.
เสาร์อาทิตย์นี้บอสก็ไม่ได้ไปเล่นที่ไหนอีกเช่นเคย ส่วนมากไม่บ้านนินก็บ้านสองฝาแฝด เพราะขับมอเตอร์ไซค์ไม่เป็น และยังไม่มีอย่างเพื่อน ๆ ด้วย แม่ยังไม่ยอมซื้อให้เธอสักที เห็นว่าของพี่ ๆ ก็มีแล้ว ที่บ้านมีตั้งสองคัน แต่มันก็ไม่ใช่ของเธอ
ที่บ้านมีสองคันก็ล้วนเป็นของพี่สาวกับพี่ชายทั้งนั้น จึงทำให้เธอไม่ค่อยได้ไปไหนสักเท่าไหร่ในวันหยุด ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มารับ และไปกับพิมพ์แพรว บวกกับตนเองขับรถยังไม่เป็นด้วย ถึงรถพี่ ๆ ว่างเธอก็ไปไหนไม่ได้อยู่ดี
สาย ๆ ของวันเสาร์ทำงานบ้านเสร็จเรียบร้อย เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรทำ เธอจึงเดินไปบ้านสองฝาแฝด หวังว่าทั้งสองคงอยู่บ้าน อยู่ใกล้กันแค่นี้เธอไม่อยากโทรถามให้เปลืองตังค์ในโทรศัพท์ ตัดสินใจเดินไปดูง่ายกว่า
“ลุงวิทย์ ไอ้แฝดอยู่มั้ย” เมื่อเดินมาถึงเห็นลุงกำลังก้ม ๆ เงย ๆ ซ่อมรถไถนาอยู่ใต้ต้นมะม่วงข้างบ้าน
“อยู่ในบ้านจะพากันไปไหน” ลุงถามทว่าเธอไม่ได้ตอบกลับ เมื่อได้คำตอบที่ถูกใจแล้วก็เดินเข้าบ้านไปเลย เห็นพี่เจนอนดูทีวีในบ้าน และก็สองฝาแฝดด้วย
“เอ้าพี่เจอยู่บ้านด้วย! “ บอสแซวพี่ชายลูกพี่ลูกน้องกัน ห่างกันเกือบสิบปีได้กับพวกเธอสามคน พี่เจเป็นพี่ชายของสองแฝด “คือมา/ ทำไมมาได้”
“มาล่ะน้อบ้านอยู่นี่” พี่เจหันมาตอบเธอ แพรวกับพิมพ์หัวเราะพี่ชายที่โดนเธอแซว เพราะปกติไม่ค่อยกลับบ้านเท่าไหร่ ตั้งแต่เข้าเรียนมหาลัยจนจะจบอยู่แล้ว
สักพักเห็นผู้หญิงเดินออกมาจากในห้องน้ำ บอสพิจารณาดูแล้วแฟนพี่เจแน่นอน แต่ทำไมวันนี้ไม่ใช่คนนั้นนะ คนเมื่อสามสี่เดือนก่อนนู้น เธอได้แค่มองและสงสัยไม่กล้าถามออกไป กลัวพี่ชายดุ
“บอสพี่กุ้ง” ทันใดนั้นพี่เจก็แนะนำแฟนให้เธอรู้จัก
“วัสดีค่ะพี่กุ้ง” เธอยิ้มและยกมือสวัสดีตามมารยาท พี่กุ้งยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตรพร้อมรับไว้ ทว่าเธอรู้สึกอึดอัดชอบกล จึงเดินออกมานั่งเปลที่หน้าบ้าน เล่นไปพลาง ๆ คนเดียว ยังไม่คิดจะกลับบ้านตนเองในตอนนี้
ไม่นานแพรวก็เดินตามออกมาอีกคน ขึ้นมานั่งบนเปลกับเธอด้วย สัปดาห์นี้ว่างไม่มีใครมีการบ้านสักคน งานโรงเรียนก็ไม่มี ก็ได้แค่อยู่บ้านดูทีวีกันไป รอเปิดเรียนวันจันทร์
ถ้าไม่มีเธอสองฝาแฝดก็ไม่มีเพื่อนเล่น ยกเว้นจ๋อม เนื่องจากเพื่อนรุ่นเดียวกันแบ่งพรรคแบ่งพวกไปเสียแล้ว พวกเรียนโรงเรียนตำบลก็เล่นด้วยกัน พวกเรียนในเมืองก็เล่นด้วยกัน ติดตรงคนที่เรียนในเมืองแค่หกคน ชายสามหญิงสาม หญิงก็มีเพียงจ๋อมกับสองฝาแฝดเท่านั้นเอง
“แพรวกูอยากขับมอเตอร์ไซค์เป็น มืงหัดให้กูหน่อยได้มั้ย” แพรวเป็นคนแรกที่ขับรถมอเตอร์ไซค์เป็น แถมยังขับรถมอเตอร์ไซค์ครัชอีกด้วย จู่ ๆ บอสก็นึกอยากหัดขับรถขึ้นมา
จะให้พวกพี่ชายหัดให้ก็ไม่กล้า โดยเฉพาะพี่บอมหวงรถมาก แต่งหมดหลายบาท นึกว่าเศษเหล็ก และมันก็ไม่น่าขับด้วย ส่วนของพี่สาวสองคนเธอก็ไม่กล้าขอให้หัดให้
“แน่ใจ! หัดรถคันไหน มีโอกูเหรอ” แพรวไม่ปฏิเสธ ยอมหัดให้เธออย่างง่ายดาย
“ไม่อ่ะ กูกลัวทำรถมืงล้มถลอก หัดรถลุงวิทย์ เบลล์คันนั้น” บอสชี้ไปที่รถของลุงที่จอดอยู่ใกล้ ๆ ตน เธอเลือกเป็นรถยามาฮ่าเบลล์ รถคันเก่าดีกว่า จะได้สบายใจในการล้ม
“รถพ่อกูมันมีครัชนะมืง แต่ก็ขับไม่ยากหรอก กูก็หัดรถคันนี้” แพรวพูดอย่างภาคภูมิใจ ว่าตนก็ขับรถเป็นจากคันนี้ โดยมีพี่เจสอนขับ ส่วนพิมพ์พึ่งขับเป็นเมื่อซื้อรถคันใหม่มานี่เอง เป็นเกียร์ออโต้
“อือ คันนี้แหละ” เธอมุ่งมั่นและตั้งใจมาก วันนี้ต้องขับรถมอเตอร์ไซค์เป็นแน่นอน “เดี๋ยวไปชวนอี่สวยก่อน” บอสหมายถึงพิมพ์ พร้อมลุกจากเปลเดินเข้าไปหยุดอยู่หน้าประตูบ้าน
“สวยไปหัดขับรถกะกูมั้ย อี่แพรวจะหัดให้กู” ส่งแค่เสียงเข้าไป ส่วนตัวยืนพิงขอบประตูอยู่
“ไปหัดที่ไหน” พิมพ์หันมาตอบ
“โรงเรียนน้อย” โรงเรียนน้อยที่เธอหมายถึงก็คือ โรงเรียนประถมศึกษานั่นเอง
“ไป ๆ คันไหนอ่ะ มีโอเหรอ”
“ไม่ใช่ รถอี่เบลล์ของพ่อมืง ไปก็ลุกดิ!”
จากนั้นพิมพ์ก็ลุกจากหน้าทีวีเดินออกมาหาพวกเธอ แพรวเป็นคนเข็นรถออกมาสตาร์ท “พ่อแพรวไปหาอี่จ๋อมแป๊บนะ ลืมว่าหนังสือการบ้านอยู่กับมัน”
แพรวบอกลุงวิทย์ก่อนจะไป โกหกนิดหน่อยถ้าพูดตรง ๆ กลัวลุงวิทย์จะบ่น พาลไม่ให้ยืมรถไปหัดเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย
“รีบไปรีบกลับล่ะ แล้วทำไมไม่เอาไอ้ดำไป” ลุงวิทย์หมายถึงรถยามาฮ่ามีโอของลูกสาว
“ไม่อ่ะ เปลืองน้ำมันแพรว” แพรวตอบคนเป็นพ่อ ส่วนเธอกับพิมพ์มองหน้ากันพร้อมอมยิ้ม ที่หลอกลุงวิทย์ได้
และแล้วพวกเธอก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ซ้อนสามไปที่โรงเรียนประถม ภายในโรงเรียนจะมีถนนรอบสนามฟุตบอล พอใช้เป็นสนามหัดขับรถได้
มาถึงพิมพ์ขอนั่งดูพวกเธอสองคนที่โต๊ะม้าหินอ่อน ภายในโรงเรียนเงียบสงบร่มรื่น ไม่มีใครมารบกวนจิตใจของเธอ เปล่า! เธอจะบอกว่าเธอจะได้ไม่อายในการหัดขับ ถ้าเกิดมันล้มขึ้นมามากกว่า
“ขั้นตอนแรกมืงต้องหัดสตาร์ทก่อน ไหนลองยันขาสตาร์ทดิ ถ้าติดก็หัดได้” แพรวบอกขั้นตอนแรกที่เธอต้องทำ “สตาร์ทรถไม่ติดก็ไม่ต้องหัด”
ทันทีที่แพรวพูดจบบอสก็ขยับมานั่งด้านหน้า เตรียมสตาร์ทรถ ส่วนแพรวยืนดูอยู่ใกล้ ๆ เธอใช้เท้าเหยียบขาสตาร์ทหลาย ๆ รอบก็ไม่ติดสักที พิมพ์หัวร่อเธอคนเดียวอยู่โต๊ะม้าหิ่นอ่อนใต้ต้นเสี้ยว แพรวก็หัวเราะตามพร้อมหันไปหาน้องสาวฝาแฝดของตน
“อี่บอสสักแต่สตาร์ท มืงเปิดกุญแจรถหรือยัง ฮา” แพรวทั้งพูดทั้งขำ แม้แต่ตัวเอง บอสก็ขำตัวเอง มือไม้อ่อนปวกเปียก ไม่มีเรียวแรงจะสตาร์ทต่อไปอีกแล้ว เพราะตลกตัวเอง เพราะกำลังขำตัวเองตัวงออยู่ ที่สตาร์ทเอาเป็นเอาตายแต่ลืมเปิดกุญแจ หัวเราะจนเจ็บไส้เจ็บพุงน้ำตาเล็ดไปหมด
“อี่ห่าแพรวแกล้งกู กูสตาร์ทจนเหนื่อยอี่ปอบ ฮา” บอสทั้งพูดทั้งหัวร่อตัวเอง นึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ แพรวกับพิมพ์ก็อีกคน หัวเราะจนเหนื่อย
“แกล้งบ้านมืงสิ! อ่ะเอาใหม่ สตาร์ทใหม่” แพรวบิดลูกกุญแจ เปิดสวิตซ์รถให้เธอ หลังจากนั้นสตาร์ทครั้งสองครั้งเครื่องยนต์ก็ติด แพรวก็ปิดและให้สตาร์ใหม่ ก่อนจะพาเข้าเกียร์
“บอสมืงดูกูนะ พอมืงสตาร์ทรถเสร็จ ก่อนเข้าเกียร์ใช่มั้ย มืงกำครัชไว้แน่น ๆ เลยนะ “แพรวกำครัชรถให้เธอดู “แล้วก็เข้าเกียร์หนึ่งแบบนี้ ค่อย ๆ ปล่อย มือขวาค่อย ๆ เบิ้ลคันเร่งไปแบบนี้ ถ้ามืงปล่อยครัชแรง รถมันจะพุ่งและดับ” แพรวพยายามค่อย ๆ สอนทุกขั้นตอนอย่างละเอียด เธอก็ตั้งใจฟังมาก
“พอจะเข้าเกียร์สอง สาม สี่ มืงก็กำครัชใหม่ ทุกอย่างต้องกำครัชหมด เข้าใจนะ ไหนมืงลองดู” แพรวปล่อยให้เธอทำเองบ้าง บอสสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ กล้า ๆ กลัว ๆ ไปพร้อมกัน ทว่าความอยากขับรถเป็นมีมากกว่า
บอสสตาร์ทรถสายตามุ่งมั่นมองตรงไปข้างหน้า มือซ้ายกำครัชไว้แน่น มือขวาค่อย ๆ เบิ้ลคันเร่งขึ้นที่ละนิด ๆ เท้าซ้ายเข้าเกียร์หนึ่ง จากนั้นก็ค่อย ๆ ปล่อยมือซ้ายที่กำครัชไว้ แต่ลืมบิดคันเร่งทำให้รถกระตุกแล้วดับไป
“เอาใหม่บอส เวลามืงปล่อยครัชมืงต้องบิดคันเร่งไปด้วย แต่ค่อย ๆ บิดนะ “ แพรวเดินเข้ามาหาพร้อมถอนเกียร์ว่างให้ด้วย “เอาใหม่ กำครัชให้แน่นค่อย ๆ ปล่อยเหมือนเมื่อกี้ดีแล้ว แต่มือขวามืงต้องค่อย ๆ เบิ้ลไปด้วย รถมันถึงจะวิ่ง” แพรวกำชับอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะเริ่มใหม่อีกครั้ง
บอสทำตามที่แพรวสอนทุกอย่าง สุดท้ายรถก็วิ่งไปได้ แพรวก็วิ่งตาม “กำครัชเข้าเกียร์สองเลยบอส กำครัชเข้าเกียร์ค่อย ๆ ปล่อย” แพรววิ่งตามพร้อมตะโกนบอกเธอด้วย
รถกระตุกดับอีกครั้ง แพรววิ่งมาถอนเกียร์ว่างให้ “นี่เวลาถอนเกียร์ว่าง มืงต้องดูหน้าปัดรถด้วย นี่เกียร์ว่างมันจะมาอยู่ตรงนี้ และพวกนี้ก็เกียร์หนึ่งสองสามสี่ “ แพรวสอนให้ดูหน้าปัดรถพร้อมไปในตัว
“เมื่อกี้ดีแล้วมืงเอาใหม่ เวลาเข้าเกียร์สองสามสี่ก็กำครัช ค่อย ๆ ปล่อยเหมือนกัน ถ้าปล่อยเลยมันจะดับ”
“อ่อ เข้าใจละ” แล้วเธอก็ลองขับอีกรอบ รอบนี้ทำได้ รถวิ่งไปได้อย่างสบาย กำครัชเข้าเกียร์รถไม่ดับ เธอขับวนสนามฟุตบอลอยู่หลายรอบ เริ่มสนุกขึ้นมาแล้ว ทว่าห่วงน้ำมันรถของลุงจะหมดไปเสียก่อน เธอจึงหยุดการหัดรถเพรียงเท่านี้ วันหลังค่อยว่ากันใหม่
“เป็นยังอี่บอส” พิมพ์ถาม ทั้งที่ก็เห็นเธอขับอยู่
“เป็นแล้วมืง พิมพ์มืงไม่อยากเป็นรถครัชบ้างเหรอ” บอสถามด้วยความสงสัย เพราะสงสัยจริง ๆ พิมพ์ขับมอเตอร์ไซค์เป็น ทว่าเป็นเกียร์ออโต้
“ไม่อ่ะ บอสถึงมืงขับเป็นถ้ามืงไม่ขับบ่อย ๆ ก็ลืมนะ” พิมพ์พูดก็ถูก ไม่เป็นไรขับรถพี่บอมก็ได้ รถของพี่ชายเธอก็เป็นรถครัชเหมือนกัน
“พรุ่งนี้พากุมาหัดใหม่หน่อยนะ เอารถลุงวิทย์แหละ เดี๋ยวก็เติมน้ำมันยี่สิบบาท” เธอรู้สึกติดใจขึ้นมา หัดเพียงวันเดียวยังไม่คล่องเท่าไหร่ ต้องฝึกหลาย ๆ วันให้ชำนาญก่อน ก่อนที่จะไปหยิบรถอันสุดหวงของพี่ชาย
“ได้น่ะได้ แต่พ่อกูจะให้ง่าย ๆ เหมือนวันนี้ป่าว ปะกลับเหอะ”บ่ายสองโมงเย็นพวกเธอพากันกลับจากหัดรถมอเตอร์ไซค์ บอสคิดว่ากลับไปถึงบ้าน ต้องโทรอ้อนแม่ซื้อมอเตอร์ไซค์ให้ได้ เธอขับเป็นแล้วทิ้งไว้นานเดียวจะลืมเอา
“แม่บอสอยากได้มอเตอร์ไซค์ บอสไม่ได้ไปไหนกับเค้าเลย เพราะไม่มีรถ” หัวค่ำของวันนี้เธอไม่รอให้แม่โทรหา เธอเป็นฝ่ายโทรหาเองเลย
“อยากได้รถ ขับเป็นแล้วเหรอ”
“ขับเป็นแล้ว เอารถลุงวิทย์ไปหัดมา แม่ซื้อรถให้บอสนะวันเกิด นะแม่!” เธอใช้พลังอ้อนสุดฤทธิ์ และแม่ก็ปฏิเสธไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“รถมีตั้งสองคันที่บ้าน ยังจะมาบอกว่าไม่มีรถใช้” แม่ปฏิเสธเนียน ๆ โดยหยิบยกรถของพี่ ๆ มาอ้าง
“ก็นั้นมันรถพี่บอม รถพี่ปาว เค้าก็ใช้กัน บอสไม่มีรถ จะไปไหนทีถ้าเพื่อนไม่มารับก็ไม่ได้ไป ฮ้วย” บอสน้ำตาคลอแม่ไม่เข้าใจเธอ บางเม็ดไหลลงมาที่แก้มเธอรีบเช็ดออก
“พ่อมืงบอกว่าขึ้น ม.4 ค่อยเอา”
“บ่! กว่าจะถึง ม.4 ฮ้วย” บอสงอแงกับแม่ผ่านโทรศัพท์ ถึงยังไงแม่ก็ไม่ยอมใจอ่อนให้เธออยู่ดี บอสงอนบอสตัดสายแม่ทิ้งไปในที่สุด...
คิดถึง 2 บทที่ 7
.
เสาร์อาทิตย์นี้บอสก็ไม่ได้ไปเล่นที่ไหนอีกเช่นเคย ส่วนมากไม่บ้านนินก็บ้านสองฝาแฝด เพราะขับมอเตอร์ไซค์ไม่เป็น และยังไม่มีอย่างเพื่อน ๆ ด้วย แม่ยังไม่ยอมซื้อให้เธอสักที เห็นว่าของพี่ ๆ ก็มีแล้ว ที่บ้านมีตั้งสองคัน แต่มันก็ไม่ใช่ของเธอ
ที่บ้านมีสองคันก็ล้วนเป็นของพี่สาวกับพี่ชายทั้งนั้น จึงทำให้เธอไม่ค่อยได้ไปไหนสักเท่าไหร่ในวันหยุด ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มารับ และไปกับพิมพ์แพรว บวกกับตนเองขับรถยังไม่เป็นด้วย ถึงรถพี่ ๆ ว่างเธอก็ไปไหนไม่ได้อยู่ดี
สาย ๆ ของวันเสาร์ทำงานบ้านเสร็จเรียบร้อย เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรทำ เธอจึงเดินไปบ้านสองฝาแฝด หวังว่าทั้งสองคงอยู่บ้าน อยู่ใกล้กันแค่นี้เธอไม่อยากโทรถามให้เปลืองตังค์ในโทรศัพท์ ตัดสินใจเดินไปดูง่ายกว่า
“ลุงวิทย์ ไอ้แฝดอยู่มั้ย” เมื่อเดินมาถึงเห็นลุงกำลังก้ม ๆ เงย ๆ ซ่อมรถไถนาอยู่ใต้ต้นมะม่วงข้างบ้าน
“อยู่ในบ้านจะพากันไปไหน” ลุงถามทว่าเธอไม่ได้ตอบกลับ เมื่อได้คำตอบที่ถูกใจแล้วก็เดินเข้าบ้านไปเลย เห็นพี่เจนอนดูทีวีในบ้าน และก็สองฝาแฝดด้วย
“เอ้าพี่เจอยู่บ้านด้วย! “ บอสแซวพี่ชายลูกพี่ลูกน้องกัน ห่างกันเกือบสิบปีได้กับพวกเธอสามคน พี่เจเป็นพี่ชายของสองแฝด “คือมา/ ทำไมมาได้”
“มาล่ะน้อบ้านอยู่นี่” พี่เจหันมาตอบเธอ แพรวกับพิมพ์หัวเราะพี่ชายที่โดนเธอแซว เพราะปกติไม่ค่อยกลับบ้านเท่าไหร่ ตั้งแต่เข้าเรียนมหาลัยจนจะจบอยู่แล้ว
สักพักเห็นผู้หญิงเดินออกมาจากในห้องน้ำ บอสพิจารณาดูแล้วแฟนพี่เจแน่นอน แต่ทำไมวันนี้ไม่ใช่คนนั้นนะ คนเมื่อสามสี่เดือนก่อนนู้น เธอได้แค่มองและสงสัยไม่กล้าถามออกไป กลัวพี่ชายดุ
“บอสพี่กุ้ง” ทันใดนั้นพี่เจก็แนะนำแฟนให้เธอรู้จัก
“วัสดีค่ะพี่กุ้ง” เธอยิ้มและยกมือสวัสดีตามมารยาท พี่กุ้งยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตรพร้อมรับไว้ ทว่าเธอรู้สึกอึดอัดชอบกล จึงเดินออกมานั่งเปลที่หน้าบ้าน เล่นไปพลาง ๆ คนเดียว ยังไม่คิดจะกลับบ้านตนเองในตอนนี้
ไม่นานแพรวก็เดินตามออกมาอีกคน ขึ้นมานั่งบนเปลกับเธอด้วย สัปดาห์นี้ว่างไม่มีใครมีการบ้านสักคน งานโรงเรียนก็ไม่มี ก็ได้แค่อยู่บ้านดูทีวีกันไป รอเปิดเรียนวันจันทร์
ถ้าไม่มีเธอสองฝาแฝดก็ไม่มีเพื่อนเล่น ยกเว้นจ๋อม เนื่องจากเพื่อนรุ่นเดียวกันแบ่งพรรคแบ่งพวกไปเสียแล้ว พวกเรียนโรงเรียนตำบลก็เล่นด้วยกัน พวกเรียนในเมืองก็เล่นด้วยกัน ติดตรงคนที่เรียนในเมืองแค่หกคน ชายสามหญิงสาม หญิงก็มีเพียงจ๋อมกับสองฝาแฝดเท่านั้นเอง
“แพรวกูอยากขับมอเตอร์ไซค์เป็น มืงหัดให้กูหน่อยได้มั้ย” แพรวเป็นคนแรกที่ขับรถมอเตอร์ไซค์เป็น แถมยังขับรถมอเตอร์ไซค์ครัชอีกด้วย จู่ ๆ บอสก็นึกอยากหัดขับรถขึ้นมา
จะให้พวกพี่ชายหัดให้ก็ไม่กล้า โดยเฉพาะพี่บอมหวงรถมาก แต่งหมดหลายบาท นึกว่าเศษเหล็ก และมันก็ไม่น่าขับด้วย ส่วนของพี่สาวสองคนเธอก็ไม่กล้าขอให้หัดให้
“แน่ใจ! หัดรถคันไหน มีโอกูเหรอ” แพรวไม่ปฏิเสธ ยอมหัดให้เธออย่างง่ายดาย
“ไม่อ่ะ กูกลัวทำรถมืงล้มถลอก หัดรถลุงวิทย์ เบลล์คันนั้น” บอสชี้ไปที่รถของลุงที่จอดอยู่ใกล้ ๆ ตน เธอเลือกเป็นรถยามาฮ่าเบลล์ รถคันเก่าดีกว่า จะได้สบายใจในการล้ม
“รถพ่อกูมันมีครัชนะมืง แต่ก็ขับไม่ยากหรอก กูก็หัดรถคันนี้” แพรวพูดอย่างภาคภูมิใจ ว่าตนก็ขับรถเป็นจากคันนี้ โดยมีพี่เจสอนขับ ส่วนพิมพ์พึ่งขับเป็นเมื่อซื้อรถคันใหม่มานี่เอง เป็นเกียร์ออโต้
“อือ คันนี้แหละ” เธอมุ่งมั่นและตั้งใจมาก วันนี้ต้องขับรถมอเตอร์ไซค์เป็นแน่นอน “เดี๋ยวไปชวนอี่สวยก่อน” บอสหมายถึงพิมพ์ พร้อมลุกจากเปลเดินเข้าไปหยุดอยู่หน้าประตูบ้าน
“สวยไปหัดขับรถกะกูมั้ย อี่แพรวจะหัดให้กู” ส่งแค่เสียงเข้าไป ส่วนตัวยืนพิงขอบประตูอยู่
“ไปหัดที่ไหน” พิมพ์หันมาตอบ
“โรงเรียนน้อย” โรงเรียนน้อยที่เธอหมายถึงก็คือ โรงเรียนประถมศึกษานั่นเอง
“ไป ๆ คันไหนอ่ะ มีโอเหรอ”
“ไม่ใช่ รถอี่เบลล์ของพ่อมืง ไปก็ลุกดิ!”
จากนั้นพิมพ์ก็ลุกจากหน้าทีวีเดินออกมาหาพวกเธอ แพรวเป็นคนเข็นรถออกมาสตาร์ท “พ่อแพรวไปหาอี่จ๋อมแป๊บนะ ลืมว่าหนังสือการบ้านอยู่กับมัน”
แพรวบอกลุงวิทย์ก่อนจะไป โกหกนิดหน่อยถ้าพูดตรง ๆ กลัวลุงวิทย์จะบ่น พาลไม่ให้ยืมรถไปหัดเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย
“รีบไปรีบกลับล่ะ แล้วทำไมไม่เอาไอ้ดำไป” ลุงวิทย์หมายถึงรถยามาฮ่ามีโอของลูกสาว
“ไม่อ่ะ เปลืองน้ำมันแพรว” แพรวตอบคนเป็นพ่อ ส่วนเธอกับพิมพ์มองหน้ากันพร้อมอมยิ้ม ที่หลอกลุงวิทย์ได้
และแล้วพวกเธอก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ซ้อนสามไปที่โรงเรียนประถม ภายในโรงเรียนจะมีถนนรอบสนามฟุตบอล พอใช้เป็นสนามหัดขับรถได้
มาถึงพิมพ์ขอนั่งดูพวกเธอสองคนที่โต๊ะม้าหินอ่อน ภายในโรงเรียนเงียบสงบร่มรื่น ไม่มีใครมารบกวนจิตใจของเธอ เปล่า! เธอจะบอกว่าเธอจะได้ไม่อายในการหัดขับ ถ้าเกิดมันล้มขึ้นมามากกว่า
“ขั้นตอนแรกมืงต้องหัดสตาร์ทก่อน ไหนลองยันขาสตาร์ทดิ ถ้าติดก็หัดได้” แพรวบอกขั้นตอนแรกที่เธอต้องทำ “สตาร์ทรถไม่ติดก็ไม่ต้องหัด”
ทันทีที่แพรวพูดจบบอสก็ขยับมานั่งด้านหน้า เตรียมสตาร์ทรถ ส่วนแพรวยืนดูอยู่ใกล้ ๆ เธอใช้เท้าเหยียบขาสตาร์ทหลาย ๆ รอบก็ไม่ติดสักที พิมพ์หัวร่อเธอคนเดียวอยู่โต๊ะม้าหิ่นอ่อนใต้ต้นเสี้ยว แพรวก็หัวเราะตามพร้อมหันไปหาน้องสาวฝาแฝดของตน
“อี่บอสสักแต่สตาร์ท มืงเปิดกุญแจรถหรือยัง ฮา” แพรวทั้งพูดทั้งขำ แม้แต่ตัวเอง บอสก็ขำตัวเอง มือไม้อ่อนปวกเปียก ไม่มีเรียวแรงจะสตาร์ทต่อไปอีกแล้ว เพราะตลกตัวเอง เพราะกำลังขำตัวเองตัวงออยู่ ที่สตาร์ทเอาเป็นเอาตายแต่ลืมเปิดกุญแจ หัวเราะจนเจ็บไส้เจ็บพุงน้ำตาเล็ดไปหมด
“อี่ห่าแพรวแกล้งกู กูสตาร์ทจนเหนื่อยอี่ปอบ ฮา” บอสทั้งพูดทั้งหัวร่อตัวเอง นึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ แพรวกับพิมพ์ก็อีกคน หัวเราะจนเหนื่อย
“แกล้งบ้านมืงสิ! อ่ะเอาใหม่ สตาร์ทใหม่” แพรวบิดลูกกุญแจ เปิดสวิตซ์รถให้เธอ หลังจากนั้นสตาร์ทครั้งสองครั้งเครื่องยนต์ก็ติด แพรวก็ปิดและให้สตาร์ใหม่ ก่อนจะพาเข้าเกียร์
“บอสมืงดูกูนะ พอมืงสตาร์ทรถเสร็จ ก่อนเข้าเกียร์ใช่มั้ย มืงกำครัชไว้แน่น ๆ เลยนะ “แพรวกำครัชรถให้เธอดู “แล้วก็เข้าเกียร์หนึ่งแบบนี้ ค่อย ๆ ปล่อย มือขวาค่อย ๆ เบิ้ลคันเร่งไปแบบนี้ ถ้ามืงปล่อยครัชแรง รถมันจะพุ่งและดับ” แพรวพยายามค่อย ๆ สอนทุกขั้นตอนอย่างละเอียด เธอก็ตั้งใจฟังมาก
“พอจะเข้าเกียร์สอง สาม สี่ มืงก็กำครัชใหม่ ทุกอย่างต้องกำครัชหมด เข้าใจนะ ไหนมืงลองดู” แพรวปล่อยให้เธอทำเองบ้าง บอสสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ กล้า ๆ กลัว ๆ ไปพร้อมกัน ทว่าความอยากขับรถเป็นมีมากกว่า
บอสสตาร์ทรถสายตามุ่งมั่นมองตรงไปข้างหน้า มือซ้ายกำครัชไว้แน่น มือขวาค่อย ๆ เบิ้ลคันเร่งขึ้นที่ละนิด ๆ เท้าซ้ายเข้าเกียร์หนึ่ง จากนั้นก็ค่อย ๆ ปล่อยมือซ้ายที่กำครัชไว้ แต่ลืมบิดคันเร่งทำให้รถกระตุกแล้วดับไป
“เอาใหม่บอส เวลามืงปล่อยครัชมืงต้องบิดคันเร่งไปด้วย แต่ค่อย ๆ บิดนะ “ แพรวเดินเข้ามาหาพร้อมถอนเกียร์ว่างให้ด้วย “เอาใหม่ กำครัชให้แน่นค่อย ๆ ปล่อยเหมือนเมื่อกี้ดีแล้ว แต่มือขวามืงต้องค่อย ๆ เบิ้ลไปด้วย รถมันถึงจะวิ่ง” แพรวกำชับอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะเริ่มใหม่อีกครั้ง
บอสทำตามที่แพรวสอนทุกอย่าง สุดท้ายรถก็วิ่งไปได้ แพรวก็วิ่งตาม “กำครัชเข้าเกียร์สองเลยบอส กำครัชเข้าเกียร์ค่อย ๆ ปล่อย” แพรววิ่งตามพร้อมตะโกนบอกเธอด้วย
รถกระตุกดับอีกครั้ง แพรววิ่งมาถอนเกียร์ว่างให้ “นี่เวลาถอนเกียร์ว่าง มืงต้องดูหน้าปัดรถด้วย นี่เกียร์ว่างมันจะมาอยู่ตรงนี้ และพวกนี้ก็เกียร์หนึ่งสองสามสี่ “ แพรวสอนให้ดูหน้าปัดรถพร้อมไปในตัว
“เมื่อกี้ดีแล้วมืงเอาใหม่ เวลาเข้าเกียร์สองสามสี่ก็กำครัช ค่อย ๆ ปล่อยเหมือนกัน ถ้าปล่อยเลยมันจะดับ”
“อ่อ เข้าใจละ” แล้วเธอก็ลองขับอีกรอบ รอบนี้ทำได้ รถวิ่งไปได้อย่างสบาย กำครัชเข้าเกียร์รถไม่ดับ เธอขับวนสนามฟุตบอลอยู่หลายรอบ เริ่มสนุกขึ้นมาแล้ว ทว่าห่วงน้ำมันรถของลุงจะหมดไปเสียก่อน เธอจึงหยุดการหัดรถเพรียงเท่านี้ วันหลังค่อยว่ากันใหม่
“เป็นยังอี่บอส” พิมพ์ถาม ทั้งที่ก็เห็นเธอขับอยู่
“เป็นแล้วมืง พิมพ์มืงไม่อยากเป็นรถครัชบ้างเหรอ” บอสถามด้วยความสงสัย เพราะสงสัยจริง ๆ พิมพ์ขับมอเตอร์ไซค์เป็น ทว่าเป็นเกียร์ออโต้
“ไม่อ่ะ บอสถึงมืงขับเป็นถ้ามืงไม่ขับบ่อย ๆ ก็ลืมนะ” พิมพ์พูดก็ถูก ไม่เป็นไรขับรถพี่บอมก็ได้ รถของพี่ชายเธอก็เป็นรถครัชเหมือนกัน
“พรุ่งนี้พากุมาหัดใหม่หน่อยนะ เอารถลุงวิทย์แหละ เดี๋ยวก็เติมน้ำมันยี่สิบบาท” เธอรู้สึกติดใจขึ้นมา หัดเพียงวันเดียวยังไม่คล่องเท่าไหร่ ต้องฝึกหลาย ๆ วันให้ชำนาญก่อน ก่อนที่จะไปหยิบรถอันสุดหวงของพี่ชาย
“ได้น่ะได้ แต่พ่อกูจะให้ง่าย ๆ เหมือนวันนี้ป่าว ปะกลับเหอะ”บ่ายสองโมงเย็นพวกเธอพากันกลับจากหัดรถมอเตอร์ไซค์ บอสคิดว่ากลับไปถึงบ้าน ต้องโทรอ้อนแม่ซื้อมอเตอร์ไซค์ให้ได้ เธอขับเป็นแล้วทิ้งไว้นานเดียวจะลืมเอา
“แม่บอสอยากได้มอเตอร์ไซค์ บอสไม่ได้ไปไหนกับเค้าเลย เพราะไม่มีรถ” หัวค่ำของวันนี้เธอไม่รอให้แม่โทรหา เธอเป็นฝ่ายโทรหาเองเลย
“อยากได้รถ ขับเป็นแล้วเหรอ”
“ขับเป็นแล้ว เอารถลุงวิทย์ไปหัดมา แม่ซื้อรถให้บอสนะวันเกิด นะแม่!” เธอใช้พลังอ้อนสุดฤทธิ์ และแม่ก็ปฏิเสธไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“รถมีตั้งสองคันที่บ้าน ยังจะมาบอกว่าไม่มีรถใช้” แม่ปฏิเสธเนียน ๆ โดยหยิบยกรถของพี่ ๆ มาอ้าง
“ก็นั้นมันรถพี่บอม รถพี่ปาว เค้าก็ใช้กัน บอสไม่มีรถ จะไปไหนทีถ้าเพื่อนไม่มารับก็ไม่ได้ไป ฮ้วย” บอสน้ำตาคลอแม่ไม่เข้าใจเธอ บางเม็ดไหลลงมาที่แก้มเธอรีบเช็ดออก
“พ่อมืงบอกว่าขึ้น ม.4 ค่อยเอา”
“บ่! กว่าจะถึง ม.4 ฮ้วย” บอสงอแงกับแม่ผ่านโทรศัพท์ ถึงยังไงแม่ก็ไม่ยอมใจอ่อนให้เธออยู่ดี บอสงอนบอสตัดสายแม่ทิ้งไปในที่สุด...