วันนี้เราจะมารีวิวร้านชาบู เป็นร้านอาหารบุฟเฟ่ต์สไตล์ญี่ปุ่นแท้เลยค่ะ ร้านนี้ก็เป็นร้านชื่อดังย่าน จ.ชลบุรีเลยงับ ถ้าใครสายเนื้อนี่ ร้านนี้ตอบโจทย์สุด  
ซึ่งจะบอกว่าถ้าใครอยากกินแบบปุ๊บปั๊บแล้วโทรไปในวันนั้นเลย หรือ walk in ไปที่หน้าร้าน เราขอบอกว่า ไม่ได้กินอย่างแน่นอน เพราะทางร้านเขาเอาป้ายมาตั้งหน้าร้านเลยว่า “โต๊ะเต็มจนถึงปิดร้าน” คือแบบของจริงมาก เราเลยต้องโทรจองก่อนล่วงหน้า 3-4 วันเลยค่ะ กว่าจะได้คิวและเวลาที่ต้องการ ตอนแรกเราก็ฟังคนอื่นพูดมาว่าต้องจองแบบข้ามวันซึ่งดูเหมือนจะเวอร์ แต่พอได้มาจองเอง โอโหนี่คือเรื่องจริง55555

ซึ่งร้านนี้ชื่อว่าร้าน “พุงกางชาบู สาขาบางแสน” ค่ะ โดยสาขานี้เป็นสาขาที่พึ่งเปิดใหม่ด้วย แต่ลูกค้ายังเยอะและเต็มร้านอยู่ดี เราเองก็อยู่บางแสน 
และเป็นคนที่ชอบกินชาบูมาก ๆ เรียกว่า สายชาบูเลยแหละ555555 กินชาบูร้านอื่นในบางแสนมาจนเบื่อแล้ว ไหน ๆ ได้ยินชื่อเสียงของร้านนี้ เดี๋ยวเรา
ไปลองกันหน่อย จะอร่อยสมคำร่ำลือไหมไปกันเลยค่า

ถึงแล้วทุกคนนน อาจจะดูมืดไปหน่อยเพราะเราจองได้รอบ 18.30 ค่ะ หน้าร้านเขาก็จะเป็นแบบนี้นะคะ จุดสังเกตหลัก ๆ ก็คือร้านจะอยู่ติดหน้าถนน
ฝั่งเดียวกับห้างแหลมทองบางแสน อยู่เลยห้างมาประมาณ 50 เมตรเองค่ะ แล้วก็จะมีน้องแมวกวักตัวใหญ่ ๆ (ใหญ่มากจริง) อยู่หน้าร้านเลยค่ะ

ทางด้านที่จอดรถของร้านไม่ต้องห่วงเลย ถึงร้านจะอยู่ติดถนนก็จริง แต่มีทั้งที่จอดรถยนต์ และมอเตอร์ไซด์รองรับให้ค่ะ 
สามารถจอดได้หลายคันอยู่น้า

เมื่อเราเดินไปหน้าร้าน เราก็เจอป้ายที่ทางร้านเอามาตั้งหน้าประตูเลย บอกว่า “โต๊ะเต็มจนถึงปิดร้าน” จริงด้วย สมคำร่ำลือจริง 
แถมยังมีป้ายที่ร้านได้รับรางวัลการันตีจาก wongnai อีกด้วย ไม่ธรรมดาจริง ๆ

พอเข้าไปในร้านแล้ว ก็สามารถแจ้งพนักงานได้เลยค่ะ ว่าเราจองไว้เวลาไหน ชื่ออะไร แล้วพนักงานก็จะพาเราไปที่โต๊ะค่ะ

นี่เราแอบเอาบรรยากาศภายในร้านมาฝากกันค่ะ โดยภายในร้านเขาก็จะตกแต่งเป็นแบบสไตล์ญี่ปุ่นเลยค่ะ ดูสะอาดและสบายตามากร้านค่อนข้างจะมีพื้นที่กว้างอยู่ ซึ่งกว้างขนาดนี้แต่จะบอกว่าคนแน่นและเต็มทุกโต๊ะเลย แต่ละคนคือกำลังตั้งใจทานกันอย่างเอร็ดอร่อยเลยค่ะ55555555 และเนื่องด้วยยังอยู่ช่วงที่ต้องเฝ้าระวัง และป้องกันโรค COVID-19 ทางร้านก็ยังคงมีที่กั้นระหว่างแต่ละโต๊ะให้ด้วยค่ะ เพื่อความปลอดภัย อันนี้ถือว่าดีมาก ๆ เลยค่ะ

เมื่อมาถึงโต๊ะแล้ว สำหรับลูกค้าที่มาครั้งแรก หรือยังไม่เคยมาทาน ทางร้านก็จะมีพนักงานมาแนะนำเกี่ยวกับเนื้อ และหมูที่เป็นเมนูหลัก ๆ 
ของทางร้าน รวมทั้งบอกวิธีการปรุงน้ำจิ้มด้วย และก็อย่างอื่นอีกมากมาย แนะนำแบบละเอียดสุด ๆ จนเราจำมาได้ไม่หมดเลยค่ะ

เดี๋ยวเราไปดูเมนูกันเลยค่ะ
โดยอันนี้จะเป็นเมนูแนะนำหลักนะคะ หรือเรียกว่า Signature ของทางร้านเลย เพราะทางร้านเขาเน้นหมูกับเนื้อเป็นหลักงับ
ซึ่งจะมีรูปให้เราดู แล้วจะเห็นว่าในร้านมีหมูแบบไหนบ้าง แล้วก็เนื้อแบบไหน แค่เห็นในรูปคือน่ากินแล้ว เดี๋ยวเราไปเริ่มสั่งกันเลยงับ

เวลาสั่งอาหาร ที่โต๊ะของเรา จะมีใบให้เราติ๊กเลือกค่ะ โดยในใบจะมีทั้ง เนื้อหมู เนื้อวัว ผัก ของทานเล่น(ประเภทของทอด) เครื่องดื่มและของหวานค่ะ 
เราสามารถติ๊กได้ทั้งหมดเลยนะคะ เพราะทุกอย่างรวมครบจบในราคา 349/คนค่ะ ซึ่งจำกัดเวลาทานได้ 1 ชั่วโมง 30 นาทีงับ แล้วที่สำคัญคือ เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่บริการให้เราทุกอย่างเลยเด้อ ไม่ต้องลุกไปไหนสักนิด นั่งเหมือนเป็นง่อยเลยค่ะ 5555555 เพราะปกติเราเคยไปบางร้านที่ราคาประมานนี้ 
เรายังต้องมีบริการตัวเองบ้าง แต่ร้านนี้คือนั่งรออาหารอย่างเดียวพองับ ใด ๆ ก็คือประทับใจสุด
ปล.ที่เห็นในใบเขียนว่าไอศกรีมบริการตนเอง ซึ่งจริง ๆ แล้วพนักงานตักมาให้เราอยู่ดีง่ะ

เมื่อส่งออเดอร์แล้ว เราก็จิบน้ำไปเพลิน ๆ ก่อน อันนี้เราสั่งเป็นน้ำเก๊กฮวย กับ เอสโคล่าค่ะ เราขอบอกอีกอย่างถ้าสมมติเราทานไปได้สักพักแล้ว 
เหลือประมาณครึ่งแก้ว แล้วเราอยากเปลี่ยนน้ำใหม่ เราสามารถบอกทางร้านได้เลยน้า พนักงานไปเปลี่ยนใหม่มาให้เราเลยง่ะ คือดีจุง

ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ เรามาดูน้ำจิ้มของทางร้านกันดีกว่า โดยร้านเขาจะมีน้ำจิ้มอยู่ 2 แบบเท่านั้นค่ะ เนื่องจากเขาจะเน้นเป็นชาบูสไตล์ญี่ปุ่นแท้ 
ต้องมีแค่ 2 อันนี้งับ ก็คือ น้ำจิ้มงา (ถ้วยซ้าย) รสชาติจะออกหวาน ๆ งับ และน้ำจิ้มพอนสึ (ถ้วยขวา) รสชาติจะออกเปรี้ยวเค็มค่ะ มีพริก กระเทียม 
ต้นหอมซอย วางพร้อมที่โต๊ะให้เราตักใส่ได้ตามใจชอบเลย 
แต่พนักงานเขาแนะนำว่าให้ใส่พริก กระเทียม ต้นหอม แค่น้ำจิ้มพอนสึค่ะ ส่วนน้ำจิ้มงา ไม่ต้องปรุงเพิ่มค่าา

ทางด้านน้ำซุป เขาก็จะมีให้เลือก 2 แบบเหมือนกันค่ะ มีน้ำซุปดำ จะมีรสชาติหวานนำเค็ม และน้ำซุปใส (อันนี้หรือจะเรียกว่าน้ำซุปปลาค่ะ) 

อาหารเริ่มมาแล้ว เริ่มจาก Set เนื้อหมู ขอเรียงตามลำดับเลยแล้วกันงับ
- อันแรกจะเป็นหมูสันคอค่ะ มีความเป็นมันกระจายอยู่ในเนื้อด้วย ทานแล้วไม่รู้สึกกระด้าง (อันนี้เราชอบ)
- อันที่สองจะเป็นหมูสันนอกค่ะ อันนี้เราคิดว่าน่าจะเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบมันงับ
- อันที่สาม หมูสามชั้น โอโหอันนี้ ที่หนึ่งในใจ ทานแล้วไม่เลี่ยน คือละลายในปากสุด
- อันที่สี่ อันนี้จะเป็นเบคอนงับ
มาต่อกันงับ ไหนใครสายเนื้อคือแบบพลาดไม่ได้จริง ๆ Set เนื้อวัวสุดพรีเมี่ยม เป็นตัวเอกของร้านเลยก็ว่าได้ค่ะ
- เริ่มจากอันแรก เสือร้องไห้ค่ะ ใครชอบทานมัน ๆ หรือแบบมันมาก อันนี้คือตอบโจทย์ 
- อันที่สอง เนื้อหนอก เราให้เป็นเดอะเบสเลย มีความเป็นมันกระจายแทรกอยู่ในเนื้อ แล้วคือลวกไม่ต้องนาน ดีไม่ไหว ละลายในปากมากอันนี้
- อันที่สาม เนื้อท้องวัว อันนี้คือนุ่มมาก ไม่เลี่ยนด้วย เราให้รองลงมาจาก เนื้อหนอกเลย
- อันที่สี่ เป็นเนื้อสันคอวัวค่ะ อันนี้เราเฉย ๆ ง่ะหรือเราชอบแบบติดมันมากกว่ามั้ง 555555 แต่พอใช้ได้งับ
เอ่อ ปล.เราถ่ายจากกล้องสด Iphone 11 นะคะไม่ได้แต่งสีเบย สีเนื้อคือน่ากินแบบนี้จริง ๆ 5555

ผักก็คือขาดไม่ได้ ฉันเลิฟกะหล่ำซอย จัดมาให้อย่างสวยงาม ข้าวผัดกระเทียมมาเสริมหน่อย (อันนี้ดี อร่อย เราสั่งไป 2 ถ้วยแหน่ะ) 

อาหารมาพร้อมแล้ว เราขอแช๊ะภาพเอาไปลง ig หน่อยย หลังจากนั้นก็ลุยกันเลยงับบบ
ทุกคนอันนี้ทางเราเค้าจะมีบอก Trick การทานด้วยงับ ก็คือให้เรานำหมู หรือเนื้อลงไปลวกหรือแกว่งในหม้อ โดยไม่ต้องจุ่มนานค่ะ แค่เราพลิกไปมา 
ประมานสัก 10 วิก็ได้ค่ะ ในกรณีเนื้อหมูเมื่อเห็นว่าสุกแล้วนำขึ้นเลยงับ แต่ถ้าเป็นเนื้อวัวถ้าใครชอบแบบไม่สุกมาก ก็ลวกนิดหน่อยแล้วเอาขึ้น จิ้มน้ำจิ้ม 
แล้วใส่ปากได้เลย อันนี้เราทำตามคำแนะนำของทางร้าน จะบอกว่า เนื้อนุ่มแบบละลายในปากจริง ๆ
 
หรือถ้าใครอยากทานแบบรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ ร้านเขาแนะนำว่า เมื่อลวกเนื้อขึ้นมาแบบสุก ๆ ร้อน ๆ ให้นำไปจุ่มกับไข่ดิบ แล้วใส่ปากได้ทันที
อันนี้คือฟินมาก ยิ่งถ้าเป็นเนื้อหนอก แล้วจุ่มไข่นะอร่อยสุด ๆ ซึ่งเราก็ไม่รู้เทคนิคนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย หลังจากนี้เราก็ทำตามหมดเลยทุกชิ้น 5555

มากันที่ของทานเล่นดีกว่า โดยจะเป็นของประเภททอดงับ อันนี้เราสั่งมาอย่างละ 1 ชิ้นค่ะ คือถ้าเป็น เกี๊ยวซ่า นักเก็ต ไก่คาราเกะ หรือหอยเชลล์ทอด 
ร้านเขาสามารถให้ระบุเป็นชิ้นได้งับ แต่ถ้าเป็น เฟรนฟรายด์ จะมาเป็นจานเล็ก ๆ ค่ะ และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ของทอดร้านเค้าไม่ไก่กาเด้อ 
พอของมาถึงโต๊ะไอเราก็รีบจะหยิบเอาเข้าปากเลย ปรากฏว่า ร้านเขาทอดมาร้อน ๆ เลยค่ะ สัมผัสแล้วรู้ได้เลย เราแฮปปี้กับความไม่ทอดค้างไว้สุด
ได้กินแบบร้อน ๆ เลยง่า

ใกล้หมดเวลาแย้วว เรามาตบท้ายกันด้วยของหวานเลยจ้า ไอศกรีมมีให้เลือกหลายรสชาติมากเลย เราสามารถเดินไปเลือกที่ตู้ หรือสั่งจากโต๊ะก็ได้งับ 
เมื่อเราเลือกเสร็จพนักงงานก็จะไปตักมาเสิร์ฟให้ค่ะ (ตักให้ลูกใหญ่มาก แอบทานไม่หมด)

ช่วงเวลาแห่งความสุขมักหมดไปไวจริง ๆ แงหมดเวลาแล้ว เราคงต้องไป ถึงเวลาเช็คบิลแล้วค่ะ อันนี้เรามากัน 2 คน
หัวละ 349 บาท รวมแล้วก็จ่ายทั้งหมด 698 บาทงับ เราจะเลือกจ่ายเป็นเงินสด หรือใครสะดวกโอน ก็มีแบบโอนให้ค่ะ

จบไปแล้วสำหรับรีวิวร้านพุงกางชาบู เราหวังว่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสายชาบูนะงับ ถ้าเพื่อน ๆ สนใจที่จะไปทานเราแนะนำอย่าลืมโทรจองล่วงหน้าก่อนสัก 3 - 4 วันน้าได้ทานอย่างแน่นอน รับรองว่า “อิ่ม ครบ จบที่พุงกาง” 55555555 หรือถ้าเพื่อน ๆ มีร้านชาบูไหนเด็ด ๆ สามารถแบ่งปันและแนะนำเรามาได้เลยน้า ถ้ามีโอกาสเราจะไปลองงับ สำหรับวันนี้เราก็ขอลาไปก่อน เลิกกอง อั้ว!

ขอบคุณสำหรับการรับชมนะคะ