ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า ตัวผมเองเรียนจบจากมหาวิทยาลัยมาได้ 2 ปีละ (จบปี 2561) เริ่มเข้าสู่ชีวิตของการทำงานมาได้ 2 ปี แต่เชื่อไหมว่า!! 2 ปี ที่ผ่านมานี้ ถือว่าเป็นการทำงานที่ได้เปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น 55 พูดง่ายๆ คือ เปลี่ยนงานปีละที่เลย ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากเปลี่ยน!!
ทำงานปีแรกหลังเรียนจบ เป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอยู่ที่หนึ่ง ช่วงทดลองงาน 3 เดือนแรกก็ผ่านไปด้วยดี แต่สุดท้ายมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานมนุษย์ป้าคนหนึ่งกับหัวหน้าหัว ค. ที่
ก็หูเบา เชื่อแต่ไอ้มนุษย์ป้านี่คนเดียว จนก็ต้องฝืนใจลาออก แต่เอาจริงๆ แล้ว ไอ้ 2 คนนี้มันรวมหัวกันอยากให้ผมออกจากงานมากกว่า เราเขียนใบลาออก ยื่นใบลาออกตามปกติ ความรู้สึกในใจจริงๆ มันไม่ได้อยากออก แต่มันก็ต้องออก เพราะไอ้ 2 ตัวนี้มันไม่อยากให้เราอยู่ต่อไง (มันบีบให้เราออกอ่ะ นึกออกใช่ป่ะ?) สุดท้ายจึงต้องลาออก ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากออก ดีตรงที่ว่าช่วงนั้นยังไม่มีโควิดและมีงานใหม่ที่มีคนรู้จักแนะนำมาพอดี เลยคิดส่ะว่า ออกจากตรงนั้นไป เพื่อไปเจออะไรที่ดีกว่า
ปีที่ 2 (2562) ของการเข้าสู่ชีวิตวัยทำงานกับงานใหม่ สถานที่ใหม่ ถือว่าดีกว่าที่เดิมมาก เพราะเราได้หัวหน้าที่ดี เพื่อนรวมงานที่ดีกว่าเดิมมาก แต่แล้วอีก 1 ปีถัดมา (2563) สิ่งที่เคยได้รับมาต่างๆ ก็ต้องมาจบลงอีกครั้ง เราถูกเลิกจ้างจ้า (เดือน พ.ค.) เพราะมีการเปลี่ยนหัวหน้างานในองค์กร (สาเหตุไม่เกี่ยวกับโควิด) แรกๆ เราเองก็ไม่คิดหรอกว่ามันจะมีผลกระทบกับเราด้วย แต่ไปๆ มาๆ ความซวยมาหาเราเต็มๆ เราเลยต้องออกด้วย กลายเป็นว่าตอนนี้ เราถูกลอยคอทิ้งแน่นอน (สถานะตกงานมาเต็มร้อยเปอร์เลย) ล่ะโชคร้ายกว่านั้นคือโควิด
กำลังระบาดเลย 555 โชค 2 ชั้นจริงๆ คนที่ตกงานเพราะสาเหตุที่มาจากโควิดหรือแม้กระทั้งนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบมาในปีการศึกษานี้แล้วหางานทำไม่ได้ก็เยอะอยู่แล้ว กลายเป็นว่ากูต้องกลายเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้นด้วย
จนตอนนี้ ปี 2563 หลังจากถูกเลิกจ้างไป เราเลยกลายเป็นคนตกงานอย่างสมบูรณ์แบบ บางครั้งก็รู้สึกน้อยใจกับตัวเองนะ เมื่อเรามีงานทำ ทำไมจะต้องมีอุปสรรคที่จะต้องมาบังคับให้เราต้องออกจากงานอยู่เรื่อย!! ปีแรกก็ต้องออกเพราะถูกบีบให้ออกจากคนชั่วๆ ปีถัดมาก็ต้องมาออกเพราะมีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าอีก เห้อออ คิดแล้วก็เหนื่อย เราออกจากงานมาพร้อมกับเงินชดเชย 4 เดือน และทำเรื่องกับประกันสังคมเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ถูกเลิกจ้างแล้วเรียบร้อย
ด้วยความที่ว่าเราเองก็ไม่อยากอยู่เฉยๆ ปล่อยเวลาทิ้งไป เลยไปขับรถส่งอาหาร ส่งของ ทำเกี่ยวกับ Delivery ไปก่อน หาเงินแบบนี้ไปพลางๆ ก่อน แล้วปีหน้าค่อยว่ากันสำหรับงานใหม่ ที่ไม่รู้ว่าจะหาได้หรือเปล่า? หรืออาจจะทำ Delivery นี้ไปอีกปีหนึ่งก็ยังไม่แน่ใจ จนถึงตอนนี้ผมตกงานมาได้ประมาณ 5 เดือนล่ะ
ใครมีประสบการณ์คล้ายๆ ผมบ้าง พิมพ์มาเล่าสู่กันฟังได้นะครับ
ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ
มีใครตกงานแบบกะทันหันในช่วงโควิด เนื่องจากสาเหตุที่ไม่ได้มาจากผลกระทบจากโควิดไหม???
ทำงานปีแรกหลังเรียนจบ เป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอยู่ที่หนึ่ง ช่วงทดลองงาน 3 เดือนแรกก็ผ่านไปด้วยดี แต่สุดท้ายมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานมนุษย์ป้าคนหนึ่งกับหัวหน้าหัว ค. ที่ก็หูเบา เชื่อแต่ไอ้มนุษย์ป้านี่คนเดียว จนก็ต้องฝืนใจลาออก แต่เอาจริงๆ แล้ว ไอ้ 2 คนนี้มันรวมหัวกันอยากให้ผมออกจากงานมากกว่า เราเขียนใบลาออก ยื่นใบลาออกตามปกติ ความรู้สึกในใจจริงๆ มันไม่ได้อยากออก แต่มันก็ต้องออก เพราะไอ้ 2 ตัวนี้มันไม่อยากให้เราอยู่ต่อไง (มันบีบให้เราออกอ่ะ นึกออกใช่ป่ะ?) สุดท้ายจึงต้องลาออก ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากออก ดีตรงที่ว่าช่วงนั้นยังไม่มีโควิดและมีงานใหม่ที่มีคนรู้จักแนะนำมาพอดี เลยคิดส่ะว่า ออกจากตรงนั้นไป เพื่อไปเจออะไรที่ดีกว่า
ปีที่ 2 (2562) ของการเข้าสู่ชีวิตวัยทำงานกับงานใหม่ สถานที่ใหม่ ถือว่าดีกว่าที่เดิมมาก เพราะเราได้หัวหน้าที่ดี เพื่อนรวมงานที่ดีกว่าเดิมมาก แต่แล้วอีก 1 ปีถัดมา (2563) สิ่งที่เคยได้รับมาต่างๆ ก็ต้องมาจบลงอีกครั้ง เราถูกเลิกจ้างจ้า (เดือน พ.ค.) เพราะมีการเปลี่ยนหัวหน้างานในองค์กร (สาเหตุไม่เกี่ยวกับโควิด) แรกๆ เราเองก็ไม่คิดหรอกว่ามันจะมีผลกระทบกับเราด้วย แต่ไปๆ มาๆ ความซวยมาหาเราเต็มๆ เราเลยต้องออกด้วย กลายเป็นว่าตอนนี้ เราถูกลอยคอทิ้งแน่นอน (สถานะตกงานมาเต็มร้อยเปอร์เลย) ล่ะโชคร้ายกว่านั้นคือโควิดกำลังระบาดเลย 555 โชค 2 ชั้นจริงๆ คนที่ตกงานเพราะสาเหตุที่มาจากโควิดหรือแม้กระทั้งนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบมาในปีการศึกษานี้แล้วหางานทำไม่ได้ก็เยอะอยู่แล้ว กลายเป็นว่ากูต้องกลายเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้นด้วย
จนตอนนี้ ปี 2563 หลังจากถูกเลิกจ้างไป เราเลยกลายเป็นคนตกงานอย่างสมบูรณ์แบบ บางครั้งก็รู้สึกน้อยใจกับตัวเองนะ เมื่อเรามีงานทำ ทำไมจะต้องมีอุปสรรคที่จะต้องมาบังคับให้เราต้องออกจากงานอยู่เรื่อย!! ปีแรกก็ต้องออกเพราะถูกบีบให้ออกจากคนชั่วๆ ปีถัดมาก็ต้องมาออกเพราะมีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าอีก เห้อออ คิดแล้วก็เหนื่อย เราออกจากงานมาพร้อมกับเงินชดเชย 4 เดือน และทำเรื่องกับประกันสังคมเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ถูกเลิกจ้างแล้วเรียบร้อย
ด้วยความที่ว่าเราเองก็ไม่อยากอยู่เฉยๆ ปล่อยเวลาทิ้งไป เลยไปขับรถส่งอาหาร ส่งของ ทำเกี่ยวกับ Delivery ไปก่อน หาเงินแบบนี้ไปพลางๆ ก่อน แล้วปีหน้าค่อยว่ากันสำหรับงานใหม่ ที่ไม่รู้ว่าจะหาได้หรือเปล่า? หรืออาจจะทำ Delivery นี้ไปอีกปีหนึ่งก็ยังไม่แน่ใจ จนถึงตอนนี้ผมตกงานมาได้ประมาณ 5 เดือนล่ะ
ใครมีประสบการณ์คล้ายๆ ผมบ้าง พิมพ์มาเล่าสู่กันฟังได้นะครับ
ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ