ภาคท่องเที่ยวมึน! สทท.แนะรัฐบาลเจรจาและให้เกียรติเด็ก ชี้หากปล่อยไว้แบบนี้ยาวไปธุรกิจตายหมด
https://www.khaosod.co.th/economics/news_5144508
 
ภาคท่องเที่ยวมึนม็อบไม่มีแกนนำ กระทบหนักต่อความเชื่อมั่นต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว สทท.แนะรัฐบาลเจรจาและให้เกียรติเด็ก ชี้หากปล่อยไว้แบบนี้ยาวไปธุรกิจตายหมด
 
สทท.แนะรัฐบาลเจรจาม็อบ - นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มคณะราษฎร63 ที่มีการจัดชุมนุมเป็นดาวกระจาย ถือเป็นความไม่ปกติที่เกิดขึ้นในเมืองไทย ม็อบไม่มีแกนนำ กระทบหนักต่อความเชื่อมั่นต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่ขณะนี้ทั้งภาครัฐและเอกชน กำลังผลักดันมาตรการออกมา กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อช่วยเหลือภาคท่องเที่ยวได้มีรายได้ ชะลอการจ้างงาน เมื่อมีม็อบคณะราษฎร63 ความเชื่อมั่นในการท่องเที่ยว การใช้จ่ายไม่เหลือแล้ว
 
“มาถึงวันนี้รัฐบาลต้องเจรจา กับกลุ่มคณะราษฎร63 จะเจรจาแบบทางลับ หรือเจรจาอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าเด็กมีเหตุผล เพียงแค่รัฐบาลต้องให้เกียรติเด็กๆ บ้าง หากปล่อยไว้แบบนี้ยาวไปธุรกิจตายหมด รัฐบาลต้องหาทางเจรจา เพราะสิ่งที่ทำมาทั้งหมดที่พยายามจะนำต่างชาติเข้ามาเพื่อฟื้นฟูประเทศ ฟื้นฟูการท่องเที่ยว มาถึงวันนี้ไร้ประโยชน์ ถ้าไม่คุยก็ไม่จบ”
 

---

 
สมคิด ชี้ รัฐบาลไม่เข้าใจม็อบ ยิ่งไล่ปิดสื่อ-ช่องทางสื่อสาร ไม่มีทางแก้ปัญหาได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_2403450
 
“สมคิด” เตือนรบ. ไม่มีใครที่จะมาแย่งอำนาจ แต่ไม่ฟังประชาชนอาจจะถูกแย่งอำนาจได้ ยัน การเจรจาเป็นทางออกดีที่สุด
 
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 19 ตุลาคม ที่แยกเกษตร นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) รองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่มีการประกาศของสำนักคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในการควบคุมสื่อทั้งโทรทัศน์และออนไลน์ที่เข้ามารายงานข่าวในพื้นที่ชุมนุม ว่า “คุณไม่สามารถพลิกแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือได้มันไม่มีทางเป็นไปได้” และต่อให้คุณปิดทีวีหนังสือพิมพ์หรืออื่นๆ ม็อบไม่มีเบื้องหลังมีแต่เบื้องหน้า คือดูแต่โทรศัพท์และตนก็ย้ำเรื่องนี้หลายครั้งแล้วม็อบไม่ได้สนใจข่าวโทรทัศน์ ม็อบสนใจกลุ่มของเขาแม้กระทั่งการย้ายไปใช้โทโรแกรม ก็มีคนกว่าสองแสนที่เข้าใช้ซึ่งมันชัดเจน
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ที่มาสังเกตการณ์ชุมนุมที่แยกเกษตรในวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายสมคิดกล่าวว่า บรรยากาศเหมือนกับการชุมนุมที่อื่นสงบเรียบร้อยดี ถือเป็นการแสดงออกของนิสิตนักศึกษาและลูกหลานของเรา ซึ่งมีสิทธิที่จะแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย แต่จากการที่ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ในหลายๆกลุ่มก็ชัดเจนในข้อเรียกร้องคือ 
1. ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก 
2. ให้ปล่อยตัวเพื่อนเรา 
พรรคฝ่ายค้านพร้อมที่จะช่วยเจรจาไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนเพราะเชื่อว่าไม่มีอะไรดีเท่าคุยกันและยิ่งท่านปิด 1 มันไป 2 ปิด 2 ไป 10 เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องฟังเสียงข้อเรียกร้องและมาคุยกัน

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าในกรณีที่จะมีการเปิดรัฐสภาวิสามัญ นายสมคิดกล่าวว่า พรุ่งนี้รัฐบาลจะนำเข้าการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)แต่จริงๆรัฐบาลไม่ต้องรอฝ่ายค้านเพราะเสียงของรัฐบาลนั้นเกินอยู่แล้วสามารถทำได้เลย พรรคเพื่อไทย(พท.)พร้อมที่จะช่วยเพราะเซ็นชื่อไว้แล้วแต่ทางพรรคพท.ข้อ2ข้อ เหมือนที่ทางนิสิตนักศึกษาเรียกร้องเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นแล้วเราจะได้มาคุยกันได้ ไม่มีใครที่จะมาแย่งอำนาจท่าน แต่อำนาจท่านจะถูกแย่งจากประชาชน ถ้าท่านไม่ฟังประชาชน ผู้สื่อข่าวถามว่าการเปิดประชุมรัฐสภาวิสามัญครั้งนี้เป็นทางออกในการแก้ไขบ้านเมืองหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่ามันเป็นเพียงช่องทางหนึ่งแม้จะช้าไปหน่อยแต่เราก็ต้องลองทำดู