ยูเครนอาจได้รับปืนใหญ่อัตตาจรซีซาร์ 144 กระบอกในปี 2025

ยูเครนอาจได้รับปืนใหญ่อัตตาจรซีซาร์ 144 กระบอกในปี 2025
ฝรั่งเศสประกาศจะส่งมอบปืนใหญ่อัตตาจร "ซีซาร์" (Caesar) ทุกกระบอกที่ผลิตในปี 2025 ให้กับยูเครนโดยตรง นับเป็นการแสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครนที่ชัดเจนจากชาติตะวันตก ท่ามกลางความขัดแย้งที่ยังดำเนินอยู่กับรัสเซีย

ข้อมูลจากแหล่งข่าวระบุว่า ฝรั่งเศสตั้งเป้าผลิตปืนซีซาร์เดือนละ 12 กระบอก หรือ 144 กระบอกในปี 2025 ซึ่งทั้งหมดจะถูกส่งให้ยูเครน เพื่อสนับสนุนความต้องการปืนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในสนามรบ

การประกาศดังกล่าวสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ของฝรั่งเศส ที่เลือกให้ความสำคัญกับยูเครนเป็นอันดับแรก แม้จะส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อจากลูกค้าต่างชาติรายอื่น โดยเฉพาะในช่วงที่ยูเครนพึ่งพาปืนใหญ่เพื่อรับมือกับการโจมตีของรัสเซียอย่างต่อเนื่อง

ซีซาร์ เป็นปืนใหญ่อัตตาจรแบบติดตั้งบนรถบรรทุกที่พัฒนาโดยบริษัท Nexter Systems ของฝรั่งเศส ใช้กระสุนขนาด 155 มม. ตามมาตรฐาน NATO มีจุดเด่นคือ ความคล่องตัวสูง น้ำหนักเบา ยิงได้แม่นยำ และตอบสนองเร็ว เหมาะกับสนามรบที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ซีซาร์ติดตั้งบนรถบรรทุก 6x6 ซึ่งโดยทั่วไปใช้แชสซี Renault Sherpa น้ำหนักไม่เกิน 18 ตัน วิ่งได้เร็วถึง 90 กม./ชม. บนถนน และ 50 กม./ชม. บนพื้นที่ขรุขระ ระยะยิงของกระสุนมาตรฐานอยู่ที่ 40 กม. และสูงสุด 50 กม. หากใช้กระสุนพิเศษ เช่น กระสุน Excalibur ที่ควบคุมด้วย GPS

ระบบควบคุมการยิงอัตโนมัติของซีซาร์ที่ชื่อ ATLAS สามารถประสานข้อมูลจากโดรน เรดาร์ และผู้สังเกตการณ์แนวหน้า ใช้กลยุทธ์ “ยิงแล้วเคลื่อน” ลดโอกาสถูกยิงตอบโต้ โดยมีเจ้าหน้าที่เพียง 3-5 คนต่อหน่วย และยิงได้ 6 นัดต่อนาที

ตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน ฝรั่งเศสได้เร่งผลิตและส่งมอบซีซาร์ให้ยูเครนอย่างต่อเนื่อง ภายในเดือนตุลาคม 2024 มีการส่งไปแล้ว 67 กระบอก และหากเป้าหมายปี 2025 สำเร็จ จะทำให้ยูเครนมีศักยภาพด้านปืนใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ในปี 2023 Nexter ผลิตซีซาร์ได้ 6 กระบอกต่อเดือน (รวม 72 ต่อปี) และเพิ่มเป็น 8 กระบอกต่อเดือนในปี 2024 เป้าหมายปี 2025 ที่จะผลิตถึง 12 กระบอกต่อเดือน เป็นผลจากการปรับปรุงสายการผลิต โดยรัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศสประกาศเป้าหมายนี้ร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน 2024

ต้นทุนต่อกระบอกอยู่ที่ราว 3-4 ล้านยูโร รวมแล้วซีซาร์ 144 กระบอกจะมีมูลค่ากว่า 430 ล้านยูโร ซึ่งเป็นภาระด้านการเงินไม่น้อย แม้ฝรั่งเศสเคยใช้กองทุนช่วยเหลือยูเครนมูลค่า 200 ล้านยูโร และมีพันธมิตรอย่างเดนมาร์กร่วมออกค่าใช้จ่าย

ล่าสุด มีแนวคิดใช้ดอกเบี้ยจากทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดมาใช้เป็นงบสนับสนุน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการค้าต่างประเทศของฝรั่งเศสเปิดเผยในเดือนพฤษภาคม 2025 แต่หากเงินไม่พอ อาจต้องพึ่งพาสหภาพยุโรปหรือ NATO เข้ามาช่วยสนับสนุนเพิ่มเติม

ยูเครนใช้ซีซาร์อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่กลางปี 2022 ในสนามรบใกล้บัคมุตและเคอร์ซอน ปืนซีซาร์สามารถทำลายฐานบัญชาการและคลังอาวุธของรัสเซียได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับโดรนและเรดาร์

ถึงอย่างนั้น การใช้งานอย่างเข้มข้นทำให้ปืนบางกระบอกสึกหรอเร็ว ต้องซ่อมบำรุงและเปลี่ยนชิ้นส่วนบ่อยครั้ง เช่น ลำกล้องที่ต้องนำเข้าจาก Nexter โดยตรง

ปัจจุบันยูเครนมีซีซาร์ 6x6 จากฝรั่งเศส 30 คัน และ 8x8 จากเดนมาร์กอีก 19 คัน เข้าประจำการ แม้จะมีรายงานว่าบางคันถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายแล้ว

นอกจากรุ่นที่ใช้อยู่ ซีซาร์ยังมีรุ่นใหม่อย่าง Caesar NG ที่อยู่ระหว่างพัฒนา เพิ่มเกราะ ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด และเทคโนโลยี AI สำหรับการเล็งเป้า โดยคาดว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2026

แม้จะมีคู่แข่งอย่าง Bohdana ของยูเครนเอง หรือ PzH 2000 ของเยอรมนี แต่ Caesar ยังได้เปรียบเรื่องความคล่องตัวและการยิงแม่นยำ โดยเฉพาะในสนามรบที่ต้องเปลี่ยนตำแหน่งบ่อย

ความท้าทายสำคัญอีกด้านคือกระสุน ข้อมูลจากรอยเตอร์ระบุว่า ยูเครนใช้กระสุนวันละ 5,000–15,000 นัด ขณะที่ฝรั่งเศสผลิตได้ 80,000 นัดในปี 2024 เพิ่มจาก 30,000 นัดในปี 2022 แต่ก็ยังไม่เพียงพอ

การทุ่มเทสายการผลิตทั้งหมดให้ยูเครนอาจส่งผลกระทบต่อลูกค้าอื่น เช่น โครเอเชีย เอสโตเนีย และลิทัวเนีย ที่สั่งซื้อซีซาร์ไว้ก่อนแล้ว และอาจต้องรอรับมอบช้ากว่ากำหนด

โรงงาน Nexter ในเมืองบูร์ชลงทุนกว่า 300 ล้านยูโรในวัตถุดิบเพื่อรองรับการผลิตนี้ และต้องเผชิญกับความตึงตัวในห่วงโซ่อุปทาน เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และลำกล้อง

ขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสมีคำสั่งซื้อ Caesar NG สำหรับใช้เองจำนวน 109 กระบอก ซึ่งจะเริ่มส่งมอบในปี 2026–2030 คาดว่าคลังอาวุธของกองทัพฝรั่งเศสจะไม่ได้รับผลกระทบในทันที

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าใหม่อย่างบราซิล หรือผู้ที่ยังรอรับของ อาจเริ่มตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสในฐานะผู้จัดหายุทโธปกรณ์รายสำคัญ

ซีซาร์พิสูจน์ผลงานในหลายสนามรบ เช่น อัฟกานิสถาน มาลี และอิรัก ซึ่งใช้สนับสนุนการต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย ในยูเครน ซีซาร์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของสงครามเต็มรูปแบบที่เน้นปะทะโดยตรง

แม้จะมีจุดอ่อนด้านเกราะ แต่การใช้งานของยูเครนและข้อเสนอแนะจากภาคสนามทำให้ Nexter พิจารณาอัปเกรด เช่น การเชื่อมโยงกับอาวุธลอยตัว และระบบ AI เพื่อการยิงที่แม่นยำยิ่งขึ้น

แนวโน้มทั่วโลกในขณะนี้กลับมาให้ความสำคัญกับปืนใหญ่อีกครั้ง เช่น การซื้อ K9 Thunder ของโปแลนด์ หรือการอัปเกรด PzH 2000 ของเยอรมนี อย่างไรก็ตาม Caesar ยังต้องเผชิญการแข่งขันจากระบบอื่น เช่น ATMOS 2000 ของอิสราเอล ที่ได้สัญญาจากบราซิลไปเมื่อปี 2024

การสนับสนุนยูเครนของฝรั่งเศสจึงมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง ด้านหนึ่งช่วยเสริมบทบาทของตนใน NATO และ EU แต่ในอีกด้าน ก็สร้างแรงกดดันด้านการผลิตและการทูตไม่น้อย

การตัดสินใจในครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมยุทโธปกรณ์ฝรั่งเศส และบทบาทของประเทศในความมั่นคงของยุโรปในอนาคต

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่