[BR] จัดพอร์ตกองทุนรวมแบบสมดุล ด้วย 2 กองทุน K-GINCOME-A(R) และ K-FIT

กระทู้ผู้สนับสนุน


ในยุคหลังโควิด-19 ที่ทำให้นักลงทุนเห็นสัจธรรมของ “ความไม่แน่นอน” มากขึ้นอย่างมาก ขณะที่หากมองเพียงผิวเผิน เราอาจจะรู้สึกว่าโควิด-19 คือ โชคร้ายที่ใครก็อาจจะโดนกับตัวก็ได้ แต่หากได้ลองศึกษาจากงานวิจัย หรือ บทวิเคราะห์ในเชิงเศรษฐกิจหลายแห่ง จะพบจุดร่วมที่น่าสนใจที่ให้การตรงกันว่า โควิด-19 เป็นตัวเร่งปฎิกิริยาการเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีอยู่ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ให้มันเร่งตัวเร็วขึ้นไปอีก

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ ประกอบไปด้วย 3 ด้านใหญ่ๆด้วยกันก็คือ

1. Change in Global Supply Chain หรือห่วงโซ่อุปทานการผลิต ที่เริ่มมีการเคลื่อนย้ายครั้งใหญ่เพื่อกระจายความเสี่ยงและตามหาสมดุลใหม่ที่ไม่พึ่งพาเพียงแค่จีน

2. Change in Monetary Policy วิกฤตสภาพคล่อง จากมาตรการ Lockdown และ Social Distancing ที่ทำให้มนุษยชาติต้องใช้ชีวิตแบบรักษาระยะห่าง จนทำให้ธุรกิจในบางรูปแบบต้องเผชิญกับปัญหาคือ ปรับตัวไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลง ความท้าทายในการหาทางเลือกอื่นๆมาสร้างสมดุลในแง่ของกระแสเงินสด ที่ขาดหายไปอย่างฉับพลัน จึงเป็นเรื่องที่ตัวผู้ประกอบการ และ ผู้กำหนดนโยบาย ต้องมาร่วมกันช่วยหาทางออก

3. Change in Human Behavior และเพราะเราก็ยังไม่รู้ว่า เราจะกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติก่อนโลกจะรู้จัดโควิด-19 ได้เมื่อไหร่ จึงทำให้พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างในปัจจุบัน อาจจะทำให้มนุษย์เราคุ้นชิน และกลายเป็นสมดุลครั้งใหม่ เป็น New Normal ของการเริ่มต้นยุคใหม่ที่เราก็เดาไม่ถูกว่าจะพาโลกเราไปในทิศทางไหน

ใช่ครับ เรากำลังเข้าสู่การสร้างสมดุลครั้งใหม่ในหลายๆด้าน ซึ่งเรื่องนี้ สำหรับนักลงทุนทุกคน เราก็จำเป็นต้องมีวิธีในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงไปของโลกการลงทุนที่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เรากำลังจะเจอ และนี่คือ หนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนที่นักลงทุนธรรมดาๆคนหนึ่ง สามารถสร้างผลตอบแทนชนะดอกเบี้ยเงินฝาก ชนะอัตราเงินเฟ้อ แบบไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งปรับพอร์ตไปมาด้วยตัวเอง

กลยุทธ์ที่ว่านี้ก็คือ “การจัดพอร์ตการลงทุนแบบสมดุล” ซึ่งสำหรับนักลงทุนโดยทั่วไปเราสามารถใช้กลยุทธ์นี้ได้ผ่านการลงทุนในกองทุนรวมประเภทที่เรียกว่า “กองทุนสายกลาง” หรือ กองทุนรวมผสม นั่นเองครับ

กองทุนสายกลาง ให้อะไรกับผู้ลงทุน?

1. ให้การกระจายความเสี่ยง ไม่เอาไข่หลายฟองไปไว้ในตระกร้าใบเดียว สร้างสมดุลให้กับการลงทุน เพราะสามารถไปลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภทที่มีทั้งระดับความเสี่ยงสูงและต่ำผสมกัน ไม่ว่าจะเป็น หุ้น ตราสารหนี้ เงินฝาก กองทุนอสังหาฯ รวมถึงสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทอง น้ำมัน นอกจากนี้ยังมีการกระจายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย

2. ให้นักลงทุนได้มั่นใจว่า มีมืออาชีพคอยสอดส่องดูแลให้ โดยมืออาชีพที่ว่านี้ ก็คือ ผู้จัดการกองทุน ซึ่งจะมีการปรับสัดส่วนการลงทุน (Rebalance) ให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

3. สร้างสมดุลด้านความเสี่ยง เพราะถ้าในพอร์ตของเรามีแต่สินทรัพย์เสี่ยงต่ำ เช่น ตราสารหนี้ เราก็จะได้ผลตอบแทนน้อยไป แต่ลงทุนหุ้นเต็มพอร์ต เราก็กอดความเสี่ยงเยอะเกินไป กองทุนสายกลางก็มาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้

ถ้าจะลงทุน กองทุนสายกลาง นี่คือ 2 คำตอบ จาก บลจ.กสิกรไทย K-GINCOME-A(R) และ K-FIT

สำหรับ K-GINCOME-A(R) นั้น นำเงินลงทุนของนักลงทุน ไปลงทุนในกองทุนหลักเพียงกองเดียวที่ชื่อ JPMorgan Investment Funds – Global Income Fund, Class A (mth)-EUR ซึ่งลงทุนในสินทรัพย์รวมแล้วมากกว่า 8  Asset Class สัดส่วนเท่าไหร่บ้าง ก็ลองดูตาม Asset Allocation Breakdown (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนส.ค. 63 ตามนี้)


ถ้ารวมจำนวนหลักทรัพย์แล้ว จะพบว่า มีการกระจายการลงทุนมากกว่า 2,500 หลักทรัพย์รอบโลก ซึ่งแน่นอนว่า สัดส่วนมากกว่า 50% อยู่ในประเทศสหรัฐฯ ขณะที่ข้อมูลสถิติในอดีตของกองทุนหลัก ดูน่าสนใจที่เดียว ตามรูปด้านล่าง (ข้อมูลจาก Bloomberg.com เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 63)

จะพบว่า นับตั้งแต่จัดตั้ง กองทุนสามารถจ่ายกระแสเงินสด (Dividend Indicated Gross Yield) ได้ราวๆ 4.4%ต่อปี ขณะที่ Performance ในระยะยาว ก็เป็นบวก และอย่างปีนี้ที่เจอ โควิด-19 กองทุนหลักก็ติดลบ YTD เพียง -2.58% เท่านั้น

กลับมาดูที่กองทุน K-GINCOME-A(R) ในไทย ประวัติการจ่ายผลตอบแทนของกองทุนนี้ก็นับว่าเริ่ดมาก เพราะตั้งแต่วันที่จัดตั้ง สามารถจ่ายผลตอบแทนออกมาได้ทุกเดือน ไม่เว้นแม้ซักเดือน (มากบ้าง น้อยบ้าง ตามผลการดำเนินงานในช่วงนั้นๆ)

ใครเป็นสายจัดพอร์ตแบบรอบโลก และเน้นสมดุล K-GINCOME-A(R) คือ หนึ่งกองที่แนะนำ

สำหรับคนที่ซื้อผ่าน K PLUS หรือ K-My Funds จะไม่มีค่าธรรมเนียมการซื้อ ตั้งแต่ 12 ต.ค. -30 ธ.ค.63 นี้ด้วย

อีกพอร์ตสมดุลที่อยากให้ลองดู ก็คือ K-FIT

K-FIT เป็นกลุ่มกองทุนสายกลางอีกหนึ่งแบบที่มีความแตกต่างจาก K-GINCOME-A(R) ที่เหมาะกับคนที่อยากได้ผลตอบแทนระหว่างลงทุนไปเรื่อย ๆ แต่ K-FIT จะเหมาะกับผู้ที่อยากลงทุนเพื่อเป้าหมายระยะยาว 3 ปีขึ้นไป โดยจุดเด่นของ K-FIT คือ...

1. แบ่งกลุ่มกองทุนออกเป็น 4 กลุ่ม ตามความเสี่ยงไล่จากเสี่ยงต่ำไปเสี่ยงสูง โดยใช้ชื่อตามขนาดไซส์ของเครื่องแต่งกายเรา คือ
• K-FIT S เสี่ยงน้อย ไม่เหวี่ยงมาก อัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นตัวชี้วัด 3% ต่อปี* 
• K-FIT M เสี่ยงเพิ่มหน่อย ได้เพิ่มขึ้นอัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นตัวชี้วัด 5.5% ต่อปี* 
• K-FIT L เสี่ยงเพิ่มอีกนิดจาก K-FIT M อัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นตัวชี้วัด 7% ต่อปี* 
• K-FIT XL เสี่ยงเต็มแม็กซ์ เพิ่มโอกาสได้เต็มที่ อัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นตัวชี้วัด 8.5% ต่อปี*
* อัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นดัชนีชี้วัดของกองทุนทั้ง 4 กองนี้ เกิดจากการจัดแบบจำลองการลงทุนย้อนหลัง 5 ปี ที่บลจ.กสิกรทำการคำนวนให้ทราบนะครับ ซึ่งกองทุนเองมิได้รับประกันผลตอบแทนดังกล่าว และผู้ลงทุนอาจได้รับผลตอบแทนติดลบหรือน้อยกว่าอัตราผลตอบแทนที่กไหนดเป็นตัวชี้วัดได้

2. ดูแลโดยผู้จัดการถึง 2 ชั้น คือ K-FIT เป็นพอร์ตกองทุนรวมที่ลงทุนในกองทุนรวมของ บลจ. กสิกรไทย ดังนั้นจะมีผู้จัดการกองทุน K-FIT คัดเลือกกองทุนเข้าพอร์ตของ K-FIT คอยดูแลปรับพอร์ตให้เหมาะสมตลอดเวลา และมีผู้จัดการกองทุนของกองทุนนั้น ๆ อีก 1 ชั้น ที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารกองทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ

ขอยกตัวอย่าง K-FITXL ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง

ข้อมูลผลการดำเนินงานย้อนหลัง แหล่งข้อมูล : http://www.finnomena.com/fund

จะเห็นว่าผลการดำเนินงานของ K-FITXL ไม่ธรรมดาจริงๆ หรือ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มกองทุนเดียวกันที่จัดอยู่ในประเภท Aggressive Allocation พบว่า ดีกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม และอยู่ในกลุ่มที่ผลการดำเนินงานดีที่สุดด้วย นอกจากนี้ K-FIT ยังไม่คิดค่าธรรมเนียมการซื้อ เมื่อซื้อผ่านช่องทางดิจิทัลด้วย

โดยสัดส่วนการลงทุน K-FITXL ก็จะไปลงทุนในกองทุนของ บลจ.กสิกรไทย อีกที และจะมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตระหว่างทางด้วยผู้จัดการกองทุน 2 ชั้น อย่างที่กล่าวไปข้างต้น

K-EQUITY 25% (หุ้นไทย)
K-INDIA 24% (หุ้นอินเดีย)
K-CHINA 22% (หุ้นจีน)
K-FIXED 10% (ตราสารหนี้ไทย)
K-JP 6% (หุ้นญี่ปุ่น)

ในส่วนของอัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นตัวชี้วัด K-FITXL นั้นอยู่ที่ 8.5%ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นดัชนีชี้วัดของกองทุนเกิดจากการจัดแบบจำลองการลงทุนย้อนหลัง 5 ปี ทั้งนี้กองทุนไม่ได้รับประกันผลตอบแทนดังกล่าว และผู้ลงทุนอาจได้รับผลตอบแทนติดลบหรือน้อยกว่าอัตราผลตอบแทนที่กำหนดเป็นตัวชี้วัดได้

ใครที่สนใจสร้างสมดุลพอร์ต ด้วยความเสี่ยงที่ต่ำลงมา กองทุนกลุ่ม K-FIT ก็เป็นที่น่าสนใจในการศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม ดูผลการดำเนินงานเปรียบเทียบ K-FIT ทั้ง 4 กลุ่มกองทุน เพื่อประกอบการตัดสินใจตามนี้ครับ

ข้อมูลผลการดำเนินงานย้อนหลัง แหล่งข้อมูล : http://www.finnomena.com/fund

ข้อมูลผลการดำเนินงานย้อนหลัง แหล่งข้อมูล https://www.kasikornbank.com/th/personal/invest/Pages/Balanced-Fund/index.aspx

นอกจากกองทุนสายกลางทั้ง 2 แล้ว ธนาคารกสิกรไทยยังมีอีกหนึ่งตัวช่วยการลงทุนแบบสายกลางคือ Wealth PLUS

Wealth PLUS เป็นฟีเจอร์บน K PLUS ที่ช่วยเลือกกองทุนรวมมาจัดพอร์ตให้อัตโนมัติด้วยระบบอัจฉริยะ (Robo Advisor) ตามเป้าหมาย ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และจำนวนเงินทุนของลูกค้าแต่ละคน รวมถึงจำลองผลการลงทุนให้เห็นด้วย นอกจากนี้ Wealth PLUS ยังช่วยติดตามดูแลพอร์ตให้ตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดเหตุการณ์ที่ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่าง รุนแรง Wealth PLUS ก็จะปรับพอร์ตให้อัตโนมัติ รวมถึงมีการปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดทุก ๆ 6 เดือน

ด้านการใช้งานก็ไม่วุ่นวาย แค่มี K PLUS มีเงินในบัญชี ก็สามารถลงทุนผ่าน Wealth PLUS ได้เลย ไม่มีค่าธรรมเนียม ช่วยให้สามารถซื้อ-ขายกองทุนเป็นพอร์ตได้ง่าย ๆ

ใครอยากได้สรุปว่า กองทุนสมดุลแต่ละกองแตกต่างกันอย่างไร บลจ.กสิกรไทย เขาก็ทำสรุปมาให้แล้ว ตามตารางด้านล่างนี้

ข้อมูลเปรียบเทียบกองทุน แหล่งข้อมูล https://www.kasikornbank.com/th/personal/invest/Pages/Balanced-Fund/index.aspx

หรือสรุปให้ตัดสินใจเลือกได้ง่าย ๆ ตามนี้ 

• อยากได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ เลือก K-GINCOME-A(R)
• อยากได้เงินก้อนใหญ่ในอนาคต หลังลงทุนประมาณ 3-5 ปี เลือก K-FIT 
• อยากให้ระบบจัดการแทนเรา เลือกใช้ Wealth PLUS

สนใจลงทุนทั้ง K-GINCOME-A(R) และกลุ่มกองทุน K-FIT หรือจะให้ Wealth PLUS ช่วยลงทุนต้องไปที่ไหน?

สำหรับคนที่อยากลงทุน แต่ไม่มีเวลาติดตามกองทุนเองที่อยากได้ผู้ช่วยส่วนตัวคอยปรับพอร์ตให้ตามสภาวะตลาด  แค่เปิด K PLUS ก็สามารถลงทุนกองทุนทั้ง 2 และ Wealth PLUS ได้เลย

ใครสนใจและต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ K-Contact Center 02-888-8888 หรือคลิก https://kbank.co/33XVYAw

สร้างสมดุลให้พอร์ตการลงทุนของคุณ ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้กันนะครับ

โชคดีในการลงทุน

คำเตือน
* กองทุนมีนโยบายที่แตกต่างกันทั้งด้านสินทรัพย์/ภูมิภาค/ประเทศ/กลุ่มธุรกิจที่กองทุนลงทุน ราคาของหลักทรัพย์จึงมีความผันผวนตามปัจจัยที่กระทบ
* สนใจลงทุนและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ www.kasikornbank.com
* ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ชื่อสินค้า:   K-GINCOME-A(R) และ K-FIT
คะแนน:     

BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่