พอดีผมได้ทำสัญญาเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือลูกหนี้ในช่วงโควิดกับทางกสิกรไทยลิสซิ่ง ซึ่งจะมีหนังสือให้ทางลูกหนี้ที่ต้องการเข้าร่วมเซนต์รับทราบ
และหนังสือรอบแรกไม่มีบอกรายละเอียดอะไรมากแต่มาตราการช่วยเหลือจะเหมือนกันกับที่หลายๆธนาคารคือ
พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3เดือน ซึ่งปกติเงื่อนไขนี้คิดว่าลูกหนี้คงเข้าใจ
แต่ประเด็นอยู่ที่มาตราการขยายเวลาช่วยเหลือรอบสองซึ่งสถาณการณ์โควิดก็ยังไม่ดีขึ้น และทุกคนยังคงได้รับความเดือดร้อนและคิดว่าทางกสิกรลิสซิ่งจะขยายเวลาช่วยเหลือตามเงื่อนไขเดิมคือ
พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาที่ขยายเพิ่มเติมไปอีก 3เดือน รวมเป็น 6เดือน แต่เปล่าครับ รอบนี้กสิกรไทยลิสซิ่งใช้เล่ห์เหลี่ยมทางตัวหนังสือเกี่ยวกับมาตราการช่วยเหลือช่วงโควิดในรอบสอง คือยังคงยึดข้อความเดิมคือ
พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย แต่แอบเพิ่มเงื่อนไขว่าต้องมาจ่ายดอกเบี้ยในงวดสุดท้าย ซึ่งคิดว่าหลายคนคง งง กับข้อความตรงนี้ เพราะคิดว่าการขยายเวลาช่วยรอบนี้คือคิดว่าตามเงื่อนไขเดิม และชั่วโมงนั้นนาทีนั้นคิดว่าหลายท่านคงไม่ได้ไสใจข้อความตรงนี้มากเพราะรายได้ค่าใช้จ่ายทุกคนเป็นยังงัยในช่วงโควิด ทุกคนรู้ดี มีหนทางไหนที่พอจะผ่อนปรนช่วยได้ก็เลือกทำก่อน คนคิดเงื่อนไขกสิกรลิสซิ่งฉลาดใช้ข้อความที่ทำให้คนงงมาก ซึ่งผมเองและน้องที่ทำงานอีกหลายท่านก็โดนเช่นเดียวกันคือล่าสุดมีหนังสือสัญญาจากทางกสิกรไทยลิสซิ่งส่งมาที่บ้าน ระบุสัญญาใหม่มาว่าให้ไปชำระค่างวดนัดสุดท้ายพร้อมดอกเบี้ย เห็นค่าดอกเบี้ยแล้วตกใจมากครับ ปกติจ่ายค่างวดเดือนละ 15,865บาท แต่เดือนสุดท้ายของค่างวดผมต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยช่วงโควิดเพิ่มอีกเป็นเงิน 11,663 บาท
ฝากถามถึงรัฐบาลผู้ดูแลงานด้านนี้และผู้บริหารกสิกรไทย อะไรคือคำว่ามาตราการช่วยเหลือลูกหนี้ช่วงโควิดที่แท้จริง คำว่าพัก
ชำระเงินต้นและดอกเบี้ย แต่แอบเพิ่มเงื่อนไขว่าต้องมาจ่ายดอกเบี้ยในงวดสุดท้าย มันคือการแอบตีกินเงินดอกเบี้ยกับลูกหนี้หรือเปล่าครับ ถ้าผมรู้ว่าผมต้องจ่ายดอกเบี้ยผมคงเลือกที่จะส่งค่างวดตามเดิมดีกว่า ทุเรศมากครับ เห็นแก่ได้จนไม่นึกถึงความเดือดร้อนของประชาชนบ้าง
ปล. สอบถามน้องที่บริษัทที่เลือกทำสินเชื่อกับธนาคารอื่นบอกว่า "ธนาคารที่หนูทำขยายเวลาจาก 3เดือน เป็น 6เดือน โดย
พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย และ
ไม่มีดอกเบี้ยแอบตีกินแบบกสิกรไทย" แบบนี้คืออะไรครับผู้บริหารกสิกรไทย ถ้าเข้ามาอ่าน ช่วยอธิบายหน่อยครับ
กสิกรไทยลิสซิ่งใช้เล่ห์เหลี่ยมทางตัวหนังสือเกี่ยวกับมาตราการช่วยเหลือช่วงโควิด
และหนังสือรอบแรกไม่มีบอกรายละเอียดอะไรมากแต่มาตราการช่วยเหลือจะเหมือนกันกับที่หลายๆธนาคารคือพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3เดือน ซึ่งปกติเงื่อนไขนี้คิดว่าลูกหนี้คงเข้าใจ
แต่ประเด็นอยู่ที่มาตราการขยายเวลาช่วยเหลือรอบสองซึ่งสถาณการณ์โควิดก็ยังไม่ดีขึ้น และทุกคนยังคงได้รับความเดือดร้อนและคิดว่าทางกสิกรลิสซิ่งจะขยายเวลาช่วยเหลือตามเงื่อนไขเดิมคือพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาที่ขยายเพิ่มเติมไปอีก 3เดือน รวมเป็น 6เดือน แต่เปล่าครับ รอบนี้กสิกรไทยลิสซิ่งใช้เล่ห์เหลี่ยมทางตัวหนังสือเกี่ยวกับมาตราการช่วยเหลือช่วงโควิดในรอบสอง คือยังคงยึดข้อความเดิมคือพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย แต่แอบเพิ่มเงื่อนไขว่าต้องมาจ่ายดอกเบี้ยในงวดสุดท้าย ซึ่งคิดว่าหลายคนคง งง กับข้อความตรงนี้ เพราะคิดว่าการขยายเวลาช่วยรอบนี้คือคิดว่าตามเงื่อนไขเดิม และชั่วโมงนั้นนาทีนั้นคิดว่าหลายท่านคงไม่ได้ไสใจข้อความตรงนี้มากเพราะรายได้ค่าใช้จ่ายทุกคนเป็นยังงัยในช่วงโควิด ทุกคนรู้ดี มีหนทางไหนที่พอจะผ่อนปรนช่วยได้ก็เลือกทำก่อน คนคิดเงื่อนไขกสิกรลิสซิ่งฉลาดใช้ข้อความที่ทำให้คนงงมาก ซึ่งผมเองและน้องที่ทำงานอีกหลายท่านก็โดนเช่นเดียวกันคือล่าสุดมีหนังสือสัญญาจากทางกสิกรไทยลิสซิ่งส่งมาที่บ้าน ระบุสัญญาใหม่มาว่าให้ไปชำระค่างวดนัดสุดท้ายพร้อมดอกเบี้ย เห็นค่าดอกเบี้ยแล้วตกใจมากครับ ปกติจ่ายค่างวดเดือนละ 15,865บาท แต่เดือนสุดท้ายของค่างวดผมต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยช่วงโควิดเพิ่มอีกเป็นเงิน 11,663 บาท
ฝากถามถึงรัฐบาลผู้ดูแลงานด้านนี้และผู้บริหารกสิกรไทย อะไรคือคำว่ามาตราการช่วยเหลือลูกหนี้ช่วงโควิดที่แท้จริง คำว่าพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย แต่แอบเพิ่มเงื่อนไขว่าต้องมาจ่ายดอกเบี้ยในงวดสุดท้าย มันคือการแอบตีกินเงินดอกเบี้ยกับลูกหนี้หรือเปล่าครับ ถ้าผมรู้ว่าผมต้องจ่ายดอกเบี้ยผมคงเลือกที่จะส่งค่างวดตามเดิมดีกว่า ทุเรศมากครับ เห็นแก่ได้จนไม่นึกถึงความเดือดร้อนของประชาชนบ้าง
ปล. สอบถามน้องที่บริษัทที่เลือกทำสินเชื่อกับธนาคารอื่นบอกว่า "ธนาคารที่หนูทำขยายเวลาจาก 3เดือน เป็น 6เดือน โดยพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย และไม่มีดอกเบี้ยแอบตีกินแบบกสิกรไทย" แบบนี้คืออะไรครับผู้บริหารกสิกรไทย ถ้าเข้ามาอ่าน ช่วยอธิบายหน่อยครับ