พบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 6 ราย กลับจากซูดานใต้-อินเดีย-ยูเออี-ญี่ปุ่น รักษาหาย 5 ราย



วันนี้ (2 ต.ค.) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักใน State Quarantine ทั้งหมด โดยมาจากซูดานใต้ 1 ราย อินเดีย 2 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย และญี่ปุ่น 1 ราย วันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 5 ราย

สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,575 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,445 ราย และตรวจพบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จำนวน 637 ราย จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,384 ราย ส่วนผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 132 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 59 ราย

https://mgronline.com/qol/detail/9630000100714

ด่วน! ผลตรวจ"ทรัมป์"ติดโควิด-19 พร้อมเมีย รุดเข้ากักตัว



วันนี้(2 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.54 น. ตามเวลาในประเทศไทย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัว Donald J. Trumpว่า ตัวเขาและเมลาเนีย ทรัมป์ ภริยา มีผลตรวจเชื้อโควิด-19 ออกมาเป็นบวก โดยจะเข้าสู่กระบวนการกักตัวและการรักษาโดยเร็ว และจะผ่านพ้นปัญหานี้ไปด้วยกัน

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่าเขาและเมลาเนีย ทรัมป์ ภรรรยา ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจาก โฮป ฮิคส์ หนึ่งในผู้ช่วยคนสนิทของเขาที่เดินทางไปไหนมาไหนด้วยกันในสัปดาห์นี้ มีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวกเมื่อวันพฤหัสบดี (1 ต.ค.) โดยฮิคส์ รู้สึกมีอาการเล็กๆ น้อยๆ ขณะนั่งเครื่องกลับสู่ทำเนียบขาว เมื่อช่วงเย็นวันพุธ (30 ก.ย.) หลังเสร็จสิ้นการหาเสียงที่มินนิโซตา

https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000100760

ด่วน! 'โดนัลด์ ทรัมป์'และภริยา ติดเชื้อโควิด-19
02 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 12:30 น.     

ติดเชื้อจนได้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และนางเมลาเนีย ทรัมป์ ภริยา ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกาศยกเลิกการหาเสียงที่ฟลอริดาและกักตัวที่ทำเนียบขาว

  
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนางเมลาเนีย ทรัมป์ ภริยา เพิ่งมาร่วมการอภิปรายโต้วาทีกับโจ ไบเดน ที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮไฮ เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา
 
 
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม 2563 ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตัวเขาและเมลาเนียได้รับผลตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ออกมาเป็นบวก ทั้งสองจะเริ่มกักตัวและเริ่มกระบวนการพักฟื้นทันที

ด้านทำเนียบขาวได้ยกเลิกกำหนดการเดินทางไปหาเสียงที่รัฐฟลอริดาของทรัมป์แล้ว ขณะที่นายแพทย์ฌอน คอนลีย์ แพทย์ประจำตัวประธานาธิบดีแถลงว่า ทรัมป์ยังสบายดีและจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปโดยไม่มีปัญหา.

https://www.thaipost.net/main/detail/79292

ทรัมป์สะดุ้ง! ที่ปรึกษาคนสนิทร่วมเที่ยวบินแอร์ฟอร์ซวัน ติดเชื้อโควิด-19



โฮป ฮิคส์ ที่ปรึกษาระดับสูงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ออกมาเป็นบวก และแสดงอาการป่วยด้วย จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวใกล้ชิดกับประเด็นนี้ในวันพฤหัสบดี (1 ต.ค.)

ฮิคส์ เดินทางด้วยเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันร่วมกับประธานาธิบดีทรัมป์เป็นประจำ และล่าสุดก็ร่วมคณะของทรัมป์ไปยังเมืองคลีฟแลนด์ ไปทำศึกโต้อภิปรายระหว่างผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคียงข้างบรรดาผู้ช่วยระดับอาวุโสคนอื่นๆ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์

นอกจากนี้แล้วเธอยังอยู่ร่วมกับทรัมป์บนเฮลิคอปเตอร์ประจำประธานาธิบดี (Marine One) ในวันพุธ (30 ก.ย.) ตอนที่เขาเดินทางกลับสู่ทำเนียบขาว หลังเดินสายหาเสียงที่มินนิโซตา

ทำเนียบขาวไม่ยืนยันรายงานข่าวดังกล่าวจากนิวยอร์กไทม์ส, บลูมเบิร์ก และอื่นๆ แต่ระบุในถ้อยแถลงว่า “ทรัมป์จริงจังอย่างมากกับประเด็นสุขภาพและความปลอดภัยของเขาเอง และทุกคนที่กำลังทำงานหนักเพื่อสนับสนุนเขา รวมถึงประชาชนชาวอเมริกา” และบอกว่าทำเนียบขาวจะทำตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อจำกัดการสัมผัสเชื้อโควิด-19 ในขอบเขตที่กว้างขวางที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งในทำเนียบขาวเองและตอนที่ประธานาธิบดีออกเดินทาง

อย่างไรก็ตาม น้อยครั้งที่จะเห็นทรัมป์สวมหน้ากากป้องกันโควิด-19
ฮิคส์ เพิ่งกลับสู่ทำเนียบขาวเมื่อช่วงต้นปี หลังผันตัวไปทำงานภาคเอกชนอยู่พักหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้เธอเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทำเนียบขาว และเคยเป็นโฆษกของทีมหาเสียงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีของทรัมป์ในปี 2016

ทรัมป์ เคยบอกว่าสหรัฐฯ จะทิ้งสถานการณ์เลวร้ายจากโรคระบาดใหญ่ ซึ่งคร่าชีวิตอเมริกันชนมากกว่า 200,000 คนไว้เบื้องหลัง เพื่อชื่นชมกับอนาคตที่สดใส อย่างไรก็ตาม พวกผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของเขาเอง บ่อยครั้งที่ประเมินในแง่บวกน้อยกว่า ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วงต่อกรณีจัดปราศรัยหาเสียงขนาดใหญ่ แต่มีผู้สนับสนุนเพียงน้อยนิดที่สวมหน้ากากป้องกันโควิด-19

https://mgronline.com/around/detail/9630000100654

ปลัดสธ.คนใหม่ ยันโควิด รอบ 2 ไม่มีการปิดบ้านปิดเมืองแน่นอน คุมให้ระบาดจำกัด



1 ต.ค.63- ที่กระทรวงสาธารณสุข  นพ. เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เข้ารับตำแหน่งปลัดสธ. อย่างเป็นทางการวันแรก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง ทำบุญตักบาตร โดยมีผู้บริหารทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคร่วมแสดงความยินดี พร้อมพบปะสื่อมวลชน

นพ. เกียรติภูมิ  กล่าวว่า ในวันที่ 5 ตุลาคม จะแถลงนโยบายการขับเคลื่อนงานสาธารณสุขอย่างเป็นทางการ ผ่านทางระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังส่วนภูมิภาค โดยนำนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ
สธ.รัฐมนตรีช่วย สธ. ไปสู่การปฏิบัติ และจะเร่งงานด่วน 4 ด้าน คือ...📍

การรับมือกับโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ มีการทำฉากทัศน์ที่ชัดเจนเพื่อให้ประชาชนเห็นภาพการระบาดที่อาจเกิดขึ้น เมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการของประเทศมากขึ้น แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการปิดบ้านปิดเมือง เนื่องจาก ประเทศไทยยังคงมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเข้มแข็ง หากมีการติดเชื้อหรือระบาดเกิดขึ้น สามารถควบคุมโรคได้ให้อยู่ในวงจำกัด ไม่ให้มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างหรือในระดับวิกฤติ นอกจากนี้ จะเดินหน้าทุกวิถีทางให้คนไทยเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 โดยช่วงปีแรกต้องมีวัคซีนให้ได้ร้อยละ 50 ของประชากร ที่สำคัญ คือ ขอมอบนโยบายให้ชาว สธ. สวมหน้ากาก 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นแบบอย่างแก่ประชาชน



ปลัดสธ.คนใหม่ กล่าวต่อว่า สำหรับเศรษฐกิจสุขภาพ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพทั้งอาหาร และเครื่องสำอาง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร กัญชง และกัญชา รวมทั้งกิจการสปา การรักษาพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน ความร่วมมือด้านสุขภาพต่างๆ เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ นอกจากนี้จะพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค การเชื่อมต่อไปกับโรงพยาบาลชุมชนให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ตอบสนองการกระจายอำนาจ เพื่อเพิ่มอำนาจให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะการขับเคลื่อน 30 บาทรักษาทุกที่ ที่เตรียมนำร่องในเขตสุขภาพที่ 9 และกรุงเทพมหานคร โดยมีคณะกรรมการระดับเขตที่ประชาชนเข้าร่วม และจะร่วมกับคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ออกแบบให้ผู้ให้บริการหน้างานมีความยืดหยุ่นในการจัดระบบให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะศึกษาความเป็นไปได้ใน 2 ปี หากได้ผลดีจะขยายต่อไป หากไม่ดีจะได้เรียนรู้และปรับปรุง

"เรื่องธรรมาภิบาล จะพัฒนาบุคลากร สร้างคนรุ่นใหม่  ฝึกอบรมหลักสูตรเป็น "อัศวิน สธ." เพื่อให้เป็นหน่วยซีลของกระทรวง ทั้งเรื่องของความอดทน การคิดการจัดการ การสื่อสารต่างๆ และปลูกฝังค่านิยมแนวคิด "รัก สามัคคี มีวินัย ใฝ่ใจสาธารณสุข" เข้าใจว่าใน สธ. ชมรมในสาขาวิชาชีพ ขอให้ใช้กระบวนการสร้างสรรค์ในการเข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจกันซึ่งตนพร้อมรับฟังทุกวิชาชีพ ขอให้มองเป็นพี่หรือครู และใช้ศักยภาพมาช่วยเหลือกัน สำหรับเรื่องของขวัญ กำลังใจ และความก้าวหน้าของบุคลากร  จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนสาธารณสุข ทั้งค่าตอบแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) การบรรจุข้าราชการ แม้ที่ผ่านมาจะได้รับการบรรจุ 4.5 หมื่นตำแหน่งแต่ก็ยังไม่พอดี จากนี้จะใช้ตำแหน่งเกษียณจำนวน 3 พันตำแหน่งมาจัดสรรสำหรับกลุ่มตกหล่นเพื่อให้ครอบคลุมที่สุด แต่ต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริงและตามเนื้องาน"ปลัดสธ. กล่าว



https://www.thaipost.net/main/detail/79233



เครดิต:เนชั่น



ไทยเรามีทหารเป็นรั้วป้องกันโควิดจากเพื่อนบ้าน

ไทยมีรัฐบาล มีศบค.เป็นฝ่ายบริหารสั่งการให้รอบคอบระมัดระวังโควิด

ไทยมีเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่เป็นผู้ปฏิบัติชั้นเยี่ยม เฝ้าดูแลรักษา ประชาชนให้ปลอดภัย

ไทยมีนายกฯที่มีความตั้งใจทำหน้าที่ของท่านทำให้ประชาชนอบอุ่นใจพ้นภัยทั้งปวง

ไทยมีประชาชนตระหนักรู้จักป้องกันตัวเอง

นี่แหละค่ะ ของดีของประเทศไทย....



ขออภัยผิดอีกค่ะ....🔴มาลาริน/2 ต.ค.ไทยพบโควิด6 รายจากตปท."ทรัมป์"ภริยาและที่ปรึกษาฯร่วมเที่ยวบินแอร์ฟอร์ซวันติดโควิด ปลัดสธ.ยันรอบ2ไม่ปิดปท.