กนง. ห่วงบาทแข็งฉุดการฟื้นตัวเศรษฐกิจ
https://www.prachachat.net/finance/news-533189

กนง.ห่วงเงินบาทแข็งฉุดการฟื้นตัวเศรษฐกิจ
 
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (ฉบับย่อ) ครั้งที่ 6/2563 ที่ประชุม เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีกรรมการที่เข้าร่วมประชุมครบทั้ง 7 ราย ประกอบด้วย นายวิรไท สันติประภพ, นายเมธี สุภาพงษ์, นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน, นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ, นายคณิศ แสงสุพรรณ, นายสุภัค ศิวะรักษ์ และ นายสมชัย จิตสุชน
 
ทั้งนี้ คณะกรรมการ กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ต่อปี โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์เอื้อต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมอาจมีประสิทธิผลไม่มากในบริบทปัจจุบัน โดยอาจกระทบต่อการทำหน้าที่ตัวกลางทางการเงินของสถาบันการเงิน เพิ่มความเปราะบางให้กับเสถียรภาพระบบการเงินผ่านการประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร รวมถึงกระทบต่อการออมของประชาชน คณะกรรมการ กนง. จึงเห็นควรให้รักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (policy space) ที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อใช้ในจังหวะที่เหมาะสมและให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด
 
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการ กนง. เห็นควรให้ติดตามสถานการณ์ตลาดการเงินและตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด เพราะเห็นว่าหากเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นเร็ว อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ รวมทั้งให้ประเมินความจำเป็นของการดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติม โดยเฉพาะการเร่งสร้างสมดุลของเงินทุนเคลื่อนย้าย โดยเอื้อให้ภาคเอกชนสามารถทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศได้สะดวกขึ้น และสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้เสรีขึ้น

---

 
"สมชัย" ชี้ มติครม.เคาะเลือกตั้งท้องถิ่น แค่ปาหี่การเมือง ก่อนชุมนุมใหญ่
https://www.matichon.co.th/politics/news_2382677
 
“สมชัย” โพสต์มติ ครม.เคาะเลือกตั้งท้องถิ่น แค่ปาหี่การเมือง ก่อนชุมนุมใหญ่
 
วันที่ 7 ตุลาคม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า 
 
ก็แค่อีกปาหี่ แต่ล้วนมีจุดมุ่งหมาย มติ ครม. เมื่อ 6 ตุลาคม 2563 ให้มีการเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ 76 แห่ง และจะแจ้ง กกต.ให้กำหนดวันเลือกตั้งอีกทีนั้น ดูเป็นปาหี่ ที่เราต้องอ่านให้ออก
 
พรบ.เลือกตั้งท้องถิ่น ประกาศในราชกิจจาฯ ตั้งแต่ 16 เมษายน 2562 หากรัฐบาลมีความจริงใจกับการที่ประชาชนไม่มีโอกาสได้เลือกผู้บริหารท้องถิ่นของเขามานาน 6-10 ปี รัฐบาลควรรีบเร่งในการดำเนินการ ไม่ใช่ปล่อยให้เนิ่นช้าเช่นนี้

การมีมติ ครม. ยังไม่ใช่การกำหนดวันเลือกตั้ง เพราะมาตรา 142 ในบทเฉพาะกาลระบุว่า ครม.ต้องแจ้งให้ กกต.ทราบ โดย กกต.ต้องประกาศวันเลือกตั้ง ส่วนในมาตรา 11 ระบุว่า ต้องเลือกภายใน 60 วัน เนื่องจากเป็นการพ้นตำแหน่งเพราะเหตุอื่นที่ไม่ใช่ครบวาระการครบหกสิบวัน เพราะ “เหตุอื่น” จึงขึ้นอยู่กับการตีความอีกครั้งของ กกต.ว่าจะเริ่มนับหกสิบวันจากวันใด

1) นับวันที่ ครม. มีมติ แปลว่าต้องเลือกตั้งภายใน 5 ธันวาคม 2563
2) นับจากวันที่ มติ ครม. ส่งถึง กกต. วันเลือกตั้งก็ยืดออกไปได้ หาก ครม.ส่งช้า
3) นับจากวันที่ กกต. มีมติ วันเลือกตั้งยิ่งยืดออกไปอีก เพราะเพิ่มขั้นตอน
 
ปาหี่ ของ ครม.คราวนี้ จึงไม่ได้เป็นสัญญาณอะไรชัดเจน ดีไม่ดี กกต.ไม่กล้าตีความเอง ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญอีกว่า กฎหมายมันแปลว่าอะไร (บ้านเมืองนี้ ถ้าจะอยู่กันยาก เพราะพวกเขียนกฏหมายที่ต้องมาตีความ)
 
ที่ต้องรีบเข้า ครม.วันที่ 6 ตุลาคม เพราะไฟลนก้น คนเขาจะไล่กันทั้งบ้านทั้งเมือง เลยรีบประกาศให้รู้ว่าจะเลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว อย่ามัวมาชุมนุมกันเลย พรรคฝ่ายค้านและพรรครอท่าทั้งหลายจะได้มุ่งไปที่การเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่กล้าทุ่มเทกับการชุมนุม เพราะกลัวจะเสียฐานคะแนนหากพลาดขึ้นมา
ปาหี่ โรงนี้ อ่านไม่ยากครับ
 
https://www.facebook.com/Somchai.Srisutthiyakorn/posts/3235479476501433