'ชมรมโดมรวมใจ' รุ่น 6 ตุลา แถลงจี้ มธ.ไฟเขียวม็อบ 19 ก.ย. แนะคำนึง 3 ปรัชญารั้วเหลือง-แดง
https://www.matichon.co.th/politics/news_2344965
‘ชมรมโดมรวมใจ’ รุ่น 6 ตุลา แถลงจี้ มธ.ไฟเขียวม็อบ 19 ก.ย. แนะคำนึง 3 ปรัชญารั้วเหลือง-แดง
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2563 ชมรมโดมรวมใจ โดยศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมสมัยเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ออกแถลงการณ์ขอให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทบทวน หลังไม่อนุญาตให้แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ในการชุมนุมวันที่ 19 กันยายน ดังนี้
แถลงการณ์จากศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ ที่ได้รับผลสะเทือนจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
จากกรณีที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปฏิเสธมิให้กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ และการชุมนุม จัดให้มีการชุมนุม ในวันที่ 19 กันยายน ศกนี้ ดังความแจ้งตามสื่อมวลชนทั่วไปแล้วนั้น
เราในฐานะศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ได้รับผลสะเทือนจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ขอเรียกร้องให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัย ได้โปรดทบทวนคำสั่งปฏิเสธดังกล่าวโดยถี่ถ้วนอีกครั้ง โดยคำนึงถึงปรัชญาของมหาวิทยาลัยสามประการที่ว่า “เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ” และคำขวัญประจำสถาบันที่มีเกียรติภูมิมาอย่างยาวนานที่ว่า “ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน”
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แห่งนี้ ถูกก่อตั้งขึ้น เพื่อผลิตบุคลากรป้อนแก่สังคมในระบอบประชาธิปไตย โดยท่านผู้ประศาสน์การ นายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส ผู้ที่ชาวธรรมศาสตร์ ทุกรุ่น ทุกคน เคารพรัก และเอาเป็นแบบอย่างในด้านความมั่นคงแห่งอุดมการณ์ประชาธิปไตย
การเรียนการสอนที่เกี่ยวกับ อุดมการณ์ประชาธิปไตย จะไม่มีทางเกิดผลสัมฤทธิ์ได้เลย หากขาดการปฏิบัติที่เป็นจริงควบคู่ไปด้วย
เราในฐานะศิษย์เก่าของสถาบันแห่งนี้ เห็นร่วมกันว่า การจัดการชุมนุมในวันที่ 19 กันยายน ศกนี้ ของแนวร่วมธรรมศาสตร์ และการชุมนุม นับเป็นวิถีทางที่ถูกต้องที่สุด ที่จะทำให้ นักศึกษาได้เข้าใจถึงจิตวิญญาณแท้จริง ของอุดมการณ์ประชาธิปไตย มิใช่เพียงเนื้อหาอันแห้งแล้งในตำราเรียน
จึงขอเรียกร้องมายังผู้บริหารมหาวิทยาลัย ได้โปรดอนุญาตให้แนวร่วมธรรมศาสตร์ และการชุมนุม ใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เป็นที่จัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมือง ในวันที่ 19 กันยายนนี้ เพื่อพิสูจน์ให้ประจักษ์แก่สังคมไทยอีกครั้งว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือมหาวิทยาลัยของประชาชน
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1770972119731927&set=a.153303164832172&type=3
‘เผ่าภูมิ’ เปิด 5 สเปก ขุนคลัง ชี้ เป็นตำแหน่งสำคัญเกี่ยวโยงปากท้องปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2345083
เมื่อวันที่ 12 กันยายน นาย
เผ่าภูมิ โรจนสกุล ส.ส.กทม. และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีความล่าช้าการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่แทนตำแหน่งที่ว่างลง ว่า ตนขอเสนอให้นายกรัฐมนตรีเลือกขุนคลัง โดยคำนึงถึงคุณลักษณะ 5 ข้อที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังควร และไม่ควรมี ดังนี้
1. ต้องรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์มหภาค หมอไม่สามารถรักษาโรคโดยขาดความรู้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้หากไร้ซึ่งความเข้าใจเศรษฐศาสตร์มหภาค ต้องมองภาพเศรษฐกิจทั้งระบบให้ออก ต้องรู้การเชื่อมโยงของภาคส่วนต่างๆ ของระบบ มาตรการใดส่งผลไปยังตัวแปรใด อย่างไร ต้องมองให้ทะลุ ไม่เชื่อว่าการเอาคนมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังบริหารอยู่ ฟังๆ เอาจากข้าราชการอย่างเดียว จะประสบความสำเร็จ
2. ควรเป็นสายการคลัง มากกว่าสายการเงิน แต่ละช่วงเราต้องการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในลักษณะที่ต่างกัน ปัจจุบันเราต้องการนโยบายการคลังแบบเข้มเข้นในการฟื้นตัว การบริหารเศรษฐกิจของประเทศมันใหญ่กว่าคำว่าการบริหารสถาบันการเงิน มันใหญ่กว่าคำว่าปริมาณเงินในระบบ การให้สินเชื่อ หรือแม้กระทั่งอัตราแลกเปลี่ยน แต่มันคือการบริหารการรับจ่ายเงินจำนวนมหาศาลของประเทศ ซึ่งระบบภาษีมันไกลเกินกว่าคำว่าจัดเก็บ คำว่าเข้าเป้า แต่มันคือการใช้ภาษีในการชี้นำทิศทางประเทศให้ได้ มาตรการคลังมันก็ไกลเกินกว่าคำว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจไปวันๆ
นาย
เผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า
3. อย่าเอาสายการตลาด สร้างภาพการตลาดนำแก่นของมาตรการการคลัง เพราะคนไทยรู้ดีตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา ในระยะยาวภาพเหล่านั้นไม่สามารถปกปิดความจริงของเศรษฐกิจไทยได้เลย
4. ประสบการณ์ ความเชื่อมั่น ยังจำเป็น สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือต้องเป็นที่ยอมรับและสังคมเชื่อมั่น ก่อนจะบริหารเศรษฐกิจสำเร็จ ต้องทำให้คนเชื่อได้ว่าท่านจะทำสำเร็จให้ได้ก่อน
5. ต้องเป็นนักยุทธศาสตร์ และกล้าปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เป็นภาพใหญ่ที่ต้องไปให้ถึง ทุกคนพูดเรื่องการปรับโครงสร้าง แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าจะใช้เครื่องมือการเงินการคลังที่มีอยู่ไปถึงจุดนั้นอย่างไร หลายครั้งที่ขุนคลังมองภาพเล็กๆ ทำมาตรการเฉพาะหน้าไปวันๆ และหลายครั้งมีทัศนคติที่ว่าการปรับเปลี่ยนจะทำให้เกิดแรงต้าน และเลือกที่จะไม่ทำ
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า สุดท้ายอยากให้พึงระลึกไว้ว่ากระทรวงการคลังเป็นหัวหอกหลักด้านเศรษฐกิจ ตนเข้าใจดีว่ากำลังเกิดการแย่งชิงกันอย่างรุนแรงในฝั่งรัฐบาลในตำแหน่งนี้ แต่อยากเตือนว่านี่คือกระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับปากท้องของประชาชน จะแก่งแย่งเล่นการเมืองอย่างไรก็อย่าลืมเอาคำว่า ประชาชน อยู่ในสมการของท่านด้วย
JJNY : โดมรวมใจรุ่น6ตุลา แถลงจี้มธ./‘เผ่าภูมิ’เปิด5สเปกขุนคลัง/‘ณัฐชา’ซัดรัฐถังแตก/แห่เปิดบ.รับทวงหนี้ ค้างชำระพุ่ง1ล.ล.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2344965
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2563 ชมรมโดมรวมใจ โดยศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมสมัยเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ออกแถลงการณ์ขอให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทบทวน หลังไม่อนุญาตให้แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ในการชุมนุมวันที่ 19 กันยายน ดังนี้
แถลงการณ์จากศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ ที่ได้รับผลสะเทือนจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
จากกรณีที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปฏิเสธมิให้กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ และการชุมนุม จัดให้มีการชุมนุม ในวันที่ 19 กันยายน ศกนี้ ดังความแจ้งตามสื่อมวลชนทั่วไปแล้วนั้น
เราในฐานะศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ได้รับผลสะเทือนจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ขอเรียกร้องให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัย ได้โปรดทบทวนคำสั่งปฏิเสธดังกล่าวโดยถี่ถ้วนอีกครั้ง โดยคำนึงถึงปรัชญาของมหาวิทยาลัยสามประการที่ว่า “เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ” และคำขวัญประจำสถาบันที่มีเกียรติภูมิมาอย่างยาวนานที่ว่า “ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน”
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แห่งนี้ ถูกก่อตั้งขึ้น เพื่อผลิตบุคลากรป้อนแก่สังคมในระบอบประชาธิปไตย โดยท่านผู้ประศาสน์การ นายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส ผู้ที่ชาวธรรมศาสตร์ ทุกรุ่น ทุกคน เคารพรัก และเอาเป็นแบบอย่างในด้านความมั่นคงแห่งอุดมการณ์ประชาธิปไตย
การเรียนการสอนที่เกี่ยวกับ อุดมการณ์ประชาธิปไตย จะไม่มีทางเกิดผลสัมฤทธิ์ได้เลย หากขาดการปฏิบัติที่เป็นจริงควบคู่ไปด้วย
เราในฐานะศิษย์เก่าของสถาบันแห่งนี้ เห็นร่วมกันว่า การจัดการชุมนุมในวันที่ 19 กันยายน ศกนี้ ของแนวร่วมธรรมศาสตร์ และการชุมนุม นับเป็นวิถีทางที่ถูกต้องที่สุด ที่จะทำให้ นักศึกษาได้เข้าใจถึงจิตวิญญาณแท้จริง ของอุดมการณ์ประชาธิปไตย มิใช่เพียงเนื้อหาอันแห้งแล้งในตำราเรียน
จึงขอเรียกร้องมายังผู้บริหารมหาวิทยาลัย ได้โปรดอนุญาตให้แนวร่วมธรรมศาสตร์ และการชุมนุม ใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เป็นที่จัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมือง ในวันที่ 19 กันยายนนี้ เพื่อพิสูจน์ให้ประจักษ์แก่สังคมไทยอีกครั้งว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือมหาวิทยาลัยของประชาชน
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1770972119731927&set=a.153303164832172&type=3
‘เผ่าภูมิ’ เปิด 5 สเปก ขุนคลัง ชี้ เป็นตำแหน่งสำคัญเกี่ยวโยงปากท้องปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2345083
เมื่อวันที่ 12 กันยายน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล ส.ส.กทม. และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีความล่าช้าการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่แทนตำแหน่งที่ว่างลง ว่า ตนขอเสนอให้นายกรัฐมนตรีเลือกขุนคลัง โดยคำนึงถึงคุณลักษณะ 5 ข้อที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังควร และไม่ควรมี ดังนี้
1. ต้องรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์มหภาค หมอไม่สามารถรักษาโรคโดยขาดความรู้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้หากไร้ซึ่งความเข้าใจเศรษฐศาสตร์มหภาค ต้องมองภาพเศรษฐกิจทั้งระบบให้ออก ต้องรู้การเชื่อมโยงของภาคส่วนต่างๆ ของระบบ มาตรการใดส่งผลไปยังตัวแปรใด อย่างไร ต้องมองให้ทะลุ ไม่เชื่อว่าการเอาคนมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังบริหารอยู่ ฟังๆ เอาจากข้าราชการอย่างเดียว จะประสบความสำเร็จ
2. ควรเป็นสายการคลัง มากกว่าสายการเงิน แต่ละช่วงเราต้องการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในลักษณะที่ต่างกัน ปัจจุบันเราต้องการนโยบายการคลังแบบเข้มเข้นในการฟื้นตัว การบริหารเศรษฐกิจของประเทศมันใหญ่กว่าคำว่าการบริหารสถาบันการเงิน มันใหญ่กว่าคำว่าปริมาณเงินในระบบ การให้สินเชื่อ หรือแม้กระทั่งอัตราแลกเปลี่ยน แต่มันคือการบริหารการรับจ่ายเงินจำนวนมหาศาลของประเทศ ซึ่งระบบภาษีมันไกลเกินกว่าคำว่าจัดเก็บ คำว่าเข้าเป้า แต่มันคือการใช้ภาษีในการชี้นำทิศทางประเทศให้ได้ มาตรการคลังมันก็ไกลเกินกว่าคำว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจไปวันๆ
นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า
3. อย่าเอาสายการตลาด สร้างภาพการตลาดนำแก่นของมาตรการการคลัง เพราะคนไทยรู้ดีตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา ในระยะยาวภาพเหล่านั้นไม่สามารถปกปิดความจริงของเศรษฐกิจไทยได้เลย
4. ประสบการณ์ ความเชื่อมั่น ยังจำเป็น สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือต้องเป็นที่ยอมรับและสังคมเชื่อมั่น ก่อนจะบริหารเศรษฐกิจสำเร็จ ต้องทำให้คนเชื่อได้ว่าท่านจะทำสำเร็จให้ได้ก่อน
5. ต้องเป็นนักยุทธศาสตร์ และกล้าปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เป็นภาพใหญ่ที่ต้องไปให้ถึง ทุกคนพูดเรื่องการปรับโครงสร้าง แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าจะใช้เครื่องมือการเงินการคลังที่มีอยู่ไปถึงจุดนั้นอย่างไร หลายครั้งที่ขุนคลังมองภาพเล็กๆ ทำมาตรการเฉพาะหน้าไปวันๆ และหลายครั้งมีทัศนคติที่ว่าการปรับเปลี่ยนจะทำให้เกิดแรงต้าน และเลือกที่จะไม่ทำ
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า สุดท้ายอยากให้พึงระลึกไว้ว่ากระทรวงการคลังเป็นหัวหอกหลักด้านเศรษฐกิจ ตนเข้าใจดีว่ากำลังเกิดการแย่งชิงกันอย่างรุนแรงในฝั่งรัฐบาลในตำแหน่งนี้ แต่อยากเตือนว่านี่คือกระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับปากท้องของประชาชน จะแก่งแย่งเล่นการเมืองอย่างไรก็อย่าลืมเอาคำว่า ประชาชน อยู่ในสมการของท่านด้วย