เมื่อวานนี้รู้สึกท้อและเหนื่อยกับชีวิตมาก มีแวบนึงเข้ามาในหัว ว่าอยากตายๆไปเสียให้จบๆ แต่ก็แค่คิด ไม่มีวันจะฆ่าตัวตายแน่นอน เพราะความเชื่อเรื่องกรรม และภพชาตินั้นฝังแน่นอยู่ในจิตใต้สำนึก จนไม่อาจทำอะไรเช่นนั้นได้
และก็เก็บเอาไปฝัน.. เป็นฝันที่น่ากลัวมาก
มีคนสองคนเกิดน้อยใจจขกท. เพราะหลงรักแฟนจกท.ข้างเดียว ผญ.กระโดดตึกลงมาตาย และผช.ที่คบกับผญ.คนนั้นก็กระโดดตาม สภาพศพน่ากลัวมาก ตายหลายวันกว่าจะมีคนมาเจอ เพราะเค้าตกลงไปตายในที่ที่ไม่มีใครเห็น
หลังจากนั้น มีน้องคนนึงที่รู้จักทั้งคนตายและจขกท. มาดูศพ เขาฟูมฟายมาก และพยายามจะฉุดกระชากให้จขกท.ช่วยลากศพที่เปรอะไปด้วยเลือดและน่าสยดสยองนั้น
จขกท.กลัวมาก พยายามหนี โทรหาแฟนที่อยู่บนตึกเท่าไหร่ก็ไม่ติด จึงรีบวิ่งขึ้นลิฟท์ไปตามแฟนมาให้ปากคำตำรวจ แต่เหมือนผีหลอก ลิฟท์ช้ามาก และจู่ๆก็เร็วขึ้นอย่างจรวด กดขึ้นไปชั้น 15 แต่ลิฟท์พุ่งทะยานไปชั้น 56 แล้วก็ลดระดับลงมาที่ 15 ช้าๆ
คนในลิฟท์หัวเราะร่วนสนุกสนาน แต่จขกท.กลัวมาก ทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดก็รีบวิ่งออกมา จะตรงไปที่ห้องหวังจะไปเรียกแฟน แต่ทัศนีย์ภาพเบื้องหน้ากลับแปลกตาไปหมด ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และจะกลับห้องไปเจอแฟนได้อย่างไร
ที่ประหลาดคือพบน้องคนนั้นมานั่งร้องไห้ดักรอที่โถงใหญ่ หน้าตายับเยิน เพราะผ่านการร้องไห้อย่างหนัก เค้าบอกว่าไม่มีใครเหลียวแลศพเลย ศพตากฝนเปียกอยู่
ความรู้สึกตอนนั้นมีแต่ความกลัวและสยดสยอง คุมสติแทบไม่ได้ จึงรีบบอกน้องคนนั้นว่า "หนูจ๊ะ ถ้าพี่เป็นหนูพี่จะไม่ลากศพเอง มันไม่ใช่หน้าที่เรานะจ๊ะ"
น้องเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความเสียใจ ราวกับโลกจะแตกสลาย ตาข้างหนึ่งหล่นลงมาจากตำแหน่งเดิม น่ากลัวเหลือเกิน..
..แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทำให้ตื่นจากฝันร้าย..
..........................................
หยิบโทรศัพท์มาดู เปิด FB ..โพสต์แรกที่เห็น คือคำถามว่า
"มีวิธีตายอย่างสบายไหม"
อ่านแล้วตกใจมาก เพราะเพิ่งฝันเห็นคนฆ่าตัวตาย และสัมผัสถึงจิตที่หดหู่อย่างที่สุดของคนที่ตายในสภาวะนั้น..
ลุกขึ้นจากเตียงด้วยอาการปวดหลังมาก ราวกับตกจากที่สูง ทำให้นึกถึงคำพูดนึงของคุณพศิน อินทรวงศ์ ที่ฟังจากยูทูปเมื่อวานว่า..
"ไม่ว่าคุณจะทุกข์ใจแค่ไหน ล้มละลาย ถูกแฟนทิ้ง หรืออะไรก็ตาม มันยังไม่ทรมานเท่าความทุกข์ในขณะที่คุณกำลังจะตายเลย
หากคุณป่วยนอนติดเตียง หรือเคยเดินได้ แล้วมาเดินไม่ได้ นั่นทุกข์กว่าการที่คุณตกงานเสียอีก"
คำพูดนี้มันทำให้จขกท.เห็นคุณค่าของชีวิตที่เหลืออยู่มากๆ มองมือเท้าตัวเอง และสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกดีใจที่เรายังไม่มีความเจ็บปวดทางร่างกายชนิดเจ็บเจียนตายใดๆเกิดขึ้นในขณะนี้
จกท.จะระลึกไว้เสมอว่า เรามิใช่คนเดียวที่เจอความทุกข์ ทุกคนต่างต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจ และประสบกับสิ่งที่ไม่รักไม่พอใจเหมือนกันทั้งนั้น
และแน่นอนว่า ..สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
จงบอกกับตัวเองว่า.. เราจะใช้ร่างกายที่สมบูรณ์พร้อมนี้ สร้างเหตุปัจจัยที่ช่วยให้ใจเบิกบานเป็นกุศล
ใช้หูฟังสิ่งที่เป็นมงคล
ใช้ตามองผู้อื่นด้วยใจเมตตา
ใช้ปากพูดสิ่งที่ดีงาม
เพื่อเหตุปัจจัยดีๆเหล่านั้น จะช่วยนำพาไม่ให้จิตตกไปอยู่ในสภาวะหดหู่สุดขีดแบบในฝันเมื่อคืนนี้อีก เพราะมันน่ากลัวมากจริงๆ..
ฝันร้าย ที่ (ช่วยให้) กลายเป็นดี
และก็เก็บเอาไปฝัน.. เป็นฝันที่น่ากลัวมาก
มีคนสองคนเกิดน้อยใจจขกท. เพราะหลงรักแฟนจกท.ข้างเดียว ผญ.กระโดดตึกลงมาตาย และผช.ที่คบกับผญ.คนนั้นก็กระโดดตาม สภาพศพน่ากลัวมาก ตายหลายวันกว่าจะมีคนมาเจอ เพราะเค้าตกลงไปตายในที่ที่ไม่มีใครเห็น
หลังจากนั้น มีน้องคนนึงที่รู้จักทั้งคนตายและจขกท. มาดูศพ เขาฟูมฟายมาก และพยายามจะฉุดกระชากให้จขกท.ช่วยลากศพที่เปรอะไปด้วยเลือดและน่าสยดสยองนั้น
จขกท.กลัวมาก พยายามหนี โทรหาแฟนที่อยู่บนตึกเท่าไหร่ก็ไม่ติด จึงรีบวิ่งขึ้นลิฟท์ไปตามแฟนมาให้ปากคำตำรวจ แต่เหมือนผีหลอก ลิฟท์ช้ามาก และจู่ๆก็เร็วขึ้นอย่างจรวด กดขึ้นไปชั้น 15 แต่ลิฟท์พุ่งทะยานไปชั้น 56 แล้วก็ลดระดับลงมาที่ 15 ช้าๆ
คนในลิฟท์หัวเราะร่วนสนุกสนาน แต่จขกท.กลัวมาก ทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดก็รีบวิ่งออกมา จะตรงไปที่ห้องหวังจะไปเรียกแฟน แต่ทัศนีย์ภาพเบื้องหน้ากลับแปลกตาไปหมด ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และจะกลับห้องไปเจอแฟนได้อย่างไร
ที่ประหลาดคือพบน้องคนนั้นมานั่งร้องไห้ดักรอที่โถงใหญ่ หน้าตายับเยิน เพราะผ่านการร้องไห้อย่างหนัก เค้าบอกว่าไม่มีใครเหลียวแลศพเลย ศพตากฝนเปียกอยู่
ความรู้สึกตอนนั้นมีแต่ความกลัวและสยดสยอง คุมสติแทบไม่ได้ จึงรีบบอกน้องคนนั้นว่า "หนูจ๊ะ ถ้าพี่เป็นหนูพี่จะไม่ลากศพเอง มันไม่ใช่หน้าที่เรานะจ๊ะ"
น้องเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความเสียใจ ราวกับโลกจะแตกสลาย ตาข้างหนึ่งหล่นลงมาจากตำแหน่งเดิม น่ากลัวเหลือเกิน..
..แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทำให้ตื่นจากฝันร้าย..
..........................................
หยิบโทรศัพท์มาดู เปิด FB ..โพสต์แรกที่เห็น คือคำถามว่า
"มีวิธีตายอย่างสบายไหม"
อ่านแล้วตกใจมาก เพราะเพิ่งฝันเห็นคนฆ่าตัวตาย และสัมผัสถึงจิตที่หดหู่อย่างที่สุดของคนที่ตายในสภาวะนั้น..
ลุกขึ้นจากเตียงด้วยอาการปวดหลังมาก ราวกับตกจากที่สูง ทำให้นึกถึงคำพูดนึงของคุณพศิน อินทรวงศ์ ที่ฟังจากยูทูปเมื่อวานว่า..
"ไม่ว่าคุณจะทุกข์ใจแค่ไหน ล้มละลาย ถูกแฟนทิ้ง หรืออะไรก็ตาม มันยังไม่ทรมานเท่าความทุกข์ในขณะที่คุณกำลังจะตายเลย
หากคุณป่วยนอนติดเตียง หรือเคยเดินได้ แล้วมาเดินไม่ได้ นั่นทุกข์กว่าการที่คุณตกงานเสียอีก"
คำพูดนี้มันทำให้จขกท.เห็นคุณค่าของชีวิตที่เหลืออยู่มากๆ มองมือเท้าตัวเอง และสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกดีใจที่เรายังไม่มีความเจ็บปวดทางร่างกายชนิดเจ็บเจียนตายใดๆเกิดขึ้นในขณะนี้
จกท.จะระลึกไว้เสมอว่า เรามิใช่คนเดียวที่เจอความทุกข์ ทุกคนต่างต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจ และประสบกับสิ่งที่ไม่รักไม่พอใจเหมือนกันทั้งนั้น
และแน่นอนว่า ..สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
จงบอกกับตัวเองว่า.. เราจะใช้ร่างกายที่สมบูรณ์พร้อมนี้ สร้างเหตุปัจจัยที่ช่วยให้ใจเบิกบานเป็นกุศล
ใช้หูฟังสิ่งที่เป็นมงคล
ใช้ตามองผู้อื่นด้วยใจเมตตา
ใช้ปากพูดสิ่งที่ดีงาม
เพื่อเหตุปัจจัยดีๆเหล่านั้น จะช่วยนำพาไม่ให้จิตตกไปอยู่ในสภาวะหดหู่สุดขีดแบบในฝันเมื่อคืนนี้อีก เพราะมันน่ากลัวมากจริงๆ..