วันนี้ได้เลิกงานกลับบ้านเร็วหน่อยเลยมีเวลาพาลูกสาวออกมาวิ่งเล่นหน้าบ้าน ปกติกลับดึกไม่ค่อยมีโอกาสแบบนี้ แถบบ้านก็เป็นลักษณะทาวเฮ้าส์ในซอยแคบๆแบบรถสวนกันพอได้ ย่านสาทรกลางใจกรุงเทพ ก็พอจะมีที่วิ่งเล่นได้บนถนนในซอยแถวหน้าบ้านตรงที่ว่างๆ ที่ไม่มีคนเอารถมาจอด
 
ซักพักมีชายคนหนึ่งบ้านถัดไปไม่กี่หลังเดินออกมาสูบบุหรี่หน้าบ้าน เข้าใจว่าคงไม่อยากทำร้ายคนในบ้านตัวเองด้วยควันมะเร็ง เลยมาสูบนอกบ้านแทน เลยเรียกลูกสาวที่วิ่งเล่นอยู่แถวนั้นว่า “มาทางนี้ ตรงนั้นมีคนสูบบุหรี” น่าจะดังพอที่ชายคนนั้นได้ยิน เพื่อที่จะได้รู้ว่ามายืนสูบบุหรีมันเหม็นคนอื่น มีคนเค้ารังเกียจ
 ชายคนนั้นก็ยังไม่สะทกสะท้าน เลยเอาผ้าเช็ดหน้ามาปิดจมูก เท่านั้นเพื่อนบ้านมะเร็งคนนั้นก็ยกนิ้วกลางให้ นั่น ผมผิดเองนิหน่าที่เหม็นบุหรี่ของเค้า ซักพักสูบเสร็จ ทิ้งก้นบุหรี่ลงท่อระบายน้ำ แล้วกลับเข้าไปไปอย่างสบายใจ

ข้างบ้านเค้าก็มีอาม่าคนนึงชอบมานั่งเล่นหน้าบ้านตอนเย็นๆ ก็ยังมายืนสูบอยู่ข้างๆ เคยพูดดีๆให้ฟังไปแล้วทีนึง ว่าช่วยอย่ามาสูบบุหรี่หน้าบ้านแบบนี้มันเหม็นคนอื่น คนแก่กับเด็กแถวนี้ก็เยอะ เค้าตอบมาว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลของเค้า

บ้านนี้ก็ยังมีประเด็นอีกหลายเรื่องทั้งเรื่องจอดรถนอกบ้าน และให้อาหารแมวจรจัด ผมเข้าใจได้เลยว่า เพื่อนบ้านที่ดีเค้าก็จะดีทุกอย่าง  แต่บ้างบ้านที่นิสัยแบบนี้ก็ คนพวกนี้จะทำได้ทุกเรื่องที่เป็นความสะดวกสะบายของเค้าโดยไม่คิดถึงคนอื่น ไม่รู้ว่ามันเกิดจากการอบรมสั่งสอน หรือ กรรมพันธุ์

คำพูดประจำที่คนพวกนี้จะพูดบ่อยๆตอนที่ไปบอกว่าทำอะไรไม่ดีคือ ย้ายไปที่อื่นสิ ไปอยู่บ้านใหญ่ๆ จะได้ไม่มีปัญหา อยากบอกกลับไปว่า ถ้าหน้าบ้านเองมีขยะ จะย้ายบ้านหนีไหม หรือจะเก็บกวาดขยะให้มันสะอาดเรียบร้อย ไม่เข้าใจว่าเอาประโยคนี้มาจากไหน เป็นแนวเดียวกันหมดเลย เคยฟังมาจากอีกบ้านตอนที่บอกว่าอย่ามาจอดรถขวางหน้าบ้านให้จอดในบ้านตัวเอง

ควรจะทำยังไง ในเมื่อประเทศนี้ไม่มีกฏหมายห้ามสูบบุหรี่ให้คนอื่นดมออกมา เพราะคนพวกนี้พูดดีๆไม่ฟัง คงต้องพึ่งกฏหมาย แต่อย่างว่าประเทศไทย ถึงมีกฏหมายแต่ไม่มีผู้รักษากฏหมายเป็นอย่างทุกวันนี้ก็คงต้องทำใจ

จะทำยังไงเมื่อเจอเพื่อนบ้านแบบนี้ ? พูดดีๆก็ไม่รู้เรื่อง ใช้กำลังก็คงไม่ได้  หรือจะต้องทนอยู่แบบนี้ไป แต่อย่างที่บอกหน้าบ้านมีขยะก็ต้องเก็บ คงไม่ใช่ว่าต้องทนดูต่อไป หรือจะให้หนีปัญหาไปที่อื่น