🔴ไทยพบผู้ติดเชื้อ 'โควิด-19' เพิ่ม 5 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 3,780 ราย
เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 63 เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถาน การณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 5 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,780 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิตคงเดิมที่ 59 ราย รักษาหายเพิ่ม 5 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,590 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 131 ราย
ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย แบ่งออกเป็นคนไทย 3 ราย สัญชาติปากีสถาน 1 ราย สัญชาติอินเดีย 1 ราย ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศ จากบาห์เรน 1 ราย ปากีสถาน 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย อินเดีย 1 ราย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine , Alternative State Quarantine)
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/905439
🔴“ประมาท – การ์ดตก” แนะ DMHT วัคซีนประจำวัน ป้องกันโควิด-19
อะไรก็ตามที่กลายเป็นความเคยชิน ประสิทธิภาพต่างๆก็จะเริ่มหย่อนลง เช่นเดียวกับมาตรการป้องกันตนเองในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง หรือการล้างมือ
ผลสำรวจการรับรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนเรื่องโรคโควิด-19 (ดีดีซีโพล) ของกรมควบคุมโรคครั้งล่าสุด เก็บข้อมูลออนไลน์วันที่ 1-14 ตุลาคม 2563 ที่มีผู้ตอบแบบสอบถาม 2,670 คน พบว่า....✔
ประชาชนมีแนวโน้มพฤติกรรมสุขภาพลดลง ทั้งการสวมหน้ากากเมื่อไม่มีอาการป่วยลดลงมาอย่างต่อเนื่องเหลือเพียง 67.1% จากที่เคยสูงถึง 93.5% ในช่วงต้นที่พบการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง, สวมหน้ากากเมื่อมีอาการป่วยลดลงอย่างเห็นได้ชัดเหลือเพียง 81.8% และจะสวมหน้ากากต่อเนื่องลดลงเหลือ 51.4%
ส่วนการล้างมือหลังเข้าห้องสุขา และก่อน-หลังรับประทานอาหาร แนวโน้มคงที่ อยู่ในระดับดี ประมาณ 70-86% การออกไปในที่ชุมชน ไปท่องเที่ยวมากขึ้น โดยการออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็นเพิ่ม
จาก 19.6% เป็น 30% นอกจากนี้ พบว่า ประชาชนยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 อยู่ โดยกังวลระดับมาก 29.2% ปานกลางและน้อย 65.6% ส่วนความเชื่อมั่นมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอยู่ที่ 85.7% เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อน และเพิ่มจากช่วงแรกที่เกิดสถานการณ์ซึ่งความเชื่อมั่นอยู่ที่ 61.8%
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทยอยู่ในระดับต่ำ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและเข้ารับการกักตัวในสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้และสถานที่กักตัวที่รัฐกำหนด แต่ในขณะที่ยังไม่มีวัคซีน ขอให้ประชาชนไม่ประมาท การ์ดอย่าตก สิ่งที่จะใช้เป็นเกราะป้องกันโควิด-19 คือ วัคซีน DMHT ได้แก่ D : Social Distancing เว้นระยะห่าง M : Mask สวมหน้า กากผ้า/หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน อยู่ในพื้นที่สาธารณะ H : Hand ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ และ T : Testing การตรวจเร็ว รักษาเร็ว ควบคุมโรคได้เร็ว ปฏิบัติให้ต่อเนื่องจะช่วยป้องกันโรคได้
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขยังบอกด้วยว่า จากรายงานผู้ป่วยโควิด-19 กว่า 50% เป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน อายุ 20-49 ปี ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ ซึ่งกลุ่มนี้มักใช้ชีวิตประจำวัน มีกิจกรรมนอกบ้าน ทำให้มีโอกาสแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข บอกว่า ไทยเราสามารถควบคุมโรคได้ดี ตั้งแต่การตรวจคัดกรองอย่างละเอียด ทำให้ค้นพบเร็ว ควบคุมโรคได้ดี ทีมงานสาธารณสุขมีความเข้มแข็ง ค้นหาเชิงรุกและตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่อย่างครอบคลุม สามารถป้องกันควบคุมไม่ให้มีการระบาดในวงกว้าง ภาพรวมในเวลานี้ ประเทศไทยมีศักยภาพในการต่อสู้โควิด-19 ทั้งทรัพยากร เวชภัณฑ์ แล็บ ยา แพทย์พยาบาล ที่สำคัญไม่มีผู้ป่วยหนักในไอซียู และอัตราการเสียชีวิตต่ำมากน้อยกว่า 2% ทำให้ประชาชนมั่นใจได้
“เป้าหมายกระทรวงสาธารณสุข ไม่ใช่ทำให้ผู้ติดเชื้อภายในประเทศเป็นศูนย์ แต่เมื่อมีผู้ติดเชื้อจะค้นพบได้เร็ว จำกัดวงการแพร่กระจาย ควบคุมโรคได้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เรามีบทเรียน พร้อมรับมือการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป และประชาชนต้องปลอดภัย” นายอนุทิน ย้ำ
รมว.สาธารณสุขยังบอกด้วยว่า โจทย์สำคัญในวันนี้ คือการสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพกับเศรษฐกิจบนพื้นฐานความปลอดภัยประชาชน ช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งไทยยังต้องพึ่งพาต่างชาติ การเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาในประเทศเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว หรือการค้าการลงทุน จะช่วยให้เศรษฐกิจของเรากลับมาเดินหน้าอีกครั้ง เรื่องเศรษฐกิจสุขภาพเป็นนโยบายสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยยังคงความปลอดภัยให้กับประชาชนและสังคมด้วย ล่าสุด คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบ ร่างนโยบายการกักกันโรคในประเทศ (National Quarantine Policy) รองรับ การเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในระยะยาว และในที่ประชุมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เห็นด้วยกับหลักการเรื่องการลดเวลาการกักตัวจาก 14 วันเหลือ 10 วัน และให้ข้อเสนอแนะให้เน้นเรื่องความปลอดภัย การติดตามตัวได้ มีอาการป่วยหรือไม่ เข้มข้นการปฏิบัติตัวแบบ New normal โดยจะเสนอ ศบค. พิจารณาต่อไป
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/health/1965534
🔴สหรัฐฯ เผยตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดทะลุ 1 แสนในรอบ 24 ชั่วโมง นับเป็นตัวเลขสูงสุดตั้งแต่เกิดการระบาดทั่วโลก หลายรัฐยังอ่วม ท่ามกลางบรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในอีก 4 วันข้างหน้า
เมื่อวันที่ 30 ต.ค. กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวัน เพิ่มขึ้น 101,461 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมง นับเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดเมื่อช่วงต้นปีนี้ ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศอยู่ที่ 9.3 ล้านราย ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 988 ศพ รวมเป็น 235,159 ศพ ขณะที่เพียง 1 วันก่อนหน้านี้ มีผู้เสียชีวิตรายวันอยู่ที่ 1,041 ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบเดือนนี้ที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทะลุวันละ 1,000 ราย
โดยรัฐเทกซัส แคลิฟอร์เนีย และฟลอริดา เป็น 3 รัฐที่มีการระบาดสูงสุด โดยเทกซัส มีผู้ติดเชื้อสะสม 949,971 ราย มีผู้เสียชีวิต 18,507 ศพ ในส่วนของแคลิฟอร์เนีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 929,944 ราย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 17,627 ศพ และรัฐฟลอริดา มีผู้ป่วยสะสม 800,216 ราย มีผู้เสียชีวิต 16,720 ศพ
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ ยังคงวิกฤติ ในช่วงไม่กี่วันก่อนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งขณะนี้สองผู้สมัคร ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตกำลังขับเคี่ยวหาเสียงกันอย่างหนัก ในรัฐสมรภูมิชี้ขาด (Battleground State) โดยในบรรดา 50 รัฐ มีอยู่ 21 รัฐที่มีการแพร่ระบาดรุนแรง ส่วนใหญ่เป็นรัฐที่มีความสำคัญต่อการชี้ขาดผลเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้ อย่างฟลอริดา วิสคอนซิล และเพนซิลเวเนีย
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1965905
สิ่งที่จะใช้เป็นเกราะป้องกันโควิด-19 คือ วัคซีน DMHT ได้แก่ D : Social Distancing เว้นระยะห่าง M : Mask สวมหน้า กากผ้า/หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน อยู่ในพื้นที่สาธารณะ H : Hand ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ และ T : Testing การตรวจเร็ว รักษาเร็ว ควบคุมโรคได้เร็ว ปฏิบัติให้ต่อเนื่องจะช่วยป้องกันโรคได้
ประเทศไทยปลอดภัยค่ะ....
🔴มาลาริน/31ต.ค.ไทยพบโควิด 5 ราย มาจากตปท./สธ.เตือนเกราะป้องกันโควิด-19 คือ วัคซีน DMHT/เกินต้าน 24 ชม.สหรัฐฯป่วยแสนราย
เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 63 เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถาน การณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 5 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,780 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิตคงเดิมที่ 59 ราย รักษาหายเพิ่ม 5 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,590 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 131 ราย
ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย แบ่งออกเป็นคนไทย 3 ราย สัญชาติปากีสถาน 1 ราย สัญชาติอินเดีย 1 ราย ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศ จากบาห์เรน 1 ราย ปากีสถาน 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย อินเดีย 1 ราย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine , Alternative State Quarantine)
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/905439
🔴“ประมาท – การ์ดตก” แนะ DMHT วัคซีนประจำวัน ป้องกันโควิด-19
อะไรก็ตามที่กลายเป็นความเคยชิน ประสิทธิภาพต่างๆก็จะเริ่มหย่อนลง เช่นเดียวกับมาตรการป้องกันตนเองในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง หรือการล้างมือ
ผลสำรวจการรับรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนเรื่องโรคโควิด-19 (ดีดีซีโพล) ของกรมควบคุมโรคครั้งล่าสุด เก็บข้อมูลออนไลน์วันที่ 1-14 ตุลาคม 2563 ที่มีผู้ตอบแบบสอบถาม 2,670 คน พบว่า....✔
ประชาชนมีแนวโน้มพฤติกรรมสุขภาพลดลง ทั้งการสวมหน้ากากเมื่อไม่มีอาการป่วยลดลงมาอย่างต่อเนื่องเหลือเพียง 67.1% จากที่เคยสูงถึง 93.5% ในช่วงต้นที่พบการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง, สวมหน้ากากเมื่อมีอาการป่วยลดลงอย่างเห็นได้ชัดเหลือเพียง 81.8% และจะสวมหน้ากากต่อเนื่องลดลงเหลือ 51.4%
ส่วนการล้างมือหลังเข้าห้องสุขา และก่อน-หลังรับประทานอาหาร แนวโน้มคงที่ อยู่ในระดับดี ประมาณ 70-86% การออกไปในที่ชุมชน ไปท่องเที่ยวมากขึ้น โดยการออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็นเพิ่ม
จาก 19.6% เป็น 30% นอกจากนี้ พบว่า ประชาชนยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 อยู่ โดยกังวลระดับมาก 29.2% ปานกลางและน้อย 65.6% ส่วนความเชื่อมั่นมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอยู่ที่ 85.7% เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อน และเพิ่มจากช่วงแรกที่เกิดสถานการณ์ซึ่งความเชื่อมั่นอยู่ที่ 61.8%
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทยอยู่ในระดับต่ำ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและเข้ารับการกักตัวในสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้และสถานที่กักตัวที่รัฐกำหนด แต่ในขณะที่ยังไม่มีวัคซีน ขอให้ประชาชนไม่ประมาท การ์ดอย่าตก สิ่งที่จะใช้เป็นเกราะป้องกันโควิด-19 คือ วัคซีน DMHT ได้แก่ D : Social Distancing เว้นระยะห่าง M : Mask สวมหน้า กากผ้า/หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน อยู่ในพื้นที่สาธารณะ H : Hand ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ และ T : Testing การตรวจเร็ว รักษาเร็ว ควบคุมโรคได้เร็ว ปฏิบัติให้ต่อเนื่องจะช่วยป้องกันโรคได้
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขยังบอกด้วยว่า จากรายงานผู้ป่วยโควิด-19 กว่า 50% เป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน อายุ 20-49 ปี ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ ซึ่งกลุ่มนี้มักใช้ชีวิตประจำวัน มีกิจกรรมนอกบ้าน ทำให้มีโอกาสแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข บอกว่า ไทยเราสามารถควบคุมโรคได้ดี ตั้งแต่การตรวจคัดกรองอย่างละเอียด ทำให้ค้นพบเร็ว ควบคุมโรคได้ดี ทีมงานสาธารณสุขมีความเข้มแข็ง ค้นหาเชิงรุกและตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่อย่างครอบคลุม สามารถป้องกันควบคุมไม่ให้มีการระบาดในวงกว้าง ภาพรวมในเวลานี้ ประเทศไทยมีศักยภาพในการต่อสู้โควิด-19 ทั้งทรัพยากร เวชภัณฑ์ แล็บ ยา แพทย์พยาบาล ที่สำคัญไม่มีผู้ป่วยหนักในไอซียู และอัตราการเสียชีวิตต่ำมากน้อยกว่า 2% ทำให้ประชาชนมั่นใจได้
“เป้าหมายกระทรวงสาธารณสุข ไม่ใช่ทำให้ผู้ติดเชื้อภายในประเทศเป็นศูนย์ แต่เมื่อมีผู้ติดเชื้อจะค้นพบได้เร็ว จำกัดวงการแพร่กระจาย ควบคุมโรคได้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เรามีบทเรียน พร้อมรับมือการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป และประชาชนต้องปลอดภัย” นายอนุทิน ย้ำ
รมว.สาธารณสุขยังบอกด้วยว่า โจทย์สำคัญในวันนี้ คือการสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพกับเศรษฐกิจบนพื้นฐานความปลอดภัยประชาชน ช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งไทยยังต้องพึ่งพาต่างชาติ การเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาในประเทศเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว หรือการค้าการลงทุน จะช่วยให้เศรษฐกิจของเรากลับมาเดินหน้าอีกครั้ง เรื่องเศรษฐกิจสุขภาพเป็นนโยบายสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยยังคงความปลอดภัยให้กับประชาชนและสังคมด้วย ล่าสุด คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบ ร่างนโยบายการกักกันโรคในประเทศ (National Quarantine Policy) รองรับ การเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในระยะยาว และในที่ประชุมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เห็นด้วยกับหลักการเรื่องการลดเวลาการกักตัวจาก 14 วันเหลือ 10 วัน และให้ข้อเสนอแนะให้เน้นเรื่องความปลอดภัย การติดตามตัวได้ มีอาการป่วยหรือไม่ เข้มข้นการปฏิบัติตัวแบบ New normal โดยจะเสนอ ศบค. พิจารณาต่อไป
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/health/1965534
🔴สหรัฐฯ เผยตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดทะลุ 1 แสนในรอบ 24 ชั่วโมง นับเป็นตัวเลขสูงสุดตั้งแต่เกิดการระบาดทั่วโลก หลายรัฐยังอ่วม ท่ามกลางบรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในอีก 4 วันข้างหน้า
เมื่อวันที่ 30 ต.ค. กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวัน เพิ่มขึ้น 101,461 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมง นับเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดเมื่อช่วงต้นปีนี้ ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศอยู่ที่ 9.3 ล้านราย ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 988 ศพ รวมเป็น 235,159 ศพ ขณะที่เพียง 1 วันก่อนหน้านี้ มีผู้เสียชีวิตรายวันอยู่ที่ 1,041 ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบเดือนนี้ที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทะลุวันละ 1,000 ราย
โดยรัฐเทกซัส แคลิฟอร์เนีย และฟลอริดา เป็น 3 รัฐที่มีการระบาดสูงสุด โดยเทกซัส มีผู้ติดเชื้อสะสม 949,971 ราย มีผู้เสียชีวิต 18,507 ศพ ในส่วนของแคลิฟอร์เนีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 929,944 ราย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 17,627 ศพ และรัฐฟลอริดา มีผู้ป่วยสะสม 800,216 ราย มีผู้เสียชีวิต 16,720 ศพ
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ ยังคงวิกฤติ ในช่วงไม่กี่วันก่อนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งขณะนี้สองผู้สมัคร ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตกำลังขับเคี่ยวหาเสียงกันอย่างหนัก ในรัฐสมรภูมิชี้ขาด (Battleground State) โดยในบรรดา 50 รัฐ มีอยู่ 21 รัฐที่มีการแพร่ระบาดรุนแรง ส่วนใหญ่เป็นรัฐที่มีความสำคัญต่อการชี้ขาดผลเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้ อย่างฟลอริดา วิสคอนซิล และเพนซิลเวเนีย
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1965905
สิ่งที่จะใช้เป็นเกราะป้องกันโควิด-19 คือ วัคซีน DMHT ได้แก่ D : Social Distancing เว้นระยะห่าง M : Mask สวมหน้า กากผ้า/หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน อยู่ในพื้นที่สาธารณะ H : Hand ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ และ T : Testing การตรวจเร็ว รักษาเร็ว ควบคุมโรคได้เร็ว ปฏิบัติให้ต่อเนื่องจะช่วยป้องกันโรคได้
ประเทศไทยปลอดภัยค่ะ....