บ้านนอกเข้ากรุงอีกแล้ว มาใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกัน จองที่พักชื่อ Cacha Bed ใน Agoda ที่พักเป็นแบบ Hostel อยู่แถว MRT สามยอด คือ ออกจากสถานีมาก็เจอเลย เดินทางสะดวก ใกล้ที่กินที่เที่ยว คะแนนรีวิวก็ดี ราคาน่าเอ็นดู ที่พักดีค่ะ ห้องเราอยู่ชั้น 2 หมายเลข 23 เป็นเตียง 2 ชั้น มีห้องน้ำในตัว วิวสถานีสามยอดสวย ๆ มี rooftop พอนั่งชิลได้ แต่ไม่มีบริการเครื่องดื่มอะไรในช่วงที่เราไป 
ออกจากที่พักเรานัดเพื่อนที่สะพานพระปกเกล้าเดินจาก MRT สามยอดไปประมาณ 1 กม. ไปเดินเล่นสวนลอยฟ้าบนสะพานพระปกเกล้า สะพานแห่งนี้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมการเดินทางระหว่างฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี ส่วนตัวสวนลอยฟ้าเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อเดือนมิถุนายน 2563 สวนนี้เป็นการปรับปรุงโครงสร้างเดิมของรางรถไฟลาวาลินที่สร้างไม่เสร็จในปี 2527 เป็นสวนที่มีลิฟต์บริการ มีคุณพี่รักษาความปลอดภัยคอนเดินสอดส่องดูแล มีกำหนดเวลาเข้าออกสวนด้วยค่ะ เห็นว่าช่วงเย็นๆ วันเสาร์มีดนตรีมีแสดงบนสวนลอยฟ้าแห่งนี้ สวนนี้มีชื่อเต็ม ๆ ว่า "สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา"

เดินลงจากสะพานก็เดินไปวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนถึงวัดขอคาเฟอีนเข้าร่างก่อน จะได้เดินทน ๆ  กินกาแฟ หน้าวัดนั่นแหล่ะ เอาง่ายๆ เราสั่งขนมปังปิ้งด้วย ลองมาชิม เราว่าร้านนี้ทำอร่อยเลย ราคาไม่แพงด้วย
มาต่อที่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร วัดนี้ตั้งอยู่ใกล้กับเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้าฝั่งธนบุรี ก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ โดยสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์(ดิศ) ได้อุทิศสวนกาแฟ ณ ตำบลกุฎีจีน ซึ่งเป็นที่ดินที่ได้รับพระราชทานในการสร้างวัด เราเข้าชม พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธนาค มาวัดสิ่งสำคัญที่เรามักดูเป็นอันดับแรกคือหน้าบัน ที่วิหารนี้หน้าบันสลักลวดลายดอกไม้สวยสดงดงามและปิดทองประดับกระจก มีซุ้มประตูก็งดงามไม่แพ้กัน
พระวิหารนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธนาค ซึ่งพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย และเป็นพระพุทธรูปโบราณคู่กับพระศรีศากยมุนี พระประธานในพระวิหารวัดสุทัศนเทพวราราม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยเช่นเดียวกัน
พระพุทธนาค วัดประยุรฯ โดยทั่วไปมักเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระพุทธนาคน้อย และเรียกพระศรีศากยมุนี​ที่วัดสุทัศฯ ว่า พระพุทธนาคใหญ่ โดยพุทธศาสนิกชนชาวไทยและชาวจีน ให้ความเคารพบูชาในความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธนาคเป็นอย่างยิ่ง ด้วยได้รับสิ่งที่เป็น อัศจรรย์หลายประการ 
พระอุโบสถ เราเดินชมอยู่ด้านนอก เพราะด้านในมีการทำบุญกันอยู่ เราก็แอบเมียง ๆ มอง ๆ เดินไปพระเจดีย์ก่อนพอกลับมาพระอุโบสถก็ปิด มี่ชอบก็เป็นช่องหน้าต่างระหว่างประตูทางเข้าดูแปลกกว่าที่อื่น พระประธานในพระอุโบสถมีชื่อว่า "พระพุทธธรรมวิเชษฐศาสดา" โดยพระนามดังกล่าวในหลวงนัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานนามนี้ ในปี 2535
 
พระบรมธาตุมหาเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ตัวเจดีย์เป็นทรงกลมสัณฐานรูปโอคว่ำ มีเจดีย์เล็ก ๆ รายล้อม เจดีย์มีการบูรณปฎิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในปี 2549 ซึ่งได้ค้นพบพระบรมสารีริกธาตุและพระกรุจำนวนมากบนองค์พระเจดีย์ใหญ่ ในการบูรณะพระมหาเจดีย์นี้ทำให้ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2553 ประเภท " ปูชนียสถานและวัดวาอาราม " ด้านการอนุรักษ์งานมรดกศิลปสถาปัตยกรรม จากสมาคนสถาปนิกสยาม โดยเข้ารับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และในปี 2556 โครงการอนุรักษ์เจดีย์พระประธานของวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม อันดับ 1 หรือ Award of Excellence จากยูเนสโก ด้วยเหตุผลว่ามีการบูรณะที่สะท้อนความเข้าใจทางเทคนิค และเป็นโครงการอนุรักษ์ที่สร้างความตระหนักในคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมในชุมชนรอบข้าง ก่อนเข้าตัวพระเจดีย์มีพิพิธภัณฑ์การเดี่ยวกับการบูรณะในครั้งนั้น มีภาพถ่ายและโบราณวัตถุ แสดงพระกรุที่ค้นพบมากมาย พอเข้าไปในตัวพระเจดีย์ ก็จะเห็นถึงวิธีการอนุรักษ์ เรากราบไหว้เสร็จ ก็คลานออกทางเล็กๆ เสมือนเป็นการลอดใต้พระเจดีย์แห่งนี้