1กลุ่มเกษตรและอาหาร พวกนี้โตมากับยุคทุนนิยมที่มีประชากรเป็นตัวหลักขับเคลื่อนทั้งในแง่ผู้บริโภคและแรงงาน แต่เมื่อแทคโนโลยีมันดิสรัปในหลายภาคการผลิตทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ รถยนต์ ธนาคาร.....อีกหลายธนาคารที่เปลี่ยนแฟคเตอร์การผลิตจากใชแรงงานเข้มข้นlabour intensiveไปเป็นเครื่องจักรเข้มข้น พอประชากรตกงานมากขึ้น อุตสหกรรมเพาะปลูก เกษตร ประมง จากที่เคยผลิตเพื่อการค้า ก็ต้องถุกลดขนาดๆลงเพราะดีมานด์ผู้บริโภคลดตามเนื่องจากไม่มีแรงซื้อ คนที่ตกงานเหล่านั้นจากเดิมเคยซื้อกินสามมื้อก็ต้องหันไปหาแปลงเพาะปลูกเพื่อยังชีพ ทำให้อุตสากรรมเกษตรอาหารเพื่อการพาณิชย์ก็ต้องลดขนาดลงเรื่อยๆไปโดยปริยาย แม้แต่ชาวนาชาวไร่ชาวประมง ที่เคยผลิดเพื่อค้าขายก็จะไม่ซื้อยาปุ๋ยเร่งโตอีกแล้วเพราะตลาดเล็กลงเรื่อยๆราคาตกลงเรื่อยๆก็เหลือแค่ปลูกเพื่อกินใช้ปุ๋ยธรรมชาติตามมีตามเกิด
2.กลุ่มโรงแรม ก็แน่นอนละ รายได้ของคนกลายเป็นรายได้ของเครื่องจักร (รายได้ของคนที่ทำงานดูแลทังซอฟแวร์ ฮาร์ดแวร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นนิดเดียวเมื่อเทียบกับส่วนที่ลดลงจากการเลิกจ้างแรงงานที่เป็นองค์ประกอบหลักของกระวนการผลิตจำนวนมาก) เมื่อคนจากเดิมมีเงินท่องเที่ยวพอเลิกจ้างก็ไม่มีรายได้ ก็ต้องประหยัด หลบอยู่ตามพื้นที่เพาะปลูก การท่องเที่ยวในระดับคนชั้นล่างที่เคยเที่ยวกันก้หายไป คงเหลือไว้แต่โรงแรมหรูรีสอร์ทหรูหรือระดับHI-EN ที่คนที่ยังมีกำลังจ่าย(บางคนมีมากขึ้น) ก็ยังเที่ยวได้ต่อแถมยังไได้เที่ยวในธรรมชาติที่ดีด้วยเพราะการท่องเที่ยวโดยรวมมันลดลง
3.สายการบิน อันนี้ก็ร่อแร่มานานแล้วร้อยละ90%ของโลกเมื่อการเดินทางมันลด สายการบินก็ต้องปิดตัวหรือปรับลดไปโดยปริยาย โดยเฉพาะโลว์คอส จะเหลือแต่สายการบินหรูหรือระดับบนๆ ให้กับกลุ่มคนที่ทำงานร่วมกับพวกAI เครื่องจักร ในยุคดิสรัป
4.กลุ่มเสื้อผ้าเครื่องประดับ ของใช้ มีผลในทางลบเหมือนกันแต่ไม่หนักเท่าอุตสาหรรมอาหารและเกษตรเพราะ ของใช้ เสื้อผ้า ของอุปโภคบางชนิดต้องซื้อเช่น สบู่ เสื้อผ้า ยาสระผม เพราะคนไม่สามารถผลิตเพื่อใช้เองได้เหมือนอาหารที่สามารถปลูก จับเองได้
5.กลุ่มอสังหา อันนี้น่าจะเรียกระเบิดลง ที่ดินจากเมื่อก่อนราคาโตเอาๆ เพราะต่างแย่งจับของเพื่อธุรกิจการค้า พาณิชย์ ก็หมดความหมาย เพราะคนต้องการที่ดินเพียงเพื่อเอาไว้เพาะปลูกหาเลี้ยงชีพไปวันๆ ดีมานด์ต่ำลงๆๆเรื่อย อาจจะเหลือแปลงทำเลทองหรือ ที่ดินในเมืองที่มีการผลิตจ้างงานคนอยู่เท่านั้น
หุ้นในระย10-15ปีหน้ามีหมวดไหนจะลงจนมีแนวโน้มเลิกกิจการบ้างครับ
2.กลุ่มโรงแรม ก็แน่นอนละ รายได้ของคนกลายเป็นรายได้ของเครื่องจักร (รายได้ของคนที่ทำงานดูแลทังซอฟแวร์ ฮาร์ดแวร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นนิดเดียวเมื่อเทียบกับส่วนที่ลดลงจากการเลิกจ้างแรงงานที่เป็นองค์ประกอบหลักของกระวนการผลิตจำนวนมาก) เมื่อคนจากเดิมมีเงินท่องเที่ยวพอเลิกจ้างก็ไม่มีรายได้ ก็ต้องประหยัด หลบอยู่ตามพื้นที่เพาะปลูก การท่องเที่ยวในระดับคนชั้นล่างที่เคยเที่ยวกันก้หายไป คงเหลือไว้แต่โรงแรมหรูรีสอร์ทหรูหรือระดับHI-EN ที่คนที่ยังมีกำลังจ่าย(บางคนมีมากขึ้น) ก็ยังเที่ยวได้ต่อแถมยังไได้เที่ยวในธรรมชาติที่ดีด้วยเพราะการท่องเที่ยวโดยรวมมันลดลง
3.สายการบิน อันนี้ก็ร่อแร่มานานแล้วร้อยละ90%ของโลกเมื่อการเดินทางมันลด สายการบินก็ต้องปิดตัวหรือปรับลดไปโดยปริยาย โดยเฉพาะโลว์คอส จะเหลือแต่สายการบินหรูหรือระดับบนๆ ให้กับกลุ่มคนที่ทำงานร่วมกับพวกAI เครื่องจักร ในยุคดิสรัป
4.กลุ่มเสื้อผ้าเครื่องประดับ ของใช้ มีผลในทางลบเหมือนกันแต่ไม่หนักเท่าอุตสาหรรมอาหารและเกษตรเพราะ ของใช้ เสื้อผ้า ของอุปโภคบางชนิดต้องซื้อเช่น สบู่ เสื้อผ้า ยาสระผม เพราะคนไม่สามารถผลิตเพื่อใช้เองได้เหมือนอาหารที่สามารถปลูก จับเองได้
5.กลุ่มอสังหา อันนี้น่าจะเรียกระเบิดลง ที่ดินจากเมื่อก่อนราคาโตเอาๆ เพราะต่างแย่งจับของเพื่อธุรกิจการค้า พาณิชย์ ก็หมดความหมาย เพราะคนต้องการที่ดินเพียงเพื่อเอาไว้เพาะปลูกหาเลี้ยงชีพไปวันๆ ดีมานด์ต่ำลงๆๆเรื่อย อาจจะเหลือแปลงทำเลทองหรือ ที่ดินในเมืองที่มีการผลิตจ้างงานคนอยู่เท่านั้น