🔴มาลาริน/19 ก.ย.ไทยพบโควิด 3รายจากตปท. รบ.รับกลับบ้านแล้ว 95,000 คน สธ.เปิดศูนย์ดูแลม็อบ บิ๊กป้อมย้ำใส่ใจเหมือนลูกหลาน

ศบค.รายงาน วันนี่ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 3 ราย รวมป่วย 3,500 ราย



วันนี้ (19 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า.....🌂

ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ (19 ก.ย.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 3 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักใน State Quarantine

ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,500 ราย หายป่วยแล้ว 3,338 ราย โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 103 คน เสียชีวิตรวม 59 ราย

สำหรับรายละเอียดผู้ป่วยรายใหม่ประจำวันนี้มีดังนี้...🌂

1. กลับมาจากประเทศบราซิล 1 ราย ผู้ป่วยชายไทยอายุ 48 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางกลับมาถึงไทยเมื่อวันที่ 7 กันยายน ตรวจหาเชื้อครั้งแรก ในวันที่ 10 กันยายน ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ

2. กลับมาจากประเทศเยเมน 2 รายผู้ป่วยชายไทยอายุ 22 และ 27 ปีเดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 11 กันยายน (เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 4 ราย) ตรวจหาเชื้อในวันที่ 16 กันยายน ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ

https://www.sanook.com/news/8255738/

กรมควบคุมโรค ระบุรับคนไทยกลับบ้านแล้ว 95,000 คน ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 560 คน

เผยแพร่: 19 ก.ย. 2563 16:26 น.



กรมควบคุมโรค เผยรับคนไทยกลับบ้านแล้วเกือบ 95,000 คน ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 560 คน เป็นร้อยละ 0.59 ของผู้ที่เดินทางเข้าประเทศทั้งหมด โดยประเทศที่เดินทางเข้ามามากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซียผ่านด่านพรมแดน สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน ญี่ปุ่น และอินเดีย 

วันนี้ (19 ก.ย.) นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศไทยขณะนี้ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ภายหลังที่รัฐบาลได้ผ่อนปรนมาตรการอนุญาตให้คนไทยจากต่างประเทศและชาวต่างชาติในกลุ่มที่ได้รับสิทธิให้สามารถเดินทางเข้าประเทศไทย เช่น คู่สมรสต่างชาติและบุตรของผู้ที่มีสัญชาติไทย, กลุ่มนักธุรกิจ, นักลงทุน, คณะทูต, คณะกงสุล, องค์กรระหว่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งทุกรายต้องได้รับการกักตัวใน สถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine), สถานกักตัวที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) หรือ สถานพยาบาลทางเลือก (Alternative Hospital Quarantine) และรับการตรวจหาเชื้อตามมาตรการที่ภาครัฐกำหนด ตั้งแต่เปิดให้สามารถเดินทางเข้าประเทศได้จนถึงขณะนี้ มีผู้ที่เดินทาง จาก 63 ประเทศ เข้ารับการกักตัวแล้ว 94,970 คนพบผู้ติดเชื้อ 562 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 0.59 ของผู้ที่เดินทางเข้าประเทศทั้งหมด โดยประเทศที่เดินทางเข้ามามากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซียผ่านด่านพรมแดน สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน ญี่ปุ่น และอินเดีย สำหรับสถานกักตัว ประเภท สถานกักตัวที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) หรือ สถานพยาบาลทางเลือก (Alternative Hospital Quarantine) ผู้ที่เดินทางจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง หากติดเชื้อจะคิดค่าใช้จ่ายการรักษาจากประกันโควิด-19 ที่ทำไว้ก่อนการเดินทางเข้าประเทศ

นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงในสุขภาพของประชาชนที่เข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 19-20 กันยายน 2563 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่บาดของเชื้อโควิด-19 ของประเทศไทยยังถือว่ามีความเสี่ยงอยู่ อาจเกิดการแพร่และสัมผัสเชื้อระหว่างกันได้ ขอให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมทุกคนสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้าตลอดเวลา และเปลี่ยนบ่อยๆ หรือเมื่อหน้ากากเกิดความชื้น ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ หลีกเลี่ยงการนำมือสัมผัสบริเวณใบหน้า ตา จมูกปาก เลี่ยงการตะโกนเนื่องจากอาจเกิดฝอยละอองน้ำลาย น้ำมูกกระจายและสัมผัสสู่ผู้อื่นได้ หากเป็นไปได้ขอให้ไม่ปะปนกันในกลุ่มขนาดใหญ่ ให้รวมกลุ่มขนาดเล็กและตั้งกลุ่มไลน์ระหว่างกัน หากพบการติดเชื้อจะสามารถติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมโรคได้ง่ายขึ้น ซึ่งถ้ามีสมาชิกกลุ่มคนใดคนหนึ่งป่วย มีไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก ขอให้ไปรับการตรวจวินิจฉัยทันที หากป่วยขอให้งดการร่วมชุมนุมป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น อย่างไรตามกระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งจุดคัดกรองอุณหภูมิผู้เข้าร่วมชุมนุมกระจายอยู่รอบบริเวณ เพื่อลดความเสี่ยงอีกทางหนึ่ง

https://mgronline.com/qol/detail/9630000096078

สาธารณสุขเปิดศูนย์ดูแลม็อบ คุมเข้มโควิด-19 พร้อมรับมือเหตุฉุกเฉิน



"อนุทิน" สธ.เปิดศูนย์ดูแลสถานการณ์ม็อบ วางแผนเข้ม สกัดโควิด-19 รับมือเหตุฉุกเฉิน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุข ในการรับมือการชุมนุมทางการเมืองระหว่างวันที่ 19-20 กันยายนนี้ ว่า ได้สั่งการให้นำระบบด้านการบริหารงานด้านสาธารณสุข ในสภาวะฉุกเฉิน มาบูรณาการใช้ใหม่ ซึ่งระบบ และแผนงานต่างๆ มีอยู่แล้ว ที่ผ่านมา ใช้จัดการภาวะวิกฤติโรคระบาด และภัยพิบัติต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำมาใช้ดูแลการชุมนุม ทั้งเรื่องของการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดูแลผู้ชุมนุมที่มีโรคประจำตัว ซึ่งอาจจะกำเริบขึ้นมา และเหตุฉุกเฉินอื่นๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้น ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติ ทางกระทรวงฯ จะเข้าไปตั้งจุดคัดกรองตามจุดต่างๆ ที่วางไว้ ซึ่งจะเป็นจุดปฐมพยาบาลด้วย มีเตรียมหน้ากาก และเจลแอลกอฮอล์แก่ผู้ชุมนุม พร้อมกันนี้ ยังได้วางระบบขนส่งผู้ป่วย และได้ประสานโรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียงไว้แล้ว
 
สำหรับการเตรียมความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุข เป็นไปตามหลักสุขภาพ ที่พยายามทำอย่างสุดความสามารถ เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 และให้มีความพร้อม ในการเผชิญเหตุฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ชุมนุม สวมใส่หน้ากากขณะร่วมกิจกรรม เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิด-19

https://www.sanook.com/news/8255678/
  
"บิ๊กป้อม" ย้ำดูแลผู้ชุมนุมเสมือนลูกหลาน ห้ามใช้ความรุนแรง

19 ก.ย. 2020 เวลา 16:13 น.


 
ประวิตร กำชับฝ่ายความมั่นคง ดูแลผู้ชุมนุมด้วยความเข้าใจเสมือนลูกหลานและคนไทยด้วยกัน จะทำอะไรให้แจ้งเป็นระยะ พร้อมย้ำต้องไม่ใช้ความรุนแรง
 
พลโท คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดูแลสถานการณ์การชุมนุมในภาพรวมของฝ่ายความมั่นคง ว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใยถึงผู้เข้าร่วมชุมนุมทุกคนในสภาพอากาศที่แปรปรวน โดยขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพและช่วยกันรักษามาตรการการควบคุมโรคควบคู่กันไป พร้อมทั้งเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังและช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยกันและกัน

นอกจากนี้ ยังได้กำชับการทำงานของฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะตำรวจ ให้ทำงานด้วยความเข้าใจ ไม่ไปคุกคามในสิทธิและเสรีภาพการแสดงออกทางความคิดของผู้ชุมนุมในกรอบกฎหมายที่สามารถทำได้ พร้อมทั้งให้รับฟังความคิดเห็นและดูแลผู้ชุมนุมเสมือนลูกหลานและคนไทยด้วยกัน โดยย้ำต้องไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด และให้เฝ้าระวังการแทรกแซงจากบุคคลที่สามและการฉวยโอกาสทางการเมืองที่อาจมีขึ้น

ขณะเดียวกัน ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้มีการแจ้งเตือนและทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมเป็นระยะๆ หากมีการละเมิดกฎหมายและจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย พร้อมทั้งขอให้ดูแลและอำนวยความสะดวกการจราจรโดยรอบพื้นที่ชุมนุม เพื่อไม่ให้การสัญจรของประชาชนที่ผ่านไปมาได้รับความเดือดร้อน

https://www.springnews.co.th/politics/800331

ฝนตกอากาศเย็น  ระวังเป็นหวัดค่ะ....นานารักเลย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่