.
ผ่านไปสองเดือนที่ประจำเดือนของเธอไม่มาติดต่อกัน ทั้งที่ผ่านมาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ร่างกายปกติ รอบเดือนมาทุกเดือน ทว่าตอนนี้กลับหายไปถึงสองเดือน ความกลัววาดระแวงเข้ามาเกาะกุมจิตใจ จะทำอย่างไรดี ที่สำคัญเธอไม่มีทางทำร้ายเขาแน่หากเป็นอย่างที่คิด และจะบอกผู้เป็นบิดายังไงกับเรื่องนี้
“เป็นไปได้เหรอ! แค่... “ อรพินค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต เรื่องการมีบุตร การตั้งครรภ์ต่าง ๆ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับความไม่สบายใจของตน ถึงข้อมูลจะบอกไว้ว่าอาจ! ทว่ามันก็สร้างความไม่สบายใจให้เธออย่างมากมายมหาศาลในตอนนี้
สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจ เมื่อผลออกมาทำเอาอรพินแทบทรุดยืนไม่ไหว เหมือนโลกทั้งใบถล่มทลายลงไปต่อหน้าต่อตา น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอนั่งลงกับพื้นในห้องน้ำ นั่งกอดเข่าร้องไห้ไม่อยากเชื่อความจริงที่เกิดขึ้นวันนี้ตอนนี้เลยสักนิด
“มนัสรพินขอโทษ” พูดคำเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมาอย่างกับคนเสียสติ ภายในมือถือที่ตรวจการตั้งครรภ์กำบีมมันไว้แน่น ราวกับว่าต้องการให้ขีดสองขีดที่โชว์มันหายไป เธอไม่กล้าพอที่จะเป็นฆาตกรฆ่าใคร
“มนัสเราเลิกกันเถอะ อย่าเจอกันอีกเลย” เป็นคำประกาศิต เป็นประโยคสั้น ๆ ที่เธอส่งหาผู้ชายคนหนึ่งทั้งน้ำตา พร้อมเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งลงบนที่นอน เธอต้องตัดใจกับคนที่พึ่งขอเป็นแฟนเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เธอกับเขารักกันไม่ใช่อรรถพล เธอไม่ได้รักอรรถพลสักนิดเดียว
เธอรักมนัส เขาทำทุกอย่างเพื่อเธอเสมอมา เพราะไม่อาจหลอกเขาได้อีกต่อไป “ขอโทษนะมนัสรพินขอโทษ” อรพินนอนร้องไห้กอดตัวเอง พูดกับตัวเองคนเดียวทั้งน้ำตา โลกทั้งใบของเธอพังทลายหมดสิ้นแล้ว
อรพินยอมให้มนัสมองว่าตนเองเป็นคนไม่ดี ที่ปันใจให้ชายคนอื่นดีกว่าพูดความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรักเขาจึงมิอาจหลอกคนที่รักได้อีกต่อไป ความจริงอาจจะทำได้ แต่ทว่ามันกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด ทุกอย่างกลับตาละปัดไปหมด รวมทั้งสมองของเธอด้วยที่มืดแปดด้านเช่นกัน
หลังจากหนีหลบหน้าอรรถพลกลับมาอยู่บ้านสวนกับผู้เป็นพ่อ กลับมารักษาบาดแผลในใจที่บ้านหลังนี้ เมื่อรู้ว่ามีอีกคนในตัวของเธอ อรพินจึงตัดสินใจบอกเลิกกับมนัสเด็ดขาด เป็นทางออกดีที่สุดทั้งสองคน มนัสควรได้เจอคนที่ดีกว่าเธอ ส่วนอรรถพลเขาจะไม่มีวันได้รู้เรื่องนี้เด็ดขาด และขณะที่เธออยู่ที่บ้านสวน อรรถพลจะไม่มีทางรู้และตามหาเธอเจอแน่นอน
“รพินเราผิดอะไร ทำไมรพินใจร้ายกับเรา ทำกับเราแบบนี้ รพินไม่ได้รักเราตั้งแต่แรก ทำไมไม่บอก รับรักเราทำไม เห็นเราเป็นตัวอะไร” เธอกับมนัสคุยกันครั้งสุดท้าย หลังจากนี้พวกเธอจะไม่ได้คุยกันอีก เธอจะกล้าสู้หน้ามนัสได้อย่างไร สักวันมนัสต้องเจอคนที่ดีกว่าเธอ และเข้าใจในสิ่งที่เธอทำ
อรพินเอาแต่เก็บตัวเองอยู่ในห้อง ไม่ค่อยออกมาพบปะกับใคร ทุก ๆ คนพยายามติดต่อเธอแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ อรอุมา นารา เมษา แม้กระทั่งอรรถพลที่พยายามติดต่อเธอทุกช่องทางเช่นกัน แต่ไม่เป็นผล อรพินไม่ยอมคุยกับใคร ไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น เธอกลับมาอยู่ที่บ้านของพ่อและแม่เลี้ยง
“รพินคุยกับอรได้มั้ย อรขอโทษ” ทุก ๆ วันอรอุมาจะฝากข้อความขอโทษเธอเสมอ เธอไม่ได้โกรธเพื่อน เธอรู้ว่าอรอุมาไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ อรอุมาไม่ผิด หากจะมีใครผิดต้องเป็นอรรถพลเองต่างหาก ที่ทำลายความเชื่อใจของเธอจนหมดสิ้น
“รพินพ่อว่าหลานต้องมีพ่อนะ” พ่อของเธอเข้ามาพูดคุยด้วยภายในห้องนอนส่วนตัว ทุกคนในครอบครัวรู้เรื่องนี้ เธอตัดสินใจบอกความจริงกับผู้เป็นพ่อทุกอย่าง ทว่าพ่อของเธอไม่เห็นด้วยที่เธอต้องการจะเลี้ยงลูกคนเดียว “พ่อว่านายอรรถก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะ เท่าที่พ่อฟังที่ลูกเล่ามา ถ้าไม่นับว่าแค่ลูกไม่ได้รักเขา”
“แต่รพิน...”
“พ่อว่าหลานควรจะมีพ่อ ควรจะได้รู้ว่าพ่อของตัวเองเป็นใคร พ่อไม่ได้บังคับให้ลูกรักเขานะรพินพ่อแค่...” วิบูลชายสูงวัยหยุดพูด เหมือนกำลังคิดว่าจะพูดต่อไปดีหรือไม่ เกรงว่าหากพูดไปยืดยาวกว่านี้ อรพินลูกสาวคนโตของตนจะหาว่าเข้าข้างคนอื่นมากไป “นายอรรถเขาควรจะรู้ว่าเขามีอีกคนในชีวิตเหมือนลูก”
วิบูลชายสูงวัยมองหน้าลูกสาวด้วยความเอ็นดู ตั้งแต่แม่ของเธอเสียไปเขาก็ดูแลคนเดียวมาโดยตลอด ก่อนที่จะแต่งงานใหม่ ล้วนก็ผ่านการอนุญาตจากอรพินเสียก่อน บัดนี้เด็กน้อยที่ขี้สงสัยกลายเป็นแม่คนไปแล้ว และตัวเขาเองก็กำลังจะกลายเป็นคุณตาในไม่ช้า
เขาได้เจอกับอรรถพลมาแล้ว โดยการติดต่อผ่านลูกสาวคนเล็ก ทั้งสองคนแอบนัดเจอกันโดยไม่ให้อรพินรู้ เธอกำลังตั้งครรภ์ไม่อยากให้คิดมากกับเรื่องนี้ อรรถพลยอมรับผิดทุกอย่าง ขอโทษตัวเขาเอง และพร้อมรับผิดชอบ วิบูลยังไม่ต้องการให้ทำอะไรตอนนี้ เขาขอพูดกับลูกสาวตัวเองก่อน
“แต่รพินไม่อยากเจอหน้าเขานะคะพ่อ เขาทำร้ายรพิน เขาทำให้รพินต้องเลิกกับคนที่รพินรัก พ่อก็รู้”
เธอพูดทั้งน้ำตา คนเป็นพ่อถึงจะอยากให้ลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝาแค่ไหน แต่ถ้าบังคับมันคงไม่มีความสุข จะเรียกว่าครอบครัวได้อย่างไร หากคนใดคนหนึ่งต้องอดทนกล้ำกลืน เขาเองเมื่อเห็นน้ำตาลูกสาวร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ก็ไม่อยากบังคับ ถึงจะดูออกว่าอรรถพลจริงใจก็ตาม
วิบูลไม่ได้ต้องการบังคับลูกสาวให้กลับไปหาผู้ชายคนนั้น คนที่ย่ำยีจิตใจลูกตัวเอง เขาก็เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่ากัน เขาเพียงเห็นว่าอรรถพลไม่ได้เลวร้ายอะไร แทบไม่มีข้อเสียด้วยซ้ำ หากฟังจากปากลูกสาว และการไปเจอกันครั้งนั้น ถ้าเป็นไปได้อรพินควรจะได้เจอผู้ชายดี ๆ แบบนี้ และถ้าเขาไม่ได้พบเจอกับอรรถพลมาแล้ว เขาคงไม่มาพูดเช่นนี้
อรพินหนีกลับมาบ้านตนเองที่ต่างจังหวัด ตอนแรกเธอแค่จะหลบหน้าอรรถพล และรักษาความช้ำในใจ ทุกอย่างต้องเปลี่ยนไปเมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตเกิดขึ้นมา
“พี่รพินพี่เล่าเรื่องทั้งหมดให้พุดจีบฟังเดี๋ยวนี้เลย พูดจีบจะได้ช่วยพูดกับพ่อ ทำไมพี่ถึงหนีผัว เอ้ย พ่อของลูกพี่มาแบบนี้ ถ้าพ่อถามพุดจีบจะได้ช่วยพูด” ก่อนหน้าที่พ่อและแม่เลี้ยงของเธอจะทราบเรื่อง คนที่รู้คนแรกคือน้องสาวต่างแม่ของเธอ คนที่ใกล้ชิดเธอที่สุด
“เขาไม่ใช่สามีพี่”
“ถ้าเขาไม่ใช่สามีพี่ แล้วเขาจะเป็นพ่อของลูกพี่ได้ไง”
“ก็! ช่างมันเถอะ” อรพินยอมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้น้องสาวต่างแม่ฟัง โดยที่เธอไม่คิดปิดบังอะไรเลย เพราะไม่เห็นว่าไม่มีความจำเป็นใด ๆ ต้องปิดบัง
“พี่มีแฟนอยู่แล้ว และพี่อรรถก็รักพี่ด้วย แต่พี่ไม่ได้รักเขา และสุดท้ายพี่อรรถ เอ่อ... ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าพุดจีบเข้าใจแล้วกัน แต่พี่อรรถเขาก็รักพี่มากนะพี่รพิน หาได้ที่ไหนคนยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่รักขนาดนี้” พุดจีบเผลอเข้าข้างอรรถพลอย่างลืมตัว ถึงแม้เขาอาจจะไม่แฟร์กับพี่สาวของตนนิดหน่อยก็ตาม ฟัง ๆ ดูเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร และที่สำคัญพี่สาวของตนจะได้ไม่ต้องเป็นขี้ปากชาวบ้าน ว่าท้องไม่มีพ่อ
“พุดจีบแกเป็นน้องใครกันแน่”
“เป็นน้องพี่รพินนั่นแหละ พุดจีบรักพี่รพิน รักหลานที่จะเกิดมาด้วย พี่รพินถ้าพี่อรรถเขาไม่ได้เลวชั่วช้าอะไร เขาควรจะได้รู้นะ อย่างน้อยหลานก็จะได้มีพ่อ พี่อยากให้ลูกพี่ไม่มีพ่อเหรอ”
พุดจีบพูดได้แทงใจของเธอมาก ไม่ใช่ว่าไม่นึกถึงเรื่องนี้ ทุกคืนเธอนอนไม่หลับก็เพราะนึกถึงเรื่องนี้เสมอ แต่ความแค้นมันมีมากกว่าความรักความถูกต้อง จึงยังทำให้เธอไม่ยอมบอกความจริงกับเขาสักที
เช้าวันนี้เป็นวันหยุด ทุกคนอยู่บ้านกันครบ รวมทั้งพ่อของเธอด้วย สักพักเสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้องของเธอ อรพินเดินตัวอุ้ยอ้ายไปเปิดประตูให้พบว่าเป็นพ่อนั่นเองที่เคาะประตู
วิบูลมองรูปร่างท้วมของลูกสาวตั้งแต่หัวจดเท้าด้วยความเอ็นดู ห่วงหาอาทร ไม่มีความโกรธ เกลียด หรืออะไรทั้งนั้น ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วมัวแต่เสียใจคงไม่มีอะไรดีขึ้น สู้นับวันรอหลานตัวน้อยที่จะเกิดมาดีกว่า โลกคนแก่อย่างเขาคงจะสดใสไม่น้อย เขาทราบเรื่องราวทั้งหมด พร้อมเจอกับอรรถพลเรียบร้อยแล้ว ด้วยฝีมือพุดจีบลูกสาวคนเล็ก ทุกคนเพียงหวังดีกับอรพินทั้งนั้นที่ทำแบบนี้
อรรถพลกราบขอโทษที่ทำร้ายย่ำยีหัวใจของเขา วิบูลยกโทษให้ไม่โกรธแค้นอะไร เพราะอรรถพลกล้ายอมรับผิด และขอรับผิดชอบในตัวอรพินทุกอย่างพร้อมที่จะเป็นพ่อที่ดีของหลาน จึงทำให้วิบูลเข้ามาคุยกับลูกสาวในวันนี้ และขอให้อรรถพลอยู่เฉย ๆ อย่าพึ่งรีบร้อนมาที่นี่ เขาต้องการคุยกับอรพินก่อน
“คิดดูดี ๆ นะลูกกับสิ่งที่พ่อพูด อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจ “
“ค่ะพ่อ”
เมื่อพูดทุกอย่างที่อยากพูดเรียบร้อยก็กลับออกไป ปล่อยให้อรพินได้ใช้ความคิดอย่างถี่ถ้วนคนเดียว เขาหวังว่าลูกสาวจะเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด หลานรักของเขาจะได้มีความสุข
อรพินหยิบแผ่นอุลตร้าซาวด์สองสามใบขึ้นมาดู เป็นภาพเด็กน้อยในครรภ์ของเธอเอง เธอยิ้มอีกไม่กี่เดือนก็จะได้เจอหน้ากันแล้ว อยู่ดี ๆ ก็พลันนึกถึงใบหน้าอรรถพลขึ้นมา เธอหุบยิ้มและเก็บแผ่นอุลตร้าซาวด์ไว้ที่เดิม
หรือเธอควรจะบอกความจริงแก่เขาด้วยหรือไม่ พร้อมกับนึกถึงคำพูดของผู้เป็นพ่อและน้องสาว สุดท้ายก็ทำให้เธอส่งภาพพวกนี้ให้อรรถพลจนได้
“แม่ทำเพื่อหนูแล้วนะคะ หนูรักแม่แล้วใช่มั้ย พ่อของหนูเค้ารู้แล้วนะ”
อรพินก้มหน้าคุยกับหน้าท้องตัวเองที่นูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด ไม่นานก็มีสายเข้าจากอรรถพล เธอเต็มใจกดรับสายและเปิดใจคุยกับเขา ถึงเรื่องที่จะทำร่วมกันในอนาคต
“คุณไม่ต้องรับผิดชอบอะไรชั้นค่ะ รับผิดชอบแค่ลูกก็พอ”
“คุณเหรอ! พี่ เอ่อ ผม ผมขอบคุณมากครับ ที่ให้โอกาสผม เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปหาคุณที่บ้านสวน” น้ำเสียงของเขาดูตื่นเต้นเอามาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่เคยรู้สึกดีด้วย เธอคงหัวเราะไปนานแล้ว
“พี่อรรถรู้จักบ้านรพินแล้วเหรอ ถึงจะมาหาที่บ้าน อย่าบอกว่า! คุณพ่อ ยายพุด หืม!” อรพินนึกโกรธคนของตัวเอง พร้อมลืมตัวเรียกอรรถพลเหมือนที่เคยเรียก
“รพินไม่ต้องไปโกรธพ่อกับน้องหรอก โกรธพี่คนเดียวก็พอ”
“รพินทำเพื่อลูกเท่านั้นนะคะ เราจะติดต่อกันเพื่อลูกเท่านั้น อย่าคิดอะไรไปไกลเกินกว่านั้น”
“ครับ ขอบคุณมากครับ ที่ให้โอกาสพี่ได้เจอลูก”
โซ่รัก บทที่ 10
.
ผ่านไปสองเดือนที่ประจำเดือนของเธอไม่มาติดต่อกัน ทั้งที่ผ่านมาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ร่างกายปกติ รอบเดือนมาทุกเดือน ทว่าตอนนี้กลับหายไปถึงสองเดือน ความกลัววาดระแวงเข้ามาเกาะกุมจิตใจ จะทำอย่างไรดี ที่สำคัญเธอไม่มีทางทำร้ายเขาแน่หากเป็นอย่างที่คิด และจะบอกผู้เป็นบิดายังไงกับเรื่องนี้
“เป็นไปได้เหรอ! แค่... “ อรพินค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต เรื่องการมีบุตร การตั้งครรภ์ต่าง ๆ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับความไม่สบายใจของตน ถึงข้อมูลจะบอกไว้ว่าอาจ! ทว่ามันก็สร้างความไม่สบายใจให้เธออย่างมากมายมหาศาลในตอนนี้
สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจ เมื่อผลออกมาทำเอาอรพินแทบทรุดยืนไม่ไหว เหมือนโลกทั้งใบถล่มทลายลงไปต่อหน้าต่อตา น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอนั่งลงกับพื้นในห้องน้ำ นั่งกอดเข่าร้องไห้ไม่อยากเชื่อความจริงที่เกิดขึ้นวันนี้ตอนนี้เลยสักนิด
“มนัสรพินขอโทษ” พูดคำเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมาอย่างกับคนเสียสติ ภายในมือถือที่ตรวจการตั้งครรภ์กำบีมมันไว้แน่น ราวกับว่าต้องการให้ขีดสองขีดที่โชว์มันหายไป เธอไม่กล้าพอที่จะเป็นฆาตกรฆ่าใคร
“มนัสเราเลิกกันเถอะ อย่าเจอกันอีกเลย” เป็นคำประกาศิต เป็นประโยคสั้น ๆ ที่เธอส่งหาผู้ชายคนหนึ่งทั้งน้ำตา พร้อมเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งลงบนที่นอน เธอต้องตัดใจกับคนที่พึ่งขอเป็นแฟนเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เธอกับเขารักกันไม่ใช่อรรถพล เธอไม่ได้รักอรรถพลสักนิดเดียว
เธอรักมนัส เขาทำทุกอย่างเพื่อเธอเสมอมา เพราะไม่อาจหลอกเขาได้อีกต่อไป “ขอโทษนะมนัสรพินขอโทษ” อรพินนอนร้องไห้กอดตัวเอง พูดกับตัวเองคนเดียวทั้งน้ำตา โลกทั้งใบของเธอพังทลายหมดสิ้นแล้ว
อรพินยอมให้มนัสมองว่าตนเองเป็นคนไม่ดี ที่ปันใจให้ชายคนอื่นดีกว่าพูดความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรักเขาจึงมิอาจหลอกคนที่รักได้อีกต่อไป ความจริงอาจจะทำได้ แต่ทว่ามันกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด ทุกอย่างกลับตาละปัดไปหมด รวมทั้งสมองของเธอด้วยที่มืดแปดด้านเช่นกัน
หลังจากหนีหลบหน้าอรรถพลกลับมาอยู่บ้านสวนกับผู้เป็นพ่อ กลับมารักษาบาดแผลในใจที่บ้านหลังนี้ เมื่อรู้ว่ามีอีกคนในตัวของเธอ อรพินจึงตัดสินใจบอกเลิกกับมนัสเด็ดขาด เป็นทางออกดีที่สุดทั้งสองคน มนัสควรได้เจอคนที่ดีกว่าเธอ ส่วนอรรถพลเขาจะไม่มีวันได้รู้เรื่องนี้เด็ดขาด และขณะที่เธออยู่ที่บ้านสวน อรรถพลจะไม่มีทางรู้และตามหาเธอเจอแน่นอน
“รพินเราผิดอะไร ทำไมรพินใจร้ายกับเรา ทำกับเราแบบนี้ รพินไม่ได้รักเราตั้งแต่แรก ทำไมไม่บอก รับรักเราทำไม เห็นเราเป็นตัวอะไร” เธอกับมนัสคุยกันครั้งสุดท้าย หลังจากนี้พวกเธอจะไม่ได้คุยกันอีก เธอจะกล้าสู้หน้ามนัสได้อย่างไร สักวันมนัสต้องเจอคนที่ดีกว่าเธอ และเข้าใจในสิ่งที่เธอทำ
อรพินเอาแต่เก็บตัวเองอยู่ในห้อง ไม่ค่อยออกมาพบปะกับใคร ทุก ๆ คนพยายามติดต่อเธอแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ อรอุมา นารา เมษา แม้กระทั่งอรรถพลที่พยายามติดต่อเธอทุกช่องทางเช่นกัน แต่ไม่เป็นผล อรพินไม่ยอมคุยกับใคร ไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น เธอกลับมาอยู่ที่บ้านของพ่อและแม่เลี้ยง
“รพินคุยกับอรได้มั้ย อรขอโทษ” ทุก ๆ วันอรอุมาจะฝากข้อความขอโทษเธอเสมอ เธอไม่ได้โกรธเพื่อน เธอรู้ว่าอรอุมาไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ อรอุมาไม่ผิด หากจะมีใครผิดต้องเป็นอรรถพลเองต่างหาก ที่ทำลายความเชื่อใจของเธอจนหมดสิ้น
“รพินพ่อว่าหลานต้องมีพ่อนะ” พ่อของเธอเข้ามาพูดคุยด้วยภายในห้องนอนส่วนตัว ทุกคนในครอบครัวรู้เรื่องนี้ เธอตัดสินใจบอกความจริงกับผู้เป็นพ่อทุกอย่าง ทว่าพ่อของเธอไม่เห็นด้วยที่เธอต้องการจะเลี้ยงลูกคนเดียว “พ่อว่านายอรรถก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะ เท่าที่พ่อฟังที่ลูกเล่ามา ถ้าไม่นับว่าแค่ลูกไม่ได้รักเขา”
“แต่รพิน...”
“พ่อว่าหลานควรจะมีพ่อ ควรจะได้รู้ว่าพ่อของตัวเองเป็นใคร พ่อไม่ได้บังคับให้ลูกรักเขานะรพินพ่อแค่...” วิบูลชายสูงวัยหยุดพูด เหมือนกำลังคิดว่าจะพูดต่อไปดีหรือไม่ เกรงว่าหากพูดไปยืดยาวกว่านี้ อรพินลูกสาวคนโตของตนจะหาว่าเข้าข้างคนอื่นมากไป “นายอรรถเขาควรจะรู้ว่าเขามีอีกคนในชีวิตเหมือนลูก”
วิบูลชายสูงวัยมองหน้าลูกสาวด้วยความเอ็นดู ตั้งแต่แม่ของเธอเสียไปเขาก็ดูแลคนเดียวมาโดยตลอด ก่อนที่จะแต่งงานใหม่ ล้วนก็ผ่านการอนุญาตจากอรพินเสียก่อน บัดนี้เด็กน้อยที่ขี้สงสัยกลายเป็นแม่คนไปแล้ว และตัวเขาเองก็กำลังจะกลายเป็นคุณตาในไม่ช้า
เขาได้เจอกับอรรถพลมาแล้ว โดยการติดต่อผ่านลูกสาวคนเล็ก ทั้งสองคนแอบนัดเจอกันโดยไม่ให้อรพินรู้ เธอกำลังตั้งครรภ์ไม่อยากให้คิดมากกับเรื่องนี้ อรรถพลยอมรับผิดทุกอย่าง ขอโทษตัวเขาเอง และพร้อมรับผิดชอบ วิบูลยังไม่ต้องการให้ทำอะไรตอนนี้ เขาขอพูดกับลูกสาวตัวเองก่อน
“แต่รพินไม่อยากเจอหน้าเขานะคะพ่อ เขาทำร้ายรพิน เขาทำให้รพินต้องเลิกกับคนที่รพินรัก พ่อก็รู้”
เธอพูดทั้งน้ำตา คนเป็นพ่อถึงจะอยากให้ลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝาแค่ไหน แต่ถ้าบังคับมันคงไม่มีความสุข จะเรียกว่าครอบครัวได้อย่างไร หากคนใดคนหนึ่งต้องอดทนกล้ำกลืน เขาเองเมื่อเห็นน้ำตาลูกสาวร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ก็ไม่อยากบังคับ ถึงจะดูออกว่าอรรถพลจริงใจก็ตาม
วิบูลไม่ได้ต้องการบังคับลูกสาวให้กลับไปหาผู้ชายคนนั้น คนที่ย่ำยีจิตใจลูกตัวเอง เขาก็เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่ากัน เขาเพียงเห็นว่าอรรถพลไม่ได้เลวร้ายอะไร แทบไม่มีข้อเสียด้วยซ้ำ หากฟังจากปากลูกสาว และการไปเจอกันครั้งนั้น ถ้าเป็นไปได้อรพินควรจะได้เจอผู้ชายดี ๆ แบบนี้ และถ้าเขาไม่ได้พบเจอกับอรรถพลมาแล้ว เขาคงไม่มาพูดเช่นนี้
อรพินหนีกลับมาบ้านตนเองที่ต่างจังหวัด ตอนแรกเธอแค่จะหลบหน้าอรรถพล และรักษาความช้ำในใจ ทุกอย่างต้องเปลี่ยนไปเมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตเกิดขึ้นมา
“พี่รพินพี่เล่าเรื่องทั้งหมดให้พุดจีบฟังเดี๋ยวนี้เลย พูดจีบจะได้ช่วยพูดกับพ่อ ทำไมพี่ถึงหนีผัว เอ้ย พ่อของลูกพี่มาแบบนี้ ถ้าพ่อถามพุดจีบจะได้ช่วยพูด” ก่อนหน้าที่พ่อและแม่เลี้ยงของเธอจะทราบเรื่อง คนที่รู้คนแรกคือน้องสาวต่างแม่ของเธอ คนที่ใกล้ชิดเธอที่สุด
“เขาไม่ใช่สามีพี่”
“ถ้าเขาไม่ใช่สามีพี่ แล้วเขาจะเป็นพ่อของลูกพี่ได้ไง”
“ก็! ช่างมันเถอะ” อรพินยอมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้น้องสาวต่างแม่ฟัง โดยที่เธอไม่คิดปิดบังอะไรเลย เพราะไม่เห็นว่าไม่มีความจำเป็นใด ๆ ต้องปิดบัง
“พี่มีแฟนอยู่แล้ว และพี่อรรถก็รักพี่ด้วย แต่พี่ไม่ได้รักเขา และสุดท้ายพี่อรรถ เอ่อ... ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าพุดจีบเข้าใจแล้วกัน แต่พี่อรรถเขาก็รักพี่มากนะพี่รพิน หาได้ที่ไหนคนยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่รักขนาดนี้” พุดจีบเผลอเข้าข้างอรรถพลอย่างลืมตัว ถึงแม้เขาอาจจะไม่แฟร์กับพี่สาวของตนนิดหน่อยก็ตาม ฟัง ๆ ดูเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร และที่สำคัญพี่สาวของตนจะได้ไม่ต้องเป็นขี้ปากชาวบ้าน ว่าท้องไม่มีพ่อ
“พุดจีบแกเป็นน้องใครกันแน่”
“เป็นน้องพี่รพินนั่นแหละ พุดจีบรักพี่รพิน รักหลานที่จะเกิดมาด้วย พี่รพินถ้าพี่อรรถเขาไม่ได้เลวชั่วช้าอะไร เขาควรจะได้รู้นะ อย่างน้อยหลานก็จะได้มีพ่อ พี่อยากให้ลูกพี่ไม่มีพ่อเหรอ”
พุดจีบพูดได้แทงใจของเธอมาก ไม่ใช่ว่าไม่นึกถึงเรื่องนี้ ทุกคืนเธอนอนไม่หลับก็เพราะนึกถึงเรื่องนี้เสมอ แต่ความแค้นมันมีมากกว่าความรักความถูกต้อง จึงยังทำให้เธอไม่ยอมบอกความจริงกับเขาสักที
เช้าวันนี้เป็นวันหยุด ทุกคนอยู่บ้านกันครบ รวมทั้งพ่อของเธอด้วย สักพักเสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้องของเธอ อรพินเดินตัวอุ้ยอ้ายไปเปิดประตูให้พบว่าเป็นพ่อนั่นเองที่เคาะประตู
วิบูลมองรูปร่างท้วมของลูกสาวตั้งแต่หัวจดเท้าด้วยความเอ็นดู ห่วงหาอาทร ไม่มีความโกรธ เกลียด หรืออะไรทั้งนั้น ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วมัวแต่เสียใจคงไม่มีอะไรดีขึ้น สู้นับวันรอหลานตัวน้อยที่จะเกิดมาดีกว่า โลกคนแก่อย่างเขาคงจะสดใสไม่น้อย เขาทราบเรื่องราวทั้งหมด พร้อมเจอกับอรรถพลเรียบร้อยแล้ว ด้วยฝีมือพุดจีบลูกสาวคนเล็ก ทุกคนเพียงหวังดีกับอรพินทั้งนั้นที่ทำแบบนี้
อรรถพลกราบขอโทษที่ทำร้ายย่ำยีหัวใจของเขา วิบูลยกโทษให้ไม่โกรธแค้นอะไร เพราะอรรถพลกล้ายอมรับผิด และขอรับผิดชอบในตัวอรพินทุกอย่างพร้อมที่จะเป็นพ่อที่ดีของหลาน จึงทำให้วิบูลเข้ามาคุยกับลูกสาวในวันนี้ และขอให้อรรถพลอยู่เฉย ๆ อย่าพึ่งรีบร้อนมาที่นี่ เขาต้องการคุยกับอรพินก่อน
“คิดดูดี ๆ นะลูกกับสิ่งที่พ่อพูด อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจ “
“ค่ะพ่อ”
เมื่อพูดทุกอย่างที่อยากพูดเรียบร้อยก็กลับออกไป ปล่อยให้อรพินได้ใช้ความคิดอย่างถี่ถ้วนคนเดียว เขาหวังว่าลูกสาวจะเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด หลานรักของเขาจะได้มีความสุข
อรพินหยิบแผ่นอุลตร้าซาวด์สองสามใบขึ้นมาดู เป็นภาพเด็กน้อยในครรภ์ของเธอเอง เธอยิ้มอีกไม่กี่เดือนก็จะได้เจอหน้ากันแล้ว อยู่ดี ๆ ก็พลันนึกถึงใบหน้าอรรถพลขึ้นมา เธอหุบยิ้มและเก็บแผ่นอุลตร้าซาวด์ไว้ที่เดิม
หรือเธอควรจะบอกความจริงแก่เขาด้วยหรือไม่ พร้อมกับนึกถึงคำพูดของผู้เป็นพ่อและน้องสาว สุดท้ายก็ทำให้เธอส่งภาพพวกนี้ให้อรรถพลจนได้
“แม่ทำเพื่อหนูแล้วนะคะ หนูรักแม่แล้วใช่มั้ย พ่อของหนูเค้ารู้แล้วนะ”
อรพินก้มหน้าคุยกับหน้าท้องตัวเองที่นูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด ไม่นานก็มีสายเข้าจากอรรถพล เธอเต็มใจกดรับสายและเปิดใจคุยกับเขา ถึงเรื่องที่จะทำร่วมกันในอนาคต
“คุณไม่ต้องรับผิดชอบอะไรชั้นค่ะ รับผิดชอบแค่ลูกก็พอ”
“คุณเหรอ! พี่ เอ่อ ผม ผมขอบคุณมากครับ ที่ให้โอกาสผม เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปหาคุณที่บ้านสวน” น้ำเสียงของเขาดูตื่นเต้นเอามาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่เคยรู้สึกดีด้วย เธอคงหัวเราะไปนานแล้ว
“พี่อรรถรู้จักบ้านรพินแล้วเหรอ ถึงจะมาหาที่บ้าน อย่าบอกว่า! คุณพ่อ ยายพุด หืม!” อรพินนึกโกรธคนของตัวเอง พร้อมลืมตัวเรียกอรรถพลเหมือนที่เคยเรียก
“รพินไม่ต้องไปโกรธพ่อกับน้องหรอก โกรธพี่คนเดียวก็พอ”
“รพินทำเพื่อลูกเท่านั้นนะคะ เราจะติดต่อกันเพื่อลูกเท่านั้น อย่าคิดอะไรไปไกลเกินกว่านั้น”
“ครับ ขอบคุณมากครับ ที่ให้โอกาสพี่ได้เจอลูก”