เดี๋ยวนี้สถานการณ์ หรือ สภาวะแวดล้อมต่างๆรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรค ที่เดี๋ยวนี้มันก็เริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ไหนจะฝุ่น PM 2.5 หรือ COVID 19 ที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความเสี่ยงในการเจ็บป่วยจึงมากขึ้นเรื่อยๆ ป่วยครั้งนึงค่ารักษาก็แสนจะแพง วันนี้เราจะมารีวิวประกันสุขภาพที่เราว่าราคาไม่แพง
และตอบโจทย์มนุษย์ออฟฟิศอย่างเรา
สำหรับเราเป็นพนักงานออฟฟิศ โชคดีที่ทำงานเค้าก็มีสวัสดิการให้อยู่แล้ว แต่สวัสดิการที่เค้าให้มามันก็ไม่ได้ครอบคลุมหรือ ไม่ได้ตอบโจทย์ ที่เราอยากได้สักเท่าไหร่ เราก็ต้องหาเป็นประกันเสริม จากที่บริษัทเค้าทำให้ แล้วก็ประกอบกับปีที่แล้ว เราเป็นไข้หวัดใหญ่ ไปรักษาโรงพยาบาลเอกชนแห่งนึง สวัสดิการจากที่ทำงานของเราครอบคลุมไม่ครบ ทำให้ต้องจ่ายเองเพิ่มเติม (เรานอนโรงพยาบาล 3 คืน จ่ายไปเกือบๆ 15,000 บาท) ค่าใช้จ่ายที่โดนไปก็จุกเลยแหละ แต่ยังโชคดีที่เรามีเก็บอยู่บ้าง เราค่อนข้างจะป่วยบ่อย แต่ไม่ถึงขั้นนอนโรงพยาบาล มีครั้งเดียวที่หนักสุดแล้ว ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่เราเห็นความสำคัญของประกันเลย ทำให้เราคิดได้ว่า หรือ “เราต้องทำประกันเสริมแล้ว” เผื่อว่าถ้าไม่สบาย หรือเป็นอะไรมากกว่านี้ล่ะจะทำยังไงดี เลยศึกษาหาประกันเพิ่มเติมแบบจริงจัง
หลังจากหาข้อมูล ก็เทียบกับประกันหลายๆเจ้า แต่ขอไม่บอกว่าเทียบกับเจ้าไหนบ้างนะ ความเห็นเราคิดว่าเจ้าไหนที่เรามองว่าไม่คุ้ม แต่มันอาจจะโอเคกับเพื่อนๆก็ได้ เราเลยเลือกเทียบที่เราต้องการเป็นหลัก โดยหาข้อมูลจาก กูรู ที่ทำรีวิวต่างๆ หรือ แม้แต่ใน พันทิป ก็เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีเลย จนได้ข้อสรุปเลือกอันที่เราสนใจ เป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายจาก “Viriyah Healthcare by BDMS” ของวิริยะประกันสุขภาพ ค่ะ ซึ่งมีแผนการคุ้มครอง ให้เลือกถึง 3 แผน (เดี๋ยวเราจะทิ้งแผนความคุ้มครองไว้ด้านล่างนี้นะคะ) และให้วงเงินสูงสุด 700,000 บาทต่อปี ไม่ว่าจะเป็นค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาลต่อวันถึง 8,000 บาทต่อคืน (อันนี้ส่วนตัวตอบโจทย์เรา เพราะเราอยากเลือกรักษาโรงพยาบาลเอกชนค่ะ) รวมไปถึงใช้จ่ายต่างๆ ที่จะจ่ายให้ตามจริง
สำหรับจุดเด่นๆที่ทำให้เราเลือกที่นี้ก็คือ
1. เป็นประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่ค่าเบี้ยถูกแบบจ่ายไหว
2. ไม่มีลิมิตค่ารักษาต่อครั้ง สามารถรักษาได้จนเต็มวงเงินคุ้มครอง
3. จ่ายค่าห้องได้วงเงินสูง (เหมาะกับการรักษาโรงพยาบาลเอกชน)
4. ไม่ต้องสำรองจ่ายเมื่อเข้ารักษา
เราจะขอยกตัวอย่างแผนประกันที่เราเลือกให้เพื่อนๆได้ลองศึกษาเพื่อประกอบการตัดสินใจกันดูนะคะ
ตอนนี้เราอายุ 27 ปี และเราเลือกแผนที่ 3 ซึ่งเราจะต้องจ่ายเบี้ยประกันต่อปี จำนวน 12,000 บาท แต่เรายังมีกรมธรรม์โควิดที่ทำไว้จึงได้ส่วนลดจากตรงนี้อีก 800 บาท (ส่วนลดตรงนี้จะขึ้นอยู่กับแผนที่เพื่อนๆ เลือกทำกันนะคะ) ดังนั้นในปีแรกที่เราเริ่มทำประกัน เราจะจ่ายค่าเบี้ยประกันเพียง 11,200 บาทเท่านั้นค่ะ (ซึ่งเฉลี่ยวันละ 30.68 บาทค่าา) ซึ่งหากเทียบกับเจ้าอื่นๆ แล้วค่าเบี้ยของเจ้าอื่นๆ ราคาจะอยู่ที่เกือบ 20,000 บาทแหนะ
ผลประโยชน์ที่เราจะได้รับจากการการทำประกันแผนที่ 3
เราจะได้รับผลประโยชน์สูงสุด 700,000 บาทค่ะ โดยหากต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลจะได้รับความคุ้มครองค่าห้อง ค่าอาหาร และ ค่าบริการพยาบาล สูงสุดสำหรับค่าห้องผู้ป่วยปกติ 8,000 บาทต่อวัน และค่าห้องผู้ป่วยหนัก 16,000 บาทต่อวัน และนอกจากนี้ยังมีค่าบริการรถพยาบาล 8,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลทั่วไป, ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน, รวมไปถึงค่าธรรมเนียมแพทย์ ที่จ่ายให้ตามจริง (ไม่เกินวงเงินผลประโยชน์สูงสุด) และ หากเสียชีวิต, สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุก็ยังได้รับความคุ้มครองเพิ่มอีก 10,000 บาทอีกด้วย (รายละเอียดเพิ่มเติมเราจะทิ้งตารางไว้ด้านล่างนี้นะคะ)
สรุปกันเลยค่ะเพื่อนๆ Viriyah Healthcare by BDMS จากวิริยะประกันภัย ถือว่าเป็นประกันที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราได้ค่อนข้างดี เลย เพราะนอกจากจะคุ้มครองเรื่องของการเจ็บป่วย แล้วและยังช่วยคุ้มครองในเรื่องของอุบัติเหตุด้วยแล้ว ยังได้รับการรักษาจาก โรงพยาบาลที่มีคุณภาพ มาตราฐาน เบี้ยแค่เพียงวันละ 30.68 บาทต่อวัน (ถ้าเทียบกับการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชน ของเราในปีที่แล้วก็ถือว่าคุ้มค่ามาก) ที่สำคัญสามารถผ่อนชำระได้นานถึง 10 เดือน และยังสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
เพื่อนๆคนไหนที่กำลังสนใจหาประกันที่เป็นตัวแรกในชีวิตเลย หรือ ทำเสริมจากที่มีอยู่ เราก็อยากแนะนำ ประกันตัวนี้ไว้เป็นตัวเลือกให้เพื่อนๆไปลองเปรียบเทียบดู เราหวังว่าข้อมูล ต่างๆ ที่เรานำมาแชร์จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ เพื่อนๆคนไหนที่มีข้อคิดเห็น หรือ เสนอแนะ ก็มาคุยกันได้ในคอมเม้นเลยนะ จะได้เป็นประโยชน์กับทุกๆคนด้วยค่ะ สำหรับวันนี้เราต้องขอตัวไปทำงานก่อนบ๊าย บาย
[CR] ซื้อประกันสุขภาพที่ไหน “ถูกและดี” วันนี้มีคำตอบ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้