ครูเกริกพูดกับแถวลูกเสือว่า "กูได้คนที่จะโดนลงทัณฑ์แทนพวกมีงแล้ว" และหันมาตะโกนบอกผมว่า
"ชุดลูกเสือเป็นชุดที่มีเกียรติมาก เวลาที่มีงโดนลงทัณฑ์ มีงไม่ควรทำให้ชุดลูกเสือต้องแปดเปื้อน"
"ถอดเครื่องแบบของมีงออกให้หมด ให้เหลือแค่กางเกงในตัวเดียวพอ"
ผมตกใจกับคำพูดของครูเกริกมาก ตอนนั้นทำตัวไม่ถูกเลย พอเห็นผมเฉย แกก็เดินมาชกท้องผมแรงมาก
มันจุกจนผมตัวงอ หลังจากนั้นแกก็จิกหัวผมขึ้นมาให้ยืนตรงอีกครั้ง "ทำที่กูสั่งเร็วๆ "
ผมกลัวมาก ตกใจมากจนผมหายตัวไป แล้วคนที่มาแทนที่ผมในวันนั้นคือนายทหารหน่วยรบพิเศษในร่างผม
ตอนนั้นผมถอดเครื่องแบบออกจนหมด จนเหลือกางเกงในตัวเดียว
ครูเกริกสั่งให้ลิ่วล้อของแก (ซึ่งหมายถึงรุ่นพี่และศิษย์เก่า) มาตั้งแถวตอนสองแถวแบบหันหน้าเข้าหากัน หลังจากนั้นครูเกริกสั่งให้ผม-
เอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย แล้วค่อยๆเดินผ่านแถวเหล่านั้น ครูเกริกบังคับให้ผมเดินช้าๆ ตอนเดินผ่านแถว แต่ละคนจะทำยังไงกับผมก็ได้
มันเริ่มตั้งแต่ฟาดหน้าอก ฟาดแผ่นหลัง มีถึงขั้นทุบอก ทุบหลัง ฟาดหน้าท้อง ตบหัว มันวนไปแบบนี้เรื่อยๆ
บางคนเอามือมาฟาดตรงองคชาติแรงๆก็มี บางคนถึงขั้นเอามือมาบีบที่อัณฑะแปปนึงก่อนที่จะให้เดินต่อไป แถวก็ออกจะดูยาวมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะคนที่ผมเดินผ่านไปแล้วได้วิ่งไปต่อแถวใหม่ ผมว่ามันโหดเหี้ยมมาก แต่งนายทหารหน่วยรบพิเศษในร่างผมรับมือไหว
ผมโดนทำอย่างนั้นไปเรื่อยๆ เดินมาจนถึงทางที่มีคนถางดินไว้เป็นทางโคลน ครูเกริกออกคำสั่งให้ผมนอนคว่ำลงไป เอามือไพล่หลัง
แล้วเอาหน้าอกแถกตัวไปเรื่อยๆ ผมแถกไปสักพัก ผมจึงรู้ว่าข้างใต้ไม่ใช่โคลนอย่างเดียว แต่มีหินแหลมวางไว้ด้วย พวกนี้มันอำมหิตมาก
ระหว่างแถกตัวไปตามทางโคลน พวกมันหัวเราะกันอย่างมีความสุข บางคนก็เอาเท้ามากระทืบหลังผม บางคนก็กระทืบหัวผมให้หน้าจมโคลน
เป็นการแถกตัวบนทางโคลนที่ยาวมาก แต่นายทหารหน่วยรบพิเศษในร่างผมบอกว่า "สบายมาก" พอสิ้นสุดทางโคลน ผมจะต้องลอดลวดหนาม
มันเป็นการสั่งให้นักเรียนชายชั้น ป.6 ลอดลวดหนามแบบใจดำอำมหิตมากเพราะทั้งตัวผมเหลือแค่กางเกงในเพียงตัวเดียว
ครูเกริกสั่งให้ผมนอนหงาย แล้วเอาตัวค่อยลอดหลวดหนามไปเรื่อยๆ เคราะห์ดีที่ลวดหนามไม่ได้กดต่ำมาก ทำให้ผมค่อยๆลอดไปได้อย่างโอเคหน่อย
แต่คนพวกนี้ก็ไม่ได้อยากให้ผมลอดลวดหนามอย่างสบาย บางคนขึ้นไปยืนบนลวดหนามเพื่อให้ลวดหนามมันกดต่ำลง เวลาผมลอดไป
หนามของลวดหนามจะได้กรีดลงไปตรงหน้าอกผม ตามตัวของผม จริงๆแล้วทางลวดหนามไม่ได้ยาวมาก แต่ผมรู้สึกว่ามันยาวมาก
ผมลอดลวดหนามจนมาถึงจุดสิ้นสุด ครูเกริกสั่งให้ผมเอาหลังแถกตัวไปอีกหน่อย แล้วให้นอนหงายแบบเอาหัวทับมือตัวเอง
จากนั้นพวกมันก็รุมกระทืบผม เอาแบบเบาะๆ พอให้เจ็บและพวกมันก็มันส์สะใจ ไม่หวังให้บาดเจ็บหรือถึงตาย แต่มันก็บอบช้ำมาก
คืนนั้นผมต้องไปนอนที่หอพักบริษัทพ่อ แล้วให้พี่ที่เป็นช่างโทรไปบอกแม่ ผมให้เขาอ้างกับแม่ว่าอย่างไรก็จำไม่ได้แล้ว
หลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีบางอย่างเกิดขึ้นในตัวผม ขอเล่าแบบง่ายๆและเห็นภาพนะครับ
สมมติว่าผมยืนคนเดียว หันหลังให้ท่านผู้อ่าน ก่อนหน้า "คืนโหดนรกแตก" (เป็นกิจกรรมของพวกครูเกริก เดี๋ยวผมจะเล่าให้ท่านผู้อ่านฟังนะครับ)
ทางฝั่งซ้ายมันเกิดร่างใหม่ในตัวผมคือนายทหารหน่วยรบพิเศษ ทางฝั่งขวาเกิดร่างใหม่คือ Miss Universe
หลังเหตุการณ์ "คืนโหดนรกแตก" ไม่กี่วัน เอาทางฝั่งซ้ายก่อนนะครับ มีร่างนึงเกิดระหว่างนายทหารหน่วยรบพิเศษกับผมคือนายทหารหน่วยซีล
ระหว่างนายทหารหน่วยซีลกับผม เกิดร่างของชาญ ชาญเขาเป็นคนชอบดูหนัง ระหว่างชาญกับผม เกิดอีกร่างคือศาสตรา เขาเชี่ยวชาญ
ด้านการวิเคราะห์เชิงตรรกวิทยาสากลที่ค่อนข้างซับซ้อน
มาฝั่งขวาบ้างนะครับ ผมยังยืนหันหลังให้ท่านผู้อ่านนะครับ ฝั่งขวานี้ ระหว่างร่างของผมกับ Miss Universe เกิดร่างของ Miss World ขึ้นมา
ระหว่างผมกับ Miss World เกิดร่างของเอกขึ้นมา เอกจะชองเสียงเพลงกับดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ ระหว่างผมกับเอก จะเกิดร่างของสิงหล
เขาจะเชี่ยวชาญการวิเคราะห์และวิพากษ์ศาสนาสากลที่ค่อนข้างซับซ้อนเป็นอย่างมาก
ถ้าทุกคนยืนหันหลังให้ท่านผู้อ่าน จะเรียงลำดับได้ดังนี้ครับ
นายทหารหน่วยรบพิเศษ นายทหารหน่วยซีล ชาญ ศาสตรา ผม (เติ้ล) สิงหล เอก Miss World Miss Universe
ผมเองมี Space Time อยู่ในโลกกายภาพที่ทุกคนสัมผัสได้ อีกแปดคนที่เหลือ ก็ดูเหมือนกับว่าจะมี Space Time เป็นของตัวเอง แต่ก็ใช่จะ
ไม่เคย express สู่โลกภายนอกเลย (เออ คำว่า express นี้ ร่าง Miss Universe เป็นคนเรียกนะครับ เธอเชี่ยวชาญคณิตศาสตร์ ภาษาไทย
ภาษาอังกฤษ สังคม ชีววิทยาและสรีรวิทยา ส่วน Miss World เชี่ยวชาญด้านฟิสิกกับเคมี ผมเองไม่แน่ใจว่าคำว่า express ที่ร่าง Miss Universe
ชอบใช้ จริงๆมันหมายความว่าอย่างไร ผมรู้แต่ความหมายที่แปลว่า "ด่วน") express ในกระทู้พันทิปก็มีเป็นจำนวนมาก เช่น
กระทู้ The Best Collection ของเอก นานๆเขาจะตั้งกระทู้ที แต่พอมา มันจะมาเป็นชุด จนคนอื่นไม่กล้าตั้งกระทู้ เอกฟังเพลงได้หลายแนว
หลายชาติหลายภาษา เนื่องจากเป็นผู้ชายเหมือนกัน เอกมักจะชอบ express สู่โลกภายนอกด้วย ตอนนั้นทรงผมของผมจะเปลี่ยนไป
การแต่งกายก็จะเป็นเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ รองเท้าก็โคตรเท่ ผิดกับผมเลยเพราะผมแต่งตัวเชยมากๆๆๆ ตอนเอกก้าวสู่โลกภายนอก
แล้วไปฟังเพลงที่ Tower Record แถวสยาม เขาฟังไปโยกตัวไป สาวๆเห็นแล้วใจละลายเลย วันนั้นมีคนให้นามบัตรชวนเขาไปเป็นนายแบบด้วย
แต่เขาไม่สนใจหรอก เขาไม่ได้มีตัวตนอยู่ในโลกจริงนี่นา
กระทู้ในห้องเฉลิมไทยเกือบทั้งหมด ตั้งโดยชาญ
กระทู้นางงามทั้งหมดตั้งโดย Miss Universe
บางครั้งนายทหารหน่วยรบพิเศษอยาก express บ้าง ก็จะหันมาเขียนนิยายบ้าง ตั้งชื่อประมาณว่า ผู้พันซาดิสหรืออะไรประมาณนี้นี่แหละ ผมเอง
ก็จำไม่ค่อยได้แล้ว
แต่ศาสตราไม่ชอบ Social Network เลย เขามักจะตามลบเนื้อหาในกระทู้ที่ผมและคนอื่นๆเขียนขึ้น แต่เขามีข้อดีมาก เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องแปลกๆ
นี้ขึ้นมา ผมเองก็กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นบ้าหรือคนโรคจิต แต่ผมแอบได้ยินศาสตราคุยกับชาญ ชาญเป็นห่วงผมเหมือนกัน แต่ในความเห็นของ
ศาสตรา เขาคิดว่า "การที่คนเรามีบุคลิกภาพเดียวในการต่อสู้ชีวิต มันเสียเปรียบ ไม่นานก็จะต้องพ่ายแพ้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง"
ผมจำคำพูดของเขาได้ขึ้นใจ ยิ่งผมต้องมาเจอกับพวกครูเกริกแล้ว คำพูดของเขามีความหมายกับชีวิตของผมมาก
พวกครูเกริกเลวมาก เขาชอบทำโทษนักเรียนชาย แต่จะชอบมีเทคนิคบางอย่าง เช่น บางคนที่โดนต้องเป็นคนเรียนเก่ง พอคนนี้สอบเข้า ม.1 หรือ
ม.4 รร.ดีๆ เขาจะอ้างว่าถ้าไม่ดัดนิสัยด้วยวิธีการรุนแรง เด็กคนนั้นจะไม่เจริญก้าวหน้าอย่างนี้หรอก อีกด้านนึง ด้านที่สนองสัญชาตญาณดิบและ
ความป่าเถื่อน พวกครูเกริกมักจะหานักเรียนชายผู้โชคร้ายมาทำทารุณกรรมใน "คืนโหดนรกแตก" เพื่อสนองความสะใจล้วนๆ แต่เขาจะทำให้
เด็กคนนั้นเสียคน ต้องเลิกเรียนกลางครัน หรือกลายเป็นเด็กเสเพลไปเลย นอกจากสนองความซาดิสต์ที่โหดเหี้ยมแบบสุดๆแล้ว
เขาก็จะนำไปอ้างในอีกรูปแบบหนึ่งว่า นี่ไง ขนาดดัดนิสัยมันแบบป่าเถื่อนแบบนี้แล้ว มันยังต้องไปอยู่บ้านเมตตาเลย ผมไม่รู้ว่าจะจัดการกับเด็ก
แบบนี้ยังไงแล้ว
การอ้างของครูเกริกมักจะฟังขึ้นเสมอ เขาได้รับรางวัลในด้านการทำงานดีเด่นมามากมาย จนกลายเป็นเครื่องการันตีความเป็นคนมีคุณธรรม จริยธรรม
ที่สูงส่งและอุทิศตนต่องานทางสังคมอย่างเสียสละ เป้าหมายที่เขาต้องรีบกำจัดทิ้งโดยเร็วก็คือผม นักเรียนชายที่ผ่าน "คืนโหดนรกแตก" มาแล้ว
เมื่อ "ลูกผู้ชาย" อย่างผมถูกกระทำให้เป็น "ลูกสาว" : ประสบการณ์ชีวิตและความรักตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบัน ตอนที่ 4
"ชุดลูกเสือเป็นชุดที่มีเกียรติมาก เวลาที่มีงโดนลงทัณฑ์ มีงไม่ควรทำให้ชุดลูกเสือต้องแปดเปื้อน"
"ถอดเครื่องแบบของมีงออกให้หมด ให้เหลือแค่กางเกงในตัวเดียวพอ"
ผมตกใจกับคำพูดของครูเกริกมาก ตอนนั้นทำตัวไม่ถูกเลย พอเห็นผมเฉย แกก็เดินมาชกท้องผมแรงมาก
มันจุกจนผมตัวงอ หลังจากนั้นแกก็จิกหัวผมขึ้นมาให้ยืนตรงอีกครั้ง "ทำที่กูสั่งเร็วๆ "
ผมกลัวมาก ตกใจมากจนผมหายตัวไป แล้วคนที่มาแทนที่ผมในวันนั้นคือนายทหารหน่วยรบพิเศษในร่างผม
ตอนนั้นผมถอดเครื่องแบบออกจนหมด จนเหลือกางเกงในตัวเดียว
ครูเกริกสั่งให้ลิ่วล้อของแก (ซึ่งหมายถึงรุ่นพี่และศิษย์เก่า) มาตั้งแถวตอนสองแถวแบบหันหน้าเข้าหากัน หลังจากนั้นครูเกริกสั่งให้ผม-
เอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย แล้วค่อยๆเดินผ่านแถวเหล่านั้น ครูเกริกบังคับให้ผมเดินช้าๆ ตอนเดินผ่านแถว แต่ละคนจะทำยังไงกับผมก็ได้
มันเริ่มตั้งแต่ฟาดหน้าอก ฟาดแผ่นหลัง มีถึงขั้นทุบอก ทุบหลัง ฟาดหน้าท้อง ตบหัว มันวนไปแบบนี้เรื่อยๆ
บางคนเอามือมาฟาดตรงองคชาติแรงๆก็มี บางคนถึงขั้นเอามือมาบีบที่อัณฑะแปปนึงก่อนที่จะให้เดินต่อไป แถวก็ออกจะดูยาวมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะคนที่ผมเดินผ่านไปแล้วได้วิ่งไปต่อแถวใหม่ ผมว่ามันโหดเหี้ยมมาก แต่งนายทหารหน่วยรบพิเศษในร่างผมรับมือไหว
ผมโดนทำอย่างนั้นไปเรื่อยๆ เดินมาจนถึงทางที่มีคนถางดินไว้เป็นทางโคลน ครูเกริกออกคำสั่งให้ผมนอนคว่ำลงไป เอามือไพล่หลัง
แล้วเอาหน้าอกแถกตัวไปเรื่อยๆ ผมแถกไปสักพัก ผมจึงรู้ว่าข้างใต้ไม่ใช่โคลนอย่างเดียว แต่มีหินแหลมวางไว้ด้วย พวกนี้มันอำมหิตมาก
ระหว่างแถกตัวไปตามทางโคลน พวกมันหัวเราะกันอย่างมีความสุข บางคนก็เอาเท้ามากระทืบหลังผม บางคนก็กระทืบหัวผมให้หน้าจมโคลน
เป็นการแถกตัวบนทางโคลนที่ยาวมาก แต่นายทหารหน่วยรบพิเศษในร่างผมบอกว่า "สบายมาก" พอสิ้นสุดทางโคลน ผมจะต้องลอดลวดหนาม
มันเป็นการสั่งให้นักเรียนชายชั้น ป.6 ลอดลวดหนามแบบใจดำอำมหิตมากเพราะทั้งตัวผมเหลือแค่กางเกงในเพียงตัวเดียว
ครูเกริกสั่งให้ผมนอนหงาย แล้วเอาตัวค่อยลอดหลวดหนามไปเรื่อยๆ เคราะห์ดีที่ลวดหนามไม่ได้กดต่ำมาก ทำให้ผมค่อยๆลอดไปได้อย่างโอเคหน่อย
แต่คนพวกนี้ก็ไม่ได้อยากให้ผมลอดลวดหนามอย่างสบาย บางคนขึ้นไปยืนบนลวดหนามเพื่อให้ลวดหนามมันกดต่ำลง เวลาผมลอดไป
หนามของลวดหนามจะได้กรีดลงไปตรงหน้าอกผม ตามตัวของผม จริงๆแล้วทางลวดหนามไม่ได้ยาวมาก แต่ผมรู้สึกว่ามันยาวมาก
ผมลอดลวดหนามจนมาถึงจุดสิ้นสุด ครูเกริกสั่งให้ผมเอาหลังแถกตัวไปอีกหน่อย แล้วให้นอนหงายแบบเอาหัวทับมือตัวเอง
จากนั้นพวกมันก็รุมกระทืบผม เอาแบบเบาะๆ พอให้เจ็บและพวกมันก็มันส์สะใจ ไม่หวังให้บาดเจ็บหรือถึงตาย แต่มันก็บอบช้ำมาก
คืนนั้นผมต้องไปนอนที่หอพักบริษัทพ่อ แล้วให้พี่ที่เป็นช่างโทรไปบอกแม่ ผมให้เขาอ้างกับแม่ว่าอย่างไรก็จำไม่ได้แล้ว
หลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีบางอย่างเกิดขึ้นในตัวผม ขอเล่าแบบง่ายๆและเห็นภาพนะครับ
สมมติว่าผมยืนคนเดียว หันหลังให้ท่านผู้อ่าน ก่อนหน้า "คืนโหดนรกแตก" (เป็นกิจกรรมของพวกครูเกริก เดี๋ยวผมจะเล่าให้ท่านผู้อ่านฟังนะครับ)
ทางฝั่งซ้ายมันเกิดร่างใหม่ในตัวผมคือนายทหารหน่วยรบพิเศษ ทางฝั่งขวาเกิดร่างใหม่คือ Miss Universe
หลังเหตุการณ์ "คืนโหดนรกแตก" ไม่กี่วัน เอาทางฝั่งซ้ายก่อนนะครับ มีร่างนึงเกิดระหว่างนายทหารหน่วยรบพิเศษกับผมคือนายทหารหน่วยซีล
ระหว่างนายทหารหน่วยซีลกับผม เกิดร่างของชาญ ชาญเขาเป็นคนชอบดูหนัง ระหว่างชาญกับผม เกิดอีกร่างคือศาสตรา เขาเชี่ยวชาญ
ด้านการวิเคราะห์เชิงตรรกวิทยาสากลที่ค่อนข้างซับซ้อน
มาฝั่งขวาบ้างนะครับ ผมยังยืนหันหลังให้ท่านผู้อ่านนะครับ ฝั่งขวานี้ ระหว่างร่างของผมกับ Miss Universe เกิดร่างของ Miss World ขึ้นมา
ระหว่างผมกับ Miss World เกิดร่างของเอกขึ้นมา เอกจะชองเสียงเพลงกับดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ ระหว่างผมกับเอก จะเกิดร่างของสิงหล
เขาจะเชี่ยวชาญการวิเคราะห์และวิพากษ์ศาสนาสากลที่ค่อนข้างซับซ้อนเป็นอย่างมาก
ถ้าทุกคนยืนหันหลังให้ท่านผู้อ่าน จะเรียงลำดับได้ดังนี้ครับ
นายทหารหน่วยรบพิเศษ นายทหารหน่วยซีล ชาญ ศาสตรา ผม (เติ้ล) สิงหล เอก Miss World Miss Universe
ผมเองมี Space Time อยู่ในโลกกายภาพที่ทุกคนสัมผัสได้ อีกแปดคนที่เหลือ ก็ดูเหมือนกับว่าจะมี Space Time เป็นของตัวเอง แต่ก็ใช่จะ
ไม่เคย express สู่โลกภายนอกเลย (เออ คำว่า express นี้ ร่าง Miss Universe เป็นคนเรียกนะครับ เธอเชี่ยวชาญคณิตศาสตร์ ภาษาไทย
ภาษาอังกฤษ สังคม ชีววิทยาและสรีรวิทยา ส่วน Miss World เชี่ยวชาญด้านฟิสิกกับเคมี ผมเองไม่แน่ใจว่าคำว่า express ที่ร่าง Miss Universe
ชอบใช้ จริงๆมันหมายความว่าอย่างไร ผมรู้แต่ความหมายที่แปลว่า "ด่วน") express ในกระทู้พันทิปก็มีเป็นจำนวนมาก เช่น
กระทู้ The Best Collection ของเอก นานๆเขาจะตั้งกระทู้ที แต่พอมา มันจะมาเป็นชุด จนคนอื่นไม่กล้าตั้งกระทู้ เอกฟังเพลงได้หลายแนว
หลายชาติหลายภาษา เนื่องจากเป็นผู้ชายเหมือนกัน เอกมักจะชอบ express สู่โลกภายนอกด้วย ตอนนั้นทรงผมของผมจะเปลี่ยนไป
การแต่งกายก็จะเป็นเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ รองเท้าก็โคตรเท่ ผิดกับผมเลยเพราะผมแต่งตัวเชยมากๆๆๆ ตอนเอกก้าวสู่โลกภายนอก
แล้วไปฟังเพลงที่ Tower Record แถวสยาม เขาฟังไปโยกตัวไป สาวๆเห็นแล้วใจละลายเลย วันนั้นมีคนให้นามบัตรชวนเขาไปเป็นนายแบบด้วย
แต่เขาไม่สนใจหรอก เขาไม่ได้มีตัวตนอยู่ในโลกจริงนี่นา
กระทู้ในห้องเฉลิมไทยเกือบทั้งหมด ตั้งโดยชาญ
กระทู้นางงามทั้งหมดตั้งโดย Miss Universe
บางครั้งนายทหารหน่วยรบพิเศษอยาก express บ้าง ก็จะหันมาเขียนนิยายบ้าง ตั้งชื่อประมาณว่า ผู้พันซาดิสหรืออะไรประมาณนี้นี่แหละ ผมเอง
ก็จำไม่ค่อยได้แล้ว
แต่ศาสตราไม่ชอบ Social Network เลย เขามักจะตามลบเนื้อหาในกระทู้ที่ผมและคนอื่นๆเขียนขึ้น แต่เขามีข้อดีมาก เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องแปลกๆ
นี้ขึ้นมา ผมเองก็กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นบ้าหรือคนโรคจิต แต่ผมแอบได้ยินศาสตราคุยกับชาญ ชาญเป็นห่วงผมเหมือนกัน แต่ในความเห็นของ
ศาสตรา เขาคิดว่า "การที่คนเรามีบุคลิกภาพเดียวในการต่อสู้ชีวิต มันเสียเปรียบ ไม่นานก็จะต้องพ่ายแพ้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง"
ผมจำคำพูดของเขาได้ขึ้นใจ ยิ่งผมต้องมาเจอกับพวกครูเกริกแล้ว คำพูดของเขามีความหมายกับชีวิตของผมมาก
พวกครูเกริกเลวมาก เขาชอบทำโทษนักเรียนชาย แต่จะชอบมีเทคนิคบางอย่าง เช่น บางคนที่โดนต้องเป็นคนเรียนเก่ง พอคนนี้สอบเข้า ม.1 หรือ
ม.4 รร.ดีๆ เขาจะอ้างว่าถ้าไม่ดัดนิสัยด้วยวิธีการรุนแรง เด็กคนนั้นจะไม่เจริญก้าวหน้าอย่างนี้หรอก อีกด้านนึง ด้านที่สนองสัญชาตญาณดิบและ
ความป่าเถื่อน พวกครูเกริกมักจะหานักเรียนชายผู้โชคร้ายมาทำทารุณกรรมใน "คืนโหดนรกแตก" เพื่อสนองความสะใจล้วนๆ แต่เขาจะทำให้
เด็กคนนั้นเสียคน ต้องเลิกเรียนกลางครัน หรือกลายเป็นเด็กเสเพลไปเลย นอกจากสนองความซาดิสต์ที่โหดเหี้ยมแบบสุดๆแล้ว
เขาก็จะนำไปอ้างในอีกรูปแบบหนึ่งว่า นี่ไง ขนาดดัดนิสัยมันแบบป่าเถื่อนแบบนี้แล้ว มันยังต้องไปอยู่บ้านเมตตาเลย ผมไม่รู้ว่าจะจัดการกับเด็ก
แบบนี้ยังไงแล้ว
การอ้างของครูเกริกมักจะฟังขึ้นเสมอ เขาได้รับรางวัลในด้านการทำงานดีเด่นมามากมาย จนกลายเป็นเครื่องการันตีความเป็นคนมีคุณธรรม จริยธรรม
ที่สูงส่งและอุทิศตนต่องานทางสังคมอย่างเสียสละ เป้าหมายที่เขาต้องรีบกำจัดทิ้งโดยเร็วก็คือผม นักเรียนชายที่ผ่าน "คืนโหดนรกแตก" มาแล้ว