สารานุกรมปืนตอนที่ 408 Lahti Pistol

กระทู้สนทนา

อาวุธยุทโธปกรณ์ อาวุธปืน ประวัติศาสตร์ ประเทศฟินแลนด์

"ขอขอบคุณเพจ ป ปืนอย่างสูงครับ"

https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/

Aimo Johannes Lahti เป็นชื่อนักออกแบบอาวุธที่เราไม่ค่อยคุ้นหูกันนัก เป็นชาวฟินน์แลนด์ เกิดวันที่ 28 เมษายน ปี 1896 ใน Viiala เขาเป็นนักออกแบบอาวุธที่อาศัยการเรียนรู้ด้วยตนเอง ผลงานของเขา ที่โดดเด่นคือปืนกลมือ Suomi KP/-31, ปืนกลเบา Lahti-Saloranta M/26( ร่วม Arvo Saloranta ) , ปืนต่อสู้รถถังแบบ Lahti L-39 ,ปืนกลต่อต้านอากาศยานแบบ 7,62 ITKK 31 VKT ,ปืนต่อสู้อากาศยานแบบ 20 ITK 40 VKT และ ปืนพกกึ่งอัตโนมัติแบบ Lahti L-35 ซึ่งจริงๆผลงานของเขามีประมาณ 50 ชิ้น เขาเสียชีวิตในวันที่ 19 เมษายน ปี 1970 ด้วยวัย 73 ปี ที่เมือง Jyväskylä

หลังจากฟินน์แลนด์ประกาศเอกราชการรัสเซียในปี 1917 ในปีถัดมาก็เกิดสงครามกลางเมืองระหว่าง White Guard หรือ Civil Guard ซึ่งมีจักรวรรดิเยอรมัน หนุนหลัง กับ Red Guards ซึ่งมี Russian Soviet Federative Socialist Republic (คอมมิวนิตส์รัสเซียก่อนรวมตัวกับคอมมิวนิตส์ชาติอื่นๆ ในจักรวรรดิ์รัสเซียเป็นสหภาพโซเวียต ) หนุนหลัง ซึ่งฝ่าย White Guard ได้รับชัยชนะ ฟินน์แลนด์เลยกลายเป็นยาขมสำหรับคอมมิวนิสต์ทันที จึงไม่ได้เป็นชาติหนึ่งที่เข้าร่วมสหภาพโซเวียต
ฟินน์แลนด์จึงเร่งปฏิรูประบบอาวุธเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสงครามที่ไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ เดิมทีในคลังแสงฟินน์แลนด์มี Nagant M1895 ของรัสเซีย และ Ruby Pistols ของสเปน ที่ซื้อต่อมาจากฝรั่งเศสในปี 1919 ในปี 1923 ก็สั่งซื้อ P08 Parabellum ( Luger ) จาก Deutsche Waffen und Munitionsfabriken จาก เยอรมัน
ฟินน์แลนด์ รับกระสุนขนาด 9x19mm Parabellum เข้ามาใช้งาน โดยกองทัพได้มีข้อกำหนดในการออกแบบปืนพกสั้นแบบใหม่ โดยที่จะต้องสามารถใช้งานได้ในสภาพอากาศหนาวจัดได้ ซึ่งเป็นสภาพอากาศ โดยพยายามสร้างมีความพยายามสร้างโรงงานโดย Finnish Volunteer Guards คือ Suojeluskuntain ase- ja Konepaja Oy (SAKO) ในปี 1921 และ รัฐบาลฟินน์แลนด์ ได้เปิดโรงงาน Valtion Kivääritehdas (VKT) ที่ Jyväskylä ในปี 1929
ปี 1929 Aimo Lahti ได้เริ่มออกแบบ ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ที่ใช้ระบบบริหารกลไกด้วยระบบ Short recoil โดยระบบจะมีแท่งขัดกลอนอยู่เยื้องตอนท้ายของลูกเลื่อน โดยจะล๊อกอยู่ในร่องขัดกลอนที่อยู่ด้านบนลูกเลื่อน และปลดกลอนด้วยร่องลูกเบี้ยวที่โครงปืน เมื่อระบบเคลื่อนตัวมาด้านหลัง ร่องลูกเบี้ยวจะบังคับให้แท่งขัดกลอนยกตัวขึ้นปลดกลอน จากนั้นที่ลูกเลื่อนด้านหน้าจะมีตีนผี ซึ่งบังคับด้วยตัวโครงปืนส่วนบนถีบส่งลูกเลื่อนกลับหลัง และระบบจะมีแหนบสปริงหลังเพื่อส่งลูกเลื่อนกลับเข้าปิดกลอน
นกปืนเป็นระบบ Internal Hammer หรือ นกใน ซึ่งสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี
ซองกระสุนบรรจุ 8 นัด คันปลดซองกระสุนอยู่ที่ฐานของด้ามปืนสไตย์ยุโรป
มีระบบคันนิรภัยภายนอกอยู่เหนือด้ามปืนทางด้านซ้ายของโครงปืน

ในปี 1935 กองทัพฟินน์แลนด์ ได้บรรจุปืนที่ Aimo Lahti ออกแบบ ในชื่อ Pistooli L-35 (L1935 Lahti Pistol)หรือ Lahti L-35 ผลิตโดยValtion Kivääritehdas
ซึ่งเดิมทีผลิตออกมา2ขนาดคือ 7.65×21mm Parabellum และ 9×19mm Parabellum ซึ่งตอนหลังเหลือเพียงขนาด 9.มม.อย่างเดียว
ถึงแม้ว่า Lahti L-35 จะมีหน้าตาคล้ายกับ P08 Parabellum แต่ Lahti L-35 มีระบบปฏิบัติการที่คล้ายกับ Bergmann–Bayard pistolมากกว่า
ก่อนการเริ่มต้นของสงครามโซเวียต-ฟินน์แลนด์ หรือ สงครามฤดูหนาว (Winter War 1939-1940) โรรงานสามารถผลิตได้เพียง 500 กระบอกเท่านั้น เมื่อสิ้นสุดสงครามฤดูหนาวแล้ว ในปี1941 ได้กลับมาผลิตอีกราวๆ 5,400 กระบอก ก็หยุดลงด้วยสงคราม Continuation War ซึ่งก็เป็นสงครามในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะเป็นสงครามต่อเนื่องจากสงครามฤดูหนาวอีกที โดยที่ ฟินน์แลนด์และเยอรมัน มีศัตรูคนเดียวกันคือโซเวียต หลังสงครามสิ้นสุดลงกลับมาผลิตอีก 9,000 กระบอกโดยประมาณ โดย Valmet
Lahti Husqvarna M/40
ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 สวีเดนเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ขาดแคลนปืนพกสั้น ซึ่งพวกเขาก็ได้นำ Walther P38 ซึ่งมีชื่อว่า m/39 มาใช้งานในปี 1939 เมื่อ P38 ไม่สามารถส่งมอบได้ กองทัพสวีเดนจึงนำ Lahti L-35 มาใช้งานจำนวนหนึ่ง (ไม่ถึง 20กระบอก)โดยการสวีเดนได้เสนอซื้อจากฟินน์แลนด์ แต่เนื่องสงคราม ฟินน์แลนด์ก็ไม่สามารถผลิตให้ได้ สวีเดนจึงเสนอซื้อสิทธิบัตรจาก Aimo Lahti เพื่อมาผลิตในสวีเดน โดยในตอนแรกได้เสนอให้ Svenska Automatvapen AB แต่ทางโรงงานไม่สามารถผลิตให้ได้เพราะติดปัญหาในสายการผลิต จึงให้ Husqvarna Vapenfabriks ทำการผลิตแทน โดยเข้าประจำการในชื่อ m/40 ซึ่งก็มีความแตกต่างจากต้นฉบับเล็กน้อย ความพยายามพัฒนาต่างๆในยุคหลังมาทำให้เกิดปัญหาโครงปืนร้าว และโครงการก็ถูก แทนที่ด้วย Glock -17 แทน

Lahti Husqvarna M/40 สามารถชนตัวจริงได้ใน พิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของหาดเตยงาม อ่าวนาวิกโยธิน ภายในค่ายกรมหลวงชุมพร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี (ที่จัดแสดงไม่มีป้ายบ่งชี้วัตถุจัดแสดง ) ไม่ทราบที่มาแน่นอน
ขอบคุณภาพจาก คุณ Pinatee Panichauttra
นักวิชาการอิสระ ด้านสงครามเวียดนาม/ลาว