อ่านเจอในกระทู้ที่ชื่อ
ทำไมนักคิด นักวิทยาศาตร์ นักวิชาการ ส่วนมากเป็นคนเยอรมันครับ ทำไมประเทศนี้ผลิตบุคลากรเก่งๆเยอะมากตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ? ของ
tottui 8 พฤษภาคม 2556 เวลา 16:43 น. https://ppantip.com/topic/30460825
ความคิดเห็นที่ 14 ของ
Bagheera 9 พฤษภาคม 2556 เวลา 02:13 น ขอคัดข้อความมาบางส่วนครับ
ผมขอตอบคำถามนี้แทนโดยเอาตัวเลขมาให้ดูนะครับ จะได้หายสงสัย จากรางวัลโนเบลที่คุณเริ่มเรื่องเอาไว้นั่นแหละ
Physic: (1901-1932)
Germany: 11
UK: 8
France: 6
NL: 4
USA: 3
Schweden: 2
Australia: 1
Swiss: 1
Denmark: 1
Italy 1
India: 1
Chemie: (1901-1932)
Germany: 13
UK: 4
France: 4
Sweden: 3
USA: 2
NL: 1
Swiss: 1
Medicine: (1901-1932)
Germany: 6
UK: 5
France: 4
Denmark: 3
Austria: 3
Russia: 2
Canada: 2
Swiss: 1
Italy: 1
Spain:1
สรุปตัวเลขในช่วงระยะเวลาเริ่มต้นของรางวัลโนเบลนั้น เยอรมนีเป็นประเทศที่ได้รับรางวัลมากที่สุดคือ 30 รางวัลในจำนวนทั้งหมด 95 หรือเท่ากับ 31.6% แม้แต่ในช่วงระหว่างปี 1933-1945 ซึ่งเยอรมนีอยู่ภายใต้การปกครองของนาซีและนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายอยู่ภายใต้ภาวะจำกัด นักวิทยาศาสตร์เยอรมันเชื้อสายยิวก็ย้ายหนีอพยพไปอเมริกา ส่งผลให้ยอดรางวัลโนเบลอเมริกาพุ่งพรวดจากเดิมที่ไม่มีนัยยะสำคัญอะไร โดยเฉพาะทางด้านการแพทย์และยานั้นอเมริกาไม่เคยได้รางวัลโนเบลมาก่อนเยอรมนีด้วยซ้ำ แต่กระนั้นเยอรมนีก็ยังมีนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลถึง 15.5% รองเป็นที่ 2 จากอเมริกา
เพิ่งจะมาหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองนั่นแหละที่อเมริกาถึงได้โดดเด่นขึ้นมา ผมยังจะไม่พูดถึงสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นซึ่ง 1 ในสาเหตุหลายประการคือการลักลอบสอดแนมเทคโนโลยี่เยอรมันจากอังกฤษและอเมริการ่วมกันภายใต้ชื่อ Echolon-NSA ตั้งแต่ปี 1960
คำถามที่ว่า ทำไมนักวิทยาศาสตร์เยอรมันทุกวันนี้ถึงได้มีสถิติทางด้านค้นคว้าตกลงไปจากเดิมที่เคยเป็นมาในอดีตมีหลายสาเหตุ เป็นคำถามที่คนเยอรมันเองก็ตั้งเป็นข้อถกเถึยงกันอยู่ ทุกวันนี้ถ้าจะเอาสถิติของการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ของ European Patent Office ปีล่าสุดคือปี 2012 จำนวนที่จดทะเบียนใหม่ทั้งหมดมี 257,744 รายการ อเมริกาก็ยังนำหน้าสุดคือ 24,6 %, ตามมาติดๆ ด้วยญี่ปุ่น 20,1% และเยอรมนี 13,3 %. สำหรับยุโรปแล้วเยอรมนีนำมาเป็นที่หนึ่ง ตามด้วยฝรั่งเศส 4.7% และ สวิส 3.2%
3) คุณ AKB-SKE ถามว่า "แล้ว อังกฤษ ฝรั่งเศส อะไรพวกนี้ไม่เยอะเหรอ"
จากสถิติโนเบลนั้นทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสไม่เคยนำหน้าเยอรมนี และการจดทะเบียนลิขสิทธ์ก็จะเห็นชัดเจนนะครับ อังกฤษไม่ติดอยู่รายการเลยแม้แต่น้อยทั้งๆ ที่เป็นประเทศที่เริ่มปฏิวัติอุตสาหกรรมของโลก แม้แต่ฝรั่งเศสที่ตามหลังเยอรมนีนั้นก็ยังทำได้ไม่ถึงครึ่ง ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสไม่เคยนำหน้าเยอรมนีได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทั้งๆ ที่เป็นประเทศเจ้าอาณานิคมยิ่งใหญ่ และทั้ง 2 ประเทศยังตกที่นั่งลำบากทางเศรษฐกิจเหมือนๆ กันในทุกวันนี้อีกด้วย
ส่วนเรื่องความเห็นต่างๆ หลากหลายจากท่านสมาชิกอื่นก็เชิญว่ากันต่อตามสบายนะครับ ผมยืนยันได้เรื่องหนึ่งคือ ระบบการศึกษาของญี่ปุ่นนั้นเอาไปจากเยอรมันแน่นอนชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านสายช่างหรือวิศวกรรมซึ่งเน้นเรื่องการปฏิบัติเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากโรงงานอุตสาหกรรมญี่ปุ่นที่มาตั้งในประเทศไทย คนญี่ปุ่นที่ถูกส่งมาเป็นหัวหน้าควบคุมดูแลเครื่องจักรนั้นไม่ได้จบจากมหาลัยแต่จบจากโรงเรียนช่างเทคนิคเท่านั้น
ปัจจัยอะไรนักคิด นักวิทยาศาตร์ นักวิชาการ ส่วนมากเป็นคนเยอรมันครับ ทำไมถึงสามารถผลิตบุคลากรที่มีความสามารถได้มากครับ
ความคิดเห็นที่ 14 ของ Bagheera 9 พฤษภาคม 2556 เวลา 02:13 น ขอคัดข้อความมาบางส่วนครับ
ผมขอตอบคำถามนี้แทนโดยเอาตัวเลขมาให้ดูนะครับ จะได้หายสงสัย จากรางวัลโนเบลที่คุณเริ่มเรื่องเอาไว้นั่นแหละ
Physic: (1901-1932)
Germany: 11
UK: 8
France: 6
NL: 4
USA: 3
Schweden: 2
Australia: 1
Swiss: 1
Denmark: 1
Italy 1
India: 1
Chemie: (1901-1932)
Germany: 13
UK: 4
France: 4
Sweden: 3
USA: 2
NL: 1
Swiss: 1
Medicine: (1901-1932)
Germany: 6
UK: 5
France: 4
Denmark: 3
Austria: 3
Russia: 2
Canada: 2
Swiss: 1
Italy: 1
Spain:1
สรุปตัวเลขในช่วงระยะเวลาเริ่มต้นของรางวัลโนเบลนั้น เยอรมนีเป็นประเทศที่ได้รับรางวัลมากที่สุดคือ 30 รางวัลในจำนวนทั้งหมด 95 หรือเท่ากับ 31.6% แม้แต่ในช่วงระหว่างปี 1933-1945 ซึ่งเยอรมนีอยู่ภายใต้การปกครองของนาซีและนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายอยู่ภายใต้ภาวะจำกัด นักวิทยาศาสตร์เยอรมันเชื้อสายยิวก็ย้ายหนีอพยพไปอเมริกา ส่งผลให้ยอดรางวัลโนเบลอเมริกาพุ่งพรวดจากเดิมที่ไม่มีนัยยะสำคัญอะไร โดยเฉพาะทางด้านการแพทย์และยานั้นอเมริกาไม่เคยได้รางวัลโนเบลมาก่อนเยอรมนีด้วยซ้ำ แต่กระนั้นเยอรมนีก็ยังมีนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลถึง 15.5% รองเป็นที่ 2 จากอเมริกา
เพิ่งจะมาหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองนั่นแหละที่อเมริกาถึงได้โดดเด่นขึ้นมา ผมยังจะไม่พูดถึงสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นซึ่ง 1 ในสาเหตุหลายประการคือการลักลอบสอดแนมเทคโนโลยี่เยอรมันจากอังกฤษและอเมริการ่วมกันภายใต้ชื่อ Echolon-NSA ตั้งแต่ปี 1960
คำถามที่ว่า ทำไมนักวิทยาศาสตร์เยอรมันทุกวันนี้ถึงได้มีสถิติทางด้านค้นคว้าตกลงไปจากเดิมที่เคยเป็นมาในอดีตมีหลายสาเหตุ เป็นคำถามที่คนเยอรมันเองก็ตั้งเป็นข้อถกเถึยงกันอยู่ ทุกวันนี้ถ้าจะเอาสถิติของการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ของ European Patent Office ปีล่าสุดคือปี 2012 จำนวนที่จดทะเบียนใหม่ทั้งหมดมี 257,744 รายการ อเมริกาก็ยังนำหน้าสุดคือ 24,6 %, ตามมาติดๆ ด้วยญี่ปุ่น 20,1% และเยอรมนี 13,3 %. สำหรับยุโรปแล้วเยอรมนีนำมาเป็นที่หนึ่ง ตามด้วยฝรั่งเศส 4.7% และ สวิส 3.2%
3) คุณ AKB-SKE ถามว่า "แล้ว อังกฤษ ฝรั่งเศส อะไรพวกนี้ไม่เยอะเหรอ"
จากสถิติโนเบลนั้นทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสไม่เคยนำหน้าเยอรมนี และการจดทะเบียนลิขสิทธ์ก็จะเห็นชัดเจนนะครับ อังกฤษไม่ติดอยู่รายการเลยแม้แต่น้อยทั้งๆ ที่เป็นประเทศที่เริ่มปฏิวัติอุตสาหกรรมของโลก แม้แต่ฝรั่งเศสที่ตามหลังเยอรมนีนั้นก็ยังทำได้ไม่ถึงครึ่ง ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสไม่เคยนำหน้าเยอรมนีได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทั้งๆ ที่เป็นประเทศเจ้าอาณานิคมยิ่งใหญ่ และทั้ง 2 ประเทศยังตกที่นั่งลำบากทางเศรษฐกิจเหมือนๆ กันในทุกวันนี้อีกด้วย
ส่วนเรื่องความเห็นต่างๆ หลากหลายจากท่านสมาชิกอื่นก็เชิญว่ากันต่อตามสบายนะครับ ผมยืนยันได้เรื่องหนึ่งคือ ระบบการศึกษาของญี่ปุ่นนั้นเอาไปจากเยอรมันแน่นอนชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านสายช่างหรือวิศวกรรมซึ่งเน้นเรื่องการปฏิบัติเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากโรงงานอุตสาหกรรมญี่ปุ่นที่มาตั้งในประเทศไทย คนญี่ปุ่นที่ถูกส่งมาเป็นหัวหน้าควบคุมดูแลเครื่องจักรนั้นไม่ได้จบจากมหาลัยแต่จบจากโรงเรียนช่างเทคนิคเท่านั้น