หน่วยกองโจร “ชินดิต” (Chindit)
สัตว์ในเทพนิยาย “สิงห์” หรือที่พม่าเรียกว่า “ชินเต” เป็นสัญลักษณ์ประจำกองกำลังทหารราบอินเดียที่ 77 ต่อมาคำว่า “ชินเต” กร่อนเป็น “ชินดิต” (Chindit) และเนื่องจากคำหลังฟังดูขึงขังกว่าคำแรก อาจจะเป็นเพราะไปพ้องกับคำว่า “bandit” ที่แปลว่ากองโจร เลยกลายมาเป็นชื่อหน่วยกองโจรที่มีชื่อเสียงภายใต้การบัญชาการรบของนายพล ออร์ด วินเกต แห่งราชอาณาจักรในอินเดีย ทหารในกองกำลังทหารราบอินเดียที่ 77 นั้นเป็นส่วนผสมระหว่างทหารจากสหราชอาณาจักรและทหารอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานในอู่เรือจากลิเวอร์พูล และยังมีกองพลอื่นๆ ที่ประกอบด้วยทหารจากอินเดีย ทหารกุรข่า และกองกำลังรักษาดินแดนจากไนจีเรีย
ชินดิตยังมีกองกำลังที่สำคัญอีกกองหนึ่งที่เรียกว่า Burma Rifles หรือกองแม่นปืนพม่า แต่ในกองพลนี้แทบไม่มีชาวพม่าอยู่เลย ส่วนมากเป็นชนกลุ่มน้อยที่คุ้นเคยกับภูมิประเทศที่เป็นภูเขา ได้แก่ ชาวกะเหรี่ยง กะฉิ่น และฉิ่น เป็นที่น่าสังเกตว่าเจ้าอาณานิคมไม่ดึงชาวพม่าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของยุทธวิธีแบบกองโจรหรือในกองทัพอื่นๆ เพราะหวาดระแวงชาวพม่าเป็นพิเศษ เกรงว่าจะเป็นไส้ศึก มองว่าชาวพม่าจับจดและยังมีประสบการณ์ที่ไม่ดีนักในการว่าจ้างชาวพม่าให้มาเป็นทหารหรือตำรวจ
ในปฏิบัติการของชินดิตครั้งแรกในปี 1943 (พ.ศ.2496) ชินดิตประกอบด้วย 7 กองร้อย กองร้อยละประมาณ 400 คน ทั้งหมดเป็นกองทัพที่เดินเท้าเท่านั้น หลักคือจะเข้าแทรกซึมเพื่อหาข่าวและทำลายล้างคู่ต่อสู้ กองทัพต้องเคลื่อนที่ได้เร็วที่สุด ชินดิตจึงไม่มีเกวียนที่ใช้ขนส่งเสบียงขนาดใหญ่เหมือนกับกองกำลังอื่นๆ เสบียงที่แต่ละกองร้อยพกเข้าป่าเพียงพอสำหรับ 1 สัปดาห์เท่านั้น
และเสบียงจะถูกนำมาเติมโดยใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศแห่งสหราชอาณาจักร (RAF) กองร้อยแต่ละกองจะแบ่งย่อยออกเป็นอีกหลายกอง และเดินทางเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อไม่ให้ข้าศึกจับได้ ชินดิตเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วสารพัดประโยชน์ หน้าที่หลักๆ ของพวกเขา เช่น การตัดเสาไฟฟ้า โทรเลข การทำลายเส้นทางรถไฟ และตัดการสื่อสารไม่ให้กองกำลังฝั่งญี่ปุ่นติดต่อกันได้
Cr.
https://www.matichon.co.th/columnists/news_797315
“แซปเปอร์”(sapper) หน่วยกล้าตายแห่งเวียดนามเหนือ
"แซปเปอร์" (Sapper หรือ công binh) แปลตามภาษาอังกฤษว่า ทหารช่างที่มีความชำนาญในการทำลายป้อมค่ายและงานเกี่ยวกับการสร้างป้อมค่าย รวมไปถึงผู้ที่มีความชำนาญในการวางและเก็บกู้ทุ่นระเบิด ตำราประวัติศาสตร์ได้เขียนไว้ว่า แนวความคิดการจัดหน่วยแซบเปอร์ได้เกิดขึ้นเมื่อห้าร้อยปีก่อนระหว่างสงคราม ฝรั่งเศส และได้มีการนำความคิดดังกล่าวมาใช้ในสงครามประกาศอิสรภาพของสหรัฐ
"แซปเปอร์" ที่ดังที่สุดและเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป คือหน่วยกล้าตายของเวียดนามเหนือในระหว่างสงครามเวียดนาม ที่สร้างความหวาดหวั่นให้แก่กองกำลังสหรัฐและพันธมิตรในสงครามเวียดนามอย่างถึงความบ้าบิ่นของหน่วยนี้
พวกเขาเป็นคนต่างด้าวที่แฝงตัวอยู่ในหมู่ชาวเวียดนามใต้ หรือก็คือทหารช่างสังหารชาวเวียดนามเหนือ ซึ่งมีความสามารถในการเล็ดลอดผ่านแนวลวดหนามและกับระเบิดที่แน่นหนา เข้าไปก่อวินาศกรรมในฐานทัพของข้าศึกได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ลักษณะที่เห็นได้เด่นชัดของพวกนี้ก็คือจะไม่สวมใส่เสื้อผ้า แต่จะนุ่งเพียงกางเกงขาสั้นเท่านั้น ที่ไม่ใส่เสื้อผ้านี้ก็เพื่อเวลามุดลวดหนามจะได้ไม่โดนหนามเกี่ยว และจะได้พรางตัวเพราะสีผิวกับสีดินคล้ายๆกัน
อาวุธที่ใช้ก็มีเพียงปืนอาก้ากระบอกเดียวไม่มีแม็กกาซีนสำรอง หรือปืนกลมือขนาดเล็ก พวกเขามีหน้าที่ทำลายแนวลวดหนามของฐานทัพข้าศึกก่อนการบุกแทบทุกครั้ง อุปกรณ์ติดตัวจึงได้แก่คีมตัดลวดหนาม (wire custer=ไวร์ คัตเตอร์) และระเบิดแรงสูงแบบกระเป๋าถือ (satchel charge=แซ็ช เชล ชาร์จ)ที่ใช้ทำลายลวดหนามและก่อวินาศกรรมต่อเป้าหมาย ผลงานเด่นๆได้แก่ การวางระเบิดเครื่องบินที่จอดไว้ในสนามบินของสหรัฐฯ,การโจมตีก่อกวนทหารสหรัฐฯในตอนกลางคืน หรือการโจมตีด้วยปืนครก,ปืนใหญ่ และจรวด ต่อที่ตั้งทางทหารไม่เว้นแม้แต่พื้นที่ของพลเรือน
ขอบคุณที่มาข้อมูลจากเว็ป : www.taharn.net
Cr.
https://www.facebook.com/502091946518622/photos/-แซปเปอร์-sapper-หน่วยกล้าตายแห่งเวียดนามเหนือ-โดยแอดมินวัลคีรี่-แซปเปอร์-sapper/693023817425433/
'' Ma Rung '' วิญญาณแห่งพงไพร่
ทหารผีคือฉายาของหน่วย SASR หรือ กรมปฏิบัติการพิเศษทางอากาศ (Special Air Service Regiment) ของออสเตรเลียซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1957 โดยมีต้นแบบจากหน่วย SAS ของอังกฤษ ฉายาทหารผีได้มาจากวีรกรรมจากการรบในสงครามเวียดนามในระหว่างปี 1966 - 1972
ในปี 1966 กรมรบพิเศษที่ 1 แห่ง SASR หรือ SAS ออสเตรเลีย ได้เริ่มภารกิจในเวียตนาม เป้าหมายหลักคือภารกิจสอดแนมและลาดตระเวนระยะไกลหลังแนวข้าศึกรวมถึงเส้นทางโฮจิมิน แล้วยังรวมถึงการซุ่มโจมตีและรบแบบกองโจรกับฝ่ายเวียดนามเหนือและเวียดกง ซึ่งสร้างความเสียหายและปั่นปวนให้กับฝ่ายเวียดนามเหนือและเวียดกงมากๆ
หลังซุ่มโจมตีภารกิจของ SASR คือเก็บเอกสารหรือจับเป็นนายทหารฝ่ายตรงข้ามก่อนที่จะหายตัวไปแบบไร้ร่องรอย ทิ้งไว้แค่ศพของอีกฝ่าย พวก SASR โดนขนานนามว่า '' Ma Rung '' หรือ วิญญาณแห่งพงไพร่ จากฝ่ายเวียดนามเหนือและเวียดกง
เวียตนามเหนือและเวียตกงตั้งค่าหัวพวกทหารผีนี้ถึง 5000 $ ไม่ว่าเป็นหรือตาย โดยอาวุธหลักของ SASR มีทั้ง L1a1 รุ่นคัสตอมให้ยิง Full auto ได้ , Car-15 and XM-177, เครื่องยิงระเบิด XM-148 พอช่วงท้ายๆก็เป็น M203 แต่หลายๆครั้งพวกนี้จะติดอาวุธเป็น AK-47 หรือปืนในเครือรัสเซีย เพื่อกลบร่องรอยของตัวเอง
พวกนี้มีประสบการณ์รบในป่าเขตร้อนทั้งมลายาและบอร์เนียวมาก่อน เวลาเข้าพื้นที่ป่าเค้าแทบจะไม่พูดคุยกันเลย อาศัยความเงียบและทำตัวกลมกลืนกับป่าทำให้ถูกตรวจจับได้ยากมาก เทคนิคและกลยุทธ์ในการรบในป่าต่างๆนั้นต่อมาก็ถูกถ่ายทอดให้กับทหารอเมริกันในเวลาต่อมา
โดยในช่วงสงครามเวียดนาม สถิติโดยเฉลี่ยของหน่วย SASR คือสามารถฆ่าเวียดกงได้ 500 คนโดยสูญเสียทหารหน่วย SASR แค่ 1 นาย
เครดิตท่าน Sittisook Tong Soontarasasin / แอดมินBB
Cr.
https://www.facebook.com/historyofcoldwar/photos/ตำนานทหารผีของจริง-sasr-เจ้าของตำนานทหารผีตัวจริงแห่งสงครามเวียดนามทหารผีคือฉายา/430225140466379/
รหัส “838”
ในยุคสงครามเย็น ทหารเวียดนามเข้ายึดประเทศเขมรไว้ และพยายามรุกรานไทย เวียดนามทุ่มกำลังทหาร 7-8 กองพล ประชิดชายแดนไทย นักรบไทยหลายหน่วยเข้าปกป้องชายแดน ไม่ให้กองกำลังต่างชาติรุกล้ำอธิปไตย
ซึ่งเป็นความลับมาตลอดนับ30ปี สิ่งหนึ่งที่เราช่วยเขมรคือนักรบไทยได้ตั้งหน่วยปฎิบัติการพิเศษขึ้นมาหน่วยหนึ่ง ซึ่งกำลังพลส่วนหนึ่งไปจากทหารพรานจู่โจม ชค.513 ค่ายปักธงชัย หน่วยลับปฎิบัติการพิเศษนี้มีชื่อรหัสว่า “838” มีภารกิจคุมกำลังนักรบไทยร่วมกับกำลังทหารเขมรเสรี เข้าไปรบแบบกองโจร ซุ่มโจมตี ตีโฉบฉวย ดักทุ่นระเบิด ตัดกำลังส่งบำรุง ทำลายกำลังพลของ ทวน ในฝั่งเขมร
ชีวิตของนักรบไทยหน่วยนี้แขวนอยู่บนเส้นด้าย ความตายเป็นเหมือนเงาตามตัว เพราะต้องแฝงตัวหลบซ่อนอยู่ในเขตยึดครองของ ทวน ฝั่งประเทศเขมร กลางวันจะหลบซ่อนตัว กลางคืนออกปฎิบัติการวางทุ่นระเบิด ซุ่มโจมตี ตีโฉบฉวยไม่ยึดพื้นที่ หลายครั้งหลายหนที่ ถูกทวนถล่มด้วยปืนใหญ่ และรถถัง
เมื่อทหารเวียดนามถูกกดดันจาก หสประชาชาติ ประกอบกับสูญเสียกำลังพลจำนวนมาก ในที่สุดปลายปี 2530 เวียดนามก็เริ่มถอนกำลังกลับประเทศ ภารกิจลับของนักรบหน่วย “ชปพ.838” ก็หมดสิ้นสุดลง
(อ่านเพิ่ม Cr.ที่มาตำนานนักรบดำทหารพรานจู่โจมค่ายปักธงชัย)
Cr.
https://www.facebook.com/841541942547218/posts/1086499678051442/
สเปซนาซ แห่งรัสเซีย
สเปซนาซ (รัสเซีย: Спецназ) มาจากการสนธิคำในภาษารัสเซียสองคำ คือ สเปซซีอาลโนโว กับคำว่า นาซนาเชนียา หมายถึง หน่วยปฏิบัติการพิเศษหรือหน่วยรบพิเศษ ของรัฐในอดีตสหภาพโซเวียตและประเทศรัสเซีย
หน่วยสเปซนาซทางการทหาร เป็นการแทรกซึมเข้าไปสอดแนมหาข่าวกรองทางทหาร หรือ ทำการก่อวินาศกรรมภายนอกประเทศ ทั้งในยามสงบ และในยามสงครามซึ่งมียุทธวิธีในการรบที่เน้นในการรบนอกแบบ หรือ สงครามกองโจรเป็นหลัก หน่วยรบพิเศษพวกนี้จะเป็นหน่วยรบพิเศษทางการทหาร ซึ่งสังกัดกระทรวงกลาโหม หรือ กองกำลังรักษาพรมแดน (FPS)
“สเปซนาซ” ก่อตั้งขึ้นในปี 1949 ภายใต้การกำกับของกองบัญชาการทหารสูงสุดแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ปัจจุบันนั้นมีกำลังพลสังกัดอยู่ถึง 15,000 นาย หน่วยปฏิบัติการพิเศษสเปซนาซนั้นเป็นชื่อเรียกรวมๆ ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่มีอยู่ในรัสเซีย ซึ่งจะแบ่งไปสังกัดตามหน่วยงานต่างๆ
เช่น กองทัพบก กองทัพเรือ หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านความมั่นคง
Credit :
http://jackza-wearegamemer.blogspot.com/…/12-medal-of-honor…
https://www.spokedark.tv/posts/spetsnaz/
Credit photo :
https://regnum.ru/news/2154514.html
Cr.
https://www.facebook.com/thailandlegion/posts/2007523665943714/
กลุ่มกองโจรในยุทธวิธีการรบในอดีต
สัตว์ในเทพนิยาย “สิงห์” หรือที่พม่าเรียกว่า “ชินเต” เป็นสัญลักษณ์ประจำกองกำลังทหารราบอินเดียที่ 77 ต่อมาคำว่า “ชินเต” กร่อนเป็น “ชินดิต” (Chindit) และเนื่องจากคำหลังฟังดูขึงขังกว่าคำแรก อาจจะเป็นเพราะไปพ้องกับคำว่า “bandit” ที่แปลว่ากองโจร เลยกลายมาเป็นชื่อหน่วยกองโจรที่มีชื่อเสียงภายใต้การบัญชาการรบของนายพล ออร์ด วินเกต แห่งราชอาณาจักรในอินเดีย ทหารในกองกำลังทหารราบอินเดียที่ 77 นั้นเป็นส่วนผสมระหว่างทหารจากสหราชอาณาจักรและทหารอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานในอู่เรือจากลิเวอร์พูล และยังมีกองพลอื่นๆ ที่ประกอบด้วยทหารจากอินเดีย ทหารกุรข่า และกองกำลังรักษาดินแดนจากไนจีเรีย
ชินดิตยังมีกองกำลังที่สำคัญอีกกองหนึ่งที่เรียกว่า Burma Rifles หรือกองแม่นปืนพม่า แต่ในกองพลนี้แทบไม่มีชาวพม่าอยู่เลย ส่วนมากเป็นชนกลุ่มน้อยที่คุ้นเคยกับภูมิประเทศที่เป็นภูเขา ได้แก่ ชาวกะเหรี่ยง กะฉิ่น และฉิ่น เป็นที่น่าสังเกตว่าเจ้าอาณานิคมไม่ดึงชาวพม่าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของยุทธวิธีแบบกองโจรหรือในกองทัพอื่นๆ เพราะหวาดระแวงชาวพม่าเป็นพิเศษ เกรงว่าจะเป็นไส้ศึก มองว่าชาวพม่าจับจดและยังมีประสบการณ์ที่ไม่ดีนักในการว่าจ้างชาวพม่าให้มาเป็นทหารหรือตำรวจ
ในปฏิบัติการของชินดิตครั้งแรกในปี 1943 (พ.ศ.2496) ชินดิตประกอบด้วย 7 กองร้อย กองร้อยละประมาณ 400 คน ทั้งหมดเป็นกองทัพที่เดินเท้าเท่านั้น หลักคือจะเข้าแทรกซึมเพื่อหาข่าวและทำลายล้างคู่ต่อสู้ กองทัพต้องเคลื่อนที่ได้เร็วที่สุด ชินดิตจึงไม่มีเกวียนที่ใช้ขนส่งเสบียงขนาดใหญ่เหมือนกับกองกำลังอื่นๆ เสบียงที่แต่ละกองร้อยพกเข้าป่าเพียงพอสำหรับ 1 สัปดาห์เท่านั้น
และเสบียงจะถูกนำมาเติมโดยใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศแห่งสหราชอาณาจักร (RAF) กองร้อยแต่ละกองจะแบ่งย่อยออกเป็นอีกหลายกอง และเดินทางเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อไม่ให้ข้าศึกจับได้ ชินดิตเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วสารพัดประโยชน์ หน้าที่หลักๆ ของพวกเขา เช่น การตัดเสาไฟฟ้า โทรเลข การทำลายเส้นทางรถไฟ และตัดการสื่อสารไม่ให้กองกำลังฝั่งญี่ปุ่นติดต่อกันได้
Cr.https://www.matichon.co.th/columnists/news_797315
“แซปเปอร์”(sapper) หน่วยกล้าตายแห่งเวียดนามเหนือ
"แซปเปอร์" (Sapper หรือ công binh) แปลตามภาษาอังกฤษว่า ทหารช่างที่มีความชำนาญในการทำลายป้อมค่ายและงานเกี่ยวกับการสร้างป้อมค่าย รวมไปถึงผู้ที่มีความชำนาญในการวางและเก็บกู้ทุ่นระเบิด ตำราประวัติศาสตร์ได้เขียนไว้ว่า แนวความคิดการจัดหน่วยแซบเปอร์ได้เกิดขึ้นเมื่อห้าร้อยปีก่อนระหว่างสงคราม ฝรั่งเศส และได้มีการนำความคิดดังกล่าวมาใช้ในสงครามประกาศอิสรภาพของสหรัฐ
"แซปเปอร์" ที่ดังที่สุดและเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป คือหน่วยกล้าตายของเวียดนามเหนือในระหว่างสงครามเวียดนาม ที่สร้างความหวาดหวั่นให้แก่กองกำลังสหรัฐและพันธมิตรในสงครามเวียดนามอย่างถึงความบ้าบิ่นของหน่วยนี้
พวกเขาเป็นคนต่างด้าวที่แฝงตัวอยู่ในหมู่ชาวเวียดนามใต้ หรือก็คือทหารช่างสังหารชาวเวียดนามเหนือ ซึ่งมีความสามารถในการเล็ดลอดผ่านแนวลวดหนามและกับระเบิดที่แน่นหนา เข้าไปก่อวินาศกรรมในฐานทัพของข้าศึกได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ลักษณะที่เห็นได้เด่นชัดของพวกนี้ก็คือจะไม่สวมใส่เสื้อผ้า แต่จะนุ่งเพียงกางเกงขาสั้นเท่านั้น ที่ไม่ใส่เสื้อผ้านี้ก็เพื่อเวลามุดลวดหนามจะได้ไม่โดนหนามเกี่ยว และจะได้พรางตัวเพราะสีผิวกับสีดินคล้ายๆกัน
อาวุธที่ใช้ก็มีเพียงปืนอาก้ากระบอกเดียวไม่มีแม็กกาซีนสำรอง หรือปืนกลมือขนาดเล็ก พวกเขามีหน้าที่ทำลายแนวลวดหนามของฐานทัพข้าศึกก่อนการบุกแทบทุกครั้ง อุปกรณ์ติดตัวจึงได้แก่คีมตัดลวดหนาม (wire custer=ไวร์ คัตเตอร์) และระเบิดแรงสูงแบบกระเป๋าถือ (satchel charge=แซ็ช เชล ชาร์จ)ที่ใช้ทำลายลวดหนามและก่อวินาศกรรมต่อเป้าหมาย ผลงานเด่นๆได้แก่ การวางระเบิดเครื่องบินที่จอดไว้ในสนามบินของสหรัฐฯ,การโจมตีก่อกวนทหารสหรัฐฯในตอนกลางคืน หรือการโจมตีด้วยปืนครก,ปืนใหญ่ และจรวด ต่อที่ตั้งทางทหารไม่เว้นแม้แต่พื้นที่ของพลเรือน
ขอบคุณที่มาข้อมูลจากเว็ป : www.taharn.net
Cr.https://www.facebook.com/502091946518622/photos/-แซปเปอร์-sapper-หน่วยกล้าตายแห่งเวียดนามเหนือ-โดยแอดมินวัลคีรี่-แซปเปอร์-sapper/693023817425433/
'' Ma Rung '' วิญญาณแห่งพงไพร่
ทหารผีคือฉายาของหน่วย SASR หรือ กรมปฏิบัติการพิเศษทางอากาศ (Special Air Service Regiment) ของออสเตรเลียซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1957 โดยมีต้นแบบจากหน่วย SAS ของอังกฤษ ฉายาทหารผีได้มาจากวีรกรรมจากการรบในสงครามเวียดนามในระหว่างปี 1966 - 1972
ในปี 1966 กรมรบพิเศษที่ 1 แห่ง SASR หรือ SAS ออสเตรเลีย ได้เริ่มภารกิจในเวียตนาม เป้าหมายหลักคือภารกิจสอดแนมและลาดตระเวนระยะไกลหลังแนวข้าศึกรวมถึงเส้นทางโฮจิมิน แล้วยังรวมถึงการซุ่มโจมตีและรบแบบกองโจรกับฝ่ายเวียดนามเหนือและเวียดกง ซึ่งสร้างความเสียหายและปั่นปวนให้กับฝ่ายเวียดนามเหนือและเวียดกงมากๆ
หลังซุ่มโจมตีภารกิจของ SASR คือเก็บเอกสารหรือจับเป็นนายทหารฝ่ายตรงข้ามก่อนที่จะหายตัวไปแบบไร้ร่องรอย ทิ้งไว้แค่ศพของอีกฝ่าย พวก SASR โดนขนานนามว่า '' Ma Rung '' หรือ วิญญาณแห่งพงไพร่ จากฝ่ายเวียดนามเหนือและเวียดกง
เวียตนามเหนือและเวียตกงตั้งค่าหัวพวกทหารผีนี้ถึง 5000 $ ไม่ว่าเป็นหรือตาย โดยอาวุธหลักของ SASR มีทั้ง L1a1 รุ่นคัสตอมให้ยิง Full auto ได้ , Car-15 and XM-177, เครื่องยิงระเบิด XM-148 พอช่วงท้ายๆก็เป็น M203 แต่หลายๆครั้งพวกนี้จะติดอาวุธเป็น AK-47 หรือปืนในเครือรัสเซีย เพื่อกลบร่องรอยของตัวเอง
พวกนี้มีประสบการณ์รบในป่าเขตร้อนทั้งมลายาและบอร์เนียวมาก่อน เวลาเข้าพื้นที่ป่าเค้าแทบจะไม่พูดคุยกันเลย อาศัยความเงียบและทำตัวกลมกลืนกับป่าทำให้ถูกตรวจจับได้ยากมาก เทคนิคและกลยุทธ์ในการรบในป่าต่างๆนั้นต่อมาก็ถูกถ่ายทอดให้กับทหารอเมริกันในเวลาต่อมา
โดยในช่วงสงครามเวียดนาม สถิติโดยเฉลี่ยของหน่วย SASR คือสามารถฆ่าเวียดกงได้ 500 คนโดยสูญเสียทหารหน่วย SASR แค่ 1 นาย
เครดิตท่าน Sittisook Tong Soontarasasin / แอดมินBB
Cr.https://www.facebook.com/historyofcoldwar/photos/ตำนานทหารผีของจริง-sasr-เจ้าของตำนานทหารผีตัวจริงแห่งสงครามเวียดนามทหารผีคือฉายา/430225140466379/
รหัส “838”
ในยุคสงครามเย็น ทหารเวียดนามเข้ายึดประเทศเขมรไว้ และพยายามรุกรานไทย เวียดนามทุ่มกำลังทหาร 7-8 กองพล ประชิดชายแดนไทย นักรบไทยหลายหน่วยเข้าปกป้องชายแดน ไม่ให้กองกำลังต่างชาติรุกล้ำอธิปไตย
ซึ่งเป็นความลับมาตลอดนับ30ปี สิ่งหนึ่งที่เราช่วยเขมรคือนักรบไทยได้ตั้งหน่วยปฎิบัติการพิเศษขึ้นมาหน่วยหนึ่ง ซึ่งกำลังพลส่วนหนึ่งไปจากทหารพรานจู่โจม ชค.513 ค่ายปักธงชัย หน่วยลับปฎิบัติการพิเศษนี้มีชื่อรหัสว่า “838” มีภารกิจคุมกำลังนักรบไทยร่วมกับกำลังทหารเขมรเสรี เข้าไปรบแบบกองโจร ซุ่มโจมตี ตีโฉบฉวย ดักทุ่นระเบิด ตัดกำลังส่งบำรุง ทำลายกำลังพลของ ทวน ในฝั่งเขมร
ชีวิตของนักรบไทยหน่วยนี้แขวนอยู่บนเส้นด้าย ความตายเป็นเหมือนเงาตามตัว เพราะต้องแฝงตัวหลบซ่อนอยู่ในเขตยึดครองของ ทวน ฝั่งประเทศเขมร กลางวันจะหลบซ่อนตัว กลางคืนออกปฎิบัติการวางทุ่นระเบิด ซุ่มโจมตี ตีโฉบฉวยไม่ยึดพื้นที่ หลายครั้งหลายหนที่ ถูกทวนถล่มด้วยปืนใหญ่ และรถถัง
เมื่อทหารเวียดนามถูกกดดันจาก หสประชาชาติ ประกอบกับสูญเสียกำลังพลจำนวนมาก ในที่สุดปลายปี 2530 เวียดนามก็เริ่มถอนกำลังกลับประเทศ ภารกิจลับของนักรบหน่วย “ชปพ.838” ก็หมดสิ้นสุดลง
(อ่านเพิ่ม Cr.ที่มาตำนานนักรบดำทหารพรานจู่โจมค่ายปักธงชัย)
Cr.https://www.facebook.com/841541942547218/posts/1086499678051442/
สเปซนาซ แห่งรัสเซีย
สเปซนาซ (รัสเซีย: Спецназ) มาจากการสนธิคำในภาษารัสเซียสองคำ คือ สเปซซีอาลโนโว กับคำว่า นาซนาเชนียา หมายถึง หน่วยปฏิบัติการพิเศษหรือหน่วยรบพิเศษ ของรัฐในอดีตสหภาพโซเวียตและประเทศรัสเซีย
หน่วยสเปซนาซทางการทหาร เป็นการแทรกซึมเข้าไปสอดแนมหาข่าวกรองทางทหาร หรือ ทำการก่อวินาศกรรมภายนอกประเทศ ทั้งในยามสงบ และในยามสงครามซึ่งมียุทธวิธีในการรบที่เน้นในการรบนอกแบบ หรือ สงครามกองโจรเป็นหลัก หน่วยรบพิเศษพวกนี้จะเป็นหน่วยรบพิเศษทางการทหาร ซึ่งสังกัดกระทรวงกลาโหม หรือ กองกำลังรักษาพรมแดน (FPS)
“สเปซนาซ” ก่อตั้งขึ้นในปี 1949 ภายใต้การกำกับของกองบัญชาการทหารสูงสุดแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ปัจจุบันนั้นมีกำลังพลสังกัดอยู่ถึง 15,000 นาย หน่วยปฏิบัติการพิเศษสเปซนาซนั้นเป็นชื่อเรียกรวมๆ ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่มีอยู่ในรัสเซีย ซึ่งจะแบ่งไปสังกัดตามหน่วยงานต่างๆ
เช่น กองทัพบก กองทัพเรือ หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านความมั่นคง
Credit : http://jackza-wearegamemer.blogspot.com/…/12-medal-of-honor…
https://www.spokedark.tv/posts/spetsnaz/
Credit photo : https://regnum.ru/news/2154514.html
Cr.https://www.facebook.com/thailandlegion/posts/2007523665943714/