เป็นเรื่องที่อยากบ่นเฉยๆ ครับ แต่จริงๆ ถ้ามีคำแนะนำที่ทำได้ก็ดีครับ
ความเดิมตอนที่แล้ว
ผมมีห้องแถวให้เช่าอยู่ครับ เป็นห้อง 2 คูหา ปลายปีที่แล้วก็มีคนมาติดต่อเช่าครับ มาขายบุฟเฟต์จิ้มจุ่ม
ซึ่งก็ตกลงทำสัญญากันครับ ค่าเช่า 9000 ค่าน้ำ/ไฟ ต่างหาก คิดตามมิเตอร์แยก
เดือนแรกเดือนสองยังดีอยู่ครับ เดือนที่สาม เริ่มจ่ายช้า แต่ก็ยังจ่าย
ประมาณเดือนที่ 4 คนเช่าได้มีการติดต่อมา ว่า อยากขายบ้าน เพราะมีปัญหาหนี้สิน จากการไปเล่นแชร์แล้วโดนโกง
ซึ่งในทีแรก ผมก็บอกเค้าไปว่า ให้ไปแจ้งความสิ โน่นนี่นั่น แต่เขาไม่แจ้ง
สุดท้ายทางผมเลยรับซื้อมา โดยตอนทำสัญญา ซื้อทั้งบ้านทั้งแอร์
แต่ก็ได้ให้ ผู้ขาย เช่าอยู่ต่อ (เขาเช่าบ้านตัวเองเก่าอยู่ เท่ากับตอนนี้ เช่าทั้งบ้าน ทั้งร้านผม)
ซึ่งทางร้านก็ได้มีการติดกระจก ติดแอร์ โดยตกลงกันว่า ถ้าย้ายออก ผมจะรับซื้อ ตามสภาพ ค่าเช่าบ้านอยู่ราวๆ 4500 ต่อเดือน
หลังจากนั้น เดือนต่อมา เป็นช่วงโควิทพอดี ซึ่งการทำมาค้าขาย ค่อนข้างจะติดขัดอยู่แล้ว
ทางผมเลยลดค่าเช่าให้ เหลือ 8000 บาท/เดือน แต่เนื่องจากเป็นร้านอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ยังเยอะอยู๋ดี
ค่าน้ำ ตามมิเตอร์ 800-1100 ต่อเดือน ค่าไฟหลังติดแอร์ 8000-10000 ต่อเดือน ซึ่ง ส่วนนี้ ผมต้องจ่ายก่อนทุกเดือน
หลังจากช่วงโควิทมาผมไม่ได้รับค่าเช่าเลย และยังต้องแบกรับภาระค่าไฟและค่าน้ำอีก เป็นเวลา 4 เดือน
จึงไปแจ้งผู้เช่าว่า แบบนี้ไม่ไหวละนะถ้าธุรกิจมันไปไม่ได้ก็ต้องเลิกแหละ
เขาก็บอก ขอเวลาอีกเดือนนึง ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็จะไป
หนึ่งเดือนผ่านไป....ก็ยังไม่จ่ายก็เลยแจ้งให้ย้ายออก แต่เนื่องจาก ไม่ได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ จึง ทำหนังสือสัญญาว่า ให้ย้ายออกในอีกเดือนให้หลัง
ซึ่งกว่า ทางนั้นจะเซ็นสัญญา ก็ผ่านไปอีกครึ่งเดือน และกว่าจะย้ายออกจริงๆ ก็ในอีกเดือนครึ่งถัดมา
โอเค พูดแบบนี้ ก็ดูจะฟังความผ่ายเดียวไปนิด ช่วงเดือนที่แล้ว(เดือนก่อนย้ายออก) มีเหตุการณ์ให้ผมทราบสถานการณ์ฝั่งผู้เช่าเช่นกัน
เอาโดยย่อคือ มีคนทวงหนี้มาพังร้านครับ คือ จริงๆ ผมก็พอจะเห็นๆ มาสักพักละ ว่ามาร้านทีไรมีแต่คนทวงหนี้
แต่วันนั้นมาพังร้านเลย จนถึงขั้นต้องแจ้งตำรวจมาควบคุมสถานการณ์
หลังเหตุการณ์สงบ วันรุ่งขึ้น ผมจึงได้สอบถาม ได้ความว่า เขากู้เงินมา แต่ต้องจ่ายดอก ร้อยละ 2 ต่อวัน ผมก็เฮ่ย ร้อยละ 2 ต่อวันมันจะจ่ายหมดได้ไง
แค่จ่ายดอกก็ไม่ต้องทำมาหากินอะไรแล้ว แล้วนั่นก็เป็นความผิดพลาดของผม เพราะ ผมดันไปบอกว่า โอเค งั้นหนี้ที่ค้างค่าบ้าน/ค่าน้ำไฟ ผม
(รวมๆ 2แสนกว่าบาท) ยังไม่ต้องรีบจ่ายก็ได้ ผมไม่คิดดอก ถ้ามีเวลาซัก 5 ปี ค่อยจ่ายยังไม่สายเกินไป แต่ย้ายออกเถอะ ผมจะได้ให้คนอื่นเช่า
ทีนี้สถานการณ์ผมยิ่งแย่ เนื่องจาก พอพูดไปงั้น เขาก็ไม่จ่ายผมจริงๆ (orz) แล้วเอาคำพูดผมไปอ้างกะครอบครัวผมด้วย
ยังดีว่ายอมย้ายออก ซึ่งจริงๆ สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร หมดแล้ว แต่ผู้เช่าได้ขอไว้นิดนึง ว่า รอเปลี่ยนเดือนก่อน เขาจะย้ายไปอยู่ที่ใหม่
ผมก็ทำไรไม่ได้มาก ก็เลยรอจนเดือนใหม่(พ.ย.) เขาจึงเริ่มย้ายออกไปที่ใหม่
แต่ ปัญหามันเกิดหลังจากนี้แหละ ดังนี้
-ขยะ ยังอยู่เต็มร้าน เคยขอให้เขาเคลีย เขาก็เรียก รถซาเล้งมาขายของรอบนึง แต่ขยะที่ขายไม่ได้ก็ยังอยู่ แถมมีกลิ่นด้วย
-แอร์และกระจก ที่เคยว่าจะขายผมตามสภาพ ทั้งผมยังเสนอที่จะ ลดหนี้ ให้ ตามสภาพราคาแอร์ แต่ เขา ถอดไปขายเลย ซึ่งมันทำให้เกิดปัญหาต่อมา
-เนื่องจากแอร์และกระจก ถอดไม่ค่อยเรียบร้อย ห้องจึงมีความเสียหาย พอให้ช่างตีราคา ค่าซ่อมน่าจะอยู่ราวๆ สามหมื่น ทั้งอาคาร คือก็กะแล้วว่ามันมีค่าซ่อม แต่ไม่คิดว่าจะพังขนาดนี้
-กุญแจ....จนบัดนี้ก็ยังไม่คืน เคยทวงแล้ว ได้ลูกกุญแจของแม่กุญแจที่คล้องร้านไว้ แต่ตัวกุญแจประตู กุญแจแหล็กม้วน กลับไม่มี ได้รับแจ้งว่า จะหาให้
คือ จริงๆ หนี้(น่าจะ)สูญไม่เท่าไหร่ เจ็บใจตรงที่เค้าไม่คิดเห็นใจผมเลย บอกแต่ตัวเองลำบาก ตัวเองไม่มีตัง
แล้วก็เอาเงินไปให้คนที่ข่มขู่เขางั้นหรือ แล้วคนที่ ใจดี ช่วยเหลือ ไม่ได้อะไรเลยงั้นหรือ
โอเค ส่วนตัวผม คิดคร่าวๆ ผมมองว่า ร้านจิ้มจุ่มของเขามีกำไรนะ แต่จ่ายดอกร้อยละ 2 ต่อวัน(ตามที่เขาอ้าง) ยังไงก็ไม่ไหวหรอก
จริงๆ ก็อยากจะช่วยแก้ปัญหาอ่ะนะ แต่แค่นี้ผมก็เจ็บพอสมควรละ สงสารลูกชายเขา ผมก็พอรู้จักกะลูกชายเขาอยู่
ตอนนี้เรื่องก็ยังไม่จบ เพราะผมก็ยังไม่ได้กุญแจ แต่ปัญหามันอยู่กะผม เพราะทางบ้านผมก็ไม่ยอมคุยกะเจ้านี้ละ(โกรธกันมาก) ฝากผมคุยอย่างเดียว
ผมคุยก็ไม่ได้อะไร ไม่มีไม่หนี ไม่จ่าย นี่ คือ ไม่ได้กะว่าจะจ่ายตอนนี้ แต่กุญแจ รึ ของที่ตกลงกัน ผมควรได้มั้ย
นี่ยังไม่ได้ไปเช็คบ้านที่ซื้อมา ว่า แอร์อยู่ครบมั้ยด้วย(ยังไม่ได้กุญแจของเขาที่เหลือ)
ปัญหาก็ราวๆ นี้แหละครับ ไม่ค่อยอยากบ่นลง FB แต่ถ้าเหลืออดก็คงบ่น 555
ปล.แถม ได้คุยกะแม่ของผู้เช่าบ้าง ทราบมาว่าบางที แม่เขาก็ให้เงินมาใช้หนี้ผมบ้าง แต่แน่นอนว่าไม่ถึงผม แม่เขาโทรมาเช็คเลยว่าได้เงินไหม
[บ่น+ระบาย] ให้เช่าบ้าน ไม่ได้ค่าเช่า แถมบ้านยังเสียหายอีก
ความเดิมตอนที่แล้ว
ผมมีห้องแถวให้เช่าอยู่ครับ เป็นห้อง 2 คูหา ปลายปีที่แล้วก็มีคนมาติดต่อเช่าครับ มาขายบุฟเฟต์จิ้มจุ่ม
ซึ่งก็ตกลงทำสัญญากันครับ ค่าเช่า 9000 ค่าน้ำ/ไฟ ต่างหาก คิดตามมิเตอร์แยก
เดือนแรกเดือนสองยังดีอยู่ครับ เดือนที่สาม เริ่มจ่ายช้า แต่ก็ยังจ่าย
ประมาณเดือนที่ 4 คนเช่าได้มีการติดต่อมา ว่า อยากขายบ้าน เพราะมีปัญหาหนี้สิน จากการไปเล่นแชร์แล้วโดนโกง
ซึ่งในทีแรก ผมก็บอกเค้าไปว่า ให้ไปแจ้งความสิ โน่นนี่นั่น แต่เขาไม่แจ้ง
สุดท้ายทางผมเลยรับซื้อมา โดยตอนทำสัญญา ซื้อทั้งบ้านทั้งแอร์
แต่ก็ได้ให้ ผู้ขาย เช่าอยู่ต่อ (เขาเช่าบ้านตัวเองเก่าอยู่ เท่ากับตอนนี้ เช่าทั้งบ้าน ทั้งร้านผม)
ซึ่งทางร้านก็ได้มีการติดกระจก ติดแอร์ โดยตกลงกันว่า ถ้าย้ายออก ผมจะรับซื้อ ตามสภาพ ค่าเช่าบ้านอยู่ราวๆ 4500 ต่อเดือน
หลังจากนั้น เดือนต่อมา เป็นช่วงโควิทพอดี ซึ่งการทำมาค้าขาย ค่อนข้างจะติดขัดอยู่แล้ว
ทางผมเลยลดค่าเช่าให้ เหลือ 8000 บาท/เดือน แต่เนื่องจากเป็นร้านอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ยังเยอะอยู๋ดี
ค่าน้ำ ตามมิเตอร์ 800-1100 ต่อเดือน ค่าไฟหลังติดแอร์ 8000-10000 ต่อเดือน ซึ่ง ส่วนนี้ ผมต้องจ่ายก่อนทุกเดือน
หลังจากช่วงโควิทมาผมไม่ได้รับค่าเช่าเลย และยังต้องแบกรับภาระค่าไฟและค่าน้ำอีก เป็นเวลา 4 เดือน
จึงไปแจ้งผู้เช่าว่า แบบนี้ไม่ไหวละนะถ้าธุรกิจมันไปไม่ได้ก็ต้องเลิกแหละ
เขาก็บอก ขอเวลาอีกเดือนนึง ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็จะไป
หนึ่งเดือนผ่านไป....ก็ยังไม่จ่ายก็เลยแจ้งให้ย้ายออก แต่เนื่องจาก ไม่ได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ จึง ทำหนังสือสัญญาว่า ให้ย้ายออกในอีกเดือนให้หลัง
ซึ่งกว่า ทางนั้นจะเซ็นสัญญา ก็ผ่านไปอีกครึ่งเดือน และกว่าจะย้ายออกจริงๆ ก็ในอีกเดือนครึ่งถัดมา
โอเค พูดแบบนี้ ก็ดูจะฟังความผ่ายเดียวไปนิด ช่วงเดือนที่แล้ว(เดือนก่อนย้ายออก) มีเหตุการณ์ให้ผมทราบสถานการณ์ฝั่งผู้เช่าเช่นกัน
เอาโดยย่อคือ มีคนทวงหนี้มาพังร้านครับ คือ จริงๆ ผมก็พอจะเห็นๆ มาสักพักละ ว่ามาร้านทีไรมีแต่คนทวงหนี้
แต่วันนั้นมาพังร้านเลย จนถึงขั้นต้องแจ้งตำรวจมาควบคุมสถานการณ์
หลังเหตุการณ์สงบ วันรุ่งขึ้น ผมจึงได้สอบถาม ได้ความว่า เขากู้เงินมา แต่ต้องจ่ายดอก ร้อยละ 2 ต่อวัน ผมก็เฮ่ย ร้อยละ 2 ต่อวันมันจะจ่ายหมดได้ไง
แค่จ่ายดอกก็ไม่ต้องทำมาหากินอะไรแล้ว แล้วนั่นก็เป็นความผิดพลาดของผม เพราะ ผมดันไปบอกว่า โอเค งั้นหนี้ที่ค้างค่าบ้าน/ค่าน้ำไฟ ผม
(รวมๆ 2แสนกว่าบาท) ยังไม่ต้องรีบจ่ายก็ได้ ผมไม่คิดดอก ถ้ามีเวลาซัก 5 ปี ค่อยจ่ายยังไม่สายเกินไป แต่ย้ายออกเถอะ ผมจะได้ให้คนอื่นเช่า
ทีนี้สถานการณ์ผมยิ่งแย่ เนื่องจาก พอพูดไปงั้น เขาก็ไม่จ่ายผมจริงๆ (orz) แล้วเอาคำพูดผมไปอ้างกะครอบครัวผมด้วย
ยังดีว่ายอมย้ายออก ซึ่งจริงๆ สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร หมดแล้ว แต่ผู้เช่าได้ขอไว้นิดนึง ว่า รอเปลี่ยนเดือนก่อน เขาจะย้ายไปอยู่ที่ใหม่
ผมก็ทำไรไม่ได้มาก ก็เลยรอจนเดือนใหม่(พ.ย.) เขาจึงเริ่มย้ายออกไปที่ใหม่
แต่ ปัญหามันเกิดหลังจากนี้แหละ ดังนี้
-ขยะ ยังอยู่เต็มร้าน เคยขอให้เขาเคลีย เขาก็เรียก รถซาเล้งมาขายของรอบนึง แต่ขยะที่ขายไม่ได้ก็ยังอยู่ แถมมีกลิ่นด้วย
-แอร์และกระจก ที่เคยว่าจะขายผมตามสภาพ ทั้งผมยังเสนอที่จะ ลดหนี้ ให้ ตามสภาพราคาแอร์ แต่ เขา ถอดไปขายเลย ซึ่งมันทำให้เกิดปัญหาต่อมา
-เนื่องจากแอร์และกระจก ถอดไม่ค่อยเรียบร้อย ห้องจึงมีความเสียหาย พอให้ช่างตีราคา ค่าซ่อมน่าจะอยู่ราวๆ สามหมื่น ทั้งอาคาร คือก็กะแล้วว่ามันมีค่าซ่อม แต่ไม่คิดว่าจะพังขนาดนี้
-กุญแจ....จนบัดนี้ก็ยังไม่คืน เคยทวงแล้ว ได้ลูกกุญแจของแม่กุญแจที่คล้องร้านไว้ แต่ตัวกุญแจประตู กุญแจแหล็กม้วน กลับไม่มี ได้รับแจ้งว่า จะหาให้
คือ จริงๆ หนี้(น่าจะ)สูญไม่เท่าไหร่ เจ็บใจตรงที่เค้าไม่คิดเห็นใจผมเลย บอกแต่ตัวเองลำบาก ตัวเองไม่มีตัง
แล้วก็เอาเงินไปให้คนที่ข่มขู่เขางั้นหรือ แล้วคนที่ ใจดี ช่วยเหลือ ไม่ได้อะไรเลยงั้นหรือ
โอเค ส่วนตัวผม คิดคร่าวๆ ผมมองว่า ร้านจิ้มจุ่มของเขามีกำไรนะ แต่จ่ายดอกร้อยละ 2 ต่อวัน(ตามที่เขาอ้าง) ยังไงก็ไม่ไหวหรอก
จริงๆ ก็อยากจะช่วยแก้ปัญหาอ่ะนะ แต่แค่นี้ผมก็เจ็บพอสมควรละ สงสารลูกชายเขา ผมก็พอรู้จักกะลูกชายเขาอยู่
ตอนนี้เรื่องก็ยังไม่จบ เพราะผมก็ยังไม่ได้กุญแจ แต่ปัญหามันอยู่กะผม เพราะทางบ้านผมก็ไม่ยอมคุยกะเจ้านี้ละ(โกรธกันมาก) ฝากผมคุยอย่างเดียว
ผมคุยก็ไม่ได้อะไร ไม่มีไม่หนี ไม่จ่าย นี่ คือ ไม่ได้กะว่าจะจ่ายตอนนี้ แต่กุญแจ รึ ของที่ตกลงกัน ผมควรได้มั้ย
นี่ยังไม่ได้ไปเช็คบ้านที่ซื้อมา ว่า แอร์อยู่ครบมั้ยด้วย(ยังไม่ได้กุญแจของเขาที่เหลือ)
ปัญหาก็ราวๆ นี้แหละครับ ไม่ค่อยอยากบ่นลง FB แต่ถ้าเหลืออดก็คงบ่น 555
ปล.แถม ได้คุยกะแม่ของผู้เช่าบ้าง ทราบมาว่าบางที แม่เขาก็ให้เงินมาใช้หนี้ผมบ้าง แต่แน่นอนว่าไม่ถึงผม แม่เขาโทรมาเช็คเลยว่าได้เงินไหม