หมายเหตุ ตอนนี้ก็อาจเต็มไปด้วยความรุนแรง แต่ถ้าท่านอ่านจนจบตอน ท่านก็จะทราบถึงสารที่ผมต้องการจะสื่อ และอาจย้อนไปทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่รุนแรงในตอนก่อนๆ อีกครั้ง
ตอนนั้นช่วง ม.4 ปี 2529 ผมอายุ 15 ปี ผมมองย้อนกลับไปในช่วง ป.6-ม.3 แน่นอนว่าการถูกพวกครูเกริกทารุณกรรมยังอยู่ในใจผม มันเพิ่งผ่านมาใหม่ๆ แต่ความรู้สึกในแต่ละครั้ง มันก็ต่างกันมากๆเลย ผมไม่แน่ใจว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น คืนโหดนรกแตก ภาค 1 ผมรู้สึกหลากหลายมาก มันทั้งกลัว ทั้งสยอง แต่ก็รู้สึกดีที่ได้ทำอะไรคล้ายๆฝึกทหาร ผมเองอยากทำอะไรแบบนี้มาบ้าง แต่ความเครียดก็ขึ้นสูงอยู่ ย้อนกลับไปในยุคที่ป้าอินมีอิทธิพล ผมเองรู้สึกแย่มากที่ถูกลดทอนความเป็นชายและถูกขยายบริบทของความเป็นหญิงมาสู่ตัวผม ผมรู้สึกสับสนงุนงง แต่ไม่โกรธแค้น ผมเข้าใจเหตุผลดีอยู่ ผู้หญิงต้องแค้นอยู่แล้วที่ถูกสามีทิ้งๆขว้างๆ และในบริบทนั้น ก็คงไม่อยากให้หลานตัวเองเป็นผู้ชายชั่วๆ เรื่องนี้เราเข้าใจกันดีอยู่ ทำให้คืนโหดนรกแตก ภาค 1 ไม่ค่อยแย่มากนักทั้งในความคิดและความรู้สึกของผม แต่ตอนนั้น ความรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงดันเกิดขึ้นมาพร้อมๆกับความรู้สึกว่าเราแมนขึ้น กลายเป็นลูกผู้ชายมากขึ้น ตอนนี้ทั้งสองความรู้สึกมันน่าจะแข่งกันอย่างดุเดือด ผมคิดว่าเป็นประมาณนี้นะ ไม่เคยแน่ใจว่าตัวเองคิดถูกไหม
คืนโหดนรกแตกภาคสอง เป็นที่รวมของความเหี้ยมโหดอำมหิต ตอนนั้นน่าจะอยู่ประมาณ ม.2 อายุประมาณ 13 ปี จิตใจน่าจะแหลกสลาย หวาดกลัว ลนลาน ตื่นกลัวและเจ็บปวดทรมานมาก ตั้งแต่เกิดมาน่าจะเป็นช่วงนั้นที่รู้สึกเจ็บปวดทรมานมากที่สุด ความรู้สึกตัวว่าเป็นผู้หญิงถูกหลีกหลบ แต่ไม่ได้หายไปไหน แต่ความรู้สึกตัวว่าเป็นผู้ชาย ถึงแม้ว่าจะโดนทารุณกรรมอย่างโหดเหี้ยม แต่จะมีเศษเสี้ยวส่วนลึกที่ตัวเองรู้สึกว่าตัวเราเองเป็นลูกผู้ชายดี ผ่านความโหดร้ายมาได้ ผ่านความเหี้ยมโหดอำมหิตมาได้ ไม่ถึงกับภาคภูมิใจหรอก แต่มันคล้ายๆกับว่า “เพราะกูเป็นลูกผู้ชาย กูก็เลยยังรอด” แต่บางครั้งจะมีความสับสน หวาดกลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกิดกลัวผู้ชายขึ้นมา ในหัวใจคล้ายๆเกิดพื้นที่ทับซ้อนมากมาย และกลายเป็นพื้นที่ๆมันยังคงอยู่ ไม่ได้ถูกขุดลากถอนโคนจนหายสาปสูญไปไหน กลายเป็นว่าทุกอณูแห่งความรู้สึก มันยังคงอยู่ มันจะอยู่ตลอดไปไหม อันนี้ยังไม่รู้เหมือนกัน
ถึงแม้ขบวนการคืนโหดนรกแตก ภาคสามก็จะดูเหี้ยมโหดไปอีกทางด้วยความเข้าใจผิดของผู้มาทารุณกรรมผม แต่ถึงกระนั้น ในใจกลับฮึกเหิม ถึงโหดร้ายแต่ก็รู้สึกห้าวหาญ ห้าวหาญจนถึงขั้นที่ว่าถ้าบ่ายวันนั้นมันโหดเหี้ยมถึงขั้นโดนตัดองคชาติ แต่ความรู้สึกห้าวหาญแบบลูกผู้ชายก็ยังคงอยู่ มันเลยกลายเป็นว่าความรู้สึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ถึงกับแย่เสมอไปเพราะบางส่วนมันก็คือการพิสูจน์ถึงการเป็นลูกผู้ชายและพิสูจน์ไปในตัวว่าภายภาคหน้าจะอยู่รอดได้ไหม พอมาเจอครูฝึกโหด ความรู้สึกแบบนี้มันก็ยังอยู่นะ เพียงแต่การเน้นแต่ทรมานหัวนม มันออกจะวิกลจริตมากเกินไปหน่อย ถ้าจะรู้สึกว่าผมก็วิกลจริตไปด้วยเพราะยอมทำตามแต่โดยดี แต่อย่าลืมว่าในปี 2529 มันหนียากมากเลยนะ มันต่อต้านยากมาก ใครจะกล้าขัดคำสั่งครูฝึกโหด ใครจะกล้าขัดขืนเขา
เวลาผ่านไปสักพัก ผมรู้สึกว่าคืนวันอันโหดร้ายของครูฝึกโหดไม่น่าโคจรกลับมาอีก แต่ดันคิดผิดถนัด ตอนไปเรียน รด. ครั้งหนึ่งหลังจากโดนครูฝึกโหดเล่นได้ไม่นาน ขณะเดินเข้าซอยเพื่อตรงไปยังศูนย์ฝึก ผมโดนทหารนายหนึ่งเรียก แกนั่งอยู่ตรงที่นั่งริมทาง ตอนแรกนึกว่าจะโดนเล่นแบบหนักๆอีก แต่มันไม่ถึงขนาดนั้น
“หนุ่ม ขอเสื้อยืดตัวในหน่อยดิ” ทหารบอกแบบนี้ รด.อย่างเราก็ต้องสละให้ครับ ผมถอดเสื้อตัวนอกออกแล้วถอดเสื้อยืดตัวในที่เป็นสีเขียวๆแบบทหารยื่นให้แก ตอนแรกนึกว่าโดนหยอก แต่แกดันเอาเสื้อยืดผมไปเลย ตอนแรกคิดว่าคงไม่เป็นไรหรอก คงไม่มีใครหาเรื่องลงโทษเราเพราะเรื่องแค่นี้ แต่พอมาเห็นครูฝึกโหดมาคุมกองร้อยผมบ่ายวันนี้ โห นรกถามหาอีกแล้ว แล้วมันก็เกิดเหตุแบบที่ผมคิดไม่มีผิด ครูฝึกโหดเลือกเล่นงาน รด.ที่ใส่เสื้อยืดข้างในผิดสีก่อน พวกนั้นโดนลงโทษเบามาก โดนวิดพื้นแค่ 5 ทีเอง แล้วไม่บังคับให้ถอดเสื้อด้วย หลังจากนั้นก็หันมาเล่นงานผม
“วันนี้ใครที่ไม่ได้ใส่เสื้อยืดข้างในมาเลย ให้ออกมายืนหน้ากองร้อย”
ผมเสียววาบเมื่อมีผมคนเดียว แสดงว่านายทหารที่เอาเสื้อผมไปก็คือพวกเดียวกับครูฝึกโหดอย่างไม่ต้องสงสัย จริงๆแล้วมันไม่มีหรอกครับ รด.ที่ไม่ใส่เสื้อยืดข้างใน ไม่มีใครกล้าทำอย่างนั้นหรอกไม่ว่าจะยุคใดสมัยใด แต่เมื่อผมโดนกระทำเยี่ยงนี้ เหมือนกำลังสร้างภาพให้ผมกลายเป็น รด.ที่ไม่เอาไหน ไร้คุณภาพ แล้วสิ่งที่ครูฝึกโหดกระทำต่อจากนั้นก็คือ
“เลวมาก กล้าไม่สวมเสื้อยืดข้างในมาเรียน จะมีใครเลวกว่านี้อีกไหม”
ได้ยินประโยคพวกนี้แล้ว มันเสียววาบเหมือนกัน มันมีทั้งความกลัว ความวิตกกังวล แต่ก็มีความฮึกเหิมแบบลูกผู้ชายด้วย
“เมื่อมีงไม่อยากสวมเสื้อยืดข้างใน มีงก็ไม่ต้องสวมเสื้อเลย ถอดเสื้อออกเดี๋ยวนี้”
เสียงของเขาเด็ดขาดมาก มาวันนี้เพื่อมาเล่นงานผมโดยเฉพาะ
และแล้วสิ่งที่ผมคิดไว้ในใจลึกๆมันก็กลายเป็นความจริงขึ้นมา
“วันนี้มีงต้องถอดเสื้อฝึกตลอดบ่าย ห้ามใส่เสื้อเด็ดขาด”
ความโหดเหี้ยมอำมหิตกำลังจะออกมาจากปากของมัน
“แต่มีงต้องมีป้ายชื่อติดหน้าอกตลอดการฝึก”
ผมว่าแล้วว่ามันจะต้องลงเอยแบบนี้ ไอ้นี่มันครูฝึกโหดเจ้าของฉายา “ชอบทรมานหัวนมผู้ชาย” ผมได้ตั้งฉายาให้มันแล้ว
“ครูฝึกช่วยเปลี่ยนจากป้ายชื่อแบบกลัดเป็นป้ายชื่อแบบหนีบให้เขาด้วย”
รด.ทุกคนจะมีป้ายชื่อติดหน้าอก ติดโดยกลัดที่กระดุมเสื้อ พอครูฝึกอีกคนทำการเปลี่ยนป้ายชื่อให้ผมจากแบบกลัดเป็นแบบหนีบเรียบร้อยแล้ว ครูฝึกที่ไม่โหดกำลังจะหาที่หนีบให้ เขากำลังเล็งว่าจะหนีบตรงขอบกางเกงหรือตรงกระเป๋ากางเกงดี แต่เสียงอันโหดเหี้ยมอำมหิตของครูฝึกโหดกล่าวขึ้นว่า “หนีบที่หัวนมมันเลย” ครูฝึกที่ไม่โหดตกใจมากเหมือนกันนะ มีเสียงเซ็งแซ่ดังมาจากในกองร้อย มีเสียงพูดเบาๆว่า “โคตรซาดิสม์เลย”
แววตาของครูฝึกไม่โหดดูเห็นใจผมมากเพราะป้ายชื่อแบบหนีบอันนี้มันเป็นแบบมีรอยหยัก พอเอามาหนีบหัวนมผม มันจึงเจ็บกว่าคลิปหนีบกระดาษสีดำเป็นเท่าตัว ตอนแรกก็คิดว่ายังโอเคอยู่เพราะโดนหนีบแค่ข้างเดียว แต่ความเหี้ยมโหดอำมหิตมันไม่หยุดอยู่แค่นั้น
“ครูช่วยเอาป้ายเปล่าๆหนีบหัวนมอีกข้างของมันด้วย จะได้เจ็บแบบสมดุลย์หน่อย”
เมื่อโดนหนีบอีกข้างนี่ นรกถามหาจริงๆเลยครับ แล้วต้องฝึกในสภาพนั้นจริงๆ ครูฝึกโหดไม่ได้ล้อเล่น นี่แหละคือจอมมารทรมานหัวนมโดยแท้
พอฝึกเสร็จ ผมยังต้องไปรายงานตัวในห้องทำงานของเขาต่ออีก ดูท่าจะไม่สั่งให้เอาป้ายหนีบออกจากหัวนมผมง่ายๆ เขาสั่งให้ผมยืนตรงต่อหน้าเขา และแล้วเขาก็เอาป้ายหนีบออก คาดว่าหลังจากถูกหนีบสักระยะ หัวนมผมเองจะเริ่มชา บางช่วงบางตอน จึงไม่ค่อยเจ็บมากเท่าไหร่ แต่ตอนดึงออกนี่สิครับ เจ็บหนักมาก มันเจ็บแบบสุดๆเลย แกคงรู้ดี เลยอยากทำแบบนี้ พอเอาป้ายหนีบออกแล้ว ผมคิดว่าจะเสร็จสิ้นกันที แต่ไม่ครับ มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แกเดินไปหยิบฟุตเหล็กมา แล้วเอามาฟาดที่หัวนมผมต่อ เน้นตีที่หัวนมอย่างแรงมาก คงกะเอาให้ช้ำ เอาให้ระบม เอาให้บวมไปเลย การตีบางครั้ง แกใช้สันของฟุตเหล็กด้วย ทำให้มันเจ็บแบบกระอัก ถึงขนาดนั้นแล้ว มันก็ยังไม่สะใจแก แกเอาสำลีชุบแอลกอฮอร์แล้วเอามาทาที่หัวนมทั้งสองข้างของผม
หลังจากนั้นแกเดินไปหยิบเข็มกลัดมา 1 อัน “ขอเห็นเลือดหัวนมของมีงหน่อยนะ” แกใช้นิ้วบีบหัวนมผมข้างนึง แล้วใช้เข็มกลัดมาแทง แกอยากให้มันทะลุหัวนมอีกฝั่งหนึ่งแล้วกลัด ผมมารู้ภายหลังว่าจินตนาการของแกในวันนั้น แกอยากเอาเข็มกลัดมากลัดหัวนมผมทั้งสองข้าง ข้างละประมาณสามอัน แล้วเอาแฟ้มแข็งหรือคลิปบอร์ดไม้ก็ได้ มาฟาดตรงจุดนั้น แกอยากเห็นเลือดสดๆไหลจากหัวนมของผมทั้งสองข้าง นี่คือจินตนาการของแก แต่ในความเป็นจริงนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย แกบีบหัวนมผมแบบหนาไป พอเอาเข็มกลัดไปแทง มันยากมากที่จะแทงจนทะลุไปอีกด้านได้ แกคงจะรู้แล้วว่ามันคงจะไม่ง่ายอย่างที่คิด แกจึงเปลี่ยนมาทำอีกข้างหนึ่ง แต่ปัญหาเดิมก็ยังคงมีอยู่ ตอนที่แกพยายามจะเอาเข็มกลัดมากลัดหัวนมผมให้ได้ ผมเองยังอยู่ในท่าตรง ไม่ได้ต่อต้านอะไร แกพยายามทำจนเหนื่อย สุดท้ายก็ไม่เป็นผล แล้วแกก็ชวนผมไปนั่งที่โซฟา
“มีงทนทายาทดี กูชอบ” แกพูดขณะเอาแอลกอฮอร์มาเช็ดที่หัวนมผมอีกรอบ
“พูดกูมีงกับกูก็ได้นะ ถือว่าเรากันเอง” เขาจึงกลายเป็นผู้ชายคนแรกในชีวิตที่ผมพูดกูมีงด้วย
เมื่อ "ลูกผู้ชาย" อย่างผมถูกกระทำให้เป็น "ลูกสาว" : ประสบการณ์ชีวิตและความรักตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบัน ตอนที่ 8
ตอนนั้นช่วง ม.4 ปี 2529 ผมอายุ 15 ปี ผมมองย้อนกลับไปในช่วง ป.6-ม.3 แน่นอนว่าการถูกพวกครูเกริกทารุณกรรมยังอยู่ในใจผม มันเพิ่งผ่านมาใหม่ๆ แต่ความรู้สึกในแต่ละครั้ง มันก็ต่างกันมากๆเลย ผมไม่แน่ใจว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น คืนโหดนรกแตก ภาค 1 ผมรู้สึกหลากหลายมาก มันทั้งกลัว ทั้งสยอง แต่ก็รู้สึกดีที่ได้ทำอะไรคล้ายๆฝึกทหาร ผมเองอยากทำอะไรแบบนี้มาบ้าง แต่ความเครียดก็ขึ้นสูงอยู่ ย้อนกลับไปในยุคที่ป้าอินมีอิทธิพล ผมเองรู้สึกแย่มากที่ถูกลดทอนความเป็นชายและถูกขยายบริบทของความเป็นหญิงมาสู่ตัวผม ผมรู้สึกสับสนงุนงง แต่ไม่โกรธแค้น ผมเข้าใจเหตุผลดีอยู่ ผู้หญิงต้องแค้นอยู่แล้วที่ถูกสามีทิ้งๆขว้างๆ และในบริบทนั้น ก็คงไม่อยากให้หลานตัวเองเป็นผู้ชายชั่วๆ เรื่องนี้เราเข้าใจกันดีอยู่ ทำให้คืนโหดนรกแตก ภาค 1 ไม่ค่อยแย่มากนักทั้งในความคิดและความรู้สึกของผม แต่ตอนนั้น ความรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงดันเกิดขึ้นมาพร้อมๆกับความรู้สึกว่าเราแมนขึ้น กลายเป็นลูกผู้ชายมากขึ้น ตอนนี้ทั้งสองความรู้สึกมันน่าจะแข่งกันอย่างดุเดือด ผมคิดว่าเป็นประมาณนี้นะ ไม่เคยแน่ใจว่าตัวเองคิดถูกไหม
คืนโหดนรกแตกภาคสอง เป็นที่รวมของความเหี้ยมโหดอำมหิต ตอนนั้นน่าจะอยู่ประมาณ ม.2 อายุประมาณ 13 ปี จิตใจน่าจะแหลกสลาย หวาดกลัว ลนลาน ตื่นกลัวและเจ็บปวดทรมานมาก ตั้งแต่เกิดมาน่าจะเป็นช่วงนั้นที่รู้สึกเจ็บปวดทรมานมากที่สุด ความรู้สึกตัวว่าเป็นผู้หญิงถูกหลีกหลบ แต่ไม่ได้หายไปไหน แต่ความรู้สึกตัวว่าเป็นผู้ชาย ถึงแม้ว่าจะโดนทารุณกรรมอย่างโหดเหี้ยม แต่จะมีเศษเสี้ยวส่วนลึกที่ตัวเองรู้สึกว่าตัวเราเองเป็นลูกผู้ชายดี ผ่านความโหดร้ายมาได้ ผ่านความเหี้ยมโหดอำมหิตมาได้ ไม่ถึงกับภาคภูมิใจหรอก แต่มันคล้ายๆกับว่า “เพราะกูเป็นลูกผู้ชาย กูก็เลยยังรอด” แต่บางครั้งจะมีความสับสน หวาดกลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกิดกลัวผู้ชายขึ้นมา ในหัวใจคล้ายๆเกิดพื้นที่ทับซ้อนมากมาย และกลายเป็นพื้นที่ๆมันยังคงอยู่ ไม่ได้ถูกขุดลากถอนโคนจนหายสาปสูญไปไหน กลายเป็นว่าทุกอณูแห่งความรู้สึก มันยังคงอยู่ มันจะอยู่ตลอดไปไหม อันนี้ยังไม่รู้เหมือนกัน
ถึงแม้ขบวนการคืนโหดนรกแตก ภาคสามก็จะดูเหี้ยมโหดไปอีกทางด้วยความเข้าใจผิดของผู้มาทารุณกรรมผม แต่ถึงกระนั้น ในใจกลับฮึกเหิม ถึงโหดร้ายแต่ก็รู้สึกห้าวหาญ ห้าวหาญจนถึงขั้นที่ว่าถ้าบ่ายวันนั้นมันโหดเหี้ยมถึงขั้นโดนตัดองคชาติ แต่ความรู้สึกห้าวหาญแบบลูกผู้ชายก็ยังคงอยู่ มันเลยกลายเป็นว่าความรู้สึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ถึงกับแย่เสมอไปเพราะบางส่วนมันก็คือการพิสูจน์ถึงการเป็นลูกผู้ชายและพิสูจน์ไปในตัวว่าภายภาคหน้าจะอยู่รอดได้ไหม พอมาเจอครูฝึกโหด ความรู้สึกแบบนี้มันก็ยังอยู่นะ เพียงแต่การเน้นแต่ทรมานหัวนม มันออกจะวิกลจริตมากเกินไปหน่อย ถ้าจะรู้สึกว่าผมก็วิกลจริตไปด้วยเพราะยอมทำตามแต่โดยดี แต่อย่าลืมว่าในปี 2529 มันหนียากมากเลยนะ มันต่อต้านยากมาก ใครจะกล้าขัดคำสั่งครูฝึกโหด ใครจะกล้าขัดขืนเขา
เวลาผ่านไปสักพัก ผมรู้สึกว่าคืนวันอันโหดร้ายของครูฝึกโหดไม่น่าโคจรกลับมาอีก แต่ดันคิดผิดถนัด ตอนไปเรียน รด. ครั้งหนึ่งหลังจากโดนครูฝึกโหดเล่นได้ไม่นาน ขณะเดินเข้าซอยเพื่อตรงไปยังศูนย์ฝึก ผมโดนทหารนายหนึ่งเรียก แกนั่งอยู่ตรงที่นั่งริมทาง ตอนแรกนึกว่าจะโดนเล่นแบบหนักๆอีก แต่มันไม่ถึงขนาดนั้น
“หนุ่ม ขอเสื้อยืดตัวในหน่อยดิ” ทหารบอกแบบนี้ รด.อย่างเราก็ต้องสละให้ครับ ผมถอดเสื้อตัวนอกออกแล้วถอดเสื้อยืดตัวในที่เป็นสีเขียวๆแบบทหารยื่นให้แก ตอนแรกนึกว่าโดนหยอก แต่แกดันเอาเสื้อยืดผมไปเลย ตอนแรกคิดว่าคงไม่เป็นไรหรอก คงไม่มีใครหาเรื่องลงโทษเราเพราะเรื่องแค่นี้ แต่พอมาเห็นครูฝึกโหดมาคุมกองร้อยผมบ่ายวันนี้ โห นรกถามหาอีกแล้ว แล้วมันก็เกิดเหตุแบบที่ผมคิดไม่มีผิด ครูฝึกโหดเลือกเล่นงาน รด.ที่ใส่เสื้อยืดข้างในผิดสีก่อน พวกนั้นโดนลงโทษเบามาก โดนวิดพื้นแค่ 5 ทีเอง แล้วไม่บังคับให้ถอดเสื้อด้วย หลังจากนั้นก็หันมาเล่นงานผม
“วันนี้ใครที่ไม่ได้ใส่เสื้อยืดข้างในมาเลย ให้ออกมายืนหน้ากองร้อย”
ผมเสียววาบเมื่อมีผมคนเดียว แสดงว่านายทหารที่เอาเสื้อผมไปก็คือพวกเดียวกับครูฝึกโหดอย่างไม่ต้องสงสัย จริงๆแล้วมันไม่มีหรอกครับ รด.ที่ไม่ใส่เสื้อยืดข้างใน ไม่มีใครกล้าทำอย่างนั้นหรอกไม่ว่าจะยุคใดสมัยใด แต่เมื่อผมโดนกระทำเยี่ยงนี้ เหมือนกำลังสร้างภาพให้ผมกลายเป็น รด.ที่ไม่เอาไหน ไร้คุณภาพ แล้วสิ่งที่ครูฝึกโหดกระทำต่อจากนั้นก็คือ
“เลวมาก กล้าไม่สวมเสื้อยืดข้างในมาเรียน จะมีใครเลวกว่านี้อีกไหม”
ได้ยินประโยคพวกนี้แล้ว มันเสียววาบเหมือนกัน มันมีทั้งความกลัว ความวิตกกังวล แต่ก็มีความฮึกเหิมแบบลูกผู้ชายด้วย
“เมื่อมีงไม่อยากสวมเสื้อยืดข้างใน มีงก็ไม่ต้องสวมเสื้อเลย ถอดเสื้อออกเดี๋ยวนี้”
เสียงของเขาเด็ดขาดมาก มาวันนี้เพื่อมาเล่นงานผมโดยเฉพาะ
และแล้วสิ่งที่ผมคิดไว้ในใจลึกๆมันก็กลายเป็นความจริงขึ้นมา
“วันนี้มีงต้องถอดเสื้อฝึกตลอดบ่าย ห้ามใส่เสื้อเด็ดขาด”
ความโหดเหี้ยมอำมหิตกำลังจะออกมาจากปากของมัน
“แต่มีงต้องมีป้ายชื่อติดหน้าอกตลอดการฝึก”
ผมว่าแล้วว่ามันจะต้องลงเอยแบบนี้ ไอ้นี่มันครูฝึกโหดเจ้าของฉายา “ชอบทรมานหัวนมผู้ชาย” ผมได้ตั้งฉายาให้มันแล้ว
“ครูฝึกช่วยเปลี่ยนจากป้ายชื่อแบบกลัดเป็นป้ายชื่อแบบหนีบให้เขาด้วย”
รด.ทุกคนจะมีป้ายชื่อติดหน้าอก ติดโดยกลัดที่กระดุมเสื้อ พอครูฝึกอีกคนทำการเปลี่ยนป้ายชื่อให้ผมจากแบบกลัดเป็นแบบหนีบเรียบร้อยแล้ว ครูฝึกที่ไม่โหดกำลังจะหาที่หนีบให้ เขากำลังเล็งว่าจะหนีบตรงขอบกางเกงหรือตรงกระเป๋ากางเกงดี แต่เสียงอันโหดเหี้ยมอำมหิตของครูฝึกโหดกล่าวขึ้นว่า “หนีบที่หัวนมมันเลย” ครูฝึกที่ไม่โหดตกใจมากเหมือนกันนะ มีเสียงเซ็งแซ่ดังมาจากในกองร้อย มีเสียงพูดเบาๆว่า “โคตรซาดิสม์เลย”
แววตาของครูฝึกไม่โหดดูเห็นใจผมมากเพราะป้ายชื่อแบบหนีบอันนี้มันเป็นแบบมีรอยหยัก พอเอามาหนีบหัวนมผม มันจึงเจ็บกว่าคลิปหนีบกระดาษสีดำเป็นเท่าตัว ตอนแรกก็คิดว่ายังโอเคอยู่เพราะโดนหนีบแค่ข้างเดียว แต่ความเหี้ยมโหดอำมหิตมันไม่หยุดอยู่แค่นั้น
“ครูช่วยเอาป้ายเปล่าๆหนีบหัวนมอีกข้างของมันด้วย จะได้เจ็บแบบสมดุลย์หน่อย”
เมื่อโดนหนีบอีกข้างนี่ นรกถามหาจริงๆเลยครับ แล้วต้องฝึกในสภาพนั้นจริงๆ ครูฝึกโหดไม่ได้ล้อเล่น นี่แหละคือจอมมารทรมานหัวนมโดยแท้
พอฝึกเสร็จ ผมยังต้องไปรายงานตัวในห้องทำงานของเขาต่ออีก ดูท่าจะไม่สั่งให้เอาป้ายหนีบออกจากหัวนมผมง่ายๆ เขาสั่งให้ผมยืนตรงต่อหน้าเขา และแล้วเขาก็เอาป้ายหนีบออก คาดว่าหลังจากถูกหนีบสักระยะ หัวนมผมเองจะเริ่มชา บางช่วงบางตอน จึงไม่ค่อยเจ็บมากเท่าไหร่ แต่ตอนดึงออกนี่สิครับ เจ็บหนักมาก มันเจ็บแบบสุดๆเลย แกคงรู้ดี เลยอยากทำแบบนี้ พอเอาป้ายหนีบออกแล้ว ผมคิดว่าจะเสร็จสิ้นกันที แต่ไม่ครับ มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แกเดินไปหยิบฟุตเหล็กมา แล้วเอามาฟาดที่หัวนมผมต่อ เน้นตีที่หัวนมอย่างแรงมาก คงกะเอาให้ช้ำ เอาให้ระบม เอาให้บวมไปเลย การตีบางครั้ง แกใช้สันของฟุตเหล็กด้วย ทำให้มันเจ็บแบบกระอัก ถึงขนาดนั้นแล้ว มันก็ยังไม่สะใจแก แกเอาสำลีชุบแอลกอฮอร์แล้วเอามาทาที่หัวนมทั้งสองข้างของผม
หลังจากนั้นแกเดินไปหยิบเข็มกลัดมา 1 อัน “ขอเห็นเลือดหัวนมของมีงหน่อยนะ” แกใช้นิ้วบีบหัวนมผมข้างนึง แล้วใช้เข็มกลัดมาแทง แกอยากให้มันทะลุหัวนมอีกฝั่งหนึ่งแล้วกลัด ผมมารู้ภายหลังว่าจินตนาการของแกในวันนั้น แกอยากเอาเข็มกลัดมากลัดหัวนมผมทั้งสองข้าง ข้างละประมาณสามอัน แล้วเอาแฟ้มแข็งหรือคลิปบอร์ดไม้ก็ได้ มาฟาดตรงจุดนั้น แกอยากเห็นเลือดสดๆไหลจากหัวนมของผมทั้งสองข้าง นี่คือจินตนาการของแก แต่ในความเป็นจริงนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย แกบีบหัวนมผมแบบหนาไป พอเอาเข็มกลัดไปแทง มันยากมากที่จะแทงจนทะลุไปอีกด้านได้ แกคงจะรู้แล้วว่ามันคงจะไม่ง่ายอย่างที่คิด แกจึงเปลี่ยนมาทำอีกข้างหนึ่ง แต่ปัญหาเดิมก็ยังคงมีอยู่ ตอนที่แกพยายามจะเอาเข็มกลัดมากลัดหัวนมผมให้ได้ ผมเองยังอยู่ในท่าตรง ไม่ได้ต่อต้านอะไร แกพยายามทำจนเหนื่อย สุดท้ายก็ไม่เป็นผล แล้วแกก็ชวนผมไปนั่งที่โซฟา
“มีงทนทายาทดี กูชอบ” แกพูดขณะเอาแอลกอฮอร์มาเช็ดที่หัวนมผมอีกรอบ
“พูดกูมีงกับกูก็ได้นะ ถือว่าเรากันเอง” เขาจึงกลายเป็นผู้ชายคนแรกในชีวิตที่ผมพูดกูมีงด้วย