เมื่อ "โรคอ้วน" คุกคามคนทั้งโลก!!! (เผยแพร่เป็นวิทยาทานโดยอาจารย์กำธร เสนจันทร์ฒิไชย พ.ม.,กศ.บ.,ศศ.ม.)
โลกหวาดผวาภัยกำลังคุกคามประชากรโลกและเป็นสาเหตุของบรรดาโรคไม่ติดเชื้อเรื้อรัง ที่เรียกว่า NCDs หรือ non communicable diseases ก็คือ “โรคอ้วน” ผลการวิจัยของดร.โรเจอร์ เฮนเดอร์สัน นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ..พบว่า..ประชากรเป็นโรคอ้วนเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกมีน้ำหนักตัวเกินหรือมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของประชากรโลก องค์การอนามัยโลก หรือ WHO พบว่า 1 ใน 3 ของประชากร มีอาการป่วยจากสาเหตุของ “โรคอ้วน” เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมอง และรวมถึงมะเร็งบางชนิด
สาเหตุ
1.รับประทานอาหารที่มีผลต่อน้ำหนักตัวมากเกินไป เช่นไขมันสัตว์ , คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate)
2.จุลินทรีย์ในลำไส้บางชนิดเป็นตัวควบคุมการย่อยมีน้อยเกินไปในร่างกายโดยเฉพาะการย่อยไขมัน
3.ควรรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผักและผลไม้และธัญพืชที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อย
4.พันธุกรรมความผิดปกติในฮอร์โมน เป็นหนึ่งในปัจจัยทำให้เป็นโรคอ้วนแม้จะรับประทานอาหารน้อย
5.การรับประทานอาหารหลัง เ9.00 น.เพราะธรรมชาติร่างกายจะไม่ย่อยไขมันและน้ำตาล
6.อยากรับประทานอาหารจนเป็นนิสัยให้อิ่มควรเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเกือบอิ่มหรือลดปริมาณลง
7.การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ เป็นอีกสาเหตุของ “โรคอ้วน”
ดร.โรเจอร์ เฮนเดอร์สัน สรุปว่า “โรคอ้วน” น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุที่ไม่ซับซ้อนเพียงแค่ร่างกายได้รับแคลอรี่ (Calories) เกินกว่าที่ร่างกายต้องการกระบวนการดังกล่าวถูกสะสมอย่างช้าๆหลายเดือนหรือหลายปีแบบไม่รู้ตัวภาวะของโรคบางโรคทำให้เป็น “โรคอ้วน” เช่น ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ , ถุงน้ำรังไข่หลายใบในสตรี (Polycystic Ovary Syndrome: PCOS) ความดันโลหิต , การใช้ยาสเตียรอยด์สำหรับรักษาภาวะอักเสบ , โรคภูมิแพ้ผื่นคัน-หอบหืด , การใช้ยาควบคุมอารมณ์ซึมเศร้า (อ้างอิง : ไทยรัฐ 7 พ.ย. 2563)
โรคอ้วน
โลกหวาดผวาภัยกำลังคุกคามประชากรโลกและเป็นสาเหตุของบรรดาโรคไม่ติดเชื้อเรื้อรัง ที่เรียกว่า NCDs หรือ non communicable diseases ก็คือ “โรคอ้วน” ผลการวิจัยของดร.โรเจอร์ เฮนเดอร์สัน นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ..พบว่า..ประชากรเป็นโรคอ้วนเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกมีน้ำหนักตัวเกินหรือมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของประชากรโลก องค์การอนามัยโลก หรือ WHO พบว่า 1 ใน 3 ของประชากร มีอาการป่วยจากสาเหตุของ “โรคอ้วน” เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมอง และรวมถึงมะเร็งบางชนิด
สาเหตุ
1.รับประทานอาหารที่มีผลต่อน้ำหนักตัวมากเกินไป เช่นไขมันสัตว์ , คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate)
2.จุลินทรีย์ในลำไส้บางชนิดเป็นตัวควบคุมการย่อยมีน้อยเกินไปในร่างกายโดยเฉพาะการย่อยไขมัน
3.ควรรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผักและผลไม้และธัญพืชที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อย
4.พันธุกรรมความผิดปกติในฮอร์โมน เป็นหนึ่งในปัจจัยทำให้เป็นโรคอ้วนแม้จะรับประทานอาหารน้อย
5.การรับประทานอาหารหลัง เ9.00 น.เพราะธรรมชาติร่างกายจะไม่ย่อยไขมันและน้ำตาล
6.อยากรับประทานอาหารจนเป็นนิสัยให้อิ่มควรเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเกือบอิ่มหรือลดปริมาณลง
7.การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ เป็นอีกสาเหตุของ “โรคอ้วน”
ดร.โรเจอร์ เฮนเดอร์สัน สรุปว่า “โรคอ้วน” น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุที่ไม่ซับซ้อนเพียงแค่ร่างกายได้รับแคลอรี่ (Calories) เกินกว่าที่ร่างกายต้องการกระบวนการดังกล่าวถูกสะสมอย่างช้าๆหลายเดือนหรือหลายปีแบบไม่รู้ตัวภาวะของโรคบางโรคทำให้เป็น “โรคอ้วน” เช่น ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ , ถุงน้ำรังไข่หลายใบในสตรี (Polycystic Ovary Syndrome: PCOS) ความดันโลหิต , การใช้ยาสเตียรอยด์สำหรับรักษาภาวะอักเสบ , โรคภูมิแพ้ผื่นคัน-หอบหืด , การใช้ยาควบคุมอารมณ์ซึมเศร้า (อ้างอิง : ไทยรัฐ 7 พ.ย. 2563)