วันนี้มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากผู้กำกับมาอีกแล้วกับเรื่องราวในตอนจบของซีรีส์ The Underclass โดยวันนี้จะเป็นเรื่องราวของการแข่งขัน Contest War Festival ประเภทการแสดงซึ่งเชื่อว่าหลายท่านคงได้เห็นการแสดงโชว์ของทั้ง 6 ห้องกันไปแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้เน้นเรื่องราวเกี่ยวกับการแสดงของห้อง A และห้อง F กันไปพอสมควรแล้ว คราวนี้ก็จะมาพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับการแสดงของห้อง B C D และ E กันบ้างดีกว่า มาดูกันว่าเบื้องลึกเบื้องหลังกว่าจะเป็นการแสดงของทั้ง 4 ห้องนี้ จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปชมกันได้เลยครับ
การแสดงของห้อง B C D E
จริงแต่ละห้องนั้นแสดงโชว์ในความยาว 15-20 กันไม่แพ้ความยาวของละครห้อง F มากนัก แต่เราจะเห็นแอร์ไทม์ในแต่ละห้องนั้นแค่ช่วงสั้นๆช่วงเดียว อย่างห้อง A จริงๆแล้วก็เต้นเพลงลูกทุ่งกัน 3 เพลง วันนี้เลยเอาเกร็ดเล็กน้อยและรูปสแนปชอตของแต่ละห้องมาให้ดูครับ
ห้อง B เป็นกลุ่มวงร็อคหญิงเฉพาะกิจชื่อ "Side B" ที่แต่ละคนต่างเล่นดนตรีในการบำบัดความเครียดจากการเรียน โดยที่แต่ละคนนั้นไม่รู้กันมาก่อนว่ามีเพื่อนในห้องที่เล่นดนตรีเป็นเหมือนกันจนกระทั่งถึง Contest War Festival และในห้อง B ก็มาประชุมกันว่าใครถนัดอะไรบ้าง จึงเกิดการรวมตัวของวงร็อคสาว Side B โดยโฟมเป็นตัวตั้งตัวตี โดยเพื่อนคนอื่นๆก็คอยช่วยแบ็คอัพทั้งเรื่องห้องซ้อม อุปกรณ์ ขนมอาหาร ถือเป็นช่วงที่ห้อง B ได้มีโอกาสรู้จักกันมากขึ้น
Set List ของวงนั้นมี 4 เพลงด้วยกัน 1.รู้สึกดี 2.มากมาย 3.หัวใจหมดแรง 4.ไม่กอดเธอไว้ แน่นอนว่ากลุ่มนี้เป็นติ่งของ No More Tear และคลั่งฟักแฟงกันอย่างมาก
ห้อง C ตกลงกันยากมากว่าจะแสดงอะไรกันดี เพื่อที่จะหาข้อยุติให้ได้จึงทำการจับฉลากโดยให้สมาชิกทุกคนใส่การแสดงที่ตนอยากเล่นลงไปในกล่อง และจับได้ของ จุ๊บ ที่เป็นเล่าเรื่องผี เนื่องจากจุ๊บนั้นชอบฟังโกสต์เรดิโอระดับแฟนพันธ์ุแท้เรื่องเล่าผี ตอนแรกเธอก็ใส่มาเล่นๆเพราะไม่คิดว่าจะจับได้ของเธอ แต่พอจับได้ หลายคนในห้องก็ดันเห็นด้วยเฉย ห้อง C จึงมีการคัดเลือกว่าใครในห้องจำนวน 3 คน ที่จะขึ้นไปเล่าเรื่องผี โดยการให้คนทั้งห้องผลัดกันเล่าเรื่องผีมาคนละ 1 เรื่อง แล้วให้ทั้งห้องโหวตอันดับ 1-3 แต่น่าเศร้านักที่จุ๊บนั้นไม่ติด 1 ใน 3 เธอเสียใจอย่างมาก แต่สุดท้ายด้วยความพยายามเธอก็ขอพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งจนทั้งห้องก็เห็นว่าควรเพิ่มจุ๊บเป็นคนเล่าเรื่องผีคนที่ 4 ของห้อง
เรื่องผีของห้อง C มีดังนี้ 1.ผีไอ้ยักษ์ที่ตึกเก่า 2.เรื่องเล่าผีจากพี่ยาม 3.ผีสาวชุดดำแถวลานน้ำพุ 4.แสตนดี้ผีสิงของรองผอ.
ห้อง D มาทางตลกคาเฟ่ ที่พอเสนอปุ๊ปคนทั้งห้องก็เห็นดีเห็นงามและเอาด้วยกันหมดทันที แต่ดันลืมไปว่าในห้องไม่มีใครเล่นตลกเป็นเลย และได้ทำการเลือกตัวแทนทั้งสี่คนที่ทั้งห้องเชื่อว่าน่าจะตลกที่สุดในบรรดาพวกเธอแล้ว โดยวันๆนึงทั้งสี่คนต้องนั่งดูชิงร้อยชิงล้าน บริษัทฮาไม่จำกัด วนๆกันไปทั้งวันทั้งคืนเพื่อศึกษามุกตลกว่าเล่นยังไงถึงจะขำ
แต่ของอย่างนี้ทฤษฏีหรือจะสู้เซนส์ตลกของแต่ละคน สุดท้ายเล่นยังไงก็ไม่ขำและแป๊กสุดๆ แต่เพื่อนในห้องก็กลัวเพื่อนที่เป็นตัวแทนจะเสียใจจึงบอกไปว่า "ต่อให้คนทั่งฮอลล์จะไม่ขำ พวกเราก็จะขำให้พวกแกเอง" แต่สุดท้ายคนที่ลุดขำคนเดียวในฮอลล์คือ รองผอ. วิชัย
ห้อง E คอนเซปต์ของห้อง E นั้นคือ ห้องอีดีที่ความเลิศ ก็เลยจัดทำแฟชั่นโชว์เก๋ๆ และให้มีกรรมการมาให้คะแนนและคอมเมนต์แบบเดอะเฟซ ทั้ง 3 คนที่ถูกเลือกเป็นนางแบบก็มาจากการออดิชั่นภายในของเหล่าเมนเทอร์(ที่แต่งตั้งกันเอง) ส่วนชุดนั้นตอนแรกก็มีถกเถียงกันว่าจะซื้อหรือตัดชุดเอง แต่ด้วยความภาคภูมิใจและคนที่เหลือในห้องจะได้มีส่วนร่วมจึงเลือกที่จะตัดชุดเอง แต่ไม่มีใครในห้องที่เก่งหรือถนัดด้านนี้เลย จึงจำเป็นต้องเชิญ ปรมาจารย์คอร์นเฟลค จากห้อง F ผู้โด่งดังในฐานะคนตัดชุดแกะดำ มาช่วยเหลือเด็กห้อง E ในการเรียนรู้ตัดเย็บ เลือกผ้า ช่วงเตรียมงานแสดงคอร์นเฟลคจึงต้องวิ่งไปวิ่งมาระหว่าง 2 ห้องบ่อย
จริงๆเซ็ตแฟชั่นของห้อง E มีด้วยกันทั้งหมด 3 เซ็ทด้วยกัน โดยจะใช้การโม้คอมเมนต์ของเหล่าเมนเทอร์ในระหว่างที่แบคเสตจด้านหลังช่วยนางแบบเปลี่ยนชุด
ที่มา :
https://www.facebook.com/pass.patthanakumjon/posts/3298100306910669
*****แถม*****
คลิปเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการแสดงของห้อง A
https://www.facebook.com/pass.patthanakumjon/videos/3297863206934379
Credit : Facebook - Pass Patthanakumjon
- การแสดงของห้อง B C D E -
การแสดงของห้อง B C D E
จริงแต่ละห้องนั้นแสดงโชว์ในความยาว 15-20 กันไม่แพ้ความยาวของละครห้อง F มากนัก แต่เราจะเห็นแอร์ไทม์ในแต่ละห้องนั้นแค่ช่วงสั้นๆช่วงเดียว อย่างห้อง A จริงๆแล้วก็เต้นเพลงลูกทุ่งกัน 3 เพลง วันนี้เลยเอาเกร็ดเล็กน้อยและรูปสแนปชอตของแต่ละห้องมาให้ดูครับ
ห้อง B เป็นกลุ่มวงร็อคหญิงเฉพาะกิจชื่อ "Side B" ที่แต่ละคนต่างเล่นดนตรีในการบำบัดความเครียดจากการเรียน โดยที่แต่ละคนนั้นไม่รู้กันมาก่อนว่ามีเพื่อนในห้องที่เล่นดนตรีเป็นเหมือนกันจนกระทั่งถึง Contest War Festival และในห้อง B ก็มาประชุมกันว่าใครถนัดอะไรบ้าง จึงเกิดการรวมตัวของวงร็อคสาว Side B โดยโฟมเป็นตัวตั้งตัวตี โดยเพื่อนคนอื่นๆก็คอยช่วยแบ็คอัพทั้งเรื่องห้องซ้อม อุปกรณ์ ขนมอาหาร ถือเป็นช่วงที่ห้อง B ได้มีโอกาสรู้จักกันมากขึ้น
Set List ของวงนั้นมี 4 เพลงด้วยกัน 1.รู้สึกดี 2.มากมาย 3.หัวใจหมดแรง 4.ไม่กอดเธอไว้ แน่นอนว่ากลุ่มนี้เป็นติ่งของ No More Tear และคลั่งฟักแฟงกันอย่างมาก
ห้อง C ตกลงกันยากมากว่าจะแสดงอะไรกันดี เพื่อที่จะหาข้อยุติให้ได้จึงทำการจับฉลากโดยให้สมาชิกทุกคนใส่การแสดงที่ตนอยากเล่นลงไปในกล่อง และจับได้ของ จุ๊บ ที่เป็นเล่าเรื่องผี เนื่องจากจุ๊บนั้นชอบฟังโกสต์เรดิโอระดับแฟนพันธ์ุแท้เรื่องเล่าผี ตอนแรกเธอก็ใส่มาเล่นๆเพราะไม่คิดว่าจะจับได้ของเธอ แต่พอจับได้ หลายคนในห้องก็ดันเห็นด้วยเฉย ห้อง C จึงมีการคัดเลือกว่าใครในห้องจำนวน 3 คน ที่จะขึ้นไปเล่าเรื่องผี โดยการให้คนทั้งห้องผลัดกันเล่าเรื่องผีมาคนละ 1 เรื่อง แล้วให้ทั้งห้องโหวตอันดับ 1-3 แต่น่าเศร้านักที่จุ๊บนั้นไม่ติด 1 ใน 3 เธอเสียใจอย่างมาก แต่สุดท้ายด้วยความพยายามเธอก็ขอพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งจนทั้งห้องก็เห็นว่าควรเพิ่มจุ๊บเป็นคนเล่าเรื่องผีคนที่ 4 ของห้อง
เรื่องผีของห้อง C มีดังนี้ 1.ผีไอ้ยักษ์ที่ตึกเก่า 2.เรื่องเล่าผีจากพี่ยาม 3.ผีสาวชุดดำแถวลานน้ำพุ 4.แสตนดี้ผีสิงของรองผอ.
ห้อง D มาทางตลกคาเฟ่ ที่พอเสนอปุ๊ปคนทั้งห้องก็เห็นดีเห็นงามและเอาด้วยกันหมดทันที แต่ดันลืมไปว่าในห้องไม่มีใครเล่นตลกเป็นเลย และได้ทำการเลือกตัวแทนทั้งสี่คนที่ทั้งห้องเชื่อว่าน่าจะตลกที่สุดในบรรดาพวกเธอแล้ว โดยวันๆนึงทั้งสี่คนต้องนั่งดูชิงร้อยชิงล้าน บริษัทฮาไม่จำกัด วนๆกันไปทั้งวันทั้งคืนเพื่อศึกษามุกตลกว่าเล่นยังไงถึงจะขำ
แต่ของอย่างนี้ทฤษฏีหรือจะสู้เซนส์ตลกของแต่ละคน สุดท้ายเล่นยังไงก็ไม่ขำและแป๊กสุดๆ แต่เพื่อนในห้องก็กลัวเพื่อนที่เป็นตัวแทนจะเสียใจจึงบอกไปว่า "ต่อให้คนทั่งฮอลล์จะไม่ขำ พวกเราก็จะขำให้พวกแกเอง" แต่สุดท้ายคนที่ลุดขำคนเดียวในฮอลล์คือ รองผอ. วิชัย
ห้อง E คอนเซปต์ของห้อง E นั้นคือ ห้องอีดีที่ความเลิศ ก็เลยจัดทำแฟชั่นโชว์เก๋ๆ และให้มีกรรมการมาให้คะแนนและคอมเมนต์แบบเดอะเฟซ ทั้ง 3 คนที่ถูกเลือกเป็นนางแบบก็มาจากการออดิชั่นภายในของเหล่าเมนเทอร์(ที่แต่งตั้งกันเอง) ส่วนชุดนั้นตอนแรกก็มีถกเถียงกันว่าจะซื้อหรือตัดชุดเอง แต่ด้วยความภาคภูมิใจและคนที่เหลือในห้องจะได้มีส่วนร่วมจึงเลือกที่จะตัดชุดเอง แต่ไม่มีใครในห้องที่เก่งหรือถนัดด้านนี้เลย จึงจำเป็นต้องเชิญ ปรมาจารย์คอร์นเฟลค จากห้อง F ผู้โด่งดังในฐานะคนตัดชุดแกะดำ มาช่วยเหลือเด็กห้อง E ในการเรียนรู้ตัดเย็บ เลือกผ้า ช่วงเตรียมงานแสดงคอร์นเฟลคจึงต้องวิ่งไปวิ่งมาระหว่าง 2 ห้องบ่อย
จริงๆเซ็ตแฟชั่นของห้อง E มีด้วยกันทั้งหมด 3 เซ็ทด้วยกัน โดยจะใช้การโม้คอมเมนต์ของเหล่าเมนเทอร์ในระหว่างที่แบคเสตจด้านหลังช่วยนางแบบเปลี่ยนชุด
ที่มา : https://www.facebook.com/pass.patthanakumjon/posts/3298100306910669
*****แถม*****
คลิปเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการแสดงของห้อง A
https://www.facebook.com/pass.patthanakumjon/videos/3297863206934379
Credit : Facebook - Pass Patthanakumjon