.
“รพินชมพูงอแงอีกแล้ว พี่ก็ไม่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ไม่อยากเห็นลูกร้องไห้อ่ะ สงสาร” เป็นข้ออ้างที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ของอรรถพลเสมอ ๆ ช่วงแรกเขาแค่พาลูกมาเพียงสองวัน วันเสาร์กับวันอาทิตย์ ระยะหลังแทบจะพาลูกมานอนกับเธอวันเว้นวัน
“ชมพูคิดถึงคุณแม่ใช่มั้ยคะ” อรรถพลทำเป็นถามลูกสาว เด็กหญิงพยักหน้ารับคำ ให้ความร่วมมือกับคนเป็นพ่ออย่างดี โดยมีอรพินมองค้อนทั้งสองคนอยู่ใกล้ ๆ นึกหมั่นไส้ที่เอาลูกมาบังหน้า ทำไมเธอจะไม่รู้แผนการของเขาแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ชมพูงอแง หรือพ่อมันงอแงกันแน่คะ”
“ลูกงอแงสิ พี่จะงอแงทำไม รพินให้มาพี่ก็มา รพินไม่ให้มาพี่ก็มาเหมือนเดิม เอ้ยไม่มา! ไม่มาครับ” พูดแต่ไม่ยอมมองหน้าเธอ ไม่รอเอาคำตอบ อรรถพลอุ้มลูกสาวถือวิสาสะเดินขึ้นตึกไปก่อน อรพินทำได้เพียงเดินตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“พี่อรรถจะพาลูกเทียวไปเทียวมาทำไม ไหนจะต้องไปทำงานอีก มาแค่เสาร์อาทิตย์ก็พอแล้ว” เธอไม่เห็นด้วยที่ลูกต้องเดินทางแบบนี้ อรรถพลทำอะไรไม่เข้าท่าเสียเลย
ภายในห้องพักของเธอ อรรถพลนอนอ่านหนังสือบนโซฟา ส่วนตนเองดูการ์ตูนกับลูกสาวในโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอน “พูดแบบนี้ให้พี่มาคนเดียว ให้ชมพูอยู่กับคุณแม่เหรอ” อรรถพลพูดแหย่เล่น พร้อมฉีกยิ้ม ปรายตามองเธอนิดหน่อย
“ไม่! เดี๋ยวเถอะพี่อรรถ” อรพินล่ะสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ เงยหน้ามองเขา “พี่อรรถอาทิตย์หน้าเราพาลูกไปน่านเลยดีมั้ย เดียวสิ้นเดือนนี้ชมพูต้องกลับแล้ว”
“ไม่กลับ!” เด็กหญิงปฏิเสธทันควัน “คุณแม่ชมพูไม่กลับ ป่ะป๊าชมพูไม่กลับ” เมื่อได้ยินว่าตนเองจะต้องกลับบ้านสวน เด็กหญิงก็งอแงขึ้นมาดื้อ ๆ ตามประสา
“ไม่กลับได้ไงคะคุณลูก ไม่ไปโรงเรียนเหรอ คุณตาคิดถึงแย่แล้ว” อรพินพูดคุยกับลูกสาวบนเตียงนอนด้วยความเอ็นดู เด็กไม่รู้อะไรจริง ๆ อรรถพลลุกจากโซฟาขึ้นมานอนบนเตียงข้าง ๆ เธอกับลูกด้วย
“ให้ตาบูลมาอยู่นี่ ให้น้าพุดจีบมาอยู่นี่ ให้ยายวันมาอยู่นี่” เด็กหญิงไม่ยอมท่าเดียว คุณยายที่ลูกสาวพูดถึงคือแม่เลี้ยงของเธอเอง อรรถพลหัวเราะชอบใจกับการต่อปากต่อคำแบบไร้เดียงสาของลูกสาว ทั้งอรพินด้วย ส่วนเด็กหญิงก็พูดจริงจังออกท่าทางอย่างน่าตลก
“ดูลูกพี่อรรถดิเคยพูดง่ายที่ไหน ไม่ได้ลูก! บ้านแม่แคบ ๆ เอง ชมพูก็ดูดิบ้านแม่มีแค่นี่เอง” อรพินแกล้งชี้มือให้ลูกสาวดูภายในห้อง “ให้ตากับยายกับน้าพุดจีบนอนตรงไหน”
“นอนบ้านคุณด้า” ทั้งเธอและอรรถพลหัวเราะชอบใจใหญ่ กับการต่อปากต่อคำของลูกสาว เด็กไม่คิดอะไรซับซ้อนเหมือนผู้ใหญ่ อรรถพลโน้มใบหน้าลูกสาวมาหอมฟอดใหญ่
“ไม่ได้ค่ะ แล้วจะคุณย่านอนไหนล่ะทีนี้ ป่ะป๊ากับคุณแม่ไปส่ง แล้วพาไปเที่ยวด้วย โอเคมั้ย” ความจริงเขาเห็นด้วยกับลูกสาว ไม่อยากให้กลับ ความจริงอยากดูแลเองด้วยซ้ำ นึกสงสารกับคำพูดของเธอที่ไร้เดียงสา ทว่าก็ทำอะไรไม่ได้ ดีแค่ไหนที่อรพินยอมให้เจอลูก ยอมให้ไปรับมาอยู่ด้วยช่วงปิดเทอมแบบนี้
“พี่ข้าวหอมไปด้วยมั้ย” เด็กหญิงหันมาให้ความสนใจคนเป็นพ่อ “ตาบูล น้าพุดจีบ น้าพลอย ยายวันไปด้วยมั้ย คุณด้ากับอาอรก็ไปด้วยมั้ย”
“ครับ ไปด้วย”
“แหม! ทีคุณแม่พูดนะเถียง ทีป่ะป๊าพูดเออออห่อหมกไปด้วยกันเชียว” อรพินพูดประชดให้ทีแบบตลก ไม่ได้คิดอะไร “พี่อรรถว่าไง สัปดาห์หน้าก่อนไปส่งลูกเราไปน่านกันมั้ยคะ”
“ได้สิครับ! รพินกับลูกอยากไปไหนพี่พาไปได้หมดแหละ ไหนลองค้นหาสถานที่ดิ” ทั้งสองคนโน้มศีรษะดูหน้าจอโทรศัพท์พร้อมกัน ทว่าใบหน้าของเธอดันไปชนกับปากของอรรถพลอย่างจัง สายตาทั้งสองคู่จ้องประสานกัน ทั้งสองชะงักไปชั่วขณะ
“พี่อรรถ! “ อรพินตกใจก่อนรีบผละออก อรรถพลอมยิ้มนิดหน่อย “ไม่ต้องเลยเดี๋ยวรพินดูเอง”
“ครับ”
อรพินหน้าแดงรู้สึกร้อนผ่าวทั่วใบหน้า แต่ต้องเก็บอาการไม่แสดงออกมาให้อรรถพลรู้ เธอถอยออกห่างสองพ่อลูก นั่งเอนหลังพิงหัวเตียงทำดูสถานที่ ๆ จะไปเที่ยวอาทิตย์หน้า ทว่าก็เหลือบมองดูสองพ่อลูกเล่นกันถัดจากตัวเองไปนิดหน่อย อรรถพลทำเป็นดูการ์ตูนกับลูกสาวอมยิ้มปรายตามองเธอเป็นระยะ ๆ
“รพิน”
“คะ!” อรพินตกใจกับเสียงเรียกของเขา ทั้งที่อยู่ใกล้แค่นี้ อรรถพลมองแบบคนแปลกใจนิดหน่อยเรียกแค่นี้ถึงกับต้องตกใจ “คะพี่อรรถเรียกรพินมีไรเหรอ”
“พรุ่งนี้ไปทานข้าวบ้านพี่มั้ย คุณแม่พี่บ่นหาน่ะ อยากให้รพินทานข้าวด้วยที่บ้าน”
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ หลายวันแล้วรพินไม่ได้ไปเจอท่านเลย รพินนอนค้างคืนที่นั้นด้วยก็ได้ รอบก่อนยังไม่ได้คุยกับยัยอร ไปรอบนี้จะดุสักหน่อย” อรพินมองค้อนให้กับเขา เธอลืมไปหมดแล้วทุกอย่าง ความจริงจะว่าไป เธอให้อภัยเขาไปตั้งนาน เพียงแต่ว่าไม่อยากพูดหรือแสดงออกเท่านั้นเอง
“รพิน” เรียกชื่อเธอเบา ๆ หันมามองลูกสาวที่กำลังดูการ์ตูนบนตักของเขา ไม่ได้สนใจคนเป็นพ่อแม่สักนิด “พี่ขอโทษนะ” ก่อนจะก้มหอมศีรษะลูกสาวเบา ๆ “รพินจะให้พี่ทำอะไรก็ได้เพื่อชดเชยความผิด เพื่อที่รพินจะยอมให้โอกาสพี่ได้แก้ตัวอีกครั้ง นะครับ”
“พี่อรรถ ร...”
“ป่ะป๊าอ่ะโทรศัพท์ชมพูง่วง” เธอไม่ทันได้พูด ลูกสาวก็พูดแทรกขึ้นมา จากนั้นเธอก็ไม่คิดจะพูดต่อ เด็กหญิงคลานมาหาคนเป็นแม่ นอนลงข้าง ๆ ตนแล้วหลับไปอย่างง่ายดาย คงจะง่วงมากเอาเรื่องถึงได้หลับง่ายขนาดนี้
“นอนเถอะค่ะ พรุ่งนี้เราไปบ้านพี่อรรถกัน” เป็นคืนที่เท่าไหร่ไม่รู้ตั้งแต่ลูกสาวหายป่วย ที่ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกนอนด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ช่วงแรกเธอยอมรับว่าเป็นอะไรที่ขัดใจตนมาก แต่พอนานไปกลับอยากให้เขาพาลูกมาเจอทุกวัน
ทั้งเธอและอรรถพลต่างนอนไม่หลับ หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะทุกทีที่ได้นอนร่วมเตียงด้วยกัน ไม่ได้กลัวว่าเขาจะทำร้ายเธออีก เพราะเชื่อว่าเขาจะไม่ทำอยู่แล้วหากไม่ได้รับความยินยอมจากเธอ ทว่ามันเป็นอาการของคนดีใจ มีความสุขมากกว่า
เช้าวันใหม่ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของอรรถพล ทั้งแม่และน้องสาวเตรียมอาหารไว้รอต้อนรับเรียบร้อยแล้ว เป็นวันธรรมดาที่แสนพิเศษอีกหนึ่งวัน เป็นวันที่อรรถพลหัวใจพองโตและเห็นโอกาสได้แก้ไขแก้ตัวอยู่รอมร่อ เขาไม่ได้คิดไปเองแน่นอน ไม่ได้คิดไปเองเหมือนหลายปีก่อน ทว่าการกระทำของอรพินมันชัดเจนในความรู้สึก
“จะเปิดเทอมแล้วกลับบ้านสวนไปหาคุณตาคุณยาย คุณย่าอยู่ทางนี้คิดถึงแย่เลย” อรอุมาพูดแกล้งหลานสาวบนโต๊ะอาหาร โดยมีสายตาและรอยยิ้มมองไปที่เด็กหญิงตัวน้อยอย่างรักใคร่เอ็นดู เป็นหลานคนแรกของทั้งสองบ้านต่างก็รักมากทุกคน
“ไม่คิดถึง ไม่คิดถึงอาอร” เด็กหญิงหันขวับสะบัดผมมาคุยกับผู้เป็นอา มองค้อนนิดหน่อย ด้วยเป็นคู่กัดชอบแกล้งกันอยู่เรื่อย ทว่ากลับเป็นเรื่องตลกของทุกคนบนโต๊ะอาหาร คนที่ถูกมองค้อนก็ไม่โกรธอะไร กลับเอ็นดูท่าทางของหลานชอบใจมากกว่าที่แกล้งได้สำเร็จ
“ว๊าย ๆ ไม่คิดถึงก็แล้วแต่นะ คนที่จะได้ไปเล่นบ้านบอลก็มีเพียงพี่อาร์เจคนเดียวเท่านั้น พรุ่งนี้พี่อาร์เจก็มาบ้านแล้วเนอะย่าเนอะ” อรอุมาได้ทีแกล้งหลานซะเลย หันไปคุยกับผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ
“คุณด้าพรุ่งนี้ชมพูได้ไปบ้านบอลกับพี่อาร์เจมั้ย” เด็กหญิงรีบถามผู้เป็นย่า พร้อมจะงอแงได้ทุกเวลาและทุกสถานที่หากได้รับคำตอบไม่พอใจ
“ไม่!” อรอุมาชิ่งตอบก่อน และได้ผลเมื่อหลานสาวงอแง แกล้งได้สำเร็จ ส่วนเด็กหญิงยกมือทำท่าจะตีเข้าให้ ทว่านั่งฝั่งตรงข้ามกันจึงเอื้อมไม่ถึง
“แหนะชมพู! นิสัยไม่ดีเลย ขอโทษอาอรเดี๋ยวนี้ค่ะ งั้นแม่ไม่พาไปเที่ยวเหนือนะ” อรพินต้องดุลูกสาวไว้ ด้วยนั่งข้าง ๆ กัน อีกฝั่งของเธอเป็นอรรถพลนั่งอยู่ “แม่บอกให้ขอโทษอาอรเดี๋ยวนี้ ป๊าชมพูดื้อเราไปน่านกันสองคน สามคนสี่คนกับคุณย่ากับอาอร ชมพูเฝ้าบ้านคนเดียว”
“ขอโทษค่ะ อาอรชมพูขอโทษค่ะ” พูดไม่ทันขาดคำเด็กหญิงก็เอ่ยคำขอโทษออกมา เพราะกลัวไม่ได้ไปเที่ยวกับพ่อแม่ ทุกคนยิ้มให้และหัวเราะกับความไร้เดียงสาของหลานสาว
“คุณแม่ ยัยอร ไปเที่ยวน่านกันมั้ยคะ รพินกับพี่อรรถว่าจะพาชมพูเที่ยวก่อนกลับบ้านสวนค่ะ” ได้โอกาสอรพินจึงเอ่ยชวนเพื่อนและย่าของลูกสาวไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันซะเลย ไปกันหลาย ๆ คนจะได้สนุก
“เอาไว้โอกาสหน้าเถอะจ้ะ เราสองคนพาหลานแม่เที่ยวให้สนุกเถอะ” ประมุขของบ้านปฏิเสธที่จะตามไปด้วย ส่วนอรอุมาลูกสาวเมื่อเห็นแม่ปฏิเสธก็พอจะเข้าใจ จึงปฏิเสธตามไปด้วย ก็เพื่อหวังให้สองคนได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ปรับความเข้าใจกัน ถึงไม่มากก็น้อยก็คงจะเข้าใจกันมากกว่านี้ อีกอย่างถ้าพี่ชายและเพื่อนกลับมาคืนดีกันจะได้ส่งผลดีต่อหลานสาวสุดที่รักของเธอด้วย “ฝากกราบคุณย่าด้วยนะคะพี่อรรถ เดี๋ยวอรจะหาเวลาว่างไปเยี่ยมท่านค่ะ”
“ทำไมเราไม่ไปพร้อมพี่เลยล่ะยัยอร” อรรถพลชวนน้องสาว อยากให้ไปพร้อมกันเลย นึกถึงคนเป็นย่าจะได้ดีใจ ถ้าได้เจอหลานสองคนพร้อมหน้าพร้อมตากัน
“ไม่อ่ะ อรจะไปกับแฟนอร”
“คุณแม่ยัยอรมีแฟนแล้วเหรอ ใคร! ใครมันสายตาสั้นเดินเข้ามาจีบ”
“คุณแม่ดูพี่อรรถดิ พี่อรรถอ่ะอรก็ออกจะสวย ก็ต้องมีแฟนกะเค้าบ้างปะ” อรพินยิ้มฟังสองคนพี่น้องทะเลาะกัน บางมุมอรรถพลกับอรอุมาน้องสาวก็น่ารักดี ถึงจะอายุเยอะแค่ไหน ก็ยังมีความเป็นเด็กหลงเหลืออยู่
“สองคนนี่นะ อีกคนก็โตจนเป็นพ่อคนละ ไม่เกรงใจลูกกับเมียบ้าง เอ่อ อืมม์! ลูกกับรพินบ้าง” ผู้เป็นแม่ต้องปรามไว้ แกล้งกันได้ตลอดเวลาทั้งลูกสาวและลูกชายของตน
เมื่อทุกคนรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จ อรพินจัดการเก็บจานชามไปล้างในครัวเอง ลูกสาวของเธอเล่นอยู่กับย่าและอา วันนี้ครอบครัวของพี่วินิจจะมาที่บ้านด้วย ก็นับว่านานหลายปีเหมือนกันที่เธอไม่ได้เจอกับครอบครัวนี้ ตั้งแต่วันนั้นจนตอนนี้ลูกสาวได้สามเกือบสี่ขวบ
โซ่รัก บทที่ 15
.
“รพินชมพูงอแงอีกแล้ว พี่ก็ไม่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ไม่อยากเห็นลูกร้องไห้อ่ะ สงสาร” เป็นข้ออ้างที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ของอรรถพลเสมอ ๆ ช่วงแรกเขาแค่พาลูกมาเพียงสองวัน วันเสาร์กับวันอาทิตย์ ระยะหลังแทบจะพาลูกมานอนกับเธอวันเว้นวัน
“ชมพูคิดถึงคุณแม่ใช่มั้ยคะ” อรรถพลทำเป็นถามลูกสาว เด็กหญิงพยักหน้ารับคำ ให้ความร่วมมือกับคนเป็นพ่ออย่างดี โดยมีอรพินมองค้อนทั้งสองคนอยู่ใกล้ ๆ นึกหมั่นไส้ที่เอาลูกมาบังหน้า ทำไมเธอจะไม่รู้แผนการของเขาแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ชมพูงอแง หรือพ่อมันงอแงกันแน่คะ”
“ลูกงอแงสิ พี่จะงอแงทำไม รพินให้มาพี่ก็มา รพินไม่ให้มาพี่ก็มาเหมือนเดิม เอ้ยไม่มา! ไม่มาครับ” พูดแต่ไม่ยอมมองหน้าเธอ ไม่รอเอาคำตอบ อรรถพลอุ้มลูกสาวถือวิสาสะเดินขึ้นตึกไปก่อน อรพินทำได้เพียงเดินตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“พี่อรรถจะพาลูกเทียวไปเทียวมาทำไม ไหนจะต้องไปทำงานอีก มาแค่เสาร์อาทิตย์ก็พอแล้ว” เธอไม่เห็นด้วยที่ลูกต้องเดินทางแบบนี้ อรรถพลทำอะไรไม่เข้าท่าเสียเลย
ภายในห้องพักของเธอ อรรถพลนอนอ่านหนังสือบนโซฟา ส่วนตนเองดูการ์ตูนกับลูกสาวในโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอน “พูดแบบนี้ให้พี่มาคนเดียว ให้ชมพูอยู่กับคุณแม่เหรอ” อรรถพลพูดแหย่เล่น พร้อมฉีกยิ้ม ปรายตามองเธอนิดหน่อย
“ไม่! เดี๋ยวเถอะพี่อรรถ” อรพินล่ะสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ เงยหน้ามองเขา “พี่อรรถอาทิตย์หน้าเราพาลูกไปน่านเลยดีมั้ย เดียวสิ้นเดือนนี้ชมพูต้องกลับแล้ว”
“ไม่กลับ!” เด็กหญิงปฏิเสธทันควัน “คุณแม่ชมพูไม่กลับ ป่ะป๊าชมพูไม่กลับ” เมื่อได้ยินว่าตนเองจะต้องกลับบ้านสวน เด็กหญิงก็งอแงขึ้นมาดื้อ ๆ ตามประสา
“ไม่กลับได้ไงคะคุณลูก ไม่ไปโรงเรียนเหรอ คุณตาคิดถึงแย่แล้ว” อรพินพูดคุยกับลูกสาวบนเตียงนอนด้วยความเอ็นดู เด็กไม่รู้อะไรจริง ๆ อรรถพลลุกจากโซฟาขึ้นมานอนบนเตียงข้าง ๆ เธอกับลูกด้วย
“ให้ตาบูลมาอยู่นี่ ให้น้าพุดจีบมาอยู่นี่ ให้ยายวันมาอยู่นี่” เด็กหญิงไม่ยอมท่าเดียว คุณยายที่ลูกสาวพูดถึงคือแม่เลี้ยงของเธอเอง อรรถพลหัวเราะชอบใจกับการต่อปากต่อคำแบบไร้เดียงสาของลูกสาว ทั้งอรพินด้วย ส่วนเด็กหญิงก็พูดจริงจังออกท่าทางอย่างน่าตลก
“ดูลูกพี่อรรถดิเคยพูดง่ายที่ไหน ไม่ได้ลูก! บ้านแม่แคบ ๆ เอง ชมพูก็ดูดิบ้านแม่มีแค่นี่เอง” อรพินแกล้งชี้มือให้ลูกสาวดูภายในห้อง “ให้ตากับยายกับน้าพุดจีบนอนตรงไหน”
“นอนบ้านคุณด้า” ทั้งเธอและอรรถพลหัวเราะชอบใจใหญ่ กับการต่อปากต่อคำของลูกสาว เด็กไม่คิดอะไรซับซ้อนเหมือนผู้ใหญ่ อรรถพลโน้มใบหน้าลูกสาวมาหอมฟอดใหญ่
“ไม่ได้ค่ะ แล้วจะคุณย่านอนไหนล่ะทีนี้ ป่ะป๊ากับคุณแม่ไปส่ง แล้วพาไปเที่ยวด้วย โอเคมั้ย” ความจริงเขาเห็นด้วยกับลูกสาว ไม่อยากให้กลับ ความจริงอยากดูแลเองด้วยซ้ำ นึกสงสารกับคำพูดของเธอที่ไร้เดียงสา ทว่าก็ทำอะไรไม่ได้ ดีแค่ไหนที่อรพินยอมให้เจอลูก ยอมให้ไปรับมาอยู่ด้วยช่วงปิดเทอมแบบนี้
“พี่ข้าวหอมไปด้วยมั้ย” เด็กหญิงหันมาให้ความสนใจคนเป็นพ่อ “ตาบูล น้าพุดจีบ น้าพลอย ยายวันไปด้วยมั้ย คุณด้ากับอาอรก็ไปด้วยมั้ย”
“ครับ ไปด้วย”
“แหม! ทีคุณแม่พูดนะเถียง ทีป่ะป๊าพูดเออออห่อหมกไปด้วยกันเชียว” อรพินพูดประชดให้ทีแบบตลก ไม่ได้คิดอะไร “พี่อรรถว่าไง สัปดาห์หน้าก่อนไปส่งลูกเราไปน่านกันมั้ยคะ”
“ได้สิครับ! รพินกับลูกอยากไปไหนพี่พาไปได้หมดแหละ ไหนลองค้นหาสถานที่ดิ” ทั้งสองคนโน้มศีรษะดูหน้าจอโทรศัพท์พร้อมกัน ทว่าใบหน้าของเธอดันไปชนกับปากของอรรถพลอย่างจัง สายตาทั้งสองคู่จ้องประสานกัน ทั้งสองชะงักไปชั่วขณะ
“พี่อรรถ! “ อรพินตกใจก่อนรีบผละออก อรรถพลอมยิ้มนิดหน่อย “ไม่ต้องเลยเดี๋ยวรพินดูเอง”
“ครับ”
อรพินหน้าแดงรู้สึกร้อนผ่าวทั่วใบหน้า แต่ต้องเก็บอาการไม่แสดงออกมาให้อรรถพลรู้ เธอถอยออกห่างสองพ่อลูก นั่งเอนหลังพิงหัวเตียงทำดูสถานที่ ๆ จะไปเที่ยวอาทิตย์หน้า ทว่าก็เหลือบมองดูสองพ่อลูกเล่นกันถัดจากตัวเองไปนิดหน่อย อรรถพลทำเป็นดูการ์ตูนกับลูกสาวอมยิ้มปรายตามองเธอเป็นระยะ ๆ
“รพิน”
“คะ!” อรพินตกใจกับเสียงเรียกของเขา ทั้งที่อยู่ใกล้แค่นี้ อรรถพลมองแบบคนแปลกใจนิดหน่อยเรียกแค่นี้ถึงกับต้องตกใจ “คะพี่อรรถเรียกรพินมีไรเหรอ”
“พรุ่งนี้ไปทานข้าวบ้านพี่มั้ย คุณแม่พี่บ่นหาน่ะ อยากให้รพินทานข้าวด้วยที่บ้าน”
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ หลายวันแล้วรพินไม่ได้ไปเจอท่านเลย รพินนอนค้างคืนที่นั้นด้วยก็ได้ รอบก่อนยังไม่ได้คุยกับยัยอร ไปรอบนี้จะดุสักหน่อย” อรพินมองค้อนให้กับเขา เธอลืมไปหมดแล้วทุกอย่าง ความจริงจะว่าไป เธอให้อภัยเขาไปตั้งนาน เพียงแต่ว่าไม่อยากพูดหรือแสดงออกเท่านั้นเอง
“รพิน” เรียกชื่อเธอเบา ๆ หันมามองลูกสาวที่กำลังดูการ์ตูนบนตักของเขา ไม่ได้สนใจคนเป็นพ่อแม่สักนิด “พี่ขอโทษนะ” ก่อนจะก้มหอมศีรษะลูกสาวเบา ๆ “รพินจะให้พี่ทำอะไรก็ได้เพื่อชดเชยความผิด เพื่อที่รพินจะยอมให้โอกาสพี่ได้แก้ตัวอีกครั้ง นะครับ”
“พี่อรรถ ร...”
“ป่ะป๊าอ่ะโทรศัพท์ชมพูง่วง” เธอไม่ทันได้พูด ลูกสาวก็พูดแทรกขึ้นมา จากนั้นเธอก็ไม่คิดจะพูดต่อ เด็กหญิงคลานมาหาคนเป็นแม่ นอนลงข้าง ๆ ตนแล้วหลับไปอย่างง่ายดาย คงจะง่วงมากเอาเรื่องถึงได้หลับง่ายขนาดนี้
“นอนเถอะค่ะ พรุ่งนี้เราไปบ้านพี่อรรถกัน” เป็นคืนที่เท่าไหร่ไม่รู้ตั้งแต่ลูกสาวหายป่วย ที่ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกนอนด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ช่วงแรกเธอยอมรับว่าเป็นอะไรที่ขัดใจตนมาก แต่พอนานไปกลับอยากให้เขาพาลูกมาเจอทุกวัน
ทั้งเธอและอรรถพลต่างนอนไม่หลับ หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะทุกทีที่ได้นอนร่วมเตียงด้วยกัน ไม่ได้กลัวว่าเขาจะทำร้ายเธออีก เพราะเชื่อว่าเขาจะไม่ทำอยู่แล้วหากไม่ได้รับความยินยอมจากเธอ ทว่ามันเป็นอาการของคนดีใจ มีความสุขมากกว่า
เช้าวันใหม่ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของอรรถพล ทั้งแม่และน้องสาวเตรียมอาหารไว้รอต้อนรับเรียบร้อยแล้ว เป็นวันธรรมดาที่แสนพิเศษอีกหนึ่งวัน เป็นวันที่อรรถพลหัวใจพองโตและเห็นโอกาสได้แก้ไขแก้ตัวอยู่รอมร่อ เขาไม่ได้คิดไปเองแน่นอน ไม่ได้คิดไปเองเหมือนหลายปีก่อน ทว่าการกระทำของอรพินมันชัดเจนในความรู้สึก
“จะเปิดเทอมแล้วกลับบ้านสวนไปหาคุณตาคุณยาย คุณย่าอยู่ทางนี้คิดถึงแย่เลย” อรอุมาพูดแกล้งหลานสาวบนโต๊ะอาหาร โดยมีสายตาและรอยยิ้มมองไปที่เด็กหญิงตัวน้อยอย่างรักใคร่เอ็นดู เป็นหลานคนแรกของทั้งสองบ้านต่างก็รักมากทุกคน
“ไม่คิดถึง ไม่คิดถึงอาอร” เด็กหญิงหันขวับสะบัดผมมาคุยกับผู้เป็นอา มองค้อนนิดหน่อย ด้วยเป็นคู่กัดชอบแกล้งกันอยู่เรื่อย ทว่ากลับเป็นเรื่องตลกของทุกคนบนโต๊ะอาหาร คนที่ถูกมองค้อนก็ไม่โกรธอะไร กลับเอ็นดูท่าทางของหลานชอบใจมากกว่าที่แกล้งได้สำเร็จ
“ว๊าย ๆ ไม่คิดถึงก็แล้วแต่นะ คนที่จะได้ไปเล่นบ้านบอลก็มีเพียงพี่อาร์เจคนเดียวเท่านั้น พรุ่งนี้พี่อาร์เจก็มาบ้านแล้วเนอะย่าเนอะ” อรอุมาได้ทีแกล้งหลานซะเลย หันไปคุยกับผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ
“คุณด้าพรุ่งนี้ชมพูได้ไปบ้านบอลกับพี่อาร์เจมั้ย” เด็กหญิงรีบถามผู้เป็นย่า พร้อมจะงอแงได้ทุกเวลาและทุกสถานที่หากได้รับคำตอบไม่พอใจ
“ไม่!” อรอุมาชิ่งตอบก่อน และได้ผลเมื่อหลานสาวงอแง แกล้งได้สำเร็จ ส่วนเด็กหญิงยกมือทำท่าจะตีเข้าให้ ทว่านั่งฝั่งตรงข้ามกันจึงเอื้อมไม่ถึง
“แหนะชมพู! นิสัยไม่ดีเลย ขอโทษอาอรเดี๋ยวนี้ค่ะ งั้นแม่ไม่พาไปเที่ยวเหนือนะ” อรพินต้องดุลูกสาวไว้ ด้วยนั่งข้าง ๆ กัน อีกฝั่งของเธอเป็นอรรถพลนั่งอยู่ “แม่บอกให้ขอโทษอาอรเดี๋ยวนี้ ป๊าชมพูดื้อเราไปน่านกันสองคน สามคนสี่คนกับคุณย่ากับอาอร ชมพูเฝ้าบ้านคนเดียว”
“ขอโทษค่ะ อาอรชมพูขอโทษค่ะ” พูดไม่ทันขาดคำเด็กหญิงก็เอ่ยคำขอโทษออกมา เพราะกลัวไม่ได้ไปเที่ยวกับพ่อแม่ ทุกคนยิ้มให้และหัวเราะกับความไร้เดียงสาของหลานสาว
“คุณแม่ ยัยอร ไปเที่ยวน่านกันมั้ยคะ รพินกับพี่อรรถว่าจะพาชมพูเที่ยวก่อนกลับบ้านสวนค่ะ” ได้โอกาสอรพินจึงเอ่ยชวนเพื่อนและย่าของลูกสาวไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันซะเลย ไปกันหลาย ๆ คนจะได้สนุก
“เอาไว้โอกาสหน้าเถอะจ้ะ เราสองคนพาหลานแม่เที่ยวให้สนุกเถอะ” ประมุขของบ้านปฏิเสธที่จะตามไปด้วย ส่วนอรอุมาลูกสาวเมื่อเห็นแม่ปฏิเสธก็พอจะเข้าใจ จึงปฏิเสธตามไปด้วย ก็เพื่อหวังให้สองคนได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ปรับความเข้าใจกัน ถึงไม่มากก็น้อยก็คงจะเข้าใจกันมากกว่านี้ อีกอย่างถ้าพี่ชายและเพื่อนกลับมาคืนดีกันจะได้ส่งผลดีต่อหลานสาวสุดที่รักของเธอด้วย “ฝากกราบคุณย่าด้วยนะคะพี่อรรถ เดี๋ยวอรจะหาเวลาว่างไปเยี่ยมท่านค่ะ”
“ทำไมเราไม่ไปพร้อมพี่เลยล่ะยัยอร” อรรถพลชวนน้องสาว อยากให้ไปพร้อมกันเลย นึกถึงคนเป็นย่าจะได้ดีใจ ถ้าได้เจอหลานสองคนพร้อมหน้าพร้อมตากัน
“ไม่อ่ะ อรจะไปกับแฟนอร”
“คุณแม่ยัยอรมีแฟนแล้วเหรอ ใคร! ใครมันสายตาสั้นเดินเข้ามาจีบ”
“คุณแม่ดูพี่อรรถดิ พี่อรรถอ่ะอรก็ออกจะสวย ก็ต้องมีแฟนกะเค้าบ้างปะ” อรพินยิ้มฟังสองคนพี่น้องทะเลาะกัน บางมุมอรรถพลกับอรอุมาน้องสาวก็น่ารักดี ถึงจะอายุเยอะแค่ไหน ก็ยังมีความเป็นเด็กหลงเหลืออยู่
“สองคนนี่นะ อีกคนก็โตจนเป็นพ่อคนละ ไม่เกรงใจลูกกับเมียบ้าง เอ่อ อืมม์! ลูกกับรพินบ้าง” ผู้เป็นแม่ต้องปรามไว้ แกล้งกันได้ตลอดเวลาทั้งลูกสาวและลูกชายของตน
เมื่อทุกคนรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จ อรพินจัดการเก็บจานชามไปล้างในครัวเอง ลูกสาวของเธอเล่นอยู่กับย่าและอา วันนี้ครอบครัวของพี่วินิจจะมาที่บ้านด้วย ก็นับว่านานหลายปีเหมือนกันที่เธอไม่ได้เจอกับครอบครัวนี้ ตั้งแต่วันนั้นจนตอนนี้ลูกสาวได้สามเกือบสี่ขวบ