JJNY : ดิ่งไม่หยุด!ค้าชายแดน'ไทย-เมียนมา'/พท.ปัดระส่ำชี้ข่าวลือ/ส.ส.ปชป.อัดรบ.พลิกพลิ้ว/หวังไทยมีก.ม.ป้องกันทรมานอุ้มหาย

ดิ่งไม่หยุด! ค้าชายแดน 'ไทย-เมียนมา' ส่งออกต่ำกว่า 1 แสนล้าน ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/899668
 

 
"ศูนย์วิจัยกสิกรไทย" คาดการส่งออกชายแดนไทยไปเมียนมาปี 63 ไม่สดใส หดตัวไม่ต่ำกว่า 10% ส่งผลมูลค่าต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
 
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์การค้าชายแดนไทยกับเมียนมา หลังจากต้องเผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโรคโควิด ตั้งแต่ต้นปี 2563 ประกอบกับมาตรการเข้มงวดนำรถบรรทุกสินค้าจากไทยเข้าเมียนมาว่า ล่าสุดเมียนมาได้ประกาศให้รถบรรทุกสินค้าจากไทยที่จะข้ามพรมแดนไปเมียนมาบริเวณด่านแม่สาย จ.เชียงราย ต้องเปลี่ยนคนขับเป็นชาวเมียนมา และยังกำหนดให้รถป้ายทะเบียนไทยทุกประเภทเข้าไปใน จ.ท่าขี้เหล็ก ได้เพียงวันละ 6 คัน จากปกติมีรถขนสินค้าผ่านไปเมียนมาไม่ต่ำกว่า 300 คันต่อวัน
 
โดยรถดังกล่าวจะต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกของเมียนมา และต้องทำตามกฎข้อบังคับที่กรมการขนส่งที่ทางรัฐบาลรัฐฉานได้กำหนดไว้เท่านั้น โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.2563 ซึ่งมาตรการนี้จะมีผลกระทบทางตรงต่อการค้าชายแดนของไทยไปเมียนมาบริเวณด่านแม่สายที่มีมูลค่าการส่งออก 6,549 ล้านบาท (ในช่วง 7 เดือนแรกปี 2563) ซึ่งทำให้ปริมาณสินค้าที่ส่งไปเมียนมาลดน้อยลงและอาจไม่เพียงพอต่อการบริโภค 
 
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเชื่อว่า ด้วยความจำเป็นของการค้าขายชายแดน หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง มาตรการคุมเข้มบริเวณพรมแดนที่ด่านแม่สายน่าจะทยอยผ่อนปรน โดยอาจมีการอนุญาตให้เพิ่มจำนวนรถที่ผ่านเข้าเมียนมา อย่างไรก็ดี การส่งสินค้าไทยผ่านด่านแม่สายคิดเป็นเพียง 13% ของมูลค่าการส่งออกผ่านชายแดนไทยไปเมียนมาทั้งหมดเท่านั้น อีกทั้งสินค้าไทยที่ผ่านช่องทางนี้เป็นสินค้าจำเป็น จึงไม่น่าจะกระทบการส่งออกชายแดนไทยไปเมียนมาอย่างมีนัยสำคัญ
 
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันการส่งออกชายแดนไทยไปเมียนมาก็เผชิญผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัญหาโควิด-19 มาระยะเวลาหนึ่ง ทำให้ในช่วง 7 เดือนแรกปี 2563 การส่งออกหดตัว 14.2% (YoY) มีมูลค่าเหลือ 51,400 ล้านบาท
 
โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า การส่งออกชายแดนไทยไปเมียนมาปีนี้คงมีภาพที่ไม่สดใสนักจากผลทางเศรษฐกิจเมียนมาเป็นหลัก โดยน่าจะหดตัวลึกไม่ต่ำกว่า 10% และทำให้ปี 2563 การส่งออกชายแดนไทยไปเมียนมามีมูลค่าต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
 
แต่สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปคือ ถ้าหากมีความจำเป็นที่ทั้งสองประเทศต้องใช้มาตรการคุมเข้มบริเวณพรมแดนอื่นๆ โดยเฉพาะด่านแม่สอด จ.ตาก และด่านศุลกากรระนอง จ.ระนอง ก็อาจฉุดให้การส่งออกชายแดนไทยไปเมียนมาหดตัวมากขึ้นอีก


 
พท.ปัดระส่ำชี้ข่าวลือ"พจมาน"คุมพรรคเอง
https://www.innnews.co.th/politics/news_782071/
 
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยระส่ำ หลังการลาออกของประธานยุทธศาสตร์และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่า การลาออกของบุคคลทั้งสอง ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งหรือแตกแยกภายในพรรคเพื่อไทย สมาชิกพรรคตระหนักและสัมผัสได้ถึงความเสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานหนักเพื่อพรรคตลอดมา
 
โดยรักษาการหัวหน้าพรรคได้เรียกประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค ในวันจันทร์ที่ 28 ก.ย.63 เวลา 10.00 น. ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อพิจารณากำหนดการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2563 โดยมีวาระสำคัญ คือ การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังการเลือกตั้งไม่ว่าบุคคลใดจะได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกพรรค เลือกให้มาบริหารพรรค เชื่อมั่นว่าจะสามารถขับเคลื่อนพรรคเพื่อไทยให้เดินหน้าต่อไปได้ ส่วนการปล่อยข่าวคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร จะเข้ามาบริหารพรรค น่าจะเป็นการคาดการณ์กันไปเอง เพราะการบริหารพรรคจะต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคตามกฏหมายเป็นสำคัญ จึงขอประชาชนอย่ากังวล เพราะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่จะเดินหน้าสร้างความเข้มแข็ง มุ่งมั่นนำเสนอนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชน อย่างเต็มที่ต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่