สารานุกรมปืนตอนที่ 417 "Project Eldest Son กระสุนมรณะ(สำหรับคนยิง)"

"ขอขอบคุณเพจ Nguyen Military History อย่างสูงครับ"

https://www.facebook.com/NguyenMilitaryHistory/



ระหว่างการยิงปะทะกันของทหารสหรัฐและทหารเวียดนามเหนือบริเวณใกล้ชายแดนกัมพูชา ปี 1968 ทหารเวียดนามเหนือยกปืน Type-56 เล็งไปที่ทหารสหรัฐแล้วเหนี่ยวไกแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่เป็นดังที่ทหารเวียดนามเหนือคาดหวังไว้....
หลังจากการปะทะกันทหารสหรัฐเข้ามาตรวจพื้นที่ ได้พบกันศพทหารเวียดนามเหนือนายนั้น นอนข้างปืน Type-56 อาวุธประจำกายของเขา ทหารนายนี้ไม่ได้เสียชีวิตเพราะโดนอาวุธยิง แต่ เสียชีวิตเพราะ ปืนของเขาได้ระเบิดออกเป็นชิ้นๆโดนเข้าจนเสียชีวิต. จากเหตุนี้หน่วยทหารสหรัฐที่เข้ามาตรวจสอบไม่พบว่ามีอะไรอุดตันลำกล้องปืน จึงได้ข้อสรุปว่า น่าจะเกิดจากโลหะเกิดอาการล้าตัว หรือจากกระสุนผิดปรกติ .
แต่ความจริงนั้น เหตุการณ์นี้ได้เกิดจากโปรเจคลับ ชื่อ Project Eldest Son ของ หน่วย Studies and Observations Group (SOG) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รวมรวบหน่วยรบพิเศษชั้นแนวหน้าสำหรับภารกิจลับและเสี่ยงอันตรายส่วนใหญ่จะปฐิบัติการใน พื้นที่ของข้าศึก.
แนวคิด Project Eldest Son เกิดจาก Colonel John K. Singlaub ผบ.หน่วย SOG ผู้ซึ่งชำนาณด้านภารกิจลับ เขาเคยอยุ่หน่วย OSS(Office of Strategic Services) ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 . Colonel John K. Singlaub พบว่า
ในภารกิจลาดตระเวณหาข่าวบริเวณ เส้นทาง Ho Chi Minh ในลาว ทีมลาดตระเวน SOG ซึ่งปรกติ ประกอบไปด้วย ทหารอเมริกัน 2-3 นาย ทหารชาวพื้นเมือง 4-6 นาย เมื่อพบจุดพักอาวุธ กระสุน สัมภาระ ขนาดใหญ่ ของทหารเวียดนามเหนือ ทางหน่วย SOG ไม่สามารถทำการขนกระสุนต่างๆกลับฐานได้เพราะ จำนวนกำลังพลจำกัดและการเข้าถึงพื้นที่เป็นไปได้ยากเพราะส่วนมากเป็นเขตยึดครองข้าศึก การจะวางระเบิดหรือเผาทำลาย ก็ทำได้อย่างจำกัดไม่สามารถทำลายได้อย่างสิ้นเชิง ทั้งยังทำให้ข้าศึกรู้ตัวและย้ายจุดพักสัมภาระ จึงมีแนวคิดว่าในเมื่อทำการขนย้ายกระสุนมาไม่ได้ งั้นใช้กระสุนเป็นกับดัก(boobytrap)ไปเสียเลย. แนวคิด กระสุนกับดัก( ammunition boobytrap ) ไม่ได้เป็นแนวคิดใหม่ เพราะเคยมีการใช้มาหลายยุคเช่น ทหารกองทัพสหราชอาณาจักร ในการรบกับกบฐที่ Waziristan .
หลังจากได้ไอเดียเกี่ยวกับใช้ กระสุนเป็นกับดัก Colonel John K. Singlaub ได้ส่งเรื่องไปให้ ทางฝ่ายเทคนิคของหน่วยงาน CIA ในการพัฒนากระสุนชนิดพิเศษสำหรับภารกิจนี้ โดย ตัวกระสุนถูกบรรจุโดยดินระเบิดแรงสูงแทนดินปืนปรกติ การทดสอบหลังยิงด้วยกระสุนบรรจุดินระเบิดแรงสูงชนิดนี้กับปืน AK47/TYPE-56 พบว่า แรงระเบิดได้ฉีกโครงปืนออกจากกัน ลูกเลื่อนหลุดจากตัวปืนวิ่งไปด้านหลัง ตามปรกติ รังเพลิงของปืน AK47 RPD TYPE56 รองรับแรงดันได้ประมาณ 45,000 p.s.i. แต่กระสุนกับดักนี้ จะสร้างแรงดันมากกว่า 250,000 p.s.i. เลยทีเดียว.
ได้มีการดัดแปลงกระสุนกับดักชนิดนี้ ขนาด 7.62 x39 ม.ม. กว่า 11,565 นัด นอกจากนั้นยังมี กระสุนขนาด 12.7 ม.ม. จำนวน 556 นัด และ ลูกปืน ค. อีก จำนวนหนึ่งโดย ลูก ค. จะใช้ ชนวนแบบพิเศษที่จะระเบิดทันที ที่ลูก ค. กระแทก เข็มแทงชนวนใน ลำกล้องยิง.


ตัวอย่างที่ซ่อนกระสุน ,สัมภาระ จำนวนมากของ VC/NVA.


ตัวอย่างกล่องใส่กระสุน 7.62 x 39 ผลิตโดยจีน ตัวกล่องทำจากโลหะปิดผนึกอย่างดี ข้างในมีกระสุนจำนวน 550 นัด .



ตัวอย่างข้างในกล่องกระสุน





ตัวอย่างหน่วย MACV SOG ที่ใช้อาวุธ เป็น AK-47/Type-56 เป็นหลัก.

งานที่ยากอย่างแรกของภารกิจนีคือ ทำการนำกระสุนมาเปลี่ยนดินปืนภายในและประกอบคืน แล้วนำกลับเข้า กล่องบรรจุกระสุน ซึ่ง กล่องบรรจุกระสุนขนาด 7.62 x 39 ม.ม. จะมาเป็น กล่องโลหะปิดผนึกอย่างดี ฝ่ายเทคนิคของ CIA สามารถทำงานนี้ได้อย่างแนบเนียนเป็นอย่างมาก การแอบแฝงกระสุนกับดัก จะใส่เพียง 1 นัดต่อ 1 กล่องกระสุน หรือ 1 นัดต่อ 1แมกกาซีนเท่านั้น เพื่อกันในกรณีปืนเกิดระเบิดแล้ว ถูกนำมาตรวจกระสุน จะไม่สามารถหากระสุนกับดักนัดต่อไปได้ .
ภารกิจที่ยากอย่างต่อมาคือการนำกระสุนกับดักไปปะปนกับของฝ่าย VC/NVA มีทั้ง นำลังที่ มีกระสุนกับดักไปวางปะปนกับลังกระสุนในจุดพักสัมภาระ ,ซุ่มยิงทหารเวียดนามเหนือ/เวียดกง แล้วแอบเปลี่ยนแมกกาซีนที่มีกระสุนกับดักไว้ หรือ เอากระสุนใส่เรือแจวแล้วเอาเลือดไก่ทาๆ ยิงเรือให้มีรอย ทำให้คล้ายว่าโดนซุ่มยิงแล้ว ปล่อยเรือไป จุดที่คาดว่า ทหารเวียดนามเหนือ หรือ เวียดกงซ่อนอยุ่.
หลังจากมีการปล่อย กระสุนกับดักไปจำนวนหนึ่ง เริ่มมีรายงานต่างๆเกี่ยวกับ อาวุธของข้าศึกเสียหายอย่างลึกลับทั้ง อาวุธประจำกาย และ ค.ขนาด 82. มม ถึงขนาดทำให้ข้าศึกบาดเจ็บหนักจนเสียชีวต โดยปืน AK47/TYPE56 เมื่อระเบิด ลูกเลื่อนมีโอกาศวิ่งเข้าเบ้าตาคนยิง จนอาจทำให้เสียชีวิตได้



(สังเกตเวียดกงคนซ้ายมือของภาพ) การประทับเล็งยิงของปืน AK-47/Type56 ตาของผู้ยิงจะอยู่แนวใกล้กับลูกเลื่อนทำให้เมื่อปืนระเบิดทำให้ มีโอกาศลูงที่ลูกเลื่อนจะ วิ่งเข้าเบ้าตาผู้ยิง.

นอกจากผลทางตรงต่อข้าศึก หน่วย SOG ยังขยายผลไปทางด้านจิตวิทยาทำให้ ทหารเวียดนามเหนือและเวียดกง ระแวงการใช้อาวุธกระสุนที่ผลิตโดยจีน หน่วย SOG ได้พยายามปล่อยข่าวต่างๆโดย ใช้สายลับสองหน้า หรือ จงใจให้เอกสารหลุด ให้แก่ทหารเวียดนามเหนือและเวียดกง เช่น ปืนจีนมีคุณภาพต่ำ อาจเกิดระเบิดได้ กระสุนคุณภาพไม่ดี ไม่มีการตรวจสอบคุณภาพต่างๆ
เนื่องด้วย Project Eldest Son เป็นความลับมากหน่วยทหารอื่นๆ ยังไม่ทราบข้อมูล จึงมีข้อแนะนำว่า ห้ามนำอาวุธปืนของข้าศึกมายิง เพราะอาจเกิดอันตรายได้ แต่แล้ว โปรเจคนี้ก็ หลุดไปถึงสื่ออย่าง New York Times ทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อ โปรเจคเป็น Italian Green และ Pole Bean และในที่สุด Project Eldest Son ก็สิ้นสุดในปลายปี 1969 .
แต่ ทุกวันนี้ กระสุนกับดักก็ยังพบรายงานการใช้งานในการรบเช่นในอิรักและอัฟกัน การใช้วิธีนี้ก็ถือว่าสร้างความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมพอสมควรเลยทีเดียว เพราะ หากไม่รู้ที่ไปที่มาของกระสุน ไม่รู้กระสุนลูกไหนจะกลายเป็น"กระสุนมรณะ"
เรื่องน่าสนใจเรื่องหนึ่งคือ หน่วย SOG ที่ใช้อาวุธ ของคอมมิวนิสเช่น AK-47/TYPE-56 /RPD เพื่อหลีกเลี่ยงที่อาจจะเจอกับกระสุนกับดักของตัวเอง จึงมีการจัดซื้อกระสุนขนาด 7.62 x 39 ม.ม. ผ่านประเทศฟินแลนด์มาใช้งาน.

*ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ตามภาพประกอบได้เลยน่ะครับ

ขอบคุณสำหรับการรบชม หากมีข้อแนะนำประการใดสามารถแจ้งมาได้เลยน่ะครับ
แอดมิน Nguyen

ข้อมูลประกอบ บทความ
-https://militaryhistorynow.com
-https://www.fieldandstream.com/.../project-eldest-son.../


สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่