเดียวก็เป็นแค่ขยะที่ไม่สามารถทำอะไรได้
เพราะอย่างนั้นฉัน...
จะทิ้งตัวฉันที่มีแต่ความทะนงตัวสูง
จะทิ้งตัวฉันที่หยิ่งยะโสมาก
ฉันได้เกิดใหม่โดยโดยทิ้งทุกอย่างนั้นไปหมดแล้ว
ฉันจะไขว่คว้าพลังที่จะทำให้เปลี่ยนแปลงประเทศนี้ด้วยมือของตัวฉันให้ดู
การที่ไม่สามารถสร้างประเทศได้ด้วยอุดมคตินั้น
ด้วยความแข็งแกร่งของฉัน ฉันจะสั่งสอนให้เอง
การต่อสู้นั้นกินเวลาเป็นอย่างมากจากมืดค่ำจนมาถึงพระอาทิตย์ขึ้น ในที่สุดบิลด์ก็เป็นฝ่ายล้มลง
อีกด้านคาซึมินั้นติดต่อกับซาวะและบอกว่าสามารถช่วยครอบครัวของนาเบชิมะได้สำเร็จแล้ว ซาวะจึงส่งสัญญาณให้บิลด์ได้รู้ว่าสำเร็จแล้ว บิลด์จึงตัดสินใจใช้ร่างใหม่แทงค์แทงค์ฟอร์ม เพราะว่าไม่ข้อมูลของร่างนี้ทำให้โร๊กไม่สามารถอ่านการเคลื่อนไหวออก